แก๊ก!
"นาว! นาวหายไปไหนมาทั้งคืน รู้ไหมว่าอีฟเป็นห่วงมากแค่ไหน พวกพี่ๆ ก็เป็นห่วงนาว อีฟรอนาวจนไม่กล้าออกไปไหนเลยรู้ไหม" ทันทีที่ได้ยินเสียงเปิดประตูห้อง อีฟที่เดินวนเป็นหนูติดจั่นด้วยความเป็นห่วงเพื่อนก็โผเข้ากอดด้วยความโล่งอกที่นาวกลับมาห้องแล้ว
"คือนาว....."
"มานั่งนี่เลย เล่ามาให้หมดว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมจู่ๆ นาวก็หายออกไปจากงานปาร์ตี้ รู้ไหมว่าพี่ปาล์มโกรธมากเลยนะ" อีฟจับมือนาวลากมานั่งที่เตียงนอน
"จริงเหรอ แบบนี้พี่ปาล์มคงไม่ให้งานนาวแล้วแน่ๆ เลย" นาวหน้าเสียทันที แค่เริ่มงานวันแรกก็มีปัญหาแล้ว แล้วแบบนี้ใครจะจ้างเธออีก
"พี่แจงบอกว่าถ้านาวกลับมาแล้วให้เข้าไปพบพี่ปาล์ม แต่ตอนนี้นาวเล่ามาให้หมดว่าเกิดอะไรขึ้น" อีฟคาดคั้น นาวมีสีหน้าลำบากใจระคนเป็นกังวล ก่อนจะตัดสินใจเล่าเรื่องทุกอย่างให้อีฟฟัง
"มิน่าจู่ๆ คุณตุลย์ภพก็หายออกไปจากงาน กว่าจะกลับเข้ามาก็เกือบงานเลิก ไหนพี่แนตบอกว่าไอ้คุณตุลย์ภพอะไรนั่นไม่เคยบังคับขู่เข็ญให้คนที่ไม่เต็มใจไปนอนด้วยไง"
"นาวก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมเขาถึงทำแบบนั้นกับนาว แต่อาจจะเป็นเพราะเหล้าด้วย ตอนนั้นกลิ่นเหล้าจากตัวเขาแรงมาก"
"เมาแล้วเป็นพวกหื่นกามแบบนี้ก็ไม่ไหวนะ แล้วนาวจะเอาไงต่อ"
"ก็คงต้องเข้าไปขอโทษพี่ปาล์มนั่นแหละ"
"ไปกันเลยไหม บ่ายอีฟมีงานที่ห้างต่อด้วย"
"นาวเลยพลาดงานเลย อีกสองวันก็จะสิ้นเดือนอยู่แล้ว แทนที่จะได้เงินมาช่วยอีฟจ่ายค่าห้อง"
"คิดมากอีกละ งั้นเดือนนี้อีฟจ่าย เดือนหน้านาวค่อยจ่ายก็ได้"
"ก็คงต้องเป็นแบบนั้น" นาวมีสีหน้าเคร่งเครียดที่ต้องเป็นตัวภาระของอีฟตลอด
"อย่าทำหน้าแบบนี้ อีฟแต่งตัวก่อนนะ นาวไปชุดนี้เลยก็ได้ สวยดี" นาวพยักหน้าเป็นการตอบ อีฟเดินหยิบเสื้อผ้าแล้วหายเข้าไปในห้องน้ำ
"สวัสดีค่ะพี่แจง" นาวกับอีฟทักทายแจง เลขาส่วนตัวของปาล์ม
"มาแล้วเหรอนาว พี่ปาล์มกำลังรออยู่เลย ตามพี่มา" แจงเดินนำเข้าไปยังห้องทำงานของปาล์ม
ก๊อกๆ
"พี่ปาล์มคะ นาวมาแล้วค่ะ" แจงรายงานเจ้านายสาวที่นั่งก้มหน้าก้มตาเซ็นเอกสาร
"อีฟมีงานไม่ใช่เหรอ ไปเตรียมตัวสิ" ปาล์มช้อนตาชำเลืองมองเพียงชั่วพริบตา ก่อนจะเอ่ยขึ้นโดยไม่เงยหน้าจากเอกสารตรงหน้า
"เออ...ค่ะ" อีฟตอบ หันมองหน้านาวอย่างให้กำลังใจ
"นั่งสินาว" ปาล์มเงยหน้าขึ้นมา เก็บปากกาเข้าที่ เอนหลังพิงพนักเก้าอี้ ขาเรียวสวยข้างหนึ่งตวัดไขว้กับขาเรียวอีกข้าง
"นาวต้องขอโทษพี่ปาล์มกับเรื่องที่เกิดขึ้นด้วยนะคะ" นาวขอโทษขอโพยก่อนที่ปาล์มจะตำหนิตน
"นาวคิดว่าพี่จะเรียกนาวมาต่อว่างั้นสิ ใช่ ตอนที่พี่รู้เรื่อง พี่โกรธมากที่จู่ๆ นาวก็ทิ้งงาน หายตัวไปไหนก็ไม่รู้ แต่เมื่อเช้าคุณตุลย์ภพเข้ามาพบพี่ที่นี่"
"คุณตุลย์ภพมาที่นี่เหรอคะ" นาวมีสีหน้าตกใจสุดขีด หรือว่าเขาจะเอาเรื่องเธอ
"ใช่ คุณตุลย์ภพมาที่นี่ มาขอโทษเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืน"
"ขอโทษ?"
"ใช่ คุณตุลย์ภพยอมรับกับพี่ว่าเมามาก เพราะดื่มมาก่อนหน้าที่จะเข้างานปาร์ตี้ แล้วก็ไม่เคยเจอใครปฏิเสธมาก่อน ยังไงล่ะ...คือคุณตุลย์ภพเป็นคนที่ไม่ใช่ว่าจะถูกใจใครง่ายๆ แต่คนที่เขาถูกใจ และได้ยื่นข้อเสนอให้ก็ไม่เคยมีใครกล้าปฏิเสธ นาวเป็นคนแรกที่กล้าปฏิเสธเขา คุณตุลย์ภพก็เลยอยากจะเลี้ยงข้าวนาวเป็นการขอโทษ เขาให้ค่าเสียเวลากับค่าปลอบขวัญด้วยนะ"
"นาวยอมรับคำขอโทษค่ะ แต่เรื่องทานข้าว...."
"พี่ว่านาวควรไปนะ เท่าที่พี่รู้จักคุณตุลย์ภพมาถือว่าเป็นคนที่โอเคคนหนึ่ง ลูกชายรัฐมนตรี นักธุรกิจหนุ่มไฟแรง โสด รับรองได้ว่าไม่มีปัญหาเรื่องเมียหลวงตามหึงหวงแน่ ไม่ได้เป็นคนเลวร้ายอะไร ถือว่าเป็นผู้ชายที่เพอร์เฟคด้วยซ้ำไป เรื่องเมื่อคืนเขาคงเมาจริงๆ แหละ" ตุลย์ภพเป็นลูกค้าของบริษัทมานานหลายปี ไม่เคยมีปัญหา ถือเป็นผู้ชายที่เพียบพร้อมคนหนึ่งทั้งรูปร่างหน้าตา และทรัพย์สมบัติ การที่เขาลงทุนมาขอโทษด้วยตนเอง นั่นก็แสดงว่าเขากำลังสนใจในตัวนาวอยู่
"กระเป๋าหนักมากด้วยนะนาว" แจงเอ่ยเสริม
"แต่นาว....." นาวมีสีหน้าลำบากใจเป็นอย่างมาก ภาพและการกระทำของเขาทำให้ยากที่จะไว้ใจเขาได้อีก
"เอาเป็นว่านาวยังไม่ต้องให้คำตอบพี่วันนี้ พี่ให้เวลานาวคิดคืนหนึ่ง พรุ่งนี้นาวค่อยให้คำตอบพี่ แต่พี่ว่าคุณตุลย์ภพเขาดูจะสนใจนาวอยู่นะ ไม่อย่างนั้นเขาคงไม่มาถึงที่นี่เพื่อขอโทษนาวหรอก เผลอๆ เขาอาจจะจริงจังกับนาวก็ได้ พี่ว่านาวควรเปิดโอกาสให้ตัวเองดูนะ"
"นาวไม่กล้าคิดขนาดนั้นหรอกค่ะพี่ปาล์ม ใครจะมาจริงจังผู้หญิงที่มีแต่ตัว ไม่มีอะไรเลยแบบนาว แล้วพรุ่งนี้นาวก็มีเรียนด้วย"
"พี่รู้ ช่วยเย็นๆ หลังเลิกเรียนก็ได้ แต่พี่อยากจะบอกนาวไว้ว่าการไปทานข้าวกับคุณตุลย์ภพ พี่ให้นาวคูณสองทั้งจำนวนครั้งและค่าจ้าง โดยที่บริษัทจะไม่มีส่วนได้ส่วนเสียกับค่าทำขวัญที่คุณตุลย์ภพจะให้นาว แล้วงานนี้พี่จ่ายค่าจ้างให้นาวทันที นาวลองกลับไปคิดดูนะ โอกาสแบบนี้ไม่ได้มีมาบ่อยๆ" ปาล์มยื่นข้อเสนอที่ตุลย์ภพก็ยื่นเสนอเธอมาอีกทีเรื่องค่าจ้าง
"พี่ปาล์มคะ" นาวเริ่มลังเลเมื่อได้รับรู้ว่าจะได้ค่าจ้างถึงสองเท่า เธออยากได้เงินไปช่วยอีฟจ่ายค่าเช่าห้อง
"ว่าไง หรือว่าตัดสินใจแล้ว"
"นาวเป็นคนขอเลือกสถานที่ได้ไหมคะ นาวไม่อยากอยู่ตามลำพังกับเขา"
"ได้สิ นาวอยากไปที่ไหนล่ะ พี่จะได้บอกคุณตุลย์ภพ"
"ในห้างก็ได้ค่ะ คนพลุกพล่านหน่อย"
"งั้นพี่ให้แจงจัดการจองร้านให้เลยไหม"
"ได้ค่ะ แต่ขอเป็นวันพรุ่งนี้ช่วงเย็นนะคะ"
"ได้สิ แจงเดี๋ยวเอาสัญญาว่าจ้างมาให้นาวเซ็นนะ แล้วก็ให้นาวไปที่ฝ่ายบัญชีได้เลย"
"ค่ะพี่ปาล์ม ป่ะนาว ตามพี่มา"
"ค่ะพี่แจง นาวขอบคุณพี่ปาล์มมากเลยนะคะ"
"พี่ก็เป็นแค่ตัวกลาง ลูกค้าพอใจในตัวนาวพี่ก็แค่นำข้อเสนอของลูกค้ามาเสนอนาว ทุกอย่างมันขึ้นอยู่ที่ตัวนาวเองว่าจะรับหรือปล่อยโอกาสไป นี่แค่เริ่มต้น พี่ว่าอนาคตของนาวไปได้สวยแน่ แต่อยู่วงการนี้ต้องฉลาด รู้จักเอาตัวรอด"
"ค่ะพี่ปาล์ม นาวกับอีฟโชคดีที่พี่ปาล์มให้โอกาส"
"นาวตามแจงไปเซ็นสัญญาแล้วก็รับเงินเถอะ" ปาล์มบอก แจงเดินนำนาวออกไปจากห้องทำงาน
"พี่นุชให้เงินนาวเกินหรือเปล่าคะ" นาวเอ่ยถามหลังจากนับจำนวนเงินค่าจ้างในซอง
"ไม่ผิดหรอก ก็เงินค้าจ้างของเมื่อคืนด้วยไง ผู้ว่าจ้างเขาจ่ายมาให้สำหรับทุกคน" นุชหัวหน้าฝ่ายบัญชีอธิบาย
"แต่นาวไม่ได้ทำงานจนจบงานนะคะ"
"พี่ก็ไม่รู้นะว่ายังไง พี่ก็ทำตามที่ที่ปาล์มสั่งเท่านั้นเอง"
"ค่ะพี่นุช นาวขอตัวกลับก่อนนะคะ สวัสดีค่ะ" นาวบอกลา
"หูยยย มีแต่ของน่ากินทั้งนั้นเลย" อีฟกลับเข้ามาถึงห้อง ทันทีที่เปิดประตูเข้ามาก็ได้กลิ่นหอมของอาหารโชยมาเตะจมูก เธอเดินตามกลิ่นของอาหารเข้ามา อาหารสามอย่างที่วางอยู่บนโต๊ะญี่ปุ่นตัวเตี้ยกลางห้อง
"น่ากินก็กินสิ อีฟนั่งเลย วันนี้นาวจะบริการอีฟเอง" นาวยกจานอาหารอีกจานออกมาวางบนโต๊ะ
"นาวไปเอาเงินมาจากไหนเยอะแยะ เมื่อคืนก็ไม่ได้ค่าจ้างไม่ใช่เหรอ เออใช่ แล้วพี่ปาล์มว่ายังไงบ้าง" อีฟเอ่ยถามอย่างสงสัย
"ไม่ว่าเลย คุณตุลย์ภพมาพบพี่ปาล์มก่อนที่เราจะเข้าบริษัท บอกว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเพราะเขาเมา เขาผิดเอง ส่วนเงินที่นาวเอามาซื้ออาหารพวกนี้ก็เงินค่าจ้างเมื่อคืน แล้วก็เงินค่าจ้างของพรุ่งนี้"
"ค่าจ้างพรุ่งนี้? งานอะไร? หรือว่างานเดียวกับอีฟ แต่ตามรายชื่อก็ไม่มีชื่อนาวนี่" อีฟมีสีหน้าสงสัย เพราะงานเชียร์ขายสินค้าที่เธอต้องไปพรุ่งนี้ที่ห้างสรรพสินค้าไม่มีชื่อของนาว
"งานกินข้าวกับคุณตุลย์ภพน่ะ"
"จริงดิ ทำไมนาวถึงรับ นาวไม่กลัวเขาทำอะไรนาวหรือไง"
"ก็กลัว นาวก็เลยให้พี่ปาล์มนัดเจอในห้าง คนเยอะๆ เขาคงไม่กล้าทำอะไรหรอก แล้วอีกอย่างพี่ปาล์มบอกว่าเขาอยากเลี้ยงข้าวเป็นการขอโทษนาว แล้วพี่ปาล์มให้ค่าจ้างตั้งสองเท่าแหนะ นาวก็เลยรับ"
"นาวก็ต้องระวังตัวด้วยรู้ไหม ไว้ใจได้แค่ไหนก็ไม่รู้นายตุลย์ภพไรเนี่ย"
"อืม นาวจะระวังตัว ถ้าเรามีงานกันทุกวันแบบนี้เดือนหน้าเราก็คงจะหาห้องเช่าที่ดีและปลอดภัยกว่านี้ได้แน่เลยอีฟ" นาวพูดอย่างมีความหวัง
"ใช่ แต่ตอนนี้ก็คงต้องทนอยู่ที่นี่ไปก่อนอีกเดือน"
"กินกันดีกว่า ถือว่าฉลองต้อนรับชีวิตใหม่ของเราสองคน" นาวเทน้ำผลไม้ใส่แก้วยื่นให้อีฟ
"เพื่อชีวิตที่ดีกว่า ชน" สองสาวเพื่อนรักชนแก้วกันอย่างคนที่มีความหวังในชีวิต ในอนาคตกาลข้างหน้าของตนต้องดีขึ้นกว่านี้แน่นอน
วันต่อมา ณ ห้างสรรพสินค้า
"เฮ้ยปัณณ์ มึงว่าอันนี้เป็นไง น่ารักเปล่าวะ" ปุณณ์หยิบรองเท้าสำหรับเด็กอ่อนสีชมพูนุ่มแบบน่ารักขึ้นมา รอยยิ้มละมุนปรากฎบนใบหน้าหล่อเหล่าที่อยู่ในชุดนักศึกษา
"ลูกมึงยังอยู่ในท้อง พึ่งจะสามเดือนด้วย แล้วมึงจะรู้ได้ไงว่าผู้หญิงหรือผู้ชาย ถ้าเกิดเป็นผู้ชายมึงจะให้ใส่สีชมพูเหรอวะ"
"มีตั้งห้าสี ก็ซื้อไปทุกสีเลยดิวะ"
"เห่อเหมือนกันนะมึง"
"ลูกกูนี่หวา เอาแบบนี้ครบสีครับ" ปุณณ์ตอบก่อนจะหันไปสั่งพนักงานขาย พร้อมทั้งยื่นบัตรเครดิตให้
"บอกจะมาซื้อหนังสือ ดันได้รองเท้าลูกซะงั้น"
"บ่นจริง มึงเป็นลุงนะ มึงจะบ่นไม่ได้"
"อาปัณณ์เว้ย ถ้าลุงต้องเป็นลุงธามกับป้าบัวนู้น แต่ถ้าอนาคตลูกกู มึงอ่ะเป็นลุง"
"แน่ใจว่าชาตินี้จะมีเมีย"
"ไม่รู้ว่ะ แต่ตอนนี้ยังไม่เจอคนที่ใช่แค่นั้นเอง หรือว่ามึงเจอแล้ว นาวเปล่าวะ น่ารักดีนะเว้ย"
"น่ารักมึงก็จีบไปดิ สำหรับกูไม่ว่ะ ไปร้านหนังสือ จะได้ไปหาอะไรกินกัน" ปุณณ์รับถุงกับบัตรเครดิตจากพนักงาน ก่อนจะเดินออกจากแผนกเด็ก
"กูก็ไม่ว่ะ ไม่ใช่สเปคกู แต่กูว่านาวนี่สเปคมึงเลยนะ"
"ตอนนี้กูตั้งใจจะเลี้ยงลูกให้ดีที่สุด เรื่องอื่นกูไม่สน" ปุณณ์ตอบเสียงเรียบ เดินเข้าร้านหนังสือ ตรงไปยังโซนหนังสือแม่และเด็ก เขายอมรับว่านาวเป็นสเปคของเขา แต่เธอดูมีเรื่องปิดบัง เป็นผู้หญิงที่มีความลับเกินไป แล้วยังจะร่องรอยบนตัวเธออีก
"ไอ้ปุณณ์ นั่นนาวใช่ไหมวะ มากับใครวะ" หลังจากได้หนังสือสำหรับเลี้ยงเด็กแรกเกิดแล้ว ปุณณ์กับปัณณ์จึงชวนกันมาหาอะไรกินยังร้านอาหารประจำของทั้งคู่ สายตาของปัณณ์ปะทะกับร่างบางที่อยู่ในชุดนักศึกษานั่งอยู่กับผู้ชายคนหนึ่งในร้านอาหารนั้น