สามปีต่อมา(ภูริ)

1128 คำ
สามปีต่อมา ภูริ ศตนันท์ พ่อหนุ่มน้อยรูปหล่อ วัย3ขวบ ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของแม่ เอย รมิตา "ภูริครับ มาหมั่มๆข้าวก่อนเร็วครับ" ร่างบางยืนถือถ้วยข้าวใบเล็กรอป้อนลูกชายวัยสามขวบสี่เดือนแสนซน " แม่ครับ ภูอยากได้ยุ่นยน" เด็กน้อยชี้ไปที่หุ่นยนต์ในทีวี ภูริเป็นเด็กน้อยหน้าตาดีคิ้วดกรูปหล่อหน้าตาคมเข้มตั้งแต่เด็ก ใครๆ ก็มองว่าเป็นลูกครึ่งเพราะหล่อเกินเด็กทั่วไป...แต่คงหล่อสวยได้แม่เพราะแม่เอยก็ไม่ได้ขี้เหร่เลยสวยจนหลายคนหลงรัก เรียกได้ว่าเป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวสุดฮอต ยิ่งมีลูกแล้วยิ่งสวยมาก "อยากได้ก็ต้องกินข้าวก่อนครับ วันนี้แม่จะพาไปเที่ยวอยากไปไหมครับ" "เย้ๆ อยากไปครับ" เด็กน้อยรีบวิ่งหมั่มข้าวคำโต "เก่งมากครับ กินเสร็จน้าเอมก็จะมารับเราจะไปเที่ยวกัน" ความจริงก็ไม่ได้ไปเที่ยวอะไร เธอกำลังจะไปหาลูกค้า วันนี้นัดเจอลูกค้าที่โรงแรมชื่อดัง ที่โรงแรมมีจัดประชุมสัมมนารวมนักธุรกิจรายใหญ่ระดับประเทศ หน้างานมีขายสินค้าโอทอปและอื่นๆ อีกมากมายเธอจึงอยากพาลูกชายไปเที่ยวชมงานแต่เธอคงไม่ได้อยู่ดูแลภูริ คงต้องเป็นญาณที่ต้องดูแลแทนในช่วงที่เธออยู่กับลูกค้า แต่รายนั้นสบายมากญาณิศาเธอชอบอยู่กับภูริ พาหลานเล่นได้ทั้งวัน แมนๆ คุยกันตามสไตล์สาวห้าวที่รักหลานชายหลงหลานชายเอามากๆ "จ๊ะเอ๋ มีใครคิดถึงน้าเอมไหมเอ่ย" ไม่เจอวันเดียวคิดถึงมากคิดถึงใจจะขาด...เวอร์ได้อีกนะน้าเอม "ย้าเอม ภูคิดถึงครับ" พ่อหนุ่มสุดหล่อรีบวิ่งเข้ามาหาน้าเอม ฟ๊อดดๆ "อืม สุดหล่อของน้า แก้มหอมชื่นใจน้าจริงๆ จุ๊บ!" หอมซ้ายหอมขวาแล้วยังมาจุ๊บอีกเรียกได้ว่าหลงสุดๆ รมิตาเห็นภาพนั้นก็ได้แต่อมยิ้ม ญาณิศาทั้งรักทั้งหลงภูริราวกับเป็นพ่ออีกคน ที่บอกว่าเป็นพ่ออีกคนเพราะญาณิศาเล่นกับลูกชายเธอราวกับเป็นผู้ชายเตะบอลเล่นขับรถอะไรที่เด็กผู้ชายเล่นเพื่อนเธอเล่นได้หมด " ไปกันได้แล้ว คุณพ่อเอม" รมิตาแกล้งแซวเพื่อน "เฮ้ย เรียกได้ถูกใจ เสียดายที่ฉันเกิดเป็นผู้หญิงถ้าเป็นผู้ชายนะฉันจะไปจดรับภูริเป็นลูกแท้ๆ แล้วก็อยู่กินกับแกไปเลย ฮ่าๆ" ญาณิศาพูดทีเล่นทีจริงชอบแกล้ง "เวอร์ๆ น้อยๆ หน่อย ถ้าแกเป็นผู้ชายจริงๆ ฉันไม่ให้อยู่ด้วยหรอก ดูปากฉัน ฉัน ไม่ ชอบ ผู้ชาย" เรื่องที่ผ่านมาทำให้รมิตาเข็ดขยาดกับเรื่องผู้ชายเธอจึงไม่ยอมเปิดใจให้ใครเลยแม้คนคนนั้นจะดีกับเธอมากๆ อย่างเช่นอาเหลียง อาเหลียงตามจีบเธอมานานมากและรับได้ทุกอย่างที่เธอเป็น..แต่เธอก็ยังไม่ยอมใจอ่อน " เสียใจวะ เสียใจแทนอาเหลียง แกมันคนใจร้ายไอ้เพื่อนใจร้าย" เธออุตส่าห์แนะนำคนดีๆ ให้ได้รู้จัก อาเธอโปรไฟล์ดีมากไม่มีเรื่องเสียหายเลย ยังหล่อยังโสดแถมอาเธอก็ไม่ยอมเปิดใจให้ใคร แต่ดันมายอมเปิดใจให้ยัยเพื่อนสุดโหด หัวใจถูกปิดตาย น้ำหยดลงหินทุกวันหินมันยังกร่อน สุภาษิตนี้ใช้ไม่ได้กับเพื่อนเธอ " แม่ครับน้าเอม ไปยังครับ" เด็กน้อยไม่ค่อยเข้าใจที่ผู้ใหญ่พูดกัน "ฮ่าๆ ไปกันได้แล้วครับ ไปกันเล้ย" ทั้งสามเดินมาขึ้นรถที่จอดอยู่หน้าบ้าน.... รถยนต์สี่ประตูคู่ใจถูกขับเข้ามาจอดภายในงาน "โห งานจัดใหญ่โตกว่าที่คิดแฮะ อย่างว่าละเนอะ งานใหญ่ระดับประเทศมีแต่นักธุรกิจรวยๆ ดังๆ ทั้งนั้น" ญาณิศาลงมาจากรถแล้วก็ตกใจคิดว่าจะจัดเล็กๆ รู้งี้เธอเอาโบว์ชัวร์ติดรถมาด้วยดีกว่าเผื่อจะได้แจกให้นักธุรกิจดังๆ จะได้รวยสมหวังเหมือนคนอื่นเขา "เข้าไปในงานกัน" รมิตาเดินถือแฟ้มเอกสารเข้าไปในงานอย่างมั่นใจเธอไม่ได้เข้าไปคุยกับเจ้าของบริษัท แค่เข้าไปคุยกับลูกค้ากลุ่มเล็กๆ ที่มาร่วมงาน "น้าเอมครับ ภูอยากได้" ถ้าอยากได้อะไรต้องอ้อนน้าเอมภูริรู้ดี..น้าเอมใจดีที่สุด "ได้สิครับ แต่ต้องรอให้แม่เอยไปก่อนนะครับ" ตามใจหลานสุดๆ " ขนลุกเลยอะ เข้ามาข้างในยิ่งอลังการ ดีนะที่ฉันแต่งตัวมาดี ไม่เสื้อยืดรองเท้าแตะ" "แต่ก็กางเกงยีนส์กับรองเท้าผ้าใบ" รมิหาหันมองเพื่อนอย่างยิ้มๆ ตั้งแต่ที่เธอรู้จักเพื่อนมา ญาณิศาก็แต่งตัวแนวนี้มาตลอด... "ก็แกไม่บอกฉัน ไอ้เพื่อนใจร้ายแทนที่จะบอกกันก่อนว่างานหรู ชิ" ญาณิศาทำหน้างอนๆ แต่ถามว่าตัวเองจะแต่งตัวดีกว่านี้ไหมก็คงไม่ต่างไปจากนี้... " ขอโทษ ฮ่าๆ ฉันก็ไม่คิดว่ามันจะหรูหราขนาดนี้ ภูริครับแม่ต้องเข้าไปทำงาน ภูริอยู่กับน้าเอมก่อนนะครับ ไม่นานเดี๋ยวแม่ก็ออกมา จุ๊บ ฝากด้วยนะเอม" เธอก้มลงหอมลูกแล้วเดินเข้าไปในงาน "ครับ"เด็กน้อยยิ้มเจ้าเล่ห์เพราะกำลังจะได้ของเล่นเมื่อแม่ไปแล้วน้าเอมก็จะซื้อให้.. " มาเร็วครับ อยากได้ตัวไหนเลือกเอาเลยครับ เต็มที่ไปเลย" " เอาตัวนี้ครับ" เด็กน้อยชี้ไปที่หุ่นยนต์สีแดง " ตัวเดียวหรอครับ" " ใช่ครับ เดี๋ยวแม่เอยดุ" เด็กน้อยทำหน้ากลัวแต่หัวเราะคิกคัก... "ฮ่าๆ แม่เอยนี่ใจร้ายกับทุกคนจริงๆ" ญาณิศาบ่นพึมพำให้เพื่อน ผู้หญิงอะไรใจร้ายๆ กับลูกก็ไม่เว้น สำหรับเธอนั้นตามใจหลานสุดๆ... ................................................... ญาณิศาพาเด็กน้อยเดินดูนั่นนี่จนเหนื่อย เหนื่อยแล้วก็ไปหาอะไรกินเธอเข้ามาสั่งน้ำกับขนมเค้กในโรงแรม ตอนนี้คนกำลังเยอะมากเพราะเลิกประชุมพอดี ทั้งพนักงานบอดี้การ์ดนักธุรกิจอะไรก็ไม่รู้วุ่นวายไปหมด... " ภูริเดินระวังๆ นะครับ เดี๋ยวหกนะ" เธอลุ้นจนหัวใจจะวายกลัวหลานทำจานเค้กหก จะถือให้ก็ไม่ให้ถือ เก่งจริงๆ พ่อคุณ พลั๊กก!! พูดยังไม่ทันขาดคำ ร่างเล็กเดินชนเข้ากับร่างสูงที่กำลังยืนคุยอยู่เต็มๆ เคล้ง!! ถ้วยเค้กใบเล็กหล่นแตกกระจายเต็มพื้นแล้ว
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม