ปุณณ์หยุดยืนอยู่ข้างเตียง ในขณะที่นาวก็ส่งสายตาดุๆ ขู่เขากลายๆ ว่าอย่าทำอะไรเธอนะ เธอสู้นะ แต่สำหรับเขาท่าทางของเธอเหมือนแมวน้อยกำลังขู่ฟ่อๆ อยู่มากกว่า
ร่างสูงค่อยๆ เท้าแขนลงบนเตียง แล้วค่อยๆ ขยับเข้าหาร่างบางทีละนิด นาวที่ขยับจนติดกับหัวเตียงจำต้องหยุดเพราะไปไหนไม่ได้แล้ว
ปุณณ์ที่ขยับเข้ามาใกล้จนนาวรู้สึกถึงลมหายใจร้อนผะผ่าวที่แก้มนวล เขาจงใจจะแกล้งเธอให้สะใจที่มาด่าเขา ร่างสูงค่อยๆ ไล้ปลายจมูกโด่งลงบนแก้มนวลที่แดงเหมือนมะเขือเทศสุกนี้อย่างนึกสนุก
"อวดเก่ง!" ปุณณ์พูดเหมือนกระซิบริมฝีปากหนาสัมผัสกับ แก้มนวลของนาวจนได้กลิ่นกายหอมอ่อนๆ จากตัวเธอ แต่ตอนนี้จากที่จะแกล้งเธอกลับเป็นว่าตัวเขาเองที่เริ่มมีความต้องการจนกลายเป็นความทรมานเพราะกลิ่นกายของเธอ
นาวนั่งหลับตาปี๋ด้วยความกลัวเหมือนจะเอาตัวไปฝังลงในหัวเตียง หัวใจเต้นระรัวเหมือนกลองเพล ใบหน้าร้อนวูบวาบ ปากชา ตัวชาไปหมด เมื่อความกลัวนั้นกำลังปลุกสิ่งเลวร้ายที่ฝังแน่นอยู่ในใจเธอให้เริ่มผุดขึ้นมา แต่จู่ๆ ก็มีเสียงสวรรค์ที่กดความทรงจำนั้นลงไว้เสียก่อน
"ปุณณ์ ทำไรอ่ะ" น้ำเสียงหวานที่คุ้นหูดังขึ้น ทำให้ปุณณ์ผละออกจากร่างบาง ถอยห่างออกมาหันไปมองตามเสียง
"ไม่ได้ทำอะไรสักหน่อย พี่บัวไม่ต้องมาทำหน้าแบบนี้เลย ทุกคนด้วยครับอย่ามองปุณณ์ด้วยสายตาแบบนี้ ปุณณ์ไม่ได้ทำอะไรเลยนะ" ปุณณ์ว่าเมื่อเห็นสีหน้าล้อเลียนของพี่สาว เช่นเดียวกับสีหน้าของแทนไท พรพระพาย อาชิ ชะเอม ปัณณ์ แล้วก็ธาม
"ร้อนตัวไปเปล่า ทุกคนเขายังไม่ได้คิดอะไรเลย จริงๆ นะ" บัวยังคงกระเซ้าน้องชายที่ดูจะร้อนตัวอย่างเห็นได้ชัด
"ก็สีหน้าของทุกคนมันฟ้องอยู่นี่ไง"
นาวมองหน้าคนนั้นที คนนี้ที ก่อนจะสะดุ้งตกใจน้อยๆ เมื่อเห็นปุณณ์แยกร่างได้
"ไม่ต้องตกใจคู่นี้เป็นฝาแฝดกัน ไม่ต้องกลัวนะ ทุกคนที่นี่ไม่มีใครทำอะไรหนูหรอก แล้วหนูชื่ออะไร" พรพระพายเอ่ยด้วยเสียงใจดี
"นะ...นาวค่ะ"
"น้าขอตรวจอาการของนาวหน่อยนะ" ชะเอมเดินมานั่งลงบนเตียงข้างๆ นาวเขยิบตัวหนีเล็กน้อย
"ขอบคุณคุณน้ามากนะคะ แต่นาวไม่เป็นอะไรแล้วค่ะ" นาวยกมือไหว้ขอบคุณ เอ่ยด้วยความเกรงใจ
"คุณแม่ฉันจะตรวจ เธอก็ให้ตรวจๆ ไปเหอะ จะเล่นตัวทำไมนักหนา" ปุณณ์ว่า
"แต่....." นาวมองหน้าทุกคนอย่างกล้าๆ กลัวๆ
"ปู่ว่าเราทุกคนออกไปรอที่โต๊ะอาหารกันก่อน ไม่งั้นนาวคงไม่ยอมให้ชะเอมตรวจร่างกายแน่ บัวอยู่ช่วยแม่เขานะลูก ไปครับพาย" แทนไทเอ่ยขึ้นก่อนจะโอบเอวคอดของภรรยาสุดที่รักออกไป
"ค่ะคุณปู่" บัวรับคำคนเป็นปู่ ทุกคนก็ทยอยเดินตามแทนไทออกไป
"ไปดิว่ะ" ปัณณ์หันมาลากคอปุณณ์ที่ยืนมองนาวนิ่งออกไปด้วย
"พี่ชื่อบัวนะ เป็นพี่สาวของแฝด นาวเรียกพี่บัวก็ได้ ส่วนคนที่นาวตื่นมาเจออ่ะน้องชายพี่เองชื่อปุณณ์ ส่วนอีกคนที่หน้าเหมือนๆ กันอ่ะชื่อปัณณ์ ส่วนคนนี้คุณแม่ชะเอมคนสวย แล้วคนที่ถามชื่อนาวคือคุณย่าพาย แล้วก็คุณปู่แทน คุณพ่ออาชิ แล้วอีกคนก็พี่ธามคนนี้เป็นสามีพี่" บัวแนะนำตัวอย่างเป็นกันเอง
"ค่ะ ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ นาวต้องขอบคุณคุณน้ากับพี่บัวมากๆ ที่ช่วยนาวไว้" นาวยกมือไหว้ขอบคุณ
"คนที่ช่วยนาวคือปุณณ์ คนที่อยู่กับนาวคนแรกน่ะ น้าว่าเรามาตรวจร่างกายกันดีกว่านะ จะได้ออกไปทานอาหารเช้ากัน"
"ค่ะ" นาวค่อยๆ นอนลงยอมให้ชะเอมตรวจร่างกายแต่โดยดี
"มีไข้นิดหน่อยนะ เดี๋ยวทานข้าวแล้วค่อยทานยา"
"คุณน้าเป็นหมอเหรอคะ"
"น้าเป็นหมอ แต่เป็นหมอที่ไม่ได้อยู่โรงพยาบาลนะ"
"คุณพ่อพี่หวงคุณแม่มากเลยไม่ยอมให้ไปทำน่ะ" บัวบอกเมื่อเห็นสีหน้างงๆ ของนาว
"อ๋อค่ะ คุณน้าผู้ชายคงรักคุณน้ามากถึงได้หวงมาก"
"มากเลยละ แต่ตอนนี้พี่ว่านาวไปแต่งตัวก่อนดีกว่า จะได้ออกไปทานข้าวกัน" บัวบอกพร้อมยื่นเสื้อผ้าให้นาว
"ไม่เป็นไรค่ะ แค่นี้นาวก็รบกวนทุกคนมามากพอแล้ว นาวว่านาวกลับเลยดีกว่า" นาวปฏิเสธไม่รับเสื้อผ้าที่บัวเตรียมมาให้
"นาวจะใส่ชุดเมื่อคืนกลับหรือไง" บัวถาม ทำให้นาวนึกขึ้นได้ว่าตอนที่เธอหนีออกมาเธอใส่เพียงชุดว่ายน้ำเท่านั้น
"ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้วอยู่กินข้าวกันก่อน แล้วน้าจะให้ปุณณ์ไปส่ง ห้ามปฏิเสธนะ" ชะเอมพูดดักคอนาวไว้ไม่ให้ตอบปฏิเสธ
"เออ...ก็ได้ค่ะ ขอบคุณคุณน้ากับพี่บัวมากนะคะ"
"นี่นาวพูดขอบคุณมากี่ครั้งแล้วเนี่ยรู้ตัวบ้างไหม ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเถอะ ใส่ชุดของพี่ไปก่อน ชุดใหม่พี่ยังไม่เคยใส่ ถ้าใส่ชุดที่นาวใส่มาคงไม่เหมาะแน่"
"ขอบคุณค่ะ วันหลังนาวซักมาคืนพี่บัวนะคะ"
"ไม่ต้องหรอก"
"แต่นาวคงไม่มีเงินจ่ายค่าชุดให้พี่บัว แล้วมันก็คงแพงมากด้วย"
"ไม่ต้องเอามาคืน แล้วก็ไม่ต้องจ่ายเงินพี่ด้วย พี่ยกให้ รีบไปเปลี่ยนชุดเลย ทุกคนรอทานข้าวอยู่ ให้ผู้ใหญ่รอนานมันจะไม่ดีนะ"
"เออ...ค่ะ ขอบคุณพี่บัวมากนะคะ" นาวเดินถือชุดเข้าไปในห้องน้ำพร้อมกับหาที่ล็อกประตู แต่มันไม่มีที่ล็อกเป็นเพียงประตูบานเลื่อนปิดเท่านั้น
บัวให้ชะเอมออกไปก่อน เธอจะเป็นคนพานาวออกไปเอง ไม่นานนาวก็ออกมา
"ใส่ได้พอดีเลย ป่ะกินข้าวกัน" บัวพานาวที่อยู่ในชุดเดรสกระโปรงสั้นสีเขียวมิ้นท์แขนกุดไปยังโต๊ะอาหารที่ทุกคนรออยู่
"บัวพานาวมานั่งตรงนี้ลูก" พรพระพายเอ่ยเรียกให้บัวพานาวไปนั่งเก้าอี้ตัวข้างๆ ซึ่งเป็นเก้าอี้ตัวที่ปัณณ์นั่งอยู่ก่อนหน้า แต่พอเห็นบัวพานาวเดินออกมาจากห้องนอนแขก ปัณณ์จึงลุกขึ้นสละที่นั่งให้ ทำให้นาวต้องนั่งใกล้ปุณณ์ไปโดยปริยาย
นาวนั่งก้มหน้าก้มตารับประทานอาหารเช้าร่วมกับทุกคนไปนิ่งๆ ตอนนี้เธอรู้สึกเกร็งจนไม่รู้ว่าตัวเองควรจะทำอย่างไรต่อ ส่วนคนข้างๆ ก็เอาแต่นั่งรับประทานอาหารนิ่งไม่หันมองเธอแม้แต่น้อย
"นาวไม่ต้องเกร็งนะ คนที่นี่ใจดีไม่มีใครทำอะไรนาวหรอก" บัวเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นท่าทีของนาว หลังจากรับประทานอาหารเช้าเสร็จ แล้วมานั่งยังห้องรับแขก
"ใจดีเฉพาะกับบางคน" น้ำเสียงเย็นยะเยือกดังขึ้น พร้อมกับสายตาเย็นเยียบที่หันมามองหญิงสาวข้างกาย เป็นจังหวะที่เธอหันมามองและสบตาเขาพอดี เธอจึงรีบก้มหน้าหลบสายตาของเขาทันที
"ปุณณ์" ชะเอมปรามลูกชาย
"ก็จริงนี่ครับคุณแม่ บ้านเราจะดีกับคนที่ดีเท่านั้น"
"นาวพอจะบอกพวกเราได้ไหมว่ามันเกิดเรื่องอะไรขึ้นกับนาว ทำไมนาวถึงวิ่งมาตัดหน้ารถปุณณ์ได้" ชะเอมตัดสินใจถามออกไป
"เออ...คือ...นาว..." นาวมีท่าทีอึกอักไม่รู้ว่าตัวเองจะเล่าหรือไม่เล่ากับเหตุการณ์เลวร้ายที่เธอเจอมา ถ้าเล่าไปแล้วทุกคนจะหาว่าเธอปั้นน้ำเป็นตัวไหม ทุกคนจะเชื่อเธอไหม แต่เท่านี้ก็เป็นการรบกวนทุกคนมากแล้ว
"ถ้าไม่อยากเล่าก็ไม่เป็นไร ทุกคนในที่นี่เข้าใจ" แทนไทประมุขใหญ่ของบ้านพูดขึ้นเมื่อเห็นท่าทีลำบากใจของนาว
"ไปทำเรื่องไม่ดีไว้สิท่าถึงไม่กล้าเล่าให้คนอื่นฟัง" ปุณณ์พูดพลางปรายตามองนาว
"ปะ...เปล่านะคะ" นาวรีบปฏิเสธทันที
"แล้วทำไมถึงเล่าให้ทุกคนฟังไม่ได้ นี่ถ้าฉันเบรคไม่ทัน ฉันไม่เป็นผู้ร้ายขับรถชนเธอตายไปแล้วเหรอ"
"ปุณณ์ลูก นาวคงมีเหตุผลที่เล่าให้ทุกคนฟังไม่ได้ เราก็อย่าไปคาดคั้นนาวสิ" ชะเอมพูด
"นาวต้องขอบคุณทุกคนมากๆ เลยนะคะที่ช่วยนาวไว้ ถ้าทุกคนมีอะไรให้นาวทำเพื่อเป็นการตอบแทนบอกนาวได้เลยนะคะ"
"ทุกคนในที่นี้ไม่มีใครต้องการให้นาวมาตอบแทนอะไรหรอก เห็นคนเดือดร้อนตรงหน้า เป็นใครก็ต้องช่วย จริงไหมปุณณ์" ชะเอมถามลูกชาย
"แต่คนที่เดือนร้อนคือปุณณ์นะครับคุณแม่ ปุณณ์เกือบจะเป็นผู้ร้ายขับรถชนคนตายเลยนะครับ"
"คุณคิดไปเองหรือเปล่าคะ นาวไม่เคยคิดว่าคุณจะเป็นผู้ร้ายอะไรเลย นาวผิดเองที่วิ่งไปตัดหน้ารถคุณ นาวขอโทษค่ะ ขอบคุณนะคะที่พานาวมาที่นี่ มาพบเจอคนดีๆ อย่างที่นาวไม่เคยเจอมาก่อน นาวขอตัวกลับก่อนนะคะ ขอบคุณทุกคนอีกครั้งค่ะ" นาวบอกความรู้สึกนึกคิดของตัวเอง ก่อนจะลุกขึ้นหมายจะออกไปจากบ้านหลังนี้
"เดี๋ยว .....ปุณณ์ขับรถไปส่งนาวที่บ้าน" นาวชะงักเท้าเมื่อเสียงทรงอำนาจของอาชิดังขึ้น อาชิออกคำสั่งกลายๆ กับลูกชาย
"เรียกแท็กซี่ให้ก็พอมั่งครับคุณพ่อ"
"ปุณณ์" อาชิมองหน้าลูกชายทั้งน้ำเสียงและแววตาเรียบนิ่ง แต่สำหรับปุณณ์มันคือคำสั่ง
"นาวกลับแท็กซี่ได้ค่ะ แค่นี้นาวก็รบกวนทุกคนมามากพอแล้ว"
"ปุณณ์ไปส่งนาว ไหนๆ ก็ช่วยมาถึงขั้นนี้แล้ว แค่ไปส่งนาวที่บ้านคงไม่เหนือบ่ากว่าแรงของปุณณ์ใช่ไหม"
"ครับคุณพ่อ"
"ส่วนนาวให้ปุณณ์ไปส่งน่ะดีแล้ว อีกอย่างก็เพื่อความสบายใจของพวกเราทุกคนว่านาวจะไม่เจอเรื่องร้ายๆ แบบเมื่อคืนอีกในระหว่างทางกลับบ้าน"
"เออ...ค่ะ" นาวไม่กล้าที่จะปฏิเสธอาชิ แต่ในใจกับนึกคิดว่าคนที่รับหน้าที่ไปส่งเธอก็ไม่น่าไว้วางใจเหมือนกัน
"ไปสิ หรือจะต้องให้อุ้มอัญเชิญไปขึ้นรถ" ปุณณ์ว่าก่อนจะเดินนำออกไป
"ตาปุณณ์นี่" พรพระพายว่าเสียงดุ ส่ายหน้าเบาๆ
"สวัสดีค่ะ" นาวบอกลาทุกคน แล้วรีบเดินตามปุณณ์ไป
"โชคดีนะนาว" บัวยิ้มให้นาวอย่างเป็นมิตร
นาวชะงักตกใจที่ออกมาแล้วเจอชายชุดดำยืนอยู่เต็มไปหมด คนบ้านนี้เป็นใคร หรือว่าจะเป็นแก็งเจ้าพ่อมาเฟียอย่างที่เธอเคยดูในหนัง เธอต้องรีบออกไปจากที่นี่โดยเร็วที่สุด แล้วคงจะไม่กลับมาที่นี่อีก
"จะยืนอีกนานไหม ฉันไม่ได้มีเวลามากพอที่จะมารอเธอหรอกนะ" ปุณณ์ว่า ทำให้นาวได้สติรีบเดินตามเขาไปที่รถ
เมื่อรถออกตัวไปได้สักพัก นาวก็ได้แต่นั่งเกร็งนิ่งๆ ไม่กล้าพูดไม่กล้ามอง และหันหน้าออกไปนอกตัวรถ
"จะนั่งนิ่งอีกนานไหม" น้ำเสียงทุ้มดังขึ้นทำลายความเงียบ
"คะ?" นาวหันมองหน้าคนที่รับหน้าที่คนขับอย่างงงๆ
"เอ้า จะบอกได้หรือยังว่าบ้านเธออยู่ไหน เธอเห็นฉันว่างมากหรือไง ถึงจะให้พาเธอนั่งรถเล่น"
"อยู่เลยมหาลัย.....ไปค่ะ" นาวตอบเสียงเบาแต่ก็พอที่เขาจะได้ยิน
"จอดตรงนั้นก็ได้ค่ะ นาวเช่าห้องอยู่ในซอย" นาวชี้ไปที่หน้าซอยของชุมชนแออัดที่อยู่เลยมหาวิทยาลัยของรัฐมาเกือบสองกิโลเมตร
"เธออยู่ที่นี่จริงๆ เหรอ ฉันว่ามันดูไม่ค่อยปลอดภัยเลยนะ" ปุณณ์ชะโงกหน้ามองตึกห้องเช่าสูงห้าชั้นเก่าๆ ที่นาวบอก พลางสอดส่ายสายตามองสภาพแวดล้อมรอบๆ ที่รายล้อมไปด้วยสภาพบ้านไม้เก่าๆ บ้างก็มีสังกะสีพุๆ มาปิดทับตามฝาพนังบ้าน ผู้คนเดินขวักไขว่ บางคนเสื้อก็ไม่ใส่
"ค่ะ นาวไม่ได้มีตัวเลือกมากนักในชีวิต ตอนนี้ที่นี่เป็นที่ที่ดีที่สุดสำหรับนาวกับเพื่อนแล้ว"
"เธออยู่กับเพื่อน? เพื่อนหรือแฟนกันแน่"
"เพื่อนคะ เพื่อนผู้หญิง ขอบคุณนะคะที่ช่วยนาวไว้เมื่อคืน แล้วที่กรุณาขับรถมาส่งวันนี้ด้วย" นาวเอ่ยขอบคุณก่อนจะเปิดประตูลงจากรถไป ปุณณ์มองนาวเดินเข้าไปในซอย จนเธอเดินหายเข้าไปในตึกเก่าๆ นั่น เขาจึงขับเคลื่อนรถออกไป