เจ้าหนี้ซาตาล ตอนที่ 6

1482 คำ
เธอต้องไปบอกคุณนวลแขเรื่องนี้ เพื่อเรียกร้องความยุติธรรมให้กับตนเอง คนที่รังแกเธอ พอเสร็จสมอารมณ์หมาย ตื่นเช้าขึ้นมาก็หายหน้าหายตาไปไม่เหลียวแล เขาคงไม่คิดรับผิดชอบ ซึ่งเธอจะไม่ยอมเป็นอันขาด คิดได้ดังนั้นเธอก็เดินไปยังบ้านอีกหลังของคุณนวลแข ท่าเดินขัดๆ ทำให้เธอระลึกถึงร่องรอยความโหดร้ายเมื่อค่ำคืนที่ผ่านมา ร่างบางชะงักอยู่ตรงหน้าห้องอาหารเมื่อได้ยินคุณนวลแขกำลังสนทนาอยู่กับใครคนหนึ่งระหว่างรับประทานอาหาร เธอทำท่าจะถอยหลังหนีเพราะคิดว่าเป็นการเสียมารยาท แต่คนที่เธอจะมาหานั้นได้หันมาเห็นเสียก่อน “อ้าว... แม่ปัท ตื่นแล้วรึ” น้ำเสียงของคุณนวลแขดูไม่ยินดียินร้าย และชายหนุ่มอีกคนที่ร่วมรับประทานอาหารกับท่านก็หันมาด้วย ดวงตาคมกริบสบกับเธอจังๆ จนปิ่นปัทมาต้องหลบวูบ พลันแก้มสาวแดงระเรื่ออย่างไม่อาจห้ามได้ แม้จะไม่ได้จ้องมองเขานานนัก แต่ก็รู้ว่าคนตรงหน้านั้นเป็นคนรูปร่างหน้าตาดี หล่อเหลาหาตัวจับยาก แต่ใบหน้านั้นกลับเย็นชาเสียยิ่งกว่าอะไร “เอ่อ... ขออภัยค่ะ เดี๋ยวปัทออกไปรอข้างนอกนะคะ พอดีมีเรื่องจะคุยด้วย” เธอพูดเสียงตะกุกตะกัก ไม่รู้ทำไมถึงได้รู้สึกไม่มั่นใจขึ้นมาในตอนนี้ ทั้งๆ ที่ก่อนมาเธอรวบรวมแรงกายแรงใจมาอย่างเต็มเปี่ยม แต่พอมาเจอเขาเข้าจังๆ เธอก็ทำตัวไม่ถูกเอาเสียได้ “มาทานอาหารเช้าด้วยกันสิ เห็นหลานชายฉันบอกว่าเธอยังไม่ตื่นก็เลยไม่อยากกวน” คำพูดของคุณนวลแขทำให้ปิ่นปัทมาอื้ออึงไปหมด หลานชายของท่านบอกว่าเธอยังไม่ตื่น แสดงว่าเขาอาจจะไม่ได้บอกเล่าให้ท่านฟังเรื่องเมื่อคืน เขาต้องไม่บอกแน่ๆ เพราะเป็นเรื่องที่ตัวเองทำไม่ดีเอาไว้ ปิ่นปัทมาเงยหน้าขึ้นมองคนที่นั่งอยู่ด้านข้างของคุณนวลแข เธอรู้สึกว่าหน้าตัวเองร้อนเหมือนถูกไฟจี้ ได้แต่อึกอักทำอะไรไม่ถูก “แม่พุดกรองไปเอาจานมาเพิ่มสิ” คุณนวลแขหันไปสั่งสาวใช้ ปิ่นปัทมาได้แต่ยืนนิ่งทำอะไรไม่ถูก เธอไม่คิดว่าคุณนวลแขจะให้คนรับใช้อย่างเธอนั่งร่วมรับประทานอาหารด้วย ปกติดูท่านออกจะถือตัว แต่วันนี้มาแปลก กลับชวนเธอไปนั่งทานข้าวด้วยกัน “อ้าว... แม่ปัทมาสิ จะยืนอยู่ตรงนั้นหรือยังไง” เสียงของท่านดุนัก จนปิ่นปัทมาจำต้องเดินไปนั่งร่วมโต๊ะรับประทานอาหารด้วย เธอรู้สึกว่าเหมือนตัวเองน้ำท่วมปาก เหลือบมองคนตรงหน้าที่นั่งตรงข้ามกัน เขาแทบไม่สนใจเธอด้วยซ้ำ ใบหน้านั้นเย็นชาจนกระด้าง “เป็นยังไงพออยู่ได้ไหม” คุณนวลแขชวนคุยเมื่อเห็นว่าหญิงสาวผู้มาใหม่เอาแต่ก้มหน้าก้มตาคงจะไม่คุ้นชิน ท่านจึงไถ่ถามอย่างเป็นกันเอง “แม่ปัท!” “คะ!” ปิ่นปัทมาสะดุ้งใบหน้าเหลอหลา เธอเอาแต่ครุ่นคิดเรื่องที่กำลังจะแจ้งให้ท่านทราบ อีกทั้งไม่กล้าเงยหน้ามองคนที่นั่งตรงข้าม “เหม่อไปไหนแม่ปัท ฉันถามว่าพออยู่ได้ไหม แล้วจัดข้าวของเข้าห้องเรียบร้อยแล้วหรือยัง เมื่อวานลืมบอกว่าให้พักห้องใกล้ๆ กับตาเขมหลานชายของฉัน จะได้ไปมาหาสู่กันง่าย” คำพูดของท่านกินนัยน์ความหมายที่ทำให้ปิ่นปัทมาหน้าร้อนผ่าว นี่เธอกำลังเข้าใจอะไรผิดไปหรือเปล่า เธอมาทำงานเป็นคนรับใช้ไม่ใช่หรือ เหตุใดท่านจึงทำเหมือนจะยกเธอให้เป็นนางบำเรอของหลานชายท่านแบบนี้ “ไปมาหาสู่กันง่ายหมายความว่ายังไงคะ” ปิ่นปัทมาแทบสำลักข้าวที่ทานเข้าไป เธอยกน้ำขึ้นมาดื่มเพื่อให้อาหารผ่านลงคอ มองคนร่วมโต๊ะทั้งสองด้วยใบหน้าเหลอหลากว่าเดิม “อ้าว... ก็อยู่ห้องติดกันตาเขมจะได้เข้าห้องเธอได้สะดวกไง ตาเขมเขาไม่ชอบให้ใครไปนอนร่วมห้องหรอกนะ เขาอึดอัด” คุณนวลแขอธิบายมีสีหน้างุนงงอยู่เหมือนกัน สรุปว่าปิ่นปัทมาไม่เข้าใจหรือท่านพูดอะไรไม่กระจ่างอย่างนั้นเหรอ ไหนว่าคุยกันเรียบร้อยแล้ว “หมายความว่ายังไงคะ ก็ไหนน้ารัตบอกว่าให้ปัทมาเป็นคนใช้ และก็ช่วยทำบัญชีเล็กๆ น้อยๆ ให้ที่ไร่ของคุณนาย” ปิ่นปัทมาแทบไม่สนใจอาหารตรงหน้าอีกเลย เธอหันไปถามคุณนวลแขอย่างตกใจ แสดงว่าเรื่องที่เขมชาติรังแกเธอ ท่านก็รู้เห็นเป็นใจอย่างนั้นเหรอ “คนใช้อะไรกัน นี่แม่รัตไม่ได้บอกรึว่าฉันขอให้เธอมาเป็นเมียหลานชายฉัน” คุณนวลแขตกใจอยู่เหมือนกัน แต่ไม่มากนัก เพราะคาดการเอาไว้แล้วว่ารัตนาคงคิดไม่ซื่อกับหลานสาว แต่ไม่คิดว่าจะหลอกกันโดยที่เจ้าตัวไม่รู้เรื่องอะไรเลย ถึงยังไงเรื่องก็มาถึงขนาดนี้แล้ว ท่านก็ได้ปิ่นปัทมาสมใจ แถมเขมชาติก็ทำหน้าที่ของตัวเองเรียบร้อยแล้ว เมื่อคืนเขมชาติมานั่งคุยกับท่านจนดึก ท่านก็บอกไปแล้วว่าปิ่นปัทมารออยู่ที่บ้าน พอตื่นเช้ามาก็บอกว่าหญิงสาวนอนอยู่ ท่านก็เข้าใจทันทีว่าทุกอย่างเป็นอันเรียบร้อย “เมียเหรอคะ!!!” ปิ่นปัทมาลุกขึ้นจากเก้าอี้อย่างตกใจ ใบหน้าซีดเผือดมองคุณนวลแขด้วยอาการตกตะลึง เธอเผลอหันไปมองคนหน้านิ่งที่เลิกคิ้วมองเธออยู่ก่อนแล้ว รู้สึกว่าสติของเธอจะกระเจิง ต้องสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ เขมชาติรู้ดีว่าเธอไม่เต็มใจ เมื่อคืนเขาขืนใจเธอแถมยังไม่ยอมปล่อยทั้งคืน “น้ารัตบอกว่าให้ปัทมาเป็นคนใช้ทำงานใช้หนี้ แล้วคุณนายจะยอมคืนบ้านและที่ดินให้เรา แต่ทำไมเป็นแบบนี้ไปได้” ปิ่นปัทมาพูดระรัวปากคอสั้น “อ้าว... รัตนาโกหกเธอรึ!” นวลแขแกล้งตกใจ แม้ไม่ได้สมรู้ร่วมคิดกับรัตนา แต่ก็พอจะเดาออก จริงๆ ท่านก็คิดว่าปิ่นปัทมาตกลงปลงใจเสียอีก ทั้งๆ ที่อยากได้ผู้หญิงคนนี้มาผลิตทายาทให้ตระกูลของเธอ และดูแลเขมชาติชั่วคราว แต่ถ้ามาด้วยความไม่เต็มใจ เธอก็รู้สึกไม่ดีนักหรอก แม้อีกใจจะยินดีแค่ไหนก็ตาม เพราะตอนนี้ความผิดชอบชั่วดีกับความต้องการของตัวเองตีกันวุ่นไปหมด สุดท้ายคุณนวลแขกก็ปัดมันออกไปเพราะไหนๆ ก็มาถึงขึ้นนี้แล้ว “น้ารัตโกหกปัทเหรอคะ ทำไมเป็นแบบนี้ ตอนมาปัทน่าจะถามให้เข้าใจก่อน” ปิ่นปัทมารู้สึกว่าเธอแทบเป็นลมล้มทั้งยืน มารดาเลี้ยงหลอกให้เธอมาเสียตัวเพื่อปลดหนี้ให้กับครอบครัว หนี้ที่เธอไม่ได้ก่อ แถมยังโดนมัดมือชกเสียอีกด้วย การที่เธอจะยอมเป็นเมียของผู้ชายสักคน ผู้ชายคนนั้นต้องเป็นคนที่เธอรัก และเขาก็รักเธอ ไม่ใช่ผู้ชายหน้านิ่งที่ข่มเหงเธอเมื่อคืน แล้วตื่นขึ้นมาตอนเช้าก็ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เขาน่าจะรู้ว่าเธอไม่เต็มใจ ที่สำคัญเขาได้ความบริสุทธิ์ของเธอไปแล้ว แต่ไม่ได้เล็งเห็นคุณค่าของมันเพราะได้ไปง่ายๆ ใช้กำลังบังคับเอาไว้ โดยถือว่าตัวเองมีแรงกำลังมากกว่า “ใจเย็นๆ ก่อน ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้วนะ” “คุณนายหมายความว่ายังไงคะ!!!” “ผมขอตัวก่อนนะครับคุณป้า วันนี้มีงานหลายอย่างต้องเคลียร์” เขมชาติเอ่ยขอตัวกับผู้เป็นป้า ก่อนจะเดินออกไปจากห้องอาหาร เขาเฉยเมยไม่สนใจหญิงสาวที่ยืนหน้าซีดอยู่หน้าโต๊ะอาหารเลยสักนิด แต่ใครจะรู้ว่าเขมชาติเองก็ตกใจ เขาคิดว่าเธอรู้เรื่องนี้มาก่อนเสียอีก ไม่คิดว่าจะโดนหลอกมา ความรู้สึกผิดทำให้เขาทนฟังต่อไปไม่ไหว “มาถึงขั้นนี้แล้ว ยังไงหนูปัทก็เป็นเมียของตาเขมไปแล้ว มันแก้ไขอะไรไม่ได้ ถ้าหนูปัทกลับบ้านไปตอนนี้ หนี้สินทั้งหมดจะยังเหมือนเดิม ไม่มีการปลดหนี้อะไรทั้งสิ้น แต่ถ้าหนูปัทยอมอยู่ที่นี่ ฉันรับรองว่าจะคืนบ้านและที่ดินให้หนูแน่นอน” คุณนวลแขพูดเหมือนมัดมือชก คนได้เปรียบคือท่าน และลูกหนี้อย่างเธอไม่มีสิทธิ์เรียกร้อง อุธรหรือฎีกาอะไรทั้งสิ้น ปิ่นปัทมาเพิ่งเข้าใจว่าเจ้าหนี้หน้าเลือดหรือเจ้าหนี้ที่เค็มยิ่งกว่ามหาสมุทรเป็นยังไง
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม