"เป็นอะไรของมึง" ปัณณ์เอ่ยถามทันทีที่ปุณณ์เดินกลับเข้ามานั่งที่เดิมด้วยสีหน้าที่โกรธขึงอย่างไม่ปิดบัง
"มึงอิ่มยัง จะได้กลับ" ปุณณ์ไม่ตอบ แต่กลับกระแทกเสียงถามปัณณ์กลับ
"อิ่มไรของมึง อาหารพึ่งมาเนี่ย"
"งั้นมึงก็รีบกินเลย จะได้รีบไป"
"อาการออกนะมึง" ปัณณ์เอ่ยอย่างรู้เท่าทันในอารมณ์ของแฝดผู้พี่
"อาการไรของมึง"
"อาการหึงไง"
"หึง? มึงเมาน้ำเปล่าหรือไง กูเนี่ยนะจะไปหึงยัยมะนาวเน่า"
"กูก็ไม่ได้บอกเปล่าว่ะว่ามึงหึงนาว ร้อนตัวแบบนี้คือชัวร์"
"มึงบ้าป่ะ กูจะไปหึงยัยนั่นได้ยังไง พึ่งจะเคยเจอกันไม่กี่ครั้ง"
"สองครั้งเว้ย หรือมึงเคยเจอมากกว่านั้น"
"มึงอยากปากแตกก่อนกินข้าวใช่ไหม"
"มึงคิดว่ากูกลัวมึงไง ถึงมึงจะสู้ชนะกูทุกอย่างก็เหอะ แต่กูก็ไม่เคยยอมแพ้มึงง่ายๆ"
"มึงกลายเป็นคนพูดมากไปตั้งแต่เมื่อไหร่วะ ปกติไม่ว่าจะแผ่นดินไหว ฟ้าถล่มก็นั่งเงียบเป็นเป่าสาก"
"มึงก็เว่อ แผ่นดินไหว ฟ้าถล่มใครมันจะไปนั่งเงียบๆ กัน มึงบอกกูมาดีกว่าว่าที่มึงหายไปห้องน้ำมาเมื่อกี้มึงไปคุยอะไรกับนาว ทำไมนาวเดินหน้าตูมกลับมา"
"มึงอย่าไปสนใจผู้หญิงพรรค์นี้เลย ผู้หญิงคนนี้ไม่ได้มีคุณค่าอะไรเลย นอกจากมูลค่า"
"อะไรของมึงวะ" ปัณณ์ยกมือขึ้นเกาหัวแกรกๆ พลางหันหลังไปมองนาวที่นั่งกินข้าวไปคุยกับตุลย์ไปคนละฟากของร้าน
"รีบกิน จะได้รีบกลับ" ปุณณ์ตักข้าวเปล่าเข้าปาก สายตาคู่คมจ้องมองใบหน้าของนาวด้วยอารมณ์ขุ่นเคือง
"กินกับด้วยซิมึง แล้วก็ไม่ต้องรีบขนาดนั้น เดี๋ยวได้ติดคอตายพอดี" ปัณณ์ตักกับข้าวใส่ในจานข้าวปุณณ์
"ให้พี่ไปส่งนาวที่บ้านนะ" ตุลย์เอ่ยขึ้นระหว่างที่รอบริกรเช็คบิลค่าอาหาร
"นาวนัดเพื่อนไว้แล้วค่ะ"
"เพื่อนแน่นะ"
"เพื่อนค่ะ เพื่อนนาวมาออกบูธอยู่ที่ห้างนี้ ตอนนี้ก็น่าจะใกล้เลิกบูธแล้วด้วย"
"ถ้างั้นพี่ขอเดินไปส่งนาวนะ"
"แต่....."
"อย่าปฏิเสธพี่เลยนะครับ"
"ก็ได้ค่ะ"
"ศุกร์นี้นาวได้รับงานที่ไหนไว้หรือเปล่า"
"นาวก็ยังไม่ทราบค่ะ ตอนนี้นาวอยู่ในช่วงทดลองงาน ทุกอย่างขึ้นอยู่กับพี่ปาล์ม"
"ถ้างั้นก็ไม่ใช่เรื่องยาก พี่จะติดต่อไปทางคุณปาล์มเอง"
"ค่ะ" นาวตอบพร้อมกับยิ้มน้อยๆ แต่สายตาคู่สวยก็ต้องไปปะทะกับสายตาคู่คมที่มองมายังเธออย่างแข็งขึง ก่อนที่เจ้าตัวจะเดินออกจากร้านไปกับแฝดผู้น้อง
"นาว เหม่ออะไร อย่าบอกนะว่าคิดเรื่องที่บ้านอีกแล้ว" อีฟเดินเข้ามายืนข้างๆ เอ่ยถาม เพราะนาวยืนนิ่ง เงยหน้ามองท้องฟ้ายามค่ำคืนด้วยสีหน้าเหม่อลอยมาพักใหญ่แล้ว ตั้งแต่เธอเข้าไปอาบน้ำ
"เปล่า นาวคิดเรื่องงานน่ะ"
"ทำไม? หรือว่าวันนี้ไอ้คุณตุลย์มันทำอะไรนาว"
"เขาไม่ได้ทำอะไรนาวเลย แต่นาวแค่คิดว่างานบางอย่างมันจะทำให้เราลดคุณค่าในตัวเองไปไหม อย่างงานกินข้าว หรือไปเที่ยวกับแขก"
"ต้องมีคนว่าอะไรนาวมาแน่ๆ เลย ไม่งั้นนาวไม่มาคิดมากแบบนี้หรอก"
"แต่ใครเห็นแบบนั้น ก็ต้องคิดใช่ไหม"
"แต่นาวก็ต้องเข้าใจนะว่าตอนนี้เราไม่ได้มีตัวเลือกในชีวิตมาก มีงานอะไรก็ต้องทำไปก่อน ให้เราได้เซ็นสัญญากับบริษัทก่อน แล้วค่อยตัดงานบางอย่างออกไปก็ได้นี่"
"ก็จริงอย่างที่อีฟพูดนะ ไปนอนกันเถอะ พรุ่งนี้มีเรียนเช้าด้วย"
"อืม จริงๆ นาวยังดีกว่าอีฟนะ แค่รับงานทานข้าววันนี้ก็ได้คูณสองนำหน้าอีฟไปละ เผลอๆ อีกไม่กี่วันนาวอาจจะได้เซ็นสัญญาแล้วก็ได้ เพราะดูท่าแล้วคุณตุลย์น่าจะจองคิวนาวยาวแน่ๆ เลย แล้วเป๋าหนักจ่ายทีตั้งสองเท่า นอนกันดีกว่า พรุ่งนี้ยังมีอะไรให้ทำอีกเยอะ" อีฟว่าขณะเดินมาที่เตียง ก่อนจะล้มตัวลงนอน
นาวมองอีฟที่นอนตะแคงหันหลังให้ อยากจะบอกเพื่อนเหลือเกินว่าเธอไม่ได้อยากรับงานนี้เลย แต่อย่างที่อีฟบอก ตอนนี้ชีวิตของเธอไม่ได้มีตัวเลือกอะไรให้ได้เลือกมากนัก คงได้แต่ภาวนาขอให้วันพรุ่งนี้มีสิ่งดีๆ เข้ามาในชีวิตให้เธอได้เลือกบ้าง
วันต่อมา
"อ้าวบัว ธาม วันนี้ลมอะไรหอบมาหาพี่ถึงบริษัทได้" ปาล์มทักทายบัวกับธามที่นั่งรออยู่ที่โซฟารับแขกในห้องทำงาน
"บัวมีเรื่องจะรบกวนพี่ปาล์มหน่อยค่ะ คือบัวอยากได้นางแบบสำหรับชุดชั้นในคอลเลคชั่นใหม่สักคนน่ะค่ะ ถ้าบัวถูกใจ ทำงานดี ก็ว่าจะให้เซ็นสัญญาเป็นนางแบบให้แบรนด์ด้วยเลย พี่ปาล์มพอจะหาให้บัวสักคนได้ไหมคะ" บัวบอกความต้องการของตัวเองทันที
"ได้สิ ไม่มีปัญหาอยู่แล้ว บัวก็รู้ว่าบริษัทของพี่รับทุกงานที่ลูกค้าต้องการ แล้วบัวอยากได้ประมาณไหนล่ะ"
"บัวขอหน้าใหม่ ไม่เอาหน้าช้ำนะคะ เอาแบบไม่เคยรับงานถ่ายแบบที่ไหนเลย ขอหน้าสวยๆ เก๋ๆ หุ่นดี นมเป็นนม ตูดเป็นตูดเลยค่ะ"
"ฮ่าๆ ได้ๆ พี่จัดการให้ ...แจงเอาเรซูเม่ของน้องๆ รุ่นใหม่เข้ามาให้พี่ที" ปาล์มหัวเราะชอบใจ ก่อนจะกดอินเตอร์คอมหาเลขา
ไม่นานแจงก็เข้ามาพร้อมกับแฟ้มประวัติของหญิงสาวที่พึ่งเข้ามาสมัครเป็นนางแบบ พริตตี้ MC ที่บริษัทในช่วงเวลาหนึ่งอาทิตย์ที่ผ่านมา
"บัวกับธามดูไปก่อนนะ ถูกใจคนไหนบอกพี่ได้เลย พี่ขอเซ็นเอกสารก่อน" พูดจบปาล์มก็เดินไปนั่งยังโต๊ะทำงาน จัดการกับเอกสารที่กองอยู่บนโต๊ะ
"นาว สาริศา ...ธาม" หลังจากนั่งดูประวัติของหญิงสาวมาจนถึงคนสุดท้าย บัวก็สะดุดกับใบหน้าสวยของหญิงสาวในรูปก่อนจะเรียกให้ธามดู
"นาว" ธามเอ่ยขึ้นด้วยจดจำใบหน้าของนาวได้ ถึงจะเจอกันเพียงแค่ครั้งเดียว
"บัวสนใจนาวเหรอ คนนี้พึ่งมาใหม่ ยังไม่เคยรับงานถ่ายแบบ แต่ถูกจองคิวไปกินข้าวกับคุณตุลย์ภพยาวไปถึงสิ้นเดือนเลย พี่พึ่งเซ็นอนุมัติไปเมื่อกี้นี้เอง"
"พี่ปาล์มยกเลิกคิวได้ไหมคะ บัวสนใจจะให้นาวมาเป็นนางแบบในคอลเลคชั่นใหม่ของบัว แล้วก็เซ็นสัญญาเป็นพนักงานบริษัทของบัวด้วยค่ะ บัวยินดีจ่ายค่าตัวของนาวที่พี่ปาล์มต้องเสียไปทั้งหมด"
"ท่าทางบัวจะชอบนาวมากเลยนะ แต่พี่ว่าเรียกตัวนาวเข้ามาพูดคุยรายละเอียดก่อนดีกว่าไหม ส่วนเรื่องคิวงานพี่ยกเลิกให้ได้ถ้านาวตอบตกลง เพราะพี่ก็แค่เซ็นอนุมัติยังไม่ได้ส่งยืนยันคิวให้ทางนั้น"
"ได้ค่ะ พี่ปาล์มนัดนาวเข้ามาคุยได้เลยนะคะ วันนี้เลยได้ยิ่งดี ถ้านาวตอบตกลง พี่ปาล์มจะได้ยกเลิกคิวทั้งหมดของนาว แล้วจะได้ไม่กระทบกับงานของพี่ปาล์มด้วย"
"ทำไมคราวนี้บัวดูรีบร้อนจัง ปกติกว่าบัวจะเลือกนางแบบได้แต่ละคนก็ใช้เวลานานอยู่นะ แต่กับนาวบัวยังไม่ได้เรียกมาฟิตติ้งชุดให้ดูเลย"
"บัวถูกชะตาน่ะค่ะ พี่ปาล์มจัดการให้บัวด้วยนะคะ"
"แจงติดต่อนาว ให้เข้ามาคุยงาน วันนี้" ปาล์มกดอินเตอร์คอมหาแจงทันที
ก๊อกๆ
"พี่ปาล์มค่ะ นาวบอกว่าจะเข้ามาพบพี่ปาล์มได้ตอนบ่ายโมงค่ะ ช่วงเช้านาวมีเรียน" หลังจากได้รับคำสั่งจากเจ้านายสาว แจงติดต่อหานาวทันที โชคดีที่ช่วงบ่ายนาวไม่มีเรียน
"งั้นเป็นบ่ายโมงบัวก็เข้ามาดูตัวนาวได้เลย บัวโอเคใช่ไหม"
"โอเคค่ะ งั้นบัวกับธามกลับก่อนนะคะ บ่ายโมงเจอกันค่ะพี่ปาล์ม" บัวกับธามกลับก่อนเพื่อรอเวลาเข้ามาดูตัวนาว และตกลงกันอีกครั้งในช่วงบ่าย
"พี่ปาล์มนาวกับอีฟมาแล้วนะคะ จะให้เข้ามาพบพี่ปาล์มเลยไหมคะ" แจงเข้ามารายงานปาล์ม นาวกับอีฟเข้ามายังบริษัทก่อนเวลาสิบห้านาที
"ให้นาวเข้ามาได้เลย" ปาล์มตอบเสียงเรียบ แจงจึงส่งสัญญาณให้นาวเข้ามา
"พี่ปาล์มมีเรื่องอะไรจะคุยกับนาวเหรอคะ ถึงได้เรียกนาวมาพบด่วน" นาวเข้ามาในห้องทำงานของปาล์มพร้อมกับอีฟ ปาล์มก็ไม่ได้ว่าอะไรเพราะทั้งคู่เป็นเพื่อนสนิทกัน
"นั่งก่อนสิ นาวพอจะเคยได้ยินชุดชั้นในแบรนด์ EMMALINE บ้างไหม" ปาล์มบอกพร้อมกับเลื่อนรูปนางแบบที่สวมชุดชั้นในของแบรนด์ EMMALINE ให้นาวดู
"เคยเห็นตามโฆษณามาบ้างค่ะ เป็นแบรนด์ชุดชั้นในที่มาแรงมากในตอนนี้" นาวตอบตามที่เธอเคยเห็น EMMALINE เป็นแบรนด์ที่มีเอกลักษณ์ โดดเด่น บางคอลเลคชั่นต้องสั่งจองล่วงหน้ากันเลยทีเดียว แต่จะให้จับจองเป็นเจ้าของเธอคงไม่มีปัญญา อย่างเธอแค่สองตัวร้อย สามตัวร้อยตามตลาดนัดก็หรูแล้ว
"เจ้าของแบรนด์ คุณเอมมาลินต้องการให้นาวไปเป็นนางแบบในคอลเลคชั่นใหม่"
"จริงเหรอคะพี่ปาล์ม" นาวถามกลับอย่างไม่อยากจะเชื่อหูตัวเอง
"จริงสิ แล้วไม่ใช่เพียงแค่นั้นนะ ถ้านาวตอบตกลงรับงานนี้ ชีวิตของนาวจะเปลี่ยนจากหลังมือเป็นหน้ามือทันที เพราะนาวจะได้เซ็นสัญญาเป็นพนักงานของ EMMALINE ได้รับเงินเดือนและสวัสดิการเช่นเดียวกับพนักงานประจำ บ่ายนี้คุณเอมมาลินจะเข้ามาฟังคำตอบจากนาว พี่บอกนาวไว้ตรงนี้เลยนะ ถ้าพี่เป็นนาว พี่จะไม่มีวันปล่อยโอกาสนี้ให้หลุดมือไปเป็นอันขาด นาวไม่ต้องให้คำตอบพี่ รอคุณเอมมาลินมาแล้วนาวตอบกับเธอได้เลย" ปาล์มไม่อยากให้นาวพลาดโอกาสนี้ แล้วคนอย่างบัวก็ไม่เคยถูกใจใครง่ายๆ นาวถือว่าโชคดีมากที่เข้าตาบัว แล้วการได้เป็นนางแบบอาชีพย่อมดีกว่างานพริตตี้ MC หรืองานเอนเตอร์เทนแน่นอน
นาวหันไปมองหน้าอีฟอย่างต้องการคำปรึกษา อีฟส่งยิ้มและพยักหน้าน้อยๆ
ก๊อกๆ
"คุณเอมมาลินมาแล้วค่ะพี่ปาล์ม" แจงเข้ารายงาน
"ให้เข้ามาได้เลย อีฟออกไปรอข้างนอกกับแจงก่อนนะ"
"ค่ะพี่ปาล์ม" อีฟตอบ ยิ้มให้นาวแล้วตามแจงออกไป
"บัว ธาม นั่งก่อน" ปาล์มเชื้อเชิญเมื่อธามเปิดประตูให้บัวเข้ามาภายในห้อง
"พี่บัว" นาวอุทานออกมาด้วยไม่คาดคิดว่าบัวคือคุณเอมมาลิน เจ้าของแบรนด์ชุดชั้นใน EMMALINE
"พบกันอีกครั้งแล้วนะนาว" บัวยิ้มหวาน ทักทายนาว
"สวัสดีค่ะพี่บัว พี่ธาม" นาวทักทายทั้งคู่ด้วยความดีใจที่ได้พบผู้มีพระคุณอีกครั้ง
"นี่ตกลงบัวกับนาวรู้จักกันมาก่อน" ปาล์มเอ่ยขึ้นอย่างงงๆ
"พี่บัวเคยช่วยนาวไว้ในคืนวันนั้นค่ะพี่ปาล์ม"
"ก็ไม่เชิงหรอกค่ะ คนที่ช่วยนาวไว้จริงๆ เลยคือปุณณ์ ส่วนคนอื่นๆ ก็เพียงช่วยดูแลเท่านั้น บัวต้องขอโทษพี่ปาล์มด้วยนะคะที่ไม่ได้บอกพี่ปาล์มก่อน"
"ไม่เป็นไรเลย พี่ดีใจเสียอีกที่นาวได้เจอคนดีๆ อย่างครอบครัวของบัว ...นาวเอ้ย พี่ทำนายชีวิตนาวต่อจากนี้ได้เลย ว่าชีวิตนาวจะมีแต่คำว่าดี ดี แล้วก็ดี แบบนี้นาวคงไม่ต้องคิดมากแล้วมั่งที่จะตอบตกลง" ปาล์มรู้สึกยินดีไปกับชีวิตของนาวนับแต่จากนี้ที่จะต้องดีขึ้นแน่นอน
"ว่าไง นาวตกลงจะเซ็นสัญญาเป็นนางแบบให้พี่ไหม" บัวถามด้วยน้ำเสียงใจดี
"เออ...ค่ะ นาวตกลงเป็นนางแบบให้พี่บัวค่ะ" คำตอบของนาวสร้างความพอใจให้กับทุกคน