“โอ๊ย!” เขาเดินไปชนเข้ากับกำแพงของหอ เอื้องจันทร์กับฤดีถึงกับหัวเราะร่วนออกมา รักษ์พยักหน้าเขินๆ ลูบท้ายทอยไปมาก่อนจะโบกมือลาเอื้องจันทร์อีกครั้งแล้วรีบเดินจากไป
“ติ่มซำวันนี้คงจะหวานน่าดู เฮ้อ... โคตรอยากกิน”
“พูดมากเดี๋ยวเอาติ่มซำยัดปากเสียเลย” เอื้องจันทร์ดันแผ่นหลังของเพื่อนเข้าไปในหอพัก โดยไม่รู้ว่ามีสายตาของใครคนหนึ่งกำลังมองอยู่ นพชัยที่ซุ่มดูอยู่ในรถอีกด้านปิดกระจก ก่อนจะกัดกรามจนขึ้นสัน เขาจะไม่ยอมโดนต่อยฟรีแน่ๆ คอยดูเถอะ
“เพื่อนเราโหดนะนี่ แฮ่...” ฤดีทำเสียงล้อเลียน แลบลิ้นปลิ้นตาใส่เพื่อนก่อนจะวิ่งหนี
“วิ่งหนีเหรอ” เอื้องจันทร์วิ่งตามไปจัดการกับเพื่อนด้วยการจี้เอว เสียงหัวเราะดังออกมาจนข้างห้องต้องออกมาเตือน สองสาวจึงรีบปิดประตู ปิดปากหัวเราะขำกันอยู่สองคน
การสอบปลายภาคเริ่มขึ้นหลังจากนั้นหนึ่งสัปดาห์ การสอบผ่านพ้นไปได้ด้วยดี พร้อมกับการประกาศผลสอบ เอื้องจันทร์กับฤดีจับมือเขย่าด้วยความดีใจที่ผลสอบออกมาว่าสอบผ่านทุกวิชาแถมยังได้เกรดดีอีกด้วย
“ในที่สุดก็เรียนจบแล้ว ดีใจจัง เย่!” ทั้งการฝึกงาน โปรเจกต์สอบจบและวิชาที่เรียนสอบผ่านหมดแล้ว สองสาวรู้สึกโล่งเหมือนยกภูเขาออกจากอก
“หวานใจเธอมาแล้ว อิจฉาจริงๆ” ฤดีเอ่ยแซวกระแทกไหล่เพื่อนเบาๆ
“เดี๋ยวนี้เป็นอะไรยะ ชอบแซวเสียจริง”
“จะไปไหนกันล่ะ”
“คิดว่าจะไปกินข้าวกันสักหน่อย”
“ไปเถอะๆ ไม่อยากไปเป็น กอ ขอ คอ งอ หรอกจ้ะ” ฤดีโบกไม้โบกมือให้เพื่อนรัก เอื้องจันทร์รับหมวกกันน็อกมาสวม แต่รักษ์ดึงหมวกกันน็อกหนี เธอตาโตมองตามก่อนที่เขาจะยิ้มแล้วจัดการสวมให้เธอเสียเอง ฤดีเห็นแล้วอยากจะแซวเพื่อนอีก แต่ก็ยั้งเอาไว้ แค่นี้เพื่อนของเธอก็อายจนหน้าแดงไปหมดแล้ว ถ้าไม่รู้ว่าก่อนหน้านี้จะใจกล้าลากผู้ชายขึ้นเตียง เธอจะไม่เชื่อสายตาเลยว่าเอื้องจันทร์อายม้วนเสียขนาดนี้
รักษ์ขับรถพาเอื้องจันทร์ออกนอกเมือง เขาจะพาเธอไปรับประทานอาหารร้านหนึ่งที่บรรยากาศดี อาหารไทยอร่อยๆ รสชาติจัดจ้าน เขาอยากจะขอเธอแต่งงานที่นั่น เพราะทั้งเธอและเขาต่างก็สำเร็จการศึกษาแล้ว สอบผ่านทุกวิชาเหลือแค่รับปริญญาซึ่งเป็นแค่พิธีการ นักศึกษาบางคนไม่ได้เข้ารับพระราชทานปริญญาบัตรเพราะมีค่าใช้จ่ายเยอะ แค่มีใบปริญญาบัตรก็ถือว่าเรียนจบ สมัครงานได้แล้ว
เขาอยากนำเงินที่มีไปซื้อที่ดินสักผืน แล้วจัดการปลูกทุกอย่างที่นั่นอยากสร้างครอบครัวกับเธอ หวังว่าเธอจะชอบในสิ่งที่เขาอยากจะทำ
ขณะที่ขับรถและคิดอะไรเพลินๆ อยู่นั้นรักษ์ก็ต้องร้องเสียงหลงเมื่อมีรถมาปาดหน้า เอื้องจันทร์เองก็ร้องเสียงหลงเช่นกัน ร่างของคนทั้งสองกระเด็นไปอยู่ข้างทาง ก่อนที่จะมีชายฉกรรจ์หลายคนลงมาจากรถตู้ กระชากหนุ่มสาวทั้งสองขึ้นรถไป
“นี่ปล่อยนะ” เอื้องจันทร์ดิ้นรนแต่สู้แรงผู้ชายตัวโตไม่ไหว
“ปล่อยเธอเดี๋ยวนี้นะ” รักษ์ดิ้นรนแต่โดนล็อกเอาไว้
“อย่ามาปากเก่งไอ้ลูกหมา” มันต่อยเข้าที่หน้าท้องของรักษ์เต็มแรงจนเขาจุกไปหมด
“ขึ้นไปซะดีๆ ถ้ามึงสองตัวไม่อยากตาย” มันจ่อปืนที่หน้าของรักษ์และเอื้องจันทร์ ทั้งสองหยุดดิ้นแทบจะทันที
“พวกแกจะพาพวกเราสองคนไปไหน” รักษ์เอ่ยถาม
“เดี๋ยวก็รู้เอง ไปทำซ่ากับใครเอาไว้ล่ะ” มันเอ่ยถาม ทำให้รักษ์ได้แต่อึ้ง เขาไม่เคยมีเรื่องกับใครนอกจากนพชัย แต่ไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะให้ลูกน้องมาจับตัวเขากับเอื้องจันทร์แบบนี้
ทั้งสองโดนผลักเข้าไปในบ้านร้างหลังหนึ่ง โดยมีชายฉกรรจ์หลายคนห้อมล้อม เอื้องจันทร์ยอมรับว่ารู้สึกหวาดกลัวเป็นอันมาก เพราะใบหน้าถมึงทึงของพวกมัน
“มาแล้วเหรอ” เสียงของนพชัยทำให้ทั้งสองหันขวับไปมอง
“คิดอยู่แล้วว่าต้องเป็นแก” รักษ์พูดขึ้น
“แกคิดว่าเป็นฉันแล้วจะทำอะไรฉันได้ หึ! ไอ้กระจอก”
“ทำแบบนี้ทำไม” เอื้องจันทร์เอ่ยถาม
“เพราะเธอเล่นตัวกับฉันไง แต่ไม่เป็นไร ฉันไม่อยากได้เธอแล้วละ วันนี้ฉันจะให้เธอได้กับลูกน้องของฉันทั้งหมดนี่ โดยมีผัวของเธอคอยยืนดู” นพชัยบีบปลายคางของหญิงสาวจนเธอต้องนิ่วหน้าด้วยความเจ็บ สะบัดหน้าหนีแต่ก็หนีไม่ได้เขายิ่งบีบปลายคางของเธอหนักขึ้นกว่าเดิม
“ปล่อยเธอเดี๋ยวนี้นะ!” รักษ์ดิ้นรนแต่เขาถูกมัดเอาไว้กับเก้าอี้ ไม่สามารถช่วยเหลืออะไรเธอได้
“เฮ้ย! จัดอีนี่เลยสิวะ ถ่ายคลิปเอาไว้ด้วย เล่นตัวดีนัก” นพชัยสั่งลูกน้อง เอื้องจันทร์ดิ้นรนด่าว่าเสียงสั่น เธอยอมรับว่าหวาดกลัวจริงๆ
“อย่านะไอ้สารเลว”
“ด่าไปเถอะ ฉันก็อยากรู้เหมือนกันว่าเวลาด่ากับครางอะไรเสียงจะดังกว่ากัน จับอีนี่ขึงพืดแล้วเรียงคิวเอามันให้หนำใจไปเลย” นพชัยพูดแล้วหัวเราะอย่างสะใจ
“อย่าทำอะไรฉันเลยนะนพ ฉันขอโทษถ้าเคยทำอะไรให้เธอไม่พอใจ”
“สำนึกตอนนี้ก็สายเกินไปแล้ว เมื่อก่อนมึงเล่นตัวกับกูก่อน”
“หนูวุ้น ช่วยพี่ด้วย หนูวุ้นอยู่ไหน ช่วยพี่หน่อย” รักษ์หลับตานึกถึงเด็กน้อยข้างบ้านที่เสียชีวิตไปเมื่อหลายเดือนก่อน วิญญาณเธอไม่ได้ไปผุดไปเกิดเพราะยังมีห่วงอยู่ เด็กน้อยชอบมาเข้าฝันขอให้เขาทำบุญให้เพราะอยากกินโน่น อยากกินนี่ วันก่อนอีกฝ่ายโผล่มาทำให้เขาตกใจ เขาเลยโมโหไล่ไป แล้วเด็กน้อยก็หายไปหลายวัน เขาคิดว่าอีกฝ่ายคงโกรธ
“วุ้นมาแล้ว” มีเพียงรักษ์คนเดียวที่เห็นเด็กวุ้น
“พี่ขอโทษนะ วันก่อนพี่ไม่ได้ตั้งใจพูดให้วุ้นเสียใจ” รักษ์พูดกับเด็กน้อย ในใจ
“วุ้นไม่ได้โกรธ แต่วุ้นคิดถึงตากับยายก็เลยไปหาตากับยายมา ไปช่วยตากับยายเลี้ยงควายที่ทุ่งนาโน่น”
“ช่วยแฟนพี่หน่อย”
“ได้สิคะ เดี๋ยวจัดให้ แต่พี่รักษ์ต้องสัญญากับวุ้นก่อนว่าจะช่วยตามหาคนที่ฆ่าวุ้น”
“ได้ พี่สัญญา” เขารีบรับปากในทันที
วุ้นได้ยินแบบนั้นก็รีบเข้าสิงร่างของเอื้องจันทร์ทันที หญิงสาวถูกจับกดอยู่บนโต๊ะตัวใหญ่ ร่างยักษ์ของลูกน้องนพชัยขึ้นคร่อมทับ เข้าซุกไซ้เพื่อจะย่ำยีข่มขืนเธอ มันเงยหน้าขึ้นมาจะจูบแต่กลับเห็นใบหน้าของเด็กน้อยคนหนึ่งหน้าตาน่ากลัวกำลังถลึงตาเข้าใส่ ใบหน้าของเด็กน้อยเต็มไปด้วยเส้นเลือดสีเขียวสยดสยอง
“ผีหลอก ช่วยด้วยผีหลอก”
“เป็นห่าอะไรของมึงวะไอ้หมึก” นพชัยสบถอย่างหัวเสียเมื่อเห็นอาการของลูกน้อง
“ผีหลอกครับคุณนพ ผีหลอก”
“ผีบ้าผีบออะไรวะ” นพชัยเดินเข้าไปหา เขาตกใจแทบช็อกเมื่อเห็นใบหน้าของเอื้องจันทร์กลายเป็นใบหน้าของเด็กคนหนึ่งที่ตาถลนออกมา เส้นเลือดสีเขียวขึ้นเต็มใบหน้า
“เฮ้ย!” นพชัยยิงปืนออกไปด้วยความหวาดกลัว กระสุนโดนลูกน้องที่อยู่รอบกาย แต่กระสุนไม่โดนเอื้องจันทร์เพราะผีเด็กน้อยปัดกระสุนพวกนั้นทิ้งไป
เด็กน้อยใช้พลังที่มีแก้มัดให้รักษ์ เขารีบมาช่วยเอื้องจันทร์เอาไว้ทันที เอื้องจันทร์หวาดกลัวกอดรักษ์เอาไว้เต็มอ้อมแขน ร้องไห้สะอึกสะอื้นไม่หยุด ดีใจที่เธอไม่โดนลูกน้องของนพชัยรุมโทรม
“เดี๋ยวตำรวจจะมานะพี่รักษ์ อย่าลืมสัญญาที่ให้กับวุ้นเอาไว้นะคะ”
“พี่สัญญา แต่ตำรวจมาได้ยังไง”
“วุ้นเอาโทรศัพท์ของพี่เอื้องโทร. หาเพื่อนพี่เอื้อง เพื่อนพี่เอื้องได้ยินทุกอย่าง เดี๋ยวพาตำรวจมา วุ้นไปละ”
“ไปไหน” รักษ์เผลอพูดออกมาแทนที่จะคิดในใจ
“ใครไปไหนคะ” เอื้องจันทร์เอ่ยถาม
“เปล่าครับ” รักษ์ตอบแฟนสาว ยังไม่ทันได้พูดอะไรต่อตำรวจก็บุกเข้ามาในบ้านร้าง นพชัยกำลังร้องโวยวายเหมือนคนบ้าเสียสติอยู่ ส่วนลูกน้องนอนร้องโอดโอยเพราะว่าโดนยิงเข้าที่ขาบ้าง แขนบ้าง ลำตัวบ้าง
“แกเป็นยังไงบ้าง ฉันเป็นห่วงแกแทบแย่ ดีที่แกโทร. มาแถมยังแชร์โลเคชั่นมาหาฉัน ฉันเลยแจ้งตำรวจให้มาช่วยแกได้ทัน ไม่อย่างนั้นแกคงแย่ แกเก่งมาก แก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าได้ดีเชียว ตำรวจยังชม” ฤดีสำรวจเนื้อตัวของเพื่อน เห็นเพื่อนปลอดภัยก็โล่งใจ