ตอนที่ 2 อดีตที่ยากจะลืม 1
กรื๊ก!
“พวกมึงเข้ามาตาย”
เสียงของการสับไกปืนก่อนที่จะเดินเข้ามาเสมอกับชายนิรามที่ช่วยฉันและในตอนนี้มีผู้ชายอีกสี่คนเดินเข้ามายืนในระนาบเดียวกันกับชายนิรนามที่ช่วยฉันไว้
“เฮ้ยไอ้โซฟัสเอาจริงหรอกวะ?”
โซฟัส…
ชื่อใช่ไหม
ผู้ชายคนนั้น คนที่ช่วยฉันไว้เขาชื่อโซฟัส รู้เพราะเพื่อนของเขาถามขึ้นมาตอนที่ยืนอยู่ข้างๆ
“เออเอาจริงวะไอ้เทล”
โซฟัสตอบแบบเต็มเสียงที่แสนจะเยือกเย็นแต่เด็ดขาดให้กับเพื่อนชื่อเทลที่ถามเขาขึ้นมาก่อน
“งั้นกูเอาด้วย” ชายที่ชื่อเทลตอบ
“น่าสนุกดีวะ”
“แบบนี่กูชอบ”
“เอาถึงขั้นตายไหมวะ”
กริ๊ก!
แต่ทั้งสามประโยคหลังนี้ฉันไม่รู้ว่าพวกเขาทั้งสามคนนั้นมีชื่อว่าอะไรกันบ้างที่พูดขึ้นมา รู้เพียงแต่ว่าเขามากับผู้ชายที่ชื่อโซฟัสพวกเขาคงเป็นเพื่อนกันแน่ๆ เมื่อทั้งห้าคนนั้นถือปืนคนละกระบอกพร้อมกับเล็งไปยังไอ้เ*******ูกับลูกน้องของมัน
ลูกน้องที่กำลังจะเข้ามามีเรื่องต่างก็ชะงักและก็ถอยกลับทันที
“ไอ้โซฟัสพาผู้หญิงไปก่อนเถอะวะเดี๋ยวทางนี้พวกกูเคลียร์เอง”
“เอางั้นหรอวะไอ้แวนเดอร์”
ผู้ชายที่ชื่อว่าแวนเดอร์หันหน้ามาบอกผู้ชายที่ชื่อโซฟัสคนที่ฉันยืนอยู่ข้างหลังเขาด้วยใบหน้าออกจะ Play boy หน่อยๆ คงจะเจ้าชู้ใช่เล่น
“เออ ไปเถอะพวกกูจัดการได้สบาย”
ผู้ชายที่ชื่อโซฟัสเอามืออีกข้างหนึ่งเข้ามาจับแขนฉันไว้ก่อนที่จะลากออกไปจากที่นี่ เขาลากฉันมาใกล้กับรถหรูคันหนึ่งสีดำซึ่งมันไกลพอสมควรกับร้านอาหารที่เกิดเหตุการณ์ขึ้น
“ไม่เป็นไรใช่ไหม?”
เสียงของคนตรงหน้าถามฉันขึ้นมาพร้อมกับใช้สายตาสำรวจทั่วตัวของฉันก่อนที่เขาจะค่อยๆ ปล่อยมือจากแขนที่จับฉันอยู่
“เอ่อ...ฉะ ฉันไม่เป็นอะไรหรอกว่าแต่นะ นายเก็บปืนก่อนดีไหม?”
เสียงของฉันบอกเขาพร้อมกับใช้นิ้วมือตัวเองชี้ไปทางปืนที่อยู่ในมือเขาอีกข้างหนึ่ง ก็ฉันกลัวนิ เกิดปืนลั่นขึ้นมาแล้วจะทำยังไง
ฉันไม่ตายก่อนหรอ
“กลัวหรอ?”
เขาถามฉันขึ้นมาอย่างขำๆ ก่อนที่จะนำปืนเก็บเข้าไปเหน็บไว้ตรงที่เอวพร้อมกับรอยยิ้มส่งมาให้ฉันเอง รอยยิ้มที่สดใสสวยฉันไม่เคยได้เห็นรอยยิ้มแบบนี้มาเลย มันก็เลยทำให้หัวใจของฉันเต้นรัว
“กลัวสิใครจะไม่กลัวปืนบ้างล่ะ เอ่อ..ขอบใจนะที่ช่วยฉันจากเรื่องบ้าๆ พวกนั้น ถ้าเกิดไม่ได้นายฉันไม่รู้ว่าตัวเองจะเป็นยังไงเหมือนกัน ฉันชื่อเจนิสนะ”
“อ๋อ ไม่เป็นไรชื่อโซฟัส” เขาตอบฉันเสียงเรียบๆ
“ยิ่งดีที่ได้รู้นะโซฟัส”
หลังจากนั้นฉันกับโซฟัสก็เริ่มสนิทสนมกันมากขึ้น ทุกๆ วันเขาก็คอยมารับส่งฉันจากการทำงานจนคนอื่นๆ คิดว่าฉันเป็นแฟนกับเขาเสียแล้วมันคงไม่แปลกถ้าหากฉันจะมีความรู้สึกดีๆ กับเขาไม่ใช่หรอแล้วตอนนี้ฉันก็ได้รู้จักเพื่อนๆ ของเขาทั้งห้าคนครบหมดแล้ว
ทุกๆ คนใจดีกับฉันมากและดูแลฉันเหมือนน้องสาวของตัวเอง จนกระทั่งวันนี้เมื่อฉันถูกรุ่นพี่ที่ทำงานสาดน้ำเข้าใส่เต็มๆ ตัวเลยเนื่องจากพี่เขาหาว่าฉันอ่อยแฟนเขาอีกตามเคยในขณะที่ฉันเดินออกมาหน้าร้านโซฟัสก็มารับพอดีก็เลยเห็นฉันในสภาพนั้นเต็มๆ ทั้งๆ ที่ฉันตั้งใจที่จะชิ่งหลบเขาอยู่แล้ว
“เกิดอะไรขึ้นเจนิสทำไมเป็นแบบนี้ล่ะ?”
โซฟัสคงเห็นสภาพฉันแล้วสิถึงถามขึ้นแบบนี้พร้อมกับเสียงโหดๆก่อนจะเค้นเอาคำตอบ
“คือ...ว่าเกิดเรื่องเข้าใจผิดนิดหน่อยนะไม่มีอะไรจริงๆ นะโซฟัส”
ฉันตอบเขาเสียงเบาๆ ก่อนที่จะก้มหน้าก้มตาเพราะไม่อยากสบตาสีทองแดงของเขาให้มากนักไม่อยากจับได้ว่าโกหก
“ใส่ซะเดี๋ยวก็เป็นปอดบวมกันพอดี” โซฟัสยื่นเสื้อแจ๊สเก็ตหนังสีดำให้ฉันใส่ทับกับเสื้อของพนักงานร้านหาร
“ขอบคุณนะ” ฉันบอกขอบคุณเขาเบาๆ
“แล้วก็มานี่”
โซฟัสจับมือฉันก่อนจะเดินพาเข้าไปในร้านอาหารที่ทำงานอยู่ นี่อย่าบอกนะว่าเขาจะไปเอาเรื่องพนักงานรุ่นพี่คนนั้นเมื่อเข้ามาถึงในร้านอาหารเป็นช่วงเวลาที่ไม่มีลูกค้าพอดี ทุกๆ คนต่างนั่งพักกันอยู่ที่โต๊ะเรียงรายแม้กระทั้งผู้จัดการร้าน
“เจนิส?”
เมื่อเห็นฉันเข้ามาทุกคนต่างเรียกชื่ออย่างพร้อมเพียงกันและมองมาที่ฉันอย่างเป็นจุดศูนย์กลาง
“ใครสาดน้ำใส่เธอ” โซฟัสเริ่มเปิดประเด็นทันที
“คุณเป็นใคร ทำไมต้องทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่ด้วยคะ ฉันเองแหละที่เป็นคนสาดน้ำใส่นังเจนิสมันชอบอ่อยแฟนฉัน!”
ผู้หญิงพนักงานรุ่นพี่คนนั้นเดินออกมาพร้อมกับจ้องสายตามองฉันอย่างแค้นเคืองเขาไม่กลัวโดนไล่ออกหรือไงทำไมถึงไปกล้าต่อปากต่อคำต่อหน้าเจ้านายแบบนี้
“ผมเป็นสามีเจนิสแล้วผมไม่พอใจมากที่คุณทำกับเธอแบบนี้!”
โซฟัสตอบออกไปอีกครั้งมันทำให้ฉันถึงกับตะลึงเมื่อเขาเรียกใช้คำว่า สามีมันเรียกให้ใจของฉันหวั่นไหวและเต้นแบบแปลกๆ ขึ้นมาอีกครั้ง
“ก็เป็นแค่พนักงานด้วยกันทำไมต้องแคร์ด้วย” พนักงานรุ่นพี่ตอบอีกครั้ง
“งั้นแสดงว่าผมก็ทำกับคุณได้ใช่ไหม?”
~ซ่า~
น้ำสีแดงในแจกันใบใหญ่ที่วางไว้ข้างโต๊ะถูกโซฟัสถือออกมาพร้อมกับรดไปที่ศีรษะของพี่พนักงานคนดังกล่าวทันทีต่อหน้าพนักงานคนอื่นๆ และต่อหน้าผู้จัดการร้าน
ทุกคนที่เห็นเหตุการณ์ได้แต่ยืนอึ้งในสิ่งที่กำลังเห็นนั้น
“ผู้จัดการสมชายต่อไปกรุณาอบรมสั่งสอนพนักงานใหม่ทั้งหมดและไล่พนักงานคนดังกล่าวออกด้วยก่อนที่ผมจะสั่งรื้อพนักงานในร้านนี้ใหม่!”
“ครับคุณโซฟัส”
จากนั้นโซฟัสก็เข้ามาจับมือฉันก่อนที่จะดึงให้เดินตามเขาออกไปจากนอกร้าน ก่อนออกจากร้านฉันได้ยินผู้จัดการสมชายได้ดุด่าพนักงานทุกคนก่อนที่จะบอกว่าโซฟัสคือพี่ชายของโซเฟียเจ้าของร้านอาหารที่ฉันทำงานอยู่
โซฟัสพาฉันขึ้นรถของเขาก่อนที่จะมาส่งที่ห้องพักของฉันฝนก็ตกลงมาอย่างหนักพอดี ฉันจึงชวนเขาขึ้นมาที่ห้องและเอาเครื่องดื่มอุ่นๆ ให้เขาได้ดื่มก่อน
จะให้เขาขับรถไปตอนนี้ก็คงไม่ไหวอันตรายเสียเปล่าๆ
“โดนข่มขู่หรือเอาเปรียบแบบนี้มานานเท่าไหร่แล้วเนี่ย” ก่อนที่จะมีเสียงของเขาถามขึ้นมา
“ครั้งนี้แหละที่แรงก็เธอคงคิดว่าฉันอ่อยแฟนเธอที่มาทานข้าวมั้ง ทั้งๆ ที่ฉันก็แค่ไปเสิร์ฟอาหารกับพี่นิดเท่านั้น” ฉันตอบเขาก่อนที่จะค่อยๆ คิด
“ครั้งนี้แรงแสดงว่าโดนแกล้งหลายครั้งแล้วทำไมถึงไม่คิดโต้ตอบบ้าง อย่ามัวแต่ยอมสิเจนิส”
เปรี้ยง!
ว้าย!
ไม่ทันที่ฉันจะตอบโซฟัสเสียงฟ้าผ่าก็ดังขึ้นมาอย่างกังวาน ฉันจึงไม่รู้ตัวว่าตัวเองได้กระโดดตัวไปอยู่บนตักของโซฟัสแล้วเมื่อฉันเงยหน้าขึ้นริมฝีปากก็เลยไปประทับกับริมฝีปากของโซฟัสที่กำลังจะก้มหน้ามองฉันพอดีริมฝีปากของเราสองคนค่อยๆ จูบกันอย่างดูดดื่มจนกระทั่งมันเลยเถิดออกไป
ในคืนนั้นเราสองคนต่างมีอะไรกันด้วนความสมยอมด้วยกันทั้งคู่
“เจนิส ผมรักคุณนะครับ”
ร่างกายของผู้ชายที่ได้ชื่อว่าเป็นสามีฉันแล้วนอนโอบกอดฉันอยู่ภายใต้ผ้าห่มผืนใหญ่ที่ร่างกายเราสองคนต่างก็ไร้เสื้อผ้าด้วยกันทั้งคู่
“ฉันก็รักคุณโซฟัส”
ฉันหันตัวเองเข้าไปหาโซฟัสก่อนที่จะเอาศีรษะเข้าไปซุกไออุ่นจากแผงอกล้ำๆ สีขาวๆ ของเขาทันที ร่างกายเราสองคนต่างก็เบียดกันภายในห้องเล็กๆ เตียงเล็กๆ แต่ความสุขนั้นมันไม่เล็กเสมอไป
จนกระทั่งเวลาผ่านมาเกือบสองอาทิตย์แล้วโซฟัสก็ยังไปมาหาสู่ฉันเสมอเขามานอนที่ห้องฉันทุกวันคืนฉันยอมรับเลยว่าช่วงเวลานี้ฉันมีความสุขมากๆ ที่ได้อยู่กับเขา ได้อยู่กับคนที่ฉันรักและวันนี้ฉันก็มีเรื่องสำคัญมากที่จะบอกเขาเหมือนกัน
เรื่องนั้นก็คือฉัน..ท้อง
ฉันจึงอยากบอกเขาเร็วๆ จนอดที่จะกลั้นใจไว้ไม่อยู่แล้วจริงๆ ฉันจึงตัดสินใจที่จะโทรไปบอกเขาดีกว่า
Rr...
“ฮัลโหล โซฟัสคะ เจมีเรื่องสำคัญจะบอกคุณค่ะ”
ฉันกรอกน้ำเสียงที่แสนจะสดใสและร่าเริงไปยังปลายสายทันที เมื่อเห็นว่ามีคนรับสายด้วยตื่นเต้นสุดๆ
[เธอเองสินะที่เป็นเด็กใหม่ของโซฟัส ชั้นชื่อนีหรือวิลาสินีเป็นภรรยาของโซฟัสเลิกยุ่งกับสามีของคนอื่นได้แล้วนังหน้าด้านถ้าชั้นเจอแกนะฉันจะฆ่าแกให้ดูนังคนไร้ยางอาย!]
ตุบ!
โทรศัพท์เครื่องนั้นหลุดจากมือของฉันตกลงพื้นแตกกระจายไปทันที น้ำตาทั้งสองข้างของฉันไหลพรั่งพรูออกมาจากสองดวงตาอย่างไม่ขาดสาย
โซฟัสเขาหลอกฉันงั้นหรอ
เขามีเมียอยู่แล้ว
ตอนนี้เหมือนกับว่าทุกอย่างในชีวิตของฉันมันพังทลายลงมาต่อหน้าต่อตาตัวเอง ฉันเจ็บ เจ็บที่หัวใจจังเจ็บเหมือนไม่เคยเป็นมาก่อนในชีวิตเนี้ยหรอชีวิตคู่ครั้งแรกของฉัน ความรักครั้งแรกของฉันมันพังย่อยยับไปหมดแล้ว
ฮื่อๆ
หลังจากนั้นฉันก็ตัดสินใจเก็บข้าวของของตัวเองเพื่อย้ายห้องพักไปอยู่ที่อื่น ตัดขาดจากผู้ชายคนนั้นทันที โดยไม่มีการติดต่อไม่มีการสั่งเสีย ฉันยังมีคนที่สำคัญที่ต้องดูแล ต้องสู้เพื่อเขาสู้เพื่อตัวแทนของโซฟัสและตัวฉันเอง
นั่นก็คือซีเจน
ลูกสาวคนสวยและน่ารักของฉัน ซีเจนถอดแบบมาจากโซฟัสทั้งจมูกที่แสนโด่ง ใบหน้าที่เรียวสวย รอยยิ้มแม้กระทั้งตาของเธอที่มีสีทองแดงเหมือนกับโซฟัส
จบอดีตสามปีที่แล้ว
~ซ่า~ซ่า~ซ่า~
เสียงของฝนตกทำให้ฉันลบความคิดในอดีตออกและกลับเข้ามาในเวลาปัจจุบัน ฉันรีบลุกขึ้นไปปิดประตูหน้าต่างที่เปิดไว้ทันที เพราะกลัวว่าฝนจะสาดเข้ามาทำให้อากาศเย็นเพิ่มไปอีกห้องพักที่เช่าอยู่ตอนนี้
เป็นห้องพักเล็กๆ ที่สภาพค่อยข้างทรุดโทรมนิดหน่อยตามราคาของห้องพักแต่ฉันก็ทำความสะอาดจัดข้าวของให้เป็นระเบียบเรียบร้อยอย่างดีทั้งเสื้อผ้ารองเท้าเครื่องครัวต่างๆ ทุกๆ อย่างสะอาดสะอ้านแน่นอนถึงแม้ว่าตอนนี้ฉันค่อนข้างที่จะต้องประหยัดเงินเพื่อไว้ใช้ในการรักษาซีเจนก็เถอะ
ซีเจนก็ต้องอยู่ในที่ที่สะอาดเหมือนกันข้อนี้ฉันรู้ดี
ซีเจนค่อนข้างที่จะไม่ค่อยสบายอยู่บ่อยๆ จึงได้ไปโรงเรียนบ้างหยุดบ้าง ฉันก็ค่อนข้างที่จะสงสารลูกมากเหมือนกันที่ต้องพบเจอกับปัญหาแบบนี้
ฉันอยากให้ลูกได้ทานอะไรที่อยากทานบ้างอยากให้เขาได้แต่งตัวสวยๆ ตามเพื่อนๆ แต่สิ่งแบบนี้จะเป็นได้ก็คงฝันไปเท่านั้นเพราะฉันทำไม่ได้เลย ถึงแม้ว่าซีเจนจะถามว่าทำไมถึงไม่มีเสื้อผ้าสวยๆ ใส่ ฉันก็ตอบไปว่าเราต้องประหยัดเพื่ออนาคตของเราเองและซีเจนก็เข้าใจไม่เคยที่จะเรียกร้องอยากมีเสื้อผ้าสวยๆ เลย ทุกๆ ครั้งที่ลูกถามหาพ่อ ฉันก็ได้ตอบไปว่าพ่ออยู่ต่างประเทศเดี๋ยวก็มาหาเราเองแต่สิ่งหนึ่งที่ฉันไม่เคยปิดบังเลยนั่นก็คือชื่อของพ่อซีเจน ฉันบอกเขาไปว่าพ่อชื่อโซฟัส
ส่วนชื่อของซีเจนฉันก็ตั้งโดยการเอาอักษรตัวหน้าของชื่อโซฟัสมารวมกับอักษรตัวหน้าของฉันเจนิส ชื่อที่ได้ก็คือซีเจน
ถึงยังไงฉันก็ยอมรับได้เลยว่าในตอนนี้ฉันก็ยังรักโซฟัสมาก รักอยู่เสมอ รักไม่เคยเปลี่ยนแปลงไปเลยและฉันก็เชื่อว่าซีเจนก็คงจะรักพ่อของเขาไม่น้อยไปกว่าฉันเหมือนกัน นี่ก็คืออดีตของฉันที่มันยากจะลืม...