บทที่ 10 เพราะเป็นเจ้าข้าจึงบอก

1234 คำ
"ข้า" ฮวาเย่ห์หยวนเงยหน้าขึ้น ครั้นมองเห็นใบหน้าบุรุษผู้นี้เต็มๆ ทำให้ต้องตกตะลึง ลมพัดใบไม้ปลิวว่อนรอบเท้าของคนทั้งสองกลีบดอกไม้สีชมพูลอยละล่องลงมา ภาพเบื้องหน้าคือบุรุษหนุ่มผู้งดงามใบหน้าหล่อเหลาปนอ่อนหวาน ผมสีเทาเงินเปล่งประกายปลิวพลิ้วไสวอยู่รอบใบหน้าคม ดวงตาของเขาเป็นเทาเงินเฉกเช่นสีของเส้นผมน่าค้นหาสว่างสดใสเจือด้วยความอบอุ่นอ่อนโยนดุจแสงตะวันที่สามารถดึงดูดให้ผู้คนโผเข้าสู่อ้อมกอดของเขาราวกับต้องมนต์ ความสูงของนางอยู่ในระดับหน้าอกของเขาทำให้ฮวาเย่ห์หยวนต้องแหงนเงยใบหน้าขึ้นมอง นางจ้องเขาอยู่เช่นนั้นโดยไม่อาจเอ่ยเอื้อนวาจาออกมาสักคำเพราะมัวแต่ตกตะลึง ดูเหมือนเขาจะกลั้นยิ้มแล้วเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล "เจ้าจะมองข้าไปอีกนานเท่าใด" ฮวาเย่ห์หยวนรู้ว่าวันนี้ช่างโชคดีนักที่มีหมวกคลุมหน้า หาไม่แล้วคงได้ทำให้ตนเองขายหน้าเมื่อนางรู้ดีว่าใบหน้าของนางร้อนผ่าวและคงแดงขนาดไหน นางเป็นเซียนได้ไม่กี่วันตบะเรื่องบุรุษเพศยังน้อยหากต้องตาผู้ใดนางยังแสดงออกตามสัญชาตญาณสัตว์เวทที่เปิดเผย สิ่งเหล่านี้แม้จะบรรลุเป็นเซียนก็ยังคงติดตัวนางมาหาได้เปลี่ยนแปลง เพราะเป็นเช่นนี้นางถึงได้ถูกส่งมาทำหน้าที่ยั่วยวนอย่างไรเล่า เขากระแอมเสียงดังเมื่อเห็นคนยังยืนนิ่ง "ว่าอย่างไรข้าถามเจ้าได้ยินหรือไม่" ครานี้เขายกนิ้วมาดีดเสียงดังด้านหน้านาง ฮวาเย่ห์หยวนถอยหลังไปหนึ่งก้าว นางกะพริบตาแล้วปรับอารมณ์ของตนเองให้คงที่ พยายามทำเสียงราบเรียบที่สุดก่อนเอ่ยว่า "ข้าไม่รู้ขอรับเพียงแต่เข้ามาในห้องหนึ่งในโรงน้ำชาหวังจะแสดงฝีมือเพื่อสมัครงานจู่ๆ ก็รู้สึกเหมือนตกลงจากที่สูงและโผล่มาที่นี่" ครานี้เขาเป็นฝ่ายเดินวนรอบร่างของนาง เขาเดินวนอยู่สามรอบสำรวจนางจนทั่วแล้วพยักหน้าเหมือนเข้าใจในบางสิ่ง "เจ้าไม่ใช่มนุษย์แต่เป็นเซียน เป็นเซียนที่ตบะสูงส่งเสียด้วย" เขาหรี่ตา "เจ้าจะโกหกข้าว่าไม่รู้ว่าเข้ามาที่นี่ได้อย่างไรหรือ" "เอ่อข้า ไม่รู้จริงๆ ขอรับ" "เจ้าเป็นสตรี" เขาเอ่ยต่อ ฮวาเย่ห์หยวนไม่อาจสัมผัสไอเซียนจากบุรุษผู้นี้ได้ เหตุใดเขาจึงสัมผัสตบะของนางได้กันนะ โลกภายนอกตำหนักทักษิณของเจ้าแม่คงมีอีกหลายสิ่งที่นางไม่รู้ ครั้นเห็นสายตารู้ทันของเขาแล้วก็ได้แต่ทอดถอนใจ นางไร้ซึ่งความสามารถในการปลอมตัวเสียจริงหากดึงดันไม่ยอมรับว่าตนเองเป็นสตรีเห็นทีว่าจะทำให้ตนเองขายหน้าผู้อื่นเปล่าๆ "ข้ายอมรับ" เมื่อโดนจับได้นางจึงเปิดหมวกออก ครานี้ดูเหมือนว่าผู้ที่ลมหายใจติดขัดจะกลายเป็นเขา เขาหยุดมองนางคล้ายตื่นตะลึงอยู่ชั่วครู่ "เพราะตบะของท่านเซียนกล้าแข็งเลยฝ่าข่ายอาคมของข้าเข้ามาได้เรื่องนี้ไม่แปลก แต่ที่แปลกคือท่านเซียนมาที่นี่ด้วยเรื่องใดปกติเซียนชั้นสูงนอกจากพวกที่องค์เง็กเซียนส่งมาทำสงครามกับจอมมารก็แทบไม่มีผู้ใดโผล่มาที่นี่" ดวงตาสีเทาเงินที่ตัดกับสีผมของเขามองนางราวกับคมมีด "ข้าหาใช่เซียนชั้นสูงไม่ อีกอย่างท่าทางของข้าท่านคงรู้ว่าเพิ่งได้ตบะเซียนมาไม่นาน" นางก้มหน้าบ่นอุบอิบ คนผู้นี้ดูเหมือนจะมองนางทะลุไปถึงเนื้อในจิ้งจอกเก้าหางแล้วกระมัง "แม้กระนั้นท่านก็ยังมีกลิ่นเซียนที่..หอม..ยิ่งนัก" เขามองนางด้วยดวงตาสดใสและจริงใจยิ่ง จริงใจจนทำให้นางไม่อาจกล่าวหาว่าคนผู้นี้กำลังล่วงเกินนางหรือไม่  ฮวาเย่ห์หยวนหน้าแดงแล้ว นางบิดมือไปมาด้วยไร้ซึ่งประสบการณ์ที่จะต่อกรกับบุรุษอีกทั้งเป็นบุรุษที่รูปงามเหนือผู้ใดอีกต่างหาก  "เอ้อ..ขอบคุณท่าน" เพียงนางเอ่ยคำขอบคุณออกมา คนผู้นี้ก็อมยิ้มในหน้าทำท่าเหมือนกำลังกลั้นหัวเราะ ฮวาเย่ห์หยวนสำรวจตนเอง นางทำสิ่งใดให้เขาขบขันเช่นนั้นหรือแต่ก็ไม่กล้าเอ่ยปากถามออกไป "แล้วท่านเล่า มีนามว่าอะไรข้าน้อยเสียมารยาทแล้วที่มารบกวนคุณชาย" น้ำเสียงของนางดูสุภาพลงมากด้วยตระหนักว่าตนเองเป็นฝ่ายล่วงล้ำเข้ามาภายในโดยไร้มารยาทเช่นนี้ "ข้าเสียมารยาทแล้ว ข้ามีนามว่าอาเซี่ยนเป็นเจ้าของโรงน้ำชาแห่งนี้ที่แห่งนี้เป็นห้องลับของข้าเองปกติไม่มีผู้ใดผ่านเข้ามาได้ท่านเซียนมีตบะแก่กล้านักถึงสามารถผ่านข่ายอาคมของข้าเข้ามาได้" เขาประสานมือค้อมกายลงอย่างนอบน้อม ใบหน้าอมยิ้มนั้นช่างหล่อเหลายิ่ง ฮวาเยห์หยวนรีบประสานมือรับค้อมกายตอบอย่างเกรงใจ คนผู้นี้สุภาพอ่อนโยนยิ่งท่วงท่าของเขาช่างงดงามราวกับกำลังร่ายรำอยู่ท่ามกลางท่วงทำนองอันไพเราะไม่ว่าจะขยับทำสิ่งใดล้วนน่ามองดึงดูดใจ "ท่านอาเซี่ยนเป็นข้าเองที่เสียมารยาท" นางกล่าวอุบอิบสติพลันล่องลอย เขาเงยหน้ามองนางส่งยิ้มน่ารักสดใสกลับมาให้ แล้วเอ่ยอย่างอ่อนโยน "เราสองคนขอโทษกันไปมาเห็นท่าว่าวันนี้คงได้ยืนอยู่เช่นนี้ ข้าขอเสียมารยาทถามนามของท่านเซียน" "ข้ามีนามว่าฮวาเย่ห์หยวน รบกวนท่านอาเซี่ยนแล้ว" เขายิ้มงดงามอบอุ่นมาให้นางอีกครั้ง ฮวาเย่ห์หยวนจึงยิ้มตอบ ทั้งคู่สนทนาอย่างถูกคอกันอยู่ชั่วครู่ เป็นเพราะกิริยาเป็นกันเองของเขาทำให้เซียนจิ้งจอกน้อยลดอาการประหม่าเมื่อพูดคุยกับเขาลงไปได้มาก ฮวาเย่ห์หยวนเล่าเรื่องที่นางต้องการสมัครงานให้เขาฟัง อาเซี่ยนรับปากตกลงรับนางโดยทันใด "ข้ายังไม่ได้แสดงฝีมือให้ท่านดูเลย" นางกล่าวพลางกินขนมดอกกุ้ยฮวาที่อาเซี่ยนนำมาให้อย่างเอร็ดอร่อย ใช่นางยอมรับว่าหิวมากหิวยิ่งนัก แม้จะดูไร้มารยาทของสตรีที่พึงมีแต่ความหิวนี้ทำให้นางลืมเรื่องพวกนั้นที่ตำหนักเจ้าแม่กวนอิมพร่ำสอนมาเสียสิ้น "ข้าจะรอชมวันแสดง หวังว่าท่านจะไม่ทำให้ข้าผิดหวัง" เขาหัวเราะเบาๆ เมื่อเห็นท่าทางหิวโหยของนาง ดูนางจะแตกต่างจากเซียนผู้อื่นอยู่มาก บริสุทธิ์สดใสนักแล้วเซียนน้อยเช่นนี้ออกมายังโลกที่เต็มไปด้วยปีศาจโดยไม่เกรงกลัวอันตรายได้อย่างไร เซียนเกิดใหม่ก็ประดุจทารกมีเนื้อที่เหล่าปีศาจโปรดปรานนัก แต่อาเซี่ยนก็หาได้ถามสิ่งใดเพื่อเป็นการล่วงเกินนางออกไป "เหตุใดท่านจึงจ้างคนหมุนเวียนกันไปเล่า" ฮวาเย่ห์หยวนถามอย่างสงสัย "เพราะเป็นท่านเซียนข้าถึงบอกหรอกนะ" อาเซี่ยนกระซิบเบาๆ ฮวาเย่ห์หยวนหูผึ่งตั้งใจฟังอย่างเต็มที่
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม