ตอนที่ 3 อดีตที่อยากจะลืม 2

2158 คำ
ตอนที่ 3 อดีตที่อยากจะลืม 2 SOFUS: TALK  สายฝนที่ต่างโปรยปรายลงมาจากฟากฟ้าอันแสนกว้างใหญ่ที่ในตอนนี้ไม่ว่าจะมองไปยังทิศทางไหนก็เห็นแต่ความมืดครึ้มสีเทาปนดำทั่วไปหมด มันเป็นสีแห่งความเศร้าหมองดูไม่มีชีวิตชีวาเอาเสียเลยแต่ทำไมคนอย่างผมถึงชอบมันนะหรือเพราะว่ามันเป็นสีที่สามารถปกปิดความรู้สึกของตัวเองไม่ให้แสดงออกไปได้ ผมยืนมองออกไปภายนอกจากกระจกบานใหญ่และหนาภายในห้องทำงานของตัวเองที่อยู่ชั้นบนสุดของห้าง MISCREANT เป็นห้างของพวกผมกลุ่ม 5 MISCREANT ได้ร่วมหุ้นกันสร้างขึ้นมาเพียงเพราะแค่อยากทำธุรกิจแค่นั้นไม่เคยคิดเลยว่ามันจะได้ผลตอบรับที่มากล้นจนผลกำไรของแต่ละปีสูงขึ้นเรื่อยๆ ไม่หยุดนิ่ง เพราะเหตุนี้ละมั้งไอ้เพื่อนเวรพวกนั้นมันถึงทิ้งให้ผมบริหารอยู่แค่คนเดียวส่วนพวกมันกลับสุขสำราญกับธุรกิจของตัวเองแล้วคอยแต่อ้างว่าเบื่อกับพวกตัวเลขบ้าง เบื่อพวกพนักงานสาวๆ บ้าง ที่เอาแต่มองและสิ่งที่พวกมันใช้อ้างโดยไม่มีเหตุผลเลยนั่นก็คือว่าเพราะผมเป็นคนที่เย็นชาทำอะไรต้องเนี๊ยบพูดคำไหนคำนั้น พนักงานจึงเกรงใจผมมากเหมาะที่เป็นผู้บริหาร ดูข้ออ้างร้อยแปดของพวกมันสิครับไอ้พวกเพื่อนเวรของผม ส่วนพวกมันจะมาหาผมก็เป็นบ้างครั้งเท่านั้น ไม่ใช่ว่าคนอย่างผมไม่ได้มีธุรกิจเป็นของตัวเองนะ ผมก็มีเหมือนกัน ผมไม่ชอบเลยที่จะอยู่นิ่งๆ เหมือนคนไม่มีอะไรจะทำแบบนี้ มันเป็นสิ่งที่ชอบทำให้จิตใจของผมฟุ้งซ่าน ชอบคิดถึงแต่พวกเรื่องเดิมๆ อยู่เสมอ มีคนเคยบอกว่าสิ่งที่ตัวเราพยายามที่จะลืมมันให้ได้แต่ทำไมเรากลับจำมันได้จนขึ้นใจส่วนสิ่งที่พยายามจำมันกลับลืมได้ มันคงจะถูกสำหรับความคิดของผม ทำไมผมถึงจำสิ่งนั้นได้ขึ้นใจตัวเองเลยนะ จำได้ไม่มีวันลืม “ทำไมยังไม่ลืม...” ผมมองออกไปดูบรรยากาศภายนอกก่อนที่จะพูดเปรยออกมาเบาๆ กับเรื่องนั้นเรื่องที่เกิดขึ้นมานานแล้ว ทำไมผมยังคิดถึงมันอยู่เสมอ ในหัวของผมคิดถึงแต่เรื่องของผู้หญิงคนนั้น ผู้หญิงที่เคยทำให้ผมรู้ว่าความรักเป็นยังไง เธอเป็นคนแรกที่เป็นคนสอนผมให้ได้รู้จักกับเรื่องแบบนี้ เธอเป็นกำลังใจให้ผมในทุกๆ เรื่อง รอยยิ้มที่แสนสดใสที่เธอยิ้มให้กับผมมันเป็นกำลังใจอย่างดีเลย เมื่อผมเหนื่อยจากเรื่องต่างๆ นั้นเธอก็จะคอยปลอบใจอยู่เสมอแต่เรื่องมันก็ไม่เป็นแบบนั้น ความสุขมันอยู่กับผมได้ไม่นาน ไม่ยั้งยืนเหมือนกับคนอื่นๆ เธอจากผมไปเมื่อสามปีก่อน... สามปีก่อน ตอนนั้นผมอายุเพียงแค่ยี่สิบเอ็ดปีเท่านั้นวันหนึ่งผมได้จัดเจอเพื่อนตัวเองในกลุ่มทั้งห้าคนไปนั่งอยู่ในร้านอาหารแห่งหนึ่งซึ่งเป็นร้านอาหารกึ่งคลับ ร้านอาหารแถวนี้เป็นที่นิยมของวัยรุ่นและไอ้พวกเสี่ยๆ ทั้งหลาย “อาหารที่สั่งได้แล้วค่ะ” มีผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งเป็นสาวเสิร์ฟเข้ามาเสิร์ฟอาหารที่พวกผมสั่ง เมื่อผมมองการแต่งตัวของเธอมันต่างจากสาวเสิร์ฟคนอื่นๆ มาก เธอสวมเพียงแค่เสื้อยืดกับกางเกงยีนขายาวเท่านั้น หน้าตาก็ไม่แต่งจัดจ้านเหมือนกับคนอื่นๆ “เจนิสเธอไปเสิร์ฟอาหารที่โต๊ะห้าแทนฉันหน่อยสิ ฉันปวดท้องน่ะขอไปเข้าห้องน้ำก่อน” เจนิส? ผมรู้ชื่อของเธอแล้ว ในขณะที่ผมได้แต่มองเธออยู่ก็มีเพื่อนของเธอเข้ามาพูดกับเธอเพื่อขอให้เธอไปเสิร์ฟโต๊ะห้าซึ่งโต๊ะนั่นเป็นไอ้เสี่ยเ*******ูตัณหากลับอยู่ ดูก็รู้ว่าเธอถูกเพื่อนตัวเองหลอกเข้าแล้ว อยากดูต่อจริงๆ ว่าเธอจะเชื่อหรือป่าว? “ได้สิจ๋า เดี๋ยวฉันไปเสิร์ฟแทนให้นะ ขอจัดการโต๊ะนี้ก่อน” นั้นไง? เธอเชื่อจริงๆ ด้วย ทำไมถึงได้เป็นคนที่ซื่อบื้อได้ขนาดนี้วะ ดูแค่นี้ก็รู้ทำไมยังดูไม่ออกอีกหรือไงเมื่อเธอเสิร์ฟอาหารที่โต๊ะผมเสร็จก็เดินออกไป “มองอยู่ได้วะ สนใจหรือไงไอ้เชี่ยโซฟัส” เสียงของไอ้แวนเดอร์พูดขึ้นมาพร้อมกับมองมายังผม ผมเพียงแค่ยิ้มให้กับมันไม่ได้สนใจอะไรนัก ก่อนจะก้มหน้าทานข้าวต่อ แต่แล้วเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นเมื่ออยู่ดีๆ ก็มีเสียงดังขึ้นจากโต๊ะด้านหลังของผม “เพล้ง!” อ๊าก! “นังนี่กล้าดียังไงถึงมาทำคนอย่างข้า!” เสียงของไอ้เสี่ยเฒ่าคนหนึ่งโวยวายขึ้นมาเสียงดังกู่ก้องร้านทำให้คนแถวๆ นั้นต่างพากันหลบหลีกหนีเพราะความกลัว เว้นเพียงแต่กลุ่มของผมเท่านั้นที่ยังนั่งทานข้าวต่อด้วยความไม่สะทกสะท้าน ผมเดาได้โดนไม่ต้องหันกลับไปมองให้เสียเวลาไอ้เสี่ยคนนั้นคงโดนผู้หญิงที่ชื่อเจนิสเอาอะไรอย่างหนึ่งทุ่มลงบนหัวแน่ “ปล่อยฉันนะไอ้เฒ่าหัวงู ปล่อย! ช่วยด้วยค่ะ ช่วยที ใครก็ได้ช่วยด้วย ผู้ชายคนนี้เขาลวนลามฉัน เมื่อกี้เขาจับก้นฉันด้วย” เจนิสพยายามร้องขอความช่วยเหลือจากคนอื่นๆ ที่มองอยู่รอบนอกตัวเธอ ในขณะที่มีชายคนหนึ่งพยายามเข้าไปเพื่อช่วยเหลือ ไอ้เสี่ยคนนั้นก็พูดขึ้นมา “อย่ามายุ่งนังนี่มันเด็กของข้าดื้อจริงนะแอบหนีมาเที่ยวกับผู้ชายคนอื่นใช่ไหม?” คำพูดของเจนิสมันไม่ได้ผลเมื่อไอ้เสี่ยเ*******ูคนนั้นกับกระชากแขนของเธอก่อนที่จะเดินออกจากร้าน “ไม่จริงนะคะ ฉันไม่ได้เป็นเด็กเขาไม่รู้จักเขาเลยด้วยซ้ำแล้วฉันทำงานอยู่ที่ร้านนี้ไม่ได้หนีออกมาเที่ยวอย่างที่เขาพูด ช่วยฉันด้วยนะคะ ช่วยด้วย!” เสียงอันสั่นเครือของเธอลั่นวาจาออกมาอีกครั้ง รู้ได้ทันทีว่าเธอจะต้องร้องไห้อยู่แน่ในขณะนี้เพราะดูท่าทางจะไม่มีใครฟังที่พูดเลย “จะเอาเมียกูไปไหน!” จนกระทั่งในขนาดนี้ความอดทนของผมได้หมดลงแล้ว ผมจึงตะคอกขึ้นไปแบบนั้น ความจริงผมไม่ชอบเสือกเรื่องของคนอื่นหรอกแต่กับเธอแล้วผมยอมรับว่าเธอเป็นผู้หญิงที่ผมประทับใจไม่น้อย ไม่แต่งตัวโป๊เปลือยทำตัวติดดิน ผมลุกขึ้นจากโต๊ะตัวเองก่อนจะเดินไปประจันหน้ากับไอ้เสี่ยคนนั้นอย่างเปิดเผยแต่ยังไม่วายได้ยินไอ้เพื่อนเวรของผมพูดขึ้น “คราวนี่ไอ้โซฟัสเอาจริงวะ” ไอ้เทลพูด “รักแรกพบของมันป่าววะ” ไอ้แวนเดอร์พูด “มันแอบซุกเมียไว้หรือวะ” ไอ้คิวพีพูด “คนอย่างมันจะเป็นพลเมืองดีโดยไม่หวังผลยากวะ” ปิดท้ายด้วยไอ้รูธพูด พอเจนิสเห็นผมก็สะบัดแขนออกจากการจับกุมของไอ้เสี่ยนั้นหลุดก็วิ่งมากระชากแขนของผมทันที “ช่วยฉันด้วย ฉันไม่ได้เป็นเด็กเขานะ” เธอรีบพูดก่อนจะกระชากแขนผมด้วยความขอร้อง “ยุ่งอะไรด้วยวะไอ้หนู!” เสียงไอ้เสี่ยตัณหากลับที่อยู่ตรงหน้าผมถามขึ้นมาอย่างไม่พอใจ “แล้วยุ่งอะไรกับเมียกูวะ!” เสียงของผมตอบกลับบ้างแล้วก็ส่งสายตาไปให้มันด้วยความไม่พอใจเป็นอย่างยิ่ง ทั้งๆ ที่ผมพูดไปแล้วนะว่าเธอคนนั้นเป็นเมียของผมแต่พวกมันก็ไม่ถอย แถมยังพูดขึ้นมาอีกครั้งในเชิงคำสั่ง “ถ้าไม่อยากมีเรื่องส่งนังนั้นมาให้ข้า!” ไอ้เสี่ยตัณหากลับคนเดิมพูดขึ้นมาอีกครั้ง “แต่กูอยากมีถ้าไม่อยากเข้าโลงตอนนี้ก็รีบไสหัวไปซะ” ผมตอบพวกมันไปด้วยอารมณ์ที่ฉุนกว่าเก่าด้วยแรงโทสะที่เริ่มจะมากขึ้นแล้วผมยังไม่รู้ว่าจะควบคุมมันได้ขนาดไหน “งั้นมึงก็ได้มีสมใจแน่แน่ไม่ใช่กับข้าแต่เป็นลูกน้องข้าต่างหาก เฮ้ย! มานี่หน่อย” ไอ้เสี่ยตัณหากลับคนนั้นพูดขึ้นพร้อมกับรอยยิ้มเหยียดอย่างเหนือกว่าส่งมาให้กับผมก่อนที่มันจะเรียกลูกน้องทั้งสามคนให้วิ่งเข้ามาหา บอกได้เลยว่ามันกระจอกสำหรับคนอย่างผม พวกมันคงยังไม่รู้สินะว่าผมเป็นใคร ร้ายกว่า เลวกว่า พวกมันขนาดไหน ทำไมต้องกลัวเพียงแค่ลูกน้องกระจอกสามคน! “ครับเสี่ย มีอะไรให้พวกผมรับใช้ครับ” “จัดการไอ้หน้าอ่อนนี้หน่อยมึงไม่ตายดีแน่ไอ้หนูเพราะลูกน้องข้าแต่ละคนเก่งด้านต่อสู้ทั้งนั้น ฮ่าๆ” ผมเกือบจะตอบพวกมันไปแล้วแต่ก็ต้องหยุดชะงักเมื่อมีมือเล็กๆ เข้ามากระชากที่ต้นแขนใหญ่ของตัวเอง ก่อนที่เธอจะพูดขึ้น “นายแบบนี้ไม่ไหวหรอก หนีเถอะสู้ไปก็เจ็บตัวเปล่าๆ นะ ขอบคุณมากนะที่ช่วยฉัน” ผมมองลงไปที่ตาของเธออย่างอัตโนมัติ สายตาเธอมีแววความเป็นห่วงและความกลัวอยู่อย่างชัดเจน ดวงตาระริกระรี่ตื่นตระหนกอยู่ตลอดเวลา “เธอกลัวหรออยู่ข้างหลังไว้ก็แล้วกัน” นี่เป็นคำพูดของผมที่ออกมาจากปากตัวเองเป็นประโยคแรกพร้อมกับนำมือของตัวเองไปจับไว้ที่แขนของเธอเบาๆ ก่อนจะกระชากให้เธอมาหลบอยู่ข้างหลังผมเอาไว้เพื่อที่ว่าจะได้ปลอดภัย “ได้ครับเสี่ย เฮ้ย! พวกเราลุย!” ทันใดทันผมก็ได้ยินเสียงไอ้พวกลูกน้องของไอ้เสี่ยตัณหากลับคนนั้นพูดขึ้นก่อนที่จะตรงเข้ามายังผม ผมอยากจะจบปัญหานี้เร็วๆ ไม่อยากให้ร้านของคนอื่นต้องมาเดือดร้อนด้วยเรื่องแบบนี้และอีกเหตุผลหนึ่งก็คือผมไม่อยากให้คนข้างหลังของผมต้องกลัวจนตัวสั่นจึงตัดสินใจเอามือไปคว้าวัตถุสีดำข้างหลังออกมาสับไกก่อนที่จะเล็งไปยังไอ้พวกนั้นทันที กรื๊ก! “พวกมึงเข้ามาตาย!” เสียงเย็นชาของผมพูดขึ้นพร้อมกับส่งสายตาที่แน่วแน่ไปยังพวกมันให้รับรู้ความถ้าเข้ามาผมยิงจริง “เฮ้ยไอ้โซฟัส เอาจริงหรอกวะ” เสียงของไอ้เทลพูดขึ้นมาจากด้านหลังของผมพร้อมกับเดินขึ้นมายืนแนบข้างของตัวผมเอง “เออเอาจริงวะไอ้เทล” ผมจึงตอบไอ้เทลกลับไปมันคงรู้ดีว่าผมอยากจบปัญหานี้เร็วๆ ไม่อยากให้มันยืดยื้อให้เสียเวลา “งั้นกูเอาด้วยวะ” เสียงไอ้เทลตอบมา “น่าสนุกดีวะ” ต่อด้วยเสียงไอ้คิวพี “แบบนี่กูชอบ” เสียงไอ้แวนเดอร์ “เอาถึงขั้นตายไหมวะ” ปิดท้ายด้วยไอ้รูธ พวกมันเดินขึ้นมายืนในระนาบเดียวกับผมเหมือนกับยืนหน้ากระดานพร้อมกับสับไกปืนเล็งไปยังไอ้พวกนั้นทันที กริ๊ก! “เฮ้ย! ไอ้โซฟัสพาผู้หญิงไปก่อนเถอะวะ เดี๋ยวทางนี้พวกกูเคลียเอง” เสียงของไอ้แวนเดอร์บอกกับผม มันไม่อยากให้เจนิสเห็นความรุนแรงที่จะเกิดขึ้น “เอางั้นหรอวะไอ้แวนเดอร์” ผมย้ำถามไอ้แวนเดอร์ทันที “เออ ไปเถอะพวกกูจัดการได้สบาย” เมื่อได้ยินสียงของไอ้แวนเดอร์ตอบกลับมาผมก็รีบคว้าแขนของเจนิสที่อยู่ข้างหลังของผมเดินออกมาจากเหตุการณ์ที่อยู่ตรงหน้าทันที ผมลากเธอเดินมายืนใกล้รถของตัวเองก่อนจะถามเธอขึ้น “ไม่เป็นไรใช่ไหม?” “เอ่อ .. ฉะ ฉันไม่เป็นอะไรหรอกว่าแต่นะ นายเก็บปืนก่อนดีไหม?” เสียงของเธอตอบผมอย่างกับคนติดอ่างก่อนที่จะใช้นิ้วมือตัวเองชี้ไปทางปืนที่อยู่ในมือผมผมจึงรู้สาเหตุที่เธอพูดติดอ่างทันทีก็เพราะว่าเธอกลัวปืนที่อยู่ในมือของผมทันที ผมจึงรีบเก็บปืนไปเหน็บเก็บไว้ที่เอวก่อนที่จะเห็นท่าทางของเธอมันก็เรียกเสียงหัวเราะและรอยยิ้มจากผมได้ ผมจึงถามขึ้น “กลัวหรอ?”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม