ตอนที่ 10 เกือบขาดใจ 1

1756 คำ
ตอนที่ 10 เกือบขาดใจ 1 “โซฟัส!” เสียงผู้หญิงที่เรียกชื่อของผมมันเป็นเสียงที่พูดพร้อมกับน้ำตา เสียงก็เลยสั่นเล็กน้อยเธอวิ่งเข้ามายืนตรงหน้าของผม “เจนิส” ใช่ฉันเองเจนิส ทุกๆ คนก็คงแปลกใจใช่ไหมว่าทำไมฉันถึงมาอยู่ที่นี้ทั้งๆ ที่ตอนนี้ฉันควรจะอยู่ที่ทำงานเพราะเป็นเวลาสิบโมงกว่าแล้วแต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมันทำให้ฉันต้องออกจากที่ทำงานโดยเร็วเมื่อได้รับโทรศัพท์มาจากโรงเรียนเตรียมอนุบาลของซีเจนว่าตอนนี้ซีเจนอยู่โรงพยาบาลพอฉันไปถึงหน้าห้องฉุกเฉินก็พบกับคุณครูของซีเจนอยู่รอที่นั่น “คุณเจนจิรา คุณแม่ของเด็กหญิงภิจิรา ใช่ไหมคะ?” “ใช่คะ ซีเจนลูกของฉันแกเป็นยังไงบ้างคะ? แล้วมันเกิดอะไรขึ้น? เมื่อเช้าแกยังดีๆ อยู่เลยด้วยซ้ำ แล้วหมอออกมาหรือยัง?” ฉันรีบถามรัวใสหน้าครูประจำชั้นของลูกตัวเองทันที โดยที่ไม่สนใจว่าเธอจะทันตอบไหม แล้วนอกจากนี้น้ำตาฉันก็เริ่มไหลรินออกมาอย่างช้าๆ ฉันกลัวเหลือเกิน กลัวว่าซีเจนจะเป็นอะไรไป “เอ่อ..คุณหมอยังไม่ออกมาจากห้องฉุกเฉินเลยคะเรื่องมันเกิดขึ้นเพราะว่าเมื่อเช้ามีการกิจกรรมการออกกำลังกายเพื่อช่วยพัฒนาร่างกายของเด็กซีเจนเกิดหกล้มลงไปแล้วเมื่อพวกเรานำเธอไปทำแผลที่ได้จากการหกล้มที่หัวเข่าแต่ซีเจนกับมีอาการเลือดกำเดาไหลออกมาโดยไม่หยุดเลยอีกทั้งร่างกายยังมีรอยเขียวซ้ำเป็นจ้ำๆ ทางโรงเรียนจึงนำส่งโรงพยาบาลทันทีค่ะ” “ซีเจนลูกแม่…” เมื่อได้ยินอย่างงั้น ฉันก็ทรุดลงไปนั่งกับพื้นทันทีเมื่อได้ยินสิ่งที่ครูเล่าจนจบ ร่างกายของฉันมันไม่ไหวแล้วฉันอยากเห็นหน้าลูก ฉันสงสารลูกตัวเอง! ฮื่อๆ แกร๊ก! เสียงเปิดประตูดังขึ้นมาก่อนจะเห็นว่าหมอได้เดินออกมาแล้วฉันจึงรีบลุกขึ้นและเข้าไปจับแขนของหมอไว้ในทันทีก่อนที่จะถาม “ลูกฉันเป็นยังไงบ้างหมอ ซีเจนเป็นยังไงบ้าง!” “เอ่อ...คนไข้ต้องการเกล็ดเลือดให้เร็วที่สุดครับเพราะว่าคนไข้เป็นโรคเกล็ดเลือดต่ำ จนทำให้เลือดไหลออกมาไม่หยุดแล้วตอนนี้อยู่ในภาวะเกล็ดเลือดต่ำมาก หมอจึงจำเป็นต้องรีบให้เกล็ดเลือดด่วนครับไม่อย่างนั้นเด็กอาจเกิดอันตรายได้!” “เอาเลือดของฉันไปได้เลยคะหมอ เอาไปจนหมดตัวเลยก็ได้ฉันยอมของเพียงอย่างเดียว ขอเพียงให้ลูกของฉันปลอดภัยนะคะหมอ” ฉันรีบบอกบอกพร้อมกับยื้นแขนให้ทันที “ได้ครับ งั้นไปเจาะเลือดเลยดีกว่าครับ” ตอนนี้ฉันก็นั่งอยู่ที่เก้าอี้หน้าห้องฉุกเฉินอีกครั้งหนึ่งหลังจากที่ไปเจาะเลือดมาแล้วโดยที่ไม่ได้ใช้เวลาเยอะเท่าไหร่ “ซีเจน...อย่าเป็นอะไรไปนะลูก” เสียงของผู้เป็นแม่เฝ้านั่งร้องไห้พร้อมกับเฝ้าภาวนาอย่างเบาๆ ด้วยความเป็นห่วงอย่างสุดหัวใจอยู่หน้าห้องฉุกเฉินในโรงพยาบาลรัฐแห่งหนึ่งในเมืองหลวง แต่สิ่งที่เธอพร่ำภาวนาอาจไม่เป็นจริงเมื่อหมอเปิดประตูขึ้นมาอีกครั้งแล้วบอกขึ้นว่า “ขอโทษด้วยครับเลือดของคุณแม่จากที่ทางโรงพยาบาลตรวจสอบแล้วไม่สามารถใช้กับเด็กได้ครับทางเราจึงต้องจำเป็นหาเลือดให้ด่วนที่สุด คุณพอจะมีญาติที่ไหนบ้างครับ” ซึ่งคำตอบที่ได้รับมันทำให้ผู้เป็นแม่วัยสาวอย่างเจนิส ทรุดตัวลงทันทีพร้อมกับน้ำตาที่คลั่งไหลออกมาเป็นสาย ทำไมมันต้องเกิดขึ้นกับลูกของเธอด้วยยิ่งไม่มีญาติที่ไหนอีกจะไปขอเกล็ดเลือดมาจากใครหรือว่า ต้องไปขอเกล็ดเลือดจากโซฟัส พ่อของซีเจน.... “หมอรอเดี๋ยวนะคะ เดี๋ยวฉันมา!” ฉันนึกได้รีบวิ่งออกจากโรงพยาบาลด้วยความเร็วก่อนที่มืออีกข้างจะคว้านามบัตรที่โซฟัสทิ้งไว้ให้ก่อนที่จะกดไปยังปลายสายทันที ตู๊ดๆๆ “...” โทรไปกี่ครั้งก็ไม่มีใครรับสายเลยแม้แต่คนเดียวแบบนี้มันยิ่งทำให้จิตใจของฉันกระวนกระวายเพิ่มมากขึ้นๆ เป็นเท่าตัว ไปที่ห้างเลขาก็บอกว่าวันนี้ท่านประธานยังไม่ได้เข้ามาบริษัทเลยแต่เมื่อฉันจะลงมาก็เจอลูกน้องของโซฟัสสองคนฉันจึงถามเขาขึ้นมาเขาก็บอกฉันอย่างง่ายดายสงสัยโซฟัสเป็นคนสั่งให้มาจับตาดูฉัน พอมาถึงเหตุการณ์ปัจจุบันเมื่อฉันเดินเข้ามาใกล้ๆ กับที่โซฟาที่โซฟัสนั่งอยู่โซฟัสก็รีบลุกเดินขึ้นมาหาฉันทันที ฮื่อๆ ในขณะที่ผมเดินไปหยุดตรงหน้าของเจนิส เธอก็เข้ากระชากแขนทั้งสองข้างของผมทันทีพร้อมกับปล่อยน้ำตาออกมาเต็มใบหน้า ตัวของเธอก็สั่นอยู่แบบนั้น “โซ...ชะ ช่วยด้วย ช่วยด้วย” ผมถึงกลับชะงักเมื่อได้ยินเสียงของเจนิสขึ้นมา เสียงที่สั่นเครือมีแต่ความหวาดกลัวที่แสดงออกมาอย่างเห็นได้ชัดเจน “เจ เป็นอะไร! บอกมา บอกผมมา!” ฮื่อๆ ผมเข้าไปจับแขนพร้อมกับถามเจนิสขึ้นมาทันทีโดยไม่สนใจว่าเธอจะเป็นยังไงบ้างแล้วอีกอย่างก็เพื่อเตือนสติเจนิส “โซ ชะ ช่วยลูกด้วย ช่วยซีเจนด้วย” ฮื่อๆ ฮื่อๆ “ซีเจน…” ทันทีที่ได้ยินเจนิสพูดว่าช่วยซีเจนร่างกายของผมมันก็เกิดอาการชาวาบไปทั้งตัวหัวใจที่ทำงานอยู่เหมือนกับมันหยุดเต้นไปชั่วขณะ ลูกที่แสนน่ารักของผมเป็นอะไรไป ทำไมถึงเป็นแบบนี้ “เจ บอกมาว่าลูกเป็นอะไร!” “...” “เจนิส! บอกมาสิ แม่งเอ้ย!” ผมเขย่าตัวของเจนิสไปมาอย่างแรงเพื่ออยากจะรู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับลูกของผม แล้วทำไมเจนิสถึงได้ร้องไห้ขนาดนี้ “โซ ลูกขะ ของเราอยู่ที่โรงพยาบาลลูกต้องการเกล็ดเลือดให้ด่วนที่สุดเลือดของฉันเข้ากับลูกไม่ได้ถ้าช้าซีเจนอาจจะ...ชะ ช่วยซีเจนลูกของเราด้วยนะโซ ขอร้อง ฉันขอร้อง…” “...” ฉันพูดขึ้นตะกุกตะกักเพื่อบอกให้กับโซฟัสที่อยู่ตรงหน้าตัวเอง ตอนนี้ฉันทำอะไรไม่ถูกแล้วจริงๆ ขอเพียงอย่างเดียวให้ซีเจนรอด “โซ นะ นายเป็นพ่อของซีเจนช่วย ช่วยลูกของเราด้วยนะโซ” ผมไม่มีเวลามาพูดอะไรทั้งนั้นผมรีบวิ่งออกจากห้องนั้นเพื่อไปโรงพยาบาลที่ลูกตัวเองอยู่ในเร็วที่สุดไม่ว่ายังไงซีเจนลูกของผมจะต้องรอดและปลอดภัยด้วย เท้าที่เหยียบคันเร่งมิดมันแสดงถึงว่าโซฟัสเป็นห่วงลูกของตัวเองมากแค่ไหน ฉันวิ่งตามโซฟัสมาติดๆ และก็ก้าวเท้าขึ้นรถของเขาทันทีนอกจากนี้ยังมีเพื่อนของเขายังขับรถตามมาด้วยความรวดเร็วเหมือนกับโซฟัสอีกด้วย “หมอหมออยู่ไหน!” ทันทีที่เข้ามาถึงโรงพยาบาลผมก็ตะโกนขึ้นมาเสียงทันทีโดยที่ไม่อายใครหน้าไหนทั้งนั้น ตอนนี้สนใจเพียงแค่ว่าลูกของผมเท่านั้นเอง “โซ ทางนี้!” ฉันรีบคว้าแขนโซฟัสมายืนที่หน้าหมอเจ้าของคนไข้ของซีเจนทันที “หมอผมเป็นพ่อของซีเจนเอาเลือดของผมไปได้เลยครับ” ผมบอกหมอทันที “เชิญทางนี้ครับ” ทันทีที่โซฟัสเข้าไปในห้องเดียวกับซีเจนฉันก็ทรุดลงกับพื้นอย่างอ่อนแรง ขอให้เกล็ดเลือดเข้ากันด้วยเถอะ ขอให้ทั้งสองปลอดภัยอย่างได้เป็นอะไรไปเลย ไม่อย่างนั้นฉันก็คงขาดใจตายแน่ “ทำใจดีๆ ไว้เจนิส” เสียงของรูธพูดขึ้น “ไอ้เชี้ยโซฟัสจะต้องช่วยซีเจนจนปลอดภัยแน่” เสียงของคิวพีพูดขึ้น “ตั้งสติไว้ ทุกอย่างจะต้องดีขึ้น” เสียงของแวนเดอร์ “หลานกูจะต้องปลอดภัย รวมถึงพ่อมันจะต้องช่วยได้ด้วย” ปิดท้ายด้วยเสียงของเทล “ขอบคุณทุกคนมากๆ ที่ให้กำลังใจฉันมาตลอด” ฉันพูดเอ่ยขึ้นมาอย่างเบาๆ “ทุกๆ อย่างจะต้องดีขึ้นอย่างแน่นอนคะทั้งซีเจนและพี่โซฟัสจะต้องปลอดภัยทั้งคู่ อย่างคิดมากเลยนะคะ” “จริงอย่างที่พี่พายพูด อย่าคิดมากเลยนะคะ” เสียงผู้หญิงที่อยู่ข้างกายฉันพูดขึ้นมาเมื่อมองดูก็เห็นผู้หญิงที่มีใบหน้าสวยงาม ผิวขาว คนหนึ่งผมดำหน่อยอีกคนสีน้ำตาลทั้งสองยิ้มให้กับฉันพร้อมทั้งลูบหลังเพื่อเป็นกำลังใจให้นี่มันก็นานมากพอสมควรแล้วแต่ทำไม่ทั้งโซฟัสและก็ซีเจนต่างก็เงียบไปในห้องฉุกเฉินนั้นทั้งคู่ ตอนนี้ใจของฉันมันเริ่มสั่นรัวจนตีกันไปหมดแล้ว แกร๊ก! เสียงวินาทีการเปิดประตูออกมาทำให้หัวใจของฉันมันเหมือนกับหยุดเต้นทันที ฉันรีบเงยหน้ามองขึ้นไปทางคนที่เดินออกมา “โซ! ลูกเป็นยังไงบ้างซีเจนเป็นยังไง? ” ฉันลุกขึ้นด้วยความเร็วแล้วก็เข้าไปคว้าเสื้อของโซที่ยืนจ้องหน้าของฉันทันที ฉันเริ่มแรงกระชากเสื้อของเขาโดยที่ไม่สนใจว่ามันจะออกมายับสักแค่ไหน “…” “อย่าเงียบสิ รู้ไหมว่าเจเป็นห่วงลูกมากแค่ไหนซีเจนลูกของเราไม่เป็นอะไรใช่ไหม แกปลอดภัยดีใช่ไหมโซ? ฮื่อๆๆ” ผมรีบกอดร่างของเจนิสไว้ทันทีเพราะตอนนี้เธอแทบจะไม่มีแรงพยุงที่จะยืนเลยแถมยังร้องไห้หนักมาจนซบลงมาที่หน้าอกกว้างของผมแล้วที่ผมไม่พูดอะไรก็เพราะว่ากำลังอึ้งอยู่ หมอบอกว่าเกล็ดเลือดของผมสามารถช่วยซีเจนได้นั่นก็เป็นหลักฐานว่าซีเจนเป็นลูกของผมจริงๆ ผมเชื่อมาตั้งแต่ตอนแรกๆ แล้วแต่เมื่อได้ยินหมอบอกกับปากตัวเองมันยิ่งทำให้ผมดีใจที่สุด “ซีเจนลูกของเราปลอดภัยแล้วเจ…พอลูกฟื้นเราไปหากันนะ” ตุบ! “เจนิส!” “…”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม