ภูริรักคุณลุงครับ
"แม่เอยครับ เมื่อกี้ภูเจอตัวต้วง ภูจับด้วยครับ"
เมื่อเห็นแม่เอยเดินมาเด็กน้อยก็เล่าให้ฟังเสียงเจื้อยแจ้ว...
"แล้วไหนละครับ แม่เอยยังไม่เห็นเลย"
"ภูปล่อยไปแล้วครับ"
"เอยจะลองจับไหม เดี๋ยวอาจะไปจับมาให้" อาเหลียงดูรีบร้อนอยากจะให้รมิตาได้จับ เขาคิดว่าเธอน่าจะไม่เคยเห็น
" ไม่เป็นไรค่ะ" รมิตายิ้มให้กับอาหนุ่มตลกที่เขาพยายามจะไปจับมาให้เธอดู
"จับได้ๆ เมื่อกี้มันยังอยู่แถวนี้อยู่เลย" อาเหลียงทำหน้าผิดหวัง "เอยอยากไปน้ำตกไหม อยู่ไม่ไกลใกล้ๆ แค่นี้เอง"
" มีที่ใหม่อีกแล้วหรอคะ" น่าเหลือเชื่อที่มาทุกครั้งเขาก็หาที่ใหม่ๆ ให้เธอกับลูกไปเที่ยวได้ทุกครั้ง ถ้าไม่ไปคุณอาก็ทำหน้าเศร้าไปหลายวัน
"ครับ" อาเหลียงยิ้มเขินๆ มุกเขาเริ่มจะซ้ำๆ แล้วเห็นทีครั้งหน้าต้องเปลี่ยน
รถฟอร์ด4ประตูยกสูง ขับเข้ามาจอดหน้าน้ำตกขนาดเล็ก...
ทางเข้าน้ำตกค่อนข้างสูงชันมากทำให้อาเหลียงต้องอุ้มเด็กน้อย ภูริกอดคอคุณลุงไว้แน่นอบอุ่นทุกครั้งที่ได้กอดคุณลุง อาจเป็นเพราะเด็กน้อยไม่มีพ่อแต่เด็กน้อยก็ไม่ค่อยเข้าใจว่าพ่อคืออะไร มีไว้ทำไม
"ระวังด้วยนะเอย จับแขนอาได้นะ" เขาเริ่มรู้สึกผิดที่พาเธอมาลำบาก แต่ผิดคาดดูภูริกับรมิตาจะชอบมาก นานๆ จะได้มาทำอะไรแบบนี้ สนุกดี
"ว้าวว สวยมากเลยค่ะ คุ้มค่าที่เดินขึ้นมา" รมิตาสูดอากาศเข้าเต็มปอด รู้สึกดีที่ได้เห็นน้ำตกสวยๆ อากาศดีๆ ที่นี่ยังไม่เป็นที่รู้จักจึงไม่ค่อยมีคน
" สวยจังเลยครับ" ภูริยืนจับมือกับแม่เอยดูน้ำตก
แชะ!
ภาพถูกแอบถ่ายจากตากล้องขาประจำ แอบถ่ายตลอดไม่มีเบื่อ
" ใช่ อาก็ว่าสวยมากจริงๆ" ตาเขาไม่ได้มองไปน้ำตกเลย มองแต่หน้าเธอ
"อาเหลียงคะ น้ำตกอยู่ทางโน้นค่ะ" พูดจบ เขาและเธอก็ต่างยิ้มหัวเราะให้กัน
"ฮ่าๆ ใช่ๆ น้ำตกสวยมาก" ใบหน้าหล่อยิ้มแก้เก้อเขิน
ความสัมพันธ์ของอาเหลียงกับรมิตานั้นจัดอยู่ในความสัมพันธ์ที่ดี ทั้งคู่ได้ตกลงเปิดใจคุยกันแล้วต่างคนก็ต่างมีเหตุผลของกันและกัน ซึ่งทั้งสองก็ยอมรับและเคารพการตัดสินใจให้เกียรติกัน ไม่ก้าวก่ายไม่วุ่นวายเลือกอยู่ในจุดที่ตัวเองมีความสุข มันก็ไม่ทุกข์ อย่างอาเหลียงเขาก็มีความสุขดี ถึงไม่ได้ครอบครองแต่เขาก็ได้พูดคุยดูแลบ้างมันก็เป็นความสุขอย่างบอกไม่ถูก...
"แม่ครับ ปลาๆ" เด็กน้อยนั่งดูปลาสนุกสนาน
"ภูรินั่งอยู่กับคุณลุงก่อนนะครับ แม่ขอเดินไปตรงนั้นหน่อย" เธออยากเดินเข้าไปใกล้ๆ น้ำตกคงจะสดชื่นดี จะให้ลูกมาด้วยก็กลัวลื่นอันตราย
เด็กน้อยคุยกับคุณลุงเสียงดังเจื้อยแจ้ว
"ว้ายย" ตุ๊บ!
ตู้มมม!!
ยังไม่ทันไร ร่างของรมิตาก็ลื่นไถลตกน้ำเสียหลักไม่เป็นท่า
" เอย! "อีกคนตกใจมากรีบวิ่งมาดูเรียกได้ว่าลืมหลาน พ่อหนุ่มน้อยไม่ได้เดินมาด้วยได้แต่ยืนดูไกลๆ แต่เมื่อเห็นแม่ขึ้นมาจากน้ำ เด็กน้อยก็ยืนหัวเราะชอบใจ
"แม่เอยอยากเล่นน้ำ" เด็กน้อยคิดบวก
"เอย เจ็บตรงไหนหรือเปล่า" ห่วงสุดก็คนนี้
"ไม่ค่ะ เอยไม่เจ็บ แต่น้ำเย็นมาก ขอบคุณค่ะ" อาเหลียงช่วยพยุงเธอขึ้นมา เธอยังจะมายิ้มตลก ทั้งที่อีกคนเป็นห่วงมาก
"เอย คือ?" คุณอาหนุ่มดูเลิ่กลั่กแปลกๆ แล้วเขาก็รีบถอดเสื้อคลุมที่ใส่อยู่มาคลุมให้เธอ เธอดูโป๊เพราะเสื้อสีขาวแนบเนื้อ
" ว้ายย! ขอบคุณค่ะ" เมื่อเธอก้มลงมองสภาพตัวเองก็ตกใจเช่นกัน น่าอายจริงๆ
"อาว่าเรากลับกันดีกว่า"
"เพิ่งมาแท้ๆ เอยทำให้เสียเรื่องเลย"
"มันเป็นอุบัติเหตุ เดี๋ยววันหลังอาพามาใหม่ เอยต้องรีบกลับไปอาบน้ำเปลี่ยนชุดเดี๋ยวจะไม่สบาย" เขาก็ยังคงเป็นห่วงเธอทุกเวลา
" ภูริครับกลับกันดีกว่า" ร่างสูงก้มลงไปอุ้มหลานชายใจก็ยังเป็นห่วงอีกคนกลัวจะเดินลงไม่ไหว
" อาว่าเอยรออยู่ข้างบนก่อนดีไหม เดี๋ยวอาขึ้นมารับ"
" ไม่เป็นไรค่ะใกล้ๆ เอง เอยลงได้"
" งั้นก็เดินระวังๆ ด้วยนะ"
เมื่อลงมาถึงอาเหลียงก็วางพ่อหนุ่มน้อยลง ส่วนตัวเขาก็เดินไปรับหญิงสาวที่ห่วงนักห่วงหนา
"จับมืออาไว้" เขายื่นมือให้เธอจับเมื่อทางชันมาก
"ขอบคุณค่ะ ว้ายย" ยังไม่ทันไรเธอก็ขาอ่อนลื่นลงมา ดีที่มีที่เกาะ นั่นก็คือร่างสูงของคุณอาหนุ่ม...
" นั่นไง อาคิดไว้แล้วทางมันชัน" ขนาดตัวเขาเองเดินลงมายังเกือบลื่น ตัวเปียกอย่างเธอไม่เหลือ
รมิตาแขนเกาะอาหนุ่มไว้แน่น กว่าจะลงมาได้ก็เล่นคุณอาหนุ่มตัวเปียกตาม
" เอยทำอาตัวเปียกตาม ขอโทษค่ะ"
"แค่เราไม่เป็นไรอาก็ดีใจมากแล้ว" เธอคงไม่รู้ว่าว่าเขามองตามเธอตลอด ห่วงยิ่งกว่าตัวเอง...
อาเหลียงเดินไปอุ้มพ่อหนุ่มน้อยขึ้นรถ ส่วนรมิตาก็ยืนเกกังๆ
"อาเหลียงคะ ตัวเอยเปียก รถอาจะเปื้อนเอานะ"
"มานั่งตักอานี่มา" อาเหลียงแกล้งแซว นานๆ ครั้ง
" งั้นเอยไปนั่งข้างหลังดีกว่า"
"ฮ่าๆ อาล้อเล่นขึ้นมาเลยไม่เป็นไร ต่อให้เอยตัวเปียกเปื้อนโคลนอาก็ยอมให้ขึ้น" แต่ถ้าเป็นคนอื่นเขาจะบอกว่า ไปนั่งข้างหลังไป ฮ่าๆสองมาตรฐานชัดเจน
" พูดจริงนะคะ วันหลังเอยจะลองดู" รมิตาแซวกลับแล้วรีบขึ้นรถไป
ใช้เวลาไม่นานเขาก็ขับรถมาส่งเธอถึงหน้าบ้าน
" ขอบคุณมากนะคะวันนี้สนุกมาก ภูริครับไหว้ขอบคุณคุณลุงเร็วครับ"
" ขอบคุณครับ วันนี้สนุกที่สุดเลยครับ" เด็กน้อยยกมือขึ้นไหว้ ยิ้มหวานมีความสุข
อาเหลียงเปิดประตูรถ อุ้มพ่อหนุ่มน้อยลงมา
" เสื้อตัวนี้ เดี๋ยวเอยซักคืนให้นะคะ"
"ได้ครับ เดี๋ยวอาเดินไปส่ง" จอดรถติดหน้าบ้านแล้ว คุณอาหนุ่มก็ยังเดินเข้าไปส่งอีก จะแสนดีไปไหนพ่อคุณ...
ดูเป็นภาพที่อบอุ่นเหมือนพ่อแม่ลูกกำลังเดินเข้าบ้าน
คนนี้ก็แสนดี๊แสนดี อบอุ่นเสมอต้นเสมอปลายแสนดีไปหมด...แต่ผิดอย่างเดียวคือ แสนดีดีผิดที่ผิดเวลา
.....................................................................................
ปรานต์ ปรเมศวร์
หลังจากสำรวจบ้านเสร็จเขาก็เดินออกมา วันนี้เวลาเขาหมดไปกับการสำรวจบ้านแต่ละหลัง แต่ในจังหวะที่กำลังจะเดินไปขึ้นรถเขาก็เห็นรถยนต์สี่ประตูขับมาจอดหน้าบ้านฝั่งตรงข้ามพอดี บ้านหลังนั้นเป็นบ้านที่เขาปล่อยเช่า เขาหันมองเพียงแว๊บเดียวเพราะไม่ได้ให้ความสนใจ แต่ระหว่างที่กำลังเปิดประตูขึ้นรถเขาก็เห็นผู้หญิงเดินลงมา
ในจังหวะนั้นมันทำให้เขาหยุดยืนนิ่งไปชั่วขณะ...
"ผู้หญิงคนนั้น" เมื่อวานเขาตามหาเธอจนทั่วก็ไม่เจอ เมื่อเช้าเขาก็ขับรถออกไปตามหาเธอที่เดิม ไม่คิดว่าจะอยู่ใกล้แค่ปลายจมูก...
ปรเมศวร์รีบเดินตรงเข้าไปแต่ต้องหยุดชะงักกะทันหัน เพราะไม่ได้มีแค่เธอคนเดียว ภาพที่เขาเห็นก็คือเธอกำลังเดินเข้าบ้านกับผู้ชายร่างสูงและมีเด็กน้อยเดินอยู่ข้างกาย...
'พ่อแม่ลูก ครอบครัวอบอุ่นงั้นเหรอ' อยู่ๆหัวใจเขาก็กระตุกเต้นแรง รู้สึกหวิวๆ ความจริงเขาควรดีใจที่เธอมีลูกมีครอบครัวแล้ว แต่มันกลับไม่เป็นแบบนั้น....
แต่เดี๋ยวก่อนนี่มันบ้านเขา? เมื่อเช้าเรื่องที่ผู้หญิงคนนั้นเล่าให้เขาฟังคือเธอเองงั้นหรอ ไหนบอกเป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวน่าสงสาร นี่มันหลอกกันชัดๆ พวกเธอคงเป็นนักต้มตุ๋นน่าจะรู้เห็นกันหมด....
เมื่อผู้ชายคนนั้นเดินกลับมาขึ้นรถ เขาก็ยืนหันหลังทำเหมือนว่ากำลังจะเดินไปขึ้นรถ...
"คิดจะมาหลอกคนอย่างผม มันไม่ง่ายหรอกนะ" ถ้าเขาไม่ได้มาเห็นกับตาก็คงไม่รู้ว่าวิธีที่มิจฉาชีพใช้หลอกคนมันเป็นยังไง อยากมีบ้านอยู่หลังโตแต่ไม่มีเงิน จนต้องมาทำแบบนี้เขาผิดหวังกับคนประเภทนี้จริงๆ และเขาก็ผิดหวังกับเธอที่มาหลอกเขาซ้ำๆ
'เมื่อหลายปีก่อนคุณก็หลอกว่าท้องกับผม มาตอนนี้พวกคุณก็มาหลอกว่าเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวเลี้ยงลูกคนเดียวน่าสาร ผมคงทำกรรมกับคุณมา ถึงได้ถูกคุณหลอกซ้ำๆ" เขารู้สึกผิดหวังเพราะเขาตั้งใจตามหาอยากเจอเธอ...อยากขอโทษกับเรื่องที่ผ่านมา
ร่างสูงหันหลังตัดสินใจเดินขึ้นรถ...
เขาเข้าไปนั่งอยู่ในรถเป็นเวลานานหลายนาที ตั้งใจจะขับออกไปแต่ในหัวเขากลับคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยจนไม่รู้ว่าผ่านไปนานแค่ไหนแล้ว
จนกระทั่ง
ตุบบ!!...
ลูกบอลกลิ้งมาโดนตัวรถแล้วเด้งออกไปและนั่นก็ทำให้เขาได้สติ หันไปมองว่าเกิดอะไรขึ้นก็เห็นลูกบอลกลิ้งอยู่กลางถนน
"???"
ต้นเหตุ
" ภูริ ไม่เล่นแบบนี้นะลูก ห้ามโยนออกไปข้างนอกนะครับ" เสียงรมิตาบ่นลูกชาย ถ้าโยนออกมาโดนคนอื่นจะทำยังไง...