สัมผัสลูบไล้ไปตามผิวเนื้อ นำพาให้คนตัวเล็กที่กำลังหลับพริ้มครางฮือด้วยความไม่ชอบใจ ก่อนจะค่อยๆ ลืมตาตื่นเมื่อโดนรุกหนักขึ้น
อมันต์กำลังเคล้าคลึงอยู่บนร่างเปลือยเปล่าของเธอ...
“พี่อาร์ต...” เสียงพร่าขานเรียกชื่อเขา สองมือพยายามผลักไสแต่ก็ถูกจับรวบขึงไว้เหนือศีรษะ...
“วันนี้ไม่ต้องไปเรียนหรอกนะ” เขาว่า ขณะที่ริมฝีปากซุกไซ้ไปตามซอกคอระหง
“หนูท้องอยู่...”
“ไม่มีผลสักหน่อย...” เขาว่า และไม่ยอมหยุดการกระทำวาบหวามนั้น แม้เภตราจะดิ้นรนเพื่อให้รอดพ้นเงื้อมมือเขา แต่เมื่อถูกปลุกปั่นด้วยความช่ำชอง ร่างกายของเธอมันก็โอนอ่อนอย่างว่าง่าย ไร้เรี่ยวแรงจะขัดขืนต่อไป
ร่างเล็กบิดส่ายไปตามอารมณ์ ปล่อยทุกอย่างให้เป็นไปตามวิถี แม้จะแปลกใจอยู่บ้างว่าทำไมเช้านี้อมันต์ถึงได้มีความต้องการ ทั้งที่เมื่อรู้ว่าเธอท้องเขาก็ไม่เคยทำอะไรไปมากกว่ากอดและจูบ...
อาจเพราะก่อนหน้ามีเรื่องให้เครียดมากมายเกิดขึ้น และตอนนี้มันก็เริ่มผ่อนคลายลงบ้างแล้ว ทุกๆ อย่างกำลังจะผ่านไปด้วยดี
เภตราผ่อนคลายไปตามแรงเร้าอารมณ์ของเขา ยอมรับรสจูบหอมหวานที่ชายหนุ่มป้อนให้ แอ่นตัวรับสัมผัสจากมือใหญ่ที่คลึงเคล้าลูบละเลงไปทั่วทุกอณู
ชายหนุ่มแลกลิ้นอุ่นดูดดื่ม ก่อนจะผละริมฝีปากลงมาสำรวจเรื่อยลงมา สองมือโอบอุ้มเต้าอวบเต่งตึง ก่อนจะค่อยๆ ใช้จมูกสดดมและตวัดเลียปลายถันที่ชูช่อทีละข้าง ทำให้ร่างเล็กเผลอกดศีรษะเขาเข้าหาอย่างไม่รู้ตัว
สองขาขาวเรียวขยับกว้างปล่อยให้เขาแทรกซ้อนเข้ามา สัมผัสคุ้นเคย กลิ่นหอมละมุนเย้ายวนทุกความรู้สึก เภตราลุ่มหลงในรสาติที่เขาเพียรป้อนให้อย่างไม่ลืมหูลืมตา ลมหายใจกระเส่าพ่นสูดเอาอากาศเข้าปอดเหมือนกำลังเหนื่อยนักหนา ก่อนจะหวีดร้องเสียงหลงเมื่อจุดซ่อนเร้นถูกรุกเร้าด้วยเรียวลิ้นร้ายกาจ
เขายกสองขาให้ถ่างออกห่างกว่าเดิม ซุกใบหน้านัวเนียตรงใจกลางร่องชื้น ดูดกลืนความสาวสะพรั่ง ลิ้มรสความหอมหวานอย่างไม่รู้จักอิ่มเอม มือข้างหนึ่งลูบไล้เรียวขาลากนิ้วเรื่อยเข้ามาตรงส่วนที่กำลังฉกกิน แล้วสอดลึกเข้าไปจนสุด...
“พี่อาร์ต...” หญิงสาวครางชื่อเขาเสียงสั่น ในขณะที่เขายังบรรจงขยับก้านนิ้วอย่างไม่ปราณี ส่วนลิ้นก็เล้าเลียกลีบกุหลาบสีชมพูนั้นไม่มีผ่อนปรน
ในที่สุด...ร่างเล็กก็เกร็งตัวจนสุดแรง ก่อนจะผ่อนลงแล้วนอนหายใจหอบส่งเสียงแหบพร่ารวยริน
“พี่รักหนูนะเภตรา พี่ขอโทษ...” เขาว่า
หญิงสาวกลอกตามองเขาอย่างไม่เข้าใจนัก แต่ก็เดาว่าคงเพราะเขากำลังตื่นตัวเต็มที่ และอาจทำให้เธอเจ็บขณะท้องอยู่ก็เลยเอ่ยคำนั้นออกมา
“อ๊ะ!...” เภตราสะดุ้งเฮือกด้วยความไม่ตั้งตัว เมื่อเขาสอดแท่งสวาทเข้าหาแล้วกดจนสุดความลึกในคราเดียว แล้วก็เน้นย้ำอยู่อย่างนั้น....
“มันจะเจ็บนิดเดียว...พี่สัญญา” จากนั้นเขาก็ถอดถอนตัวตนผละห่าง ทำให้หญิงสาวมองอย่างไม่เข้าใจ สีหน้าของเขาไม่ค่อยดีนัก แต่ก็ยังฝืนยิ้มและโน้มตัวลงมากอดเธอ
“มีอะไรหรือเปล่าคะ พี่อาร์ตเป็นอะไร”
“เปล่า...แค่อยากกอดหนู วันนี้พี่จะคอยดูแลหนูเอง”
“ค่ะ” แม้จะยังรู้สึกฉงน แต่ก็ยิ้มแล้วพยักหน้าตอบรับ ชายหนุ่มลุกลงจากเตียงทั้งที่เปลือยเปล่าแล้วห่มผ้าให้กับเธอ
“พักผ่อนเยอะๆ นะคะ เดี๋ยวพี่ไปทำมื้อเช้าให้” เขาพูดขณะสวมชุดลำลองแล้วเดินออกไปจากห้อง
“...” เภตราถอนหายใจแรงอย่างไม่รู้สาเหตุ เธอยังรู้สึกอ่อนเพลียและขี้เกียจจึงคิดจะนอนต่อ เพราะไหนๆ วันนี้แฟนหนุ่มก็ชวนเธอโดดเรียนอยู่แล้ว
ไม่นานเท่าไหร่...หญิงสาวรู้สึกว่าเธอยังหลับไม่เต็มอิ่ม แต่ความเจ็บร้าวหน่วงๆ ที่บริเวณท้องก็ปลุกให้ตื่นโดยอัตโนมัติ ร่างเล็กลุกขึ้นแล้วมองไปที่นาฬิกาตรงหัวเตียง
เพิ่งจะเก้าโมงเท่านั้นแสดงว่าเธอเพิ่งหลับไปไม่ถึงครึ่งชั่วโมงด้วยซ้ำ แต่ความเจ็บแปลกๆ ก็ทำให้เธอนอนต่อไม่ไหว หญิงสาวตัดสินใจลุกขึ้นแล้วหาเสื้อคลุมใส่ลวกๆ ก่อนจะเดินงอตัวออกไปนอกห้องนอน เพื่อตามหา อมันต์
ซึ่งก็พบว่าเขานั่งก้มหน้าอยู่ตรงโต๊ะอาหาร เขานั่งนิ่งๆ ไม่มีอาหารหรือเครื่องดื่มใดๆ ทีวีก็ไม่ได้เปิด เมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าของเธอ เขาก็ค่อยๆ หันไปมองด้วยแววตาเฉยชา สีหน้าเรียบนิ่งอย่างที่เภตราไม่เคยเห็นมาก่อน
“เป็นอะไรหรือเปล่า...ทำไมไม่นอนพักล่ะ” เสียงทุ้มเอ่ยถาม
“หนูปวดท้อง...ไม่รู้เป็นอะไร มันปวดหนึบๆ หน่วงๆ ตรงนี้...” เธอจับตรงหน้าท้องน้อยตรงที่รู้สึกถึงความไม่ปกติ ชายหนุ่มก็ลุกขึ้นมาประคองเพื่อจะพาเธอกลับเข้าไปในห้องนอนดังเดิม
“เดี๋ยวก็ดีขึ้น...คงไม่เป็นไรหรอก” น้ำเสียงของเขาทุ้มเศร้า
“ไม่ค่ะ...เราไปโรงพยาบาลกันดีไหมคะ หนูรู้สึกไม่ดีเลย” นอกจากความเจ็บปวดแล้ว หัวใจของเธอก็ยังสั่นหวิวไม่เป็นจังหวะ ราวกับกำลังมีสัญญาณเตือนบางอย่างเกิดขึ้น
“ก็บอกว่าไม่เป็นไรไงเล่า...ทำไมไม่เชื่อที่พี่พูด” ชายหนุ่มพ่นลมหายใจแรง ดวงตาแข็งกร้าวกวาดมองเธอก่อนจะดันพาร่างบางไปนอนอย่างเดิม
“พี่อาร์ตเป็นอะไรคะ ทำไมต้องโกรธด้วย...”
“ไม่ได้โกรธ...พี่มีเรื่องให้ต้องคิดนิดหน่อย”
“เป็นเรื่องเกี่ยวกับที่หนูเจ็บท้องหรือเปล่า” เธอจ้องเขาเขม็ง หายใจแรงอย่างไม่อยากเชื่อในความคิดของตัวเอง แต่พฤติกรรมของเขา มันก็ชวนให้อดสงสัยไม่ได้จริงๆ
ไม่ให้เธอไปเรียน พยายามมีอะไรกับเธอทั้งที่ห่างเหินกันมานาน แต่เพียงกลับทำให้เธอบรรลุอยู่ฝ่ายเดียว ส่วนตัวเองก็หยุดเสียกลางคันอย่างไม่มีสาเหตุ แล้วตอนนี้ชายหนุ่มดูเครียดจนคุมอารมณ์ไม่อยู่ ซึ่งทุกอย่างเริ่มต้นขึ้นในตอนเช้าของวันนี้...
“...” ชายหนุ่มนิ่งแล้วรีบลุกขึ้นจากเตียง เขาสับสนและไม่อาจตอบคำถามเธอได้
“พี่อาร์ต...หมายความว่ายังไง” หญิงสาวคว้ามือเขาไว้ ในอกทั้งเจ็บทั้งจุกจนแทบเปล่งเสียงต่อไปอีกไม่ได้
“เราไม่มีทางเลือกเภตรา...” เขาพูดสั้นๆ โดยไม่ได้หันไปมองเธอ พลางกำมือแน่น
“พี่ทำอะไรกับหนู ทำอะไรกับลูกของเรา!” น้ำตาไหลพราก หูอื้อตาลายขึ้นมาทันทีเมื่อรับรู้ ว่าคนรักหนุ่มได้ทำการบางอย่างเพื่อจะกำจัดก้อนเนื้อน้อยๆ ในท้องของเธอ
“เภตรานี่! ฟังพี่นะ...พี่ทำทุกอย่างก็เพื่ออนาคตของเราสองคน”
“อนาคตของพี่คนเดียวสิ...เพราะถ้าไม่มีลูก เภตราก็จะไม่อยู่ต่อไปเหมือนกัน”
“มันไม่ได้แย่ขนาดนั้นหรอก ก็แค่ให้เราพร้อมกว่านี้” เขาหันกลับไปจับไหล่ของเธอแล้วพยายามปลอบ ในขณะที่หญิงสาวกำลังตื่นกลัว มือหนึ่งกุมท้องเอาไว้ อีกมือหนึ่งก็ปัดป่าย เธอกรีดร้องด้วยความบ้าคลั่ง
“พร้อมเหรอ! ลูกคนนี้เป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของพี่นะ พร้อมหรือไม่พร้อมเราก็มีแกแล้ว และมันไม่ใช่ความผิดที่เด็กบริสุทธิ์คนหนึ่งจะต้องมารับผิดชอบความมักง่ายของใคร”
“เราแก้ไขอะไรไม่ได้แล้ว...” เขาส่ายหน้า แววตาเต็มไปด้วยความสงสารหญิงสาวจับใจ เขาไม่ได้อยากทำแบบนี้หรอก หากมีทางอื่นให้เลือก
“พี่อาร์ตทำอะไรกับหนู...ทำอะไรบอกมาเดี๋ยวนี้นะ!” สองมือของเธอกระชากคอเสื้อ
“เมื่อกี้...พี่สอดยาขับเลือดเข้าไป แค่ไม่นานเภตรา...อีกแค่ไม่กี่ชั่วโมง”
“...” หญิงสาวถึงกับอึ้งและหมดแรงลงนั่งพร้อมกับลมหายใจที่แผ่วลง เหมือนใจจะขาด...
“ไม่ต้องกลัวนะ...ถ้าเภตราเจ็บมากๆ เราจะไปโรงพยาบาลกัน พี่จะไม่ปล่อยให้หนูเป็นอันตรายหรอก” ร่างใหญ่เข้าไปประคองหญิงสาวที่เต็มไปด้วยความเลื่อนลอย น้ำตาพรั่งพรูอาบแก้ม ก่อนจะปัดมือเขาออกจากตัวแล้วกรีดร้องเสียงดัง
“หมามันยังไม่ทำกับลูกมันแบบนี้...พี่มันเลวกว่าหมา!”
“เภตรา...ใจเย็นๆ ก่อน”
“ไม่ต้องมายุ่งกับฉัน...ไปให้พ้น! ออกไป” เรี่ยวแรงที่เหลือน้อยเต็มที ทั้งผลักทั้งดัน และปาข้าวของทุกอย่างใกล้ตัวใส่เขา ไม่รับฟัง ไม่สนใจอะไรทั้งนั้น
ความรู้สึกของเธอมันได้แหลกสลายไปหมดสิ้นแล้ว...
“ก็ได้พี่จะออกไปข้างนอก...แต่ถ้าหนูเจ็บมากๆ หนูต้องเรียกพี่นะ พี่เป็นห่วงหนูนะเภตรา”
“ไปตายซะ...ไอ้คนสารเลว” เธอปาผ้าห่มผืนใหญ่ที่เคยใช้ร่วมกันเพื่อให้ความอบอุ่นใส่เขา ก่อนที่ชายหนุ่มจะเดินคอตกเดินออกไปจากห้อง
เภตราทิ้งตัวลงนอนทั้งที่ขาสองข้างยังพับงอเข่า เธอไม่เหลืออะไรอีกแล้ว พ่อ แม่ ลูก...และคนที่ไว้ใจที่สุดในชีวิต
เธอจะไม่มีวันให้อภัยการกระทำของเขาในครั้งนี้ อมันต์...