ตอนที่ 6 งานใหม่ 1

1776 คำ
ตอนที่ 6 งานใหม่ 1 เฮ้อ... คนรวยไม่ว่าจะหยิบจัดอะไรมันก็ดีไปเสียหมดสินะแต่ไอ้คนอย่างเราควรจะต้องสู้ไปอีกเยอะแค่พอมีพอกินไปวันๆ ก็ดีถมเถไปแล้วเจนิส พอฉันรู้สึกตัวว่าตัวเองเริ่มที่จะคิดนอกกรอบออกไปแล้วก็เลยพาตัวเองกลับเข้ามาสู่ปัจจุบันทันที ฉันลุกขึ้นเดินเอาใบสมัครงานที่กรอกเสร็จแล้วไปที่เคาน์เตอร์ก่อนหน้านี้ก่อนที่จะยื่นใบสมัครงานให้ผู้หญิงคนเดิม “ใบสมัครงานค่ะ ฉันกรอกเสร็จแล้ว” ฉันพูดพร้อมกับยื่นใบสมัครให้เธออย่างง่ายดายหวังว่าฉันคงจะได้งานที่นี้นะเพราะดูๆ แล้วเงินเดือนพนักงานของที่นี้จะเยอะใช่เล่นเลยแหละเพราะฉะนั้นฉันจึงต้องหวังให้มันมากหน่อย “ค่ะ แล้วทางเราจะติดต่อกลับไปนะคะ” เสียงหวานๆ พูดขึ้นพร้อมกับส่งยิ้มขึ้นมาให้ฉันทันที “อ๋อคะ ขอบคุณมากนะคะ” ฉันพูดเสียงอ่อยๆ เพราะว่าถ้าได้ยินประโยคนี้แล้วทีไรบอกได้เลยว่าทำใจเอาไว้เถอะไม่ได้งานแน่ๆ เลยเรา ฉันหันหลังเดินคอตกออกไปสองก้าวก่อนที่จะได้ยินเสียงเรียกขึ้นมา “คุณเจนจิรา ยิ่งยศคะ หยุดก่อนค่ะ” “...” นี่มันเสียงสวรรค์ชัดๆ หรือว่าฉันจะได้งานแล้วฉันรีบหันตัวเองกลับไปที่เดิมนั่นก็คือเคาน์เตอร์ที่ผู้หญิงคนนั้นประจำอยู่ “มีอะไรหรือคะ?” ฉันรีบถามไปด้วยความหวังที่มีอยู่ในใจตัวเองอย่างเต็มเปี่ยมเลยก็ว่าได้คนเรามันก็ต้องมีความหวังเป็นธรรมดาไม่ใช่หรือ “คือว่าทางร้านขายเสื้อของทางห้างขาดต้องการพนักงานขายแล้วต้องการอย่างเร่งด่วนค่ะ คุณพอจะทำงานนี้ได้ไหมคะ ถ้าทำได้ทางเราจะรับเข้าทำงานเริ่มตั้งแต่วันพรุ่งนี้” “ทะ ทำได้คะ ฉันทำได้สบายมากคะ” ฉันรีบตอบตกลงไปในทันทีโดยที่ไม่ต้องคิดให้เสียเวลาเลยด้วยซ้ำเพราะว่าตอนนี้งานมันหายากมากมายจริงๆ ฉันจึงต้องไขว่คว้าเอาไว้ก่อนแต่มีอีกสิ่งหนึ่งที่ฉันหนังใจมากเป็นพิเศษนั่นก็คือซีเจน ในทุกๆ วันอาทิตย์จะเป็นวันหยุดของซีเจนแล้วถ้าฉันจะต้องทำงานจะให้ซีเจนอยู่กับใครเรื่องนี้ฉันกังวลมากที่สุด “โอเคค่ะ งั้นมาเริ่มงานพรุ่งนี้ได้เลยนะคะ ส่วนรายละเอียดของงานเดี๋ยวจะบอกให้นะคะแต่เห็นว่างานจะทำทั้งหมดเจ็ดวันเลยทางเรามีค่าบริการต่างๆ ให้เป็นพิเศษทุกๆ คนคะ สามารถลางานได้ถ้าป่วยหรือติดธุระเดือนหนึ่งไม่เกินสามครั้ง ส่วนเงินเดือนจะเข้าทุกๆ วันที่สองของเดือนคะ” “แต่..เอ่อ คือว่าวันอาทิตย์ มันเป็นวันหยุดของลูกฉันค่ะแล้วแกไม่มีคนอยู่ด้วยเลย ฉันนำแกมาด้วยได้ไหมคะให้แกนั่งรอที่โต๊ะม้านั่งหน้าร้านก็ได้คะ ลูกฉันไม่ดื้อไม่ซนจริงๆ เลยนะคะ” ฉันกลั้นใจพูดออกไปมันที “คุณเจนจิราแต่ถ้าท่านประธานรู้ตายแน่เลยนะคะจะทำยังไงดีล่ะทีนี้” สาวสวยคนนั้นบอกฉันทันที “ไม่เป็นอะไรค่ะ ถ้างั้นเดี๋ยวทุกวันอาทิตย์ฉันจะให้ลูกมาเรียนวาดภาพที่โรงเรียนใกล้ร้านดีไหมเพราะเมื่อกี้ผ่านมาเห็นว่ามีโรงเรียนเปิดด้วย” ฉันพูดอีกครั้งหนึ่งเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาเพราะหลัวว่าจะไม่ได้งานอีกอย่างหนึ่งซีเจนก็ชอบการวาดรูปเหมือนกัน “แบบนี้ก็ดีเหมือนกันค่ะจะได้ไม่มีปัญหากับท่านประธาน ไม่เสี่ยงถูกไล่ออกทั้งสองอีกด้วยว่าแต่คุณเจนจิรามีลูกแล้วจริงๆ แล้วหรอคะ ไม่น่าเชื่อเลยเพราะดูยังสาวยังสวยแถมยังดูเด็กมากๆ อีก” “ขอบคุณนะคะ ฉันมีลูกแล้วจริงๆ ค่ะ” ฉันยิ้มให้กับผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าตัวเองก่อนที่จะกล่าวขอบคุณเธอ “ไม่น่าเชื่อเลยคะแต่ก็เอาเถอะขอแสดงความยินดีด้วยนะคะที่ได้งาน” “ค่ะ ยังไงก็ขอบคุณมากๆ เลยนะคะ”ฉันตอบกลับเธออย่างสุดซึ้ง เพราะเธอคนนี้ที่เรียกชื่อของฉัน ฉันจึงได้งาน “ฉันจะทำงานอย่างดีที่สุดค่ะ ขอตัวกลับก่อน สวัสดีค่ะ” หลังจากที่บอกลาผู้หญิงที่ประจำอยู่หน้าเคาน์เตอร์แล้วฉันก็เดินออกมาทันที เมื่อมองนาฬิกาเรือนเล็กที่ประจำอยู่ที่ข้อมือตัวเองก็พบว่าเป็นเวลาบ่ายสองโมงฉันจึงตัดสินใจเดินเล่นที่ห้างแห่งนี้อีกสักพักก่อนที่จะออกไปรับซีเจนที่โรงเรียนเพราะเลิกประมาณบ่ายสามโมงกว่า ฉันเดินมาสักพักหนึ่งและก็สังเกตห้างแห่งนี้ไปพรางๆ ผู้บริหารหรือว่าท่านประธานที่พวกเขาต่างเคารพกันคงเป็นคนที่มีความสามารถมากน่าดูถึงได้จัดบริหารห้างนี้ออกมาดูดีแบบนี้แล้วอีกไม่นานฉันก็คงได้เป็นหนึ่งในลูกน้องของท่าน นั่นมันร้านขนมนิ... ฉันตรงเดินเข้าไปในร้านนั้นทันทีเพราะว่าอยากจะซื้อขนมเค้กให้กับซีเจนลูกรักของตัวเองตามที่ลูกอยากทานมานานแล้ว “สวัสดีค่ะ เชิญเลือกได้ตามสบายเลยนะคะ ร้านของเรามีขนมหลายอย่างค่ะ สดใหม่ทุกๆ วัน” ทันทีที่ฉันเดินเข้าไปในร้านก็มีเสียงพนักงานพูดขึ้นต้อนรับอย่างสดใสพร้อมกับยิ้มทักทายด้วยใบหน้าที่ใจดี “ขอเค้กมะพร้าวนมสดสองชิ้น เค้กช็อกโกแลตอีกสองชิ้นค่ะแล้วก็นมสดอีกหนึ่งขวดคะ” ฉันจัดการชี้ไปที่เค้กทั้งสองก่อนที่จะสั่ง “รอสักครู่นะคะ” “ค่ะ” ฉันตอบรับก่อนที่จะเดินดูขนมต่างๆ ที่วางไว้เรียงรายเพื่อเรียกลูกค้าให้เข้ากับร้าน สีสีนของขนมช่างเย้ายวนให้น่าชิมจริงๆ แล้วอีกอย่างก็คือร้านนี้ตกแต่งได้หน้ารักจริงๆ ถ้าพาซีเจนมาคงจะชอบน่าดู แต่ฉันก็ได้ยินเสียงพนักงานต่างก็คุยกันบ้างแล้วเริ่มมีเสียงกรี๊ดค่อยๆ คำที่ชื่นชม คนๆ หนึ่งที่ฟังไม่ค่อยถนัดนักออกมาพอฉันมองไปทางต้นเสียงนั้นก็พบกับแผ่นหลังของผู้ชายคนหนึ่งที่แต่งตัวด้วยเสื้อสูท รอบๆ ตัวของเขามีลูกน้องทั้งสองคนคอยตามอยู่แต่ฉันมองได้ไม่ค่อยเห็นนักเพราะลับตัวลูกน้องแต่ทว่าเขาเดินผ่านหน้าร้านไปอย่างรวดเร็วมากแผ่นหลังนั้นมันช่างคุ้นมาก มันคุ้นเคยกับฉันจริงๆ “คุณลูกค้าคะ ขนมได้แล้วค่ะ” “อ๋อค่ะ ว่าแต่ผู้ชายที่เดินผ่านไปเมื่อกี้คือใครหรือคะ ดาราหรือเปล่า?” ฉันตัดสินใจถามออกไปทันที “ยิ่งกว่าดาราเสียอีกคะ ผู้ชายคนนั้นเป็นท่านประธานของห้าง แห่งนี้ เขามีใบหน้าที่หล่อเหลาฐานะร่ำรวยมากสาวๆ อยากจะจับจองเป็นภรรยากันเป็นว่าเล่นแต่บ้างคนว่าเป็นได้แค่กิ๊กก็ได้แต่ที่เห็นยังไม่เห็นท่านควงผู้หญิงคนไหนเลยนะคะ” “ขนาดนั้นเลยหรอคะ?” ฉันทำหน้าอย่างไม่น่าเชื่อว่าผู้หญิงคนอื่นๆ จะคิดตื้นๆ ได้แค่นี้อยากจะเป็นแค่กิ๊กของผู้ชายคนนั้นก็ได้ในความคิดของฉันมันไม่ต่างจากการเป็นผู้หญิงอย่างว่าเลยนะ “จริงๆ นะคะคุณลูกค้า ผู้หญิงคนไหนที่ได้เป็นภรรยาท่านคงจะสบายไปทั้งชาติค่ะ” มีเสียงแทรกขึ้นในขณะที่ฉันกำลังคิด ทำให้ฉันรีบหันหน้าไปทางเสียงนั้นทันทีและเอากระเป๋าสตางค์ออกมาจ่ายเงินก่อนที่จะยิ้มให้กับพนักงานหญิงคนนั้นแล้วก็รีบเดินออกจากร้านออกไปเพราะตอนนี้จวนถึงเวลาที่จะได้ไปรับซีเจนที่โรงเรียนแล้ว SOFUS: TAIK วันนี้ผมเข้ามาเซ็นเอกสารที่ถูกปล่อยให้ค้างไว้ในตอนที่ผมไม่ได้เข้ามาทำงานประมาณหนึ่งสัปดาห์แล้วที่ห้าง MISCREANT เพราะมัวแต่เข้าไปดูงานใน SOFUS MISCREANT WEAPON ที่อาวุธใหม่ๆ กำลังเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ผมเดินเข้ามาอย่างรีบเร่งซึ่งจะผ่านร้านต่างๆ มากมายที่จริงผมจะขึ้นลิฟต์ส่วนตัวที่สร้างไว้สำหรับผู้บริหารตรงขึ้นไปชั้นบนสุดของตึกที่เป็นห้องทำงานของตัวเองก็ได้แต่วันนี้อยากจะดูสภาพทั่วไปของห้างหน่อยว่าเป็นยังไงบ้างเป็นไปตามกฎระเบียบที่ผมวางเอาไว้หรือเปล่า เมื่อมองจากภายนอกก็ยังอยู่ในระดับที่ดีมากแต่ผมชอบสั่งให้ลูกน้องตัวเองนั่นก็คือไอ้เควินและไอ้พีดีมาตรวจงานอย่างละเอียดเพราะไว้ใจว่าไม่มีอะไรที่รอดสายตาของไอ้พวกนี้ได้ ทุกๆ ครั้งที่เข้ามาตรวจก็จะเจอกับร้านค้าที่ทำผิดกฎประมาณสองถึงสามร้านโทษก็คือไล่ออกให้ไปเปิดร้านที่อื่นก็เท่านั้น ผมไม่ง้ออยู่แล้วในเมื่อมีร้านค้าจำนวนอีกมากมายที่ยังต่อแถวยาวเพราะอยากเข้ามาเปิดร้านขายสินค้าในห้างของผมและก็ไม่บ่อยนักที่ผมเดินออกมาสำรวจด้วยตัวเองแบบนี้โดยที่มีไอ้เควินและไอ้พีดีประกบทั้งสองข้าง แต่ทว่าเมื่อเดินมาถึงร้านขายขนมหนึ่งผมเดินช้าอย่างกะทันหันเพียงเพราะว่าเหลือบไปเห็นแผ่นหลังของผู้หญิงคนหนึ่งที่อยู่ข้างในห้างกำลังดูขนมอยู่ ผู้หญิงคนนี้มีแผ่นหลังที่คล้ายกับผู้หญิงที่ทิ้งผมไปแต่ในใจอีกด้านหนึ่งมันก็ยังร่ำร้องว่าไม่ใช่ มันไม่ใช่เธออย่างแน่นอนผมตามหาแทบพลิกแผ่นดินจะมาเจอง่ายๆ แบบนี้ได้ยังไงคงไม่ใช่หรอกคนที่มีลักษณะคล้ายๆ เธอมีเยอะไปอีกอย่างคนอย่างเธอไม่มาเดินห้างที่หรูหราแบบนี้เพราะว่าเจนิสไม่อยากให้เงินที่เธอทำงานมาอย่างเหน็ดเหนื่อยยากมาซื้อของที่ไม่ค่อยจำเป็นข้อนี้ผมรู้ดี คนๆ นี้คงไม่ใช่เจนิสที่ผมตามหาอย่างไม่ละความพยายามหรอก
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม