มาตาวีมองเจ้าชายหนุ่มอย่างเจ็บแค้น นี่เขาไม่เห็นคุณค่าในความรักของเธอเลยหรือ เก้าเดือนที่อุ้มท้องลูกของเขา ผู้หญิงอย่างเธอไม่มีความหมายเลยหรือไร ทำไมถึงได้ใจร้ายต่อผู้หญิงที่รักเขาอย่างสุดหัวใจเช่นเธอได้
“อ่านดูซะ เธอจะรับหรือไม่รับมันก็เรื่องของเธอ”
“ทำไมแค่ห้าสิบล้านล่ะคะ ฉันขอไปหนึ่งร้อยล้าน” น้ำเสียงที่เคยหวานเปลี่ยนเป็นเสียงแหลม เมื่อเห็นยอดเงินในสัญญาไม่เป็นไปตามที่ต้องการ อยากได้อิสรภาพจากเธอ แค่เงินหนึ่งร้อยล้านขนหน้าแข้งไม่ร่วงหรอก ทำเป็นขี้เหนียวไปได้
“ฉันให้เธอได้แค่นี้แหละ”
“มันจะไม่น้อยไปหน่อยหรือคะ อิสรภาพของคุณกับลูก ฉันว่าหนึ่งร้อยล้านมันน้อยไปเสียด้วยซ้ำ ชีวิตฉันทั้งชีวิตที่คุณทำลาย” มาตาวีขยับกายลุกขึ้นนั่งพลางมองสบตาเจ้าชายหนุ่มอย่างแค้นใจ อยากได้อิสรภาพ เธอก็ให้แล้วไง แค่เงินหนึ่งร้อยล้านทำไมให้เธอไม่ได้
เจ้าชายคามิลทอดพระเนตรหญิงสาวที่กึ่งนั่งกึ่งนอนบนเตียงอย่างเย็นชา นี่หรือผู้หญิงที่เคยรู้สึกดีๆ ด้วย อยากรู้เหลือเกินว่าหัวใจของหล่อนทำด้วยอะไรถึงได้เรียกร้องได้มากมายถึงเพียงนี้ และนับว่าโชคดีที่พระองค์ไม่ได้รักหญิงนิสัยร้ายกาจและเห็นแก่เงินคนนี้
“ถ้าไม่พอใจก็ไม่ต้องเอา ฉันไม่ได้ห้ามเธอเสียหน่อยมาตาวี”
“แต่มันไม่ได้เป็นไปตามข้อตกลงที่เราตกลงกันเอาไว้”
“ที่ฉันเคยตกลงกับเธอก็คือคฤหาสน์หนึ่งหลัง รถหนึ่งคัน เงินสดอีกห้าสิบล้าน ถ้ามากกว่านี้ ฉันก็ไม่มีให้ ตอนแรกที่ฉันคิดก็คือ ทันทีที่เธอคลอด ฉันจะพาลูกชายของฉันกลับซาร์มาเนีย ส่วนเธอก็ส่งไปบรรณาการแก่ชีคแก่ๆ นอกด่านสักคน บางทีเธออาจจะชอบ”
มาตาวีมองเจ้าชายคามิลอย่างตื่นตระหนก หญิงสาวไม่คิดเลยว่าเจ้าชายหนุ่มพระองค์นี้จะโหดร้ายและเย็นชาต่อเธอได้ถึงเพียงนี้ ขนาดคิดจะส่งเธอไปเป็นนางฮาเร็มของชีคแก่ๆ แถวชายแดน หากเป็นแบบนั้นจริงๆ ก็เท่ากับว่าเธอตกนรกทั้งเป็นทีเดียว
“คุณมันร้ายกาจที่สุด เจ้าชายคามิล”
“นี่มันยังน้อยเกินไปด้วยซ้ำ กับสิ่งที่เธอทำลายความรักของฉัน”
เจ้าชายคามิลรับสั่งเสียงกร้าว ทอดพระเนตรหญิงสาวที่ทำให้พระองค์กับหญิงที่รักต้องเลิกรากัน แม้พระองค์จะมีส่วนผิดด้วยก็ตามเถอะ แต่เพราะความมักมากของผู้หญิงคนนี้ไม่ใช่หรือ ชีวิตของพระองค์ถึงได้เจ็บปวดและทรมานอยู่เช่นนี้
“เซ็นซะมาตาวีหรือเธอจะไม่เซ็นก็ได้นะ สำหรับฉันแล้วเธอจะเซ็นหรือไม่เซ็นมันก็ไม่ส่งผลอะไรกับฉัน”
มาตาวีกัดฟันกรอดก่อนจะก้มลงมองเอกสารในมืออย่างเคียดแค้น ตอนแรกคิดว่าสำเร็จแล้วเสียอีก แต่ทำไมเหตุการณ์ถึงได้กลายเป็นแบบนี้ไปได้ เงินหนึ่งร้อยล้านหายวับไปกับตา และถ้าเธอยังขืนดื้อรั้น มีหวังเงินอีกห้าสิบล้านพร้อมบ้านและรถก็จะหายไปอีกเช่นกัน
ทนายความเกรียงไกรยืนมองเจ้าชายหนุ่มกับหญิงสาวที่นั่งหน้าบิดเบี้ยวอยู่บนเตียงอย่างประหลาดใจ อีกคนต้องการอิสรภาพแต่อีกคนกลับอยากได้เงินและเงินที่กำลังถกเถียงกันอยู่ก็ไม่ใช่น้อยๆ เลย จากที่เคยเห็นใจและสงสารที่ต้องถูกพรากจากลูกเมื่อก่อนหน้านี้ พอได้ฟังและร่วมในเหตุการณ์ที่เจ้าชายคามิลยืนทะเลาะกับมาตาวีทำให้เขารู้สึกเห็นใจเจ้าชายหนุ่มผู้นี้มากขึ้นไปอีก
เพราะเท่าที่สังเกตมาตาวีหวังเพียงแต่เงินและอาจจะหวังถึงตำแหน่งเจ้าหญิงพระชายาอีกด้วย อยากรู้เหลือเกินว่าผู้หญิงที่เจ้าชายคามิลรักมีนิสัยเป็นอย่างไร
มาตาวีมองเอกสารในมืออีกครั้ง แล้วเซ็นชื่อลงไปในสัญญา จากนั้นก็ยื่นส่งคืนให้กับเจ้าชายคามิลด้วยความแค้นใจ จากที่รักมากก็กลายเป็นเกลียดมากและพาลโกรธแค้นไปถึงการะเกดด้วยที่ทำให้ความฝันของเธอพังทลาย ทั้งตำแหน่งเจ้าหญิงพระชายาและหญิงเดียวที่เจ้าชายหนุ่มแห่งซาร์มาเนียรัก
“คุณจะไม่ให้ฉันเห็นหน้าลูกหน่อยหรือคะ”
“อย่าเลยมาตาวี ฉันว่าเธอสนใจเงินมากกว่าลูกเสียอีก เพราะตั้งแต่เธอฟื้น ฉันยังไม่เห็นเธอถามถึงลูกสักคำเลย แล้วจะมาถามทำไมตอนนี้”
“แต่ยังไงฉันก็เป็นแม่ของลูกคุณ จะให้ฉันเห็นหน้าลูกเป็นครั้งสุดท้ายไม่ได้เชียวหรือ”
“ฉันว่าเธออย่าเจอลูกแหละดีแล้ว นี่คือบัญชีที่ฉันเปิดให้เธอพร้อมกับเงินห้าสิบล้าน และหวังว่าชาตินี้เธอกับฉันคงไม่ต้องมาเจอะเจอกันอีกมาตาวี”
เจ้าชายคามิลรับสั่งอย่างชิงชัง ผู้หญิงที่เห็นแก่เงินและมีแต่ความทะเยอทะยาน ไม่เหมาะที่จะเป็นเมียของใครหรอก พระองค์ทอดพระเนตรใบหน้าสวยอย่างเย็นชา ยิ่งเห็นสายตาที่หล่อนมองจำนวนตัวเลขในบัญชีก็ยิ่งรังเกียจ ผู้หญิงคนนี้ไม่เหมาะเลยจริงๆ ที่จะเป็นแม่ของลูกพระองค์
“ขอบใจคุณทนายมากที่คอยช่วยเหลือเรื่องเอกสารให้เรา”
“มิได้กระหม่อม มันเป็นหน้าที่ที่กระหม่อมสมควรที่จะทำ”
“ถ้าอย่างนั้นเราขอตัวก่อน เดี๋ยวจะไม่ทันเครื่อง” เจ้าชายหนุ่มรับสั่งกับทนายความเกรียงไกร ก่อนจะหันมาทอดพระเนตรอดีตแม่ของลูกเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนจะเดินออกจากห้องพักฟื้นสุดหรูที่พระองค์จองเอาไว้ให้มาตาวีพักฟื้นหลังคลอด
“ถ้าอย่างนั้นผมก็ต้องขอตัวเหมือนกัน ยังมีงานที่ต้องทำอีกเยอะ” ทนายความเกรียงไกรหันมาเอ่ยกับคนไข้สาวที่กึ่งนั่งกึ่งนอนมองเงินในบัญชีธนาคารอย่างไม่ค่อยจะพอใจเท่าไรนัก
หากเขาเป็นผู้หญิงคนนี้เขาจะไม่ทำแบบนี้เด็ดขาด แม้เจ้าชายคามิลจะไม่ต้องการหล่อน ก็ไม่เห็นต้องยื่นข้อเสนอในการตัดสินปัญหาด้วยวิธีนี้เลยด้วย
‘คุณนี่มันเป็นผู้หญิงที่โง่ชะมัด’
//////////
อีกด้านหนึ่งของเมืองเชียงใหม่...
การะเกดกำลังเก็บของใส่กระเป๋าเมื่อถึงเวลาเลิกงาน หลังจากที่พวกเธอต้องไปช่วยสอนนักศึกษาปีหนึ่ง เนื่องจากอาจารย์ที่สอนวิชาบัญชีเกิดอุบัติเหตุโดนรถชนเมื่อสองวันก่อน ดังนั้นเธอจึงต้องไปสอนแทน จะว่าสอนก็ไม่ใช่ น่าจะบอกว่าเธอไปนั่งคุมนักศึกษาให้ทำงานที่อาจารย์ประจำวิชานี้โทรฯ มาสั่งเสียมากกว่า
“เก็บของเสร็จหรือยังลูกเกด”
น้ำเสียงหวานใสพร้อมกับร่างบอบบางในชุดสีฟ้าเดินเข้ามาหยุดอยู่ที่ประตู ใบหน้าคมสวยระบายไปด้วยรอยยิ้ม แม้ในใจจะเหนื่อยล้าก็ตาม แต่ก็ไม่อยากให้เพื่อนสนิทเป็นห่วง หากรู้ว่าเกิดเรื่องอะไรกับเธอบ้าง หลังจากที่เธอต้องกลับไปอยู่ที่บ้านวิโรจนวิศิษฐ์
“เกือบเสร็จแล้วจ้า ปานล่ะ ทำไมวันนี้มาเร็วจัง”
“เร็วที่ไหนลูกเกด นี่มันห้าโมงเย็นแล้วนะ”
“นั่นสิเนอะ สงสัยลูกเกดมัวแต่ทำเอกสารที่จะให้นักศึกษาทำพรุ่งนี้เพลินไปหน่อย”
“วันนี้นักศึกษาที่ลูกเกดเข้าไปคุมเป็นยังไงบ้าง”
“จะเป็นอะไรเสียอีก คิดแล้วเซ็งเลย”
การะเกดพูดพลางนึกไปถึงลูกศิษย์จอมกวนประสาท ที่เดินมาขอเบอร์โทรศัพท์เธอต่อหน้านักศึกษาเกือบหกสิบคนที่นั่งอยู่ในห้อง
“ทำไมเหรอ? อย่าบอกนะว่าลูกศิษย์มาจีบลูกเกดน่ะ”
“ถามถูกเลยปาน ลูกเกดถูกลูกศิษย์จีบจริงๆ”
“แต่ว่าจะเป็นลูกศิษย์ก็ไม่ได้นะลูกเกด ตอนนี้ลูกเกดยังเป็นแค่ผู้ช่วยอาจารย์จินตนาเท่านั้น การที่นักศึกษาชายคนนั้นจีบลูกเกดก็ถือว่าไม่ผิด”
“ผิดสิ...ทำไมจะไม่ผิด”
เสียงที่ดังขึ้น หาใช่เสียงของการะเกด หากแต่เป็นเสียงของชายหนุ่มที่ปานไพลินไม่อยากเจอที่สุด แต่ไม่ว่าจะหลบหลีกยังไงก็ไม่มีทางหลบพ้นเสียที
/////////////
...โปรดติดตามตอนต่อไป...