บทที่ 4 งานพิเศษ...ทำไมต้องเจอ?2

1354 คำ
“ค่ะพี่ หนามพร้อมแล้ว” เสียงสดใสพร้อมวิ่งขึ้นเวทีเพื่อประจำตำแหน่ง ทิ้งความเจ็บปวดเอาไว้เบื้องหลังชั่วคราวเพื่อทำหน้าที่เลี้ยงปากเลี้ยงท้องของตัวเองต่อไป ไฟบริเวณหน้าเวทีดับลง เป็นสัญญาณให้นักท่องราตรีรู้ว่าขณะนี้ ความสนุกสนานกำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว “กรี๊ดดดดดด” บรรดาแฟนเพลงสาว ๆ ต่างส่งเสียงกรีดร้องพร้อมกันเมื่อไฟสว่างขึ้น พร้อม ๆ กับเหล่านักร้องนักดนตรีที่ตนชื่นชอบ “พี่หนาม! พี่หนาม! กรี๊ดดด” เสียงร้องแสดงความดีใจอย่างเห็นได้ชัดจากสาว ๆ ด้านล่าง ส่งผลให้มือกีตาร์สาวมาดเท่ห์ต้องยกมือขึ้นเพื่อทักทายแฟน ๆ ที่คุ้นหน้าคุ้นตากันดี เสียงเพลงและความสนุกสนานยังคงดำเนินไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งล่วงเข้าวันใหม่ ผู้คนเริ่มบางตาลงไปมากเนื่องจากใกล้เวลาปิดแล้ว หนุ่มสาวนักเที่ยวที่ยังอยากสนุกกันต่อ เริ่มสั่งเช็คบิลเพื่อออกไปหาสถานบันเทิงแห่งใหม่ นักดนตรีที่เพิ่งจบการแสดงลงเมื่อครู่ เริ่มทยอยลงจากเวที แต่เสียงใสที่ดังใกล้เข้ามาทำให้มือกีตาร์ประจำวงต้องหยุดชะงัก “พี่หนามคะ ขอถ่ายรูปหน่อยค่ะ ” แฟนคลับเจ้าประจำเดินตรงเข้าประชิดตัวมือกีตาร์คนเก่งประจำวง “สวัสดีค่ะ วันนี้มากันหลายคนเลยนะคะ” เอ่ยทักทายด้วยความคุ้ยเคยเนื่องจากแฟนคลับกลุ่มนี้ ติดตามกันมาตั้งแต่วันแรกที่เธอเข้ามาเล่นดนตรีที่นี่ “วันนี้วันเกิดค่ะ เลยพาเพื่อน ๆ มาเลี้ยงกัน พี่หนามยิ้มหน่อยค่ะ” กลุ่มแฟนคลับวัยใส เริ่มตั้งท่าถ่ายรูปเก็บไว้เป็นที่ระลึก บางคนที่เคยมาครั้งแรกถึงกับหยิบปากกาขึ้นมาขอลายเซ็น “ขอบคุณนะคะ ขอให้มีความสุขมาก ๆ ค่ะ แล้วก็อย่าลืมมาเที่ยวที่นี่อีกนะคะ” อวยพรวันเกิดให้กับแฟนคลับที่ยืนยิ้มตาเป็นประกายอยู่ข้างตัว ด้วยคำพูดที่ฟังดูเรียบง่ายแต่แฝงไปด้วยความจริงใจจากเจ้าตัว มือเรียวข้างหนึ่งยกขึ้นเสยผมหน้าม้าที่ร่วงลงมาปิดหน้าปิดตา เรียกเสียงกรีดจากสาววัยรุ่นที่ยืนล้อมอยู่รอบกายได้อีกรอบอย่างช่วยไม่ได้ “ขอบคุณค่ะพี่หนาม” ไม่พูดเปล่า ยังยื่นหน้าเข้ามาใกล้แล้วหอมแก้มเจ้าของคำอวยพร เพื่อเป็นของขวัญวันเกิดให้กับตัวเอง จนเกิดเสียงวี๊ดว๊ายจากบรรดาเพื่อน ๆ ที่ยืนทำตาหวาน ยกมือขึ้นปิดปากกระทืบเท้าเร่า ๆ บิดตัวอายม้วนราวกับกำลังยืนดูฉากสวีทหวานของดาราคนโปรด “เอ่อ...พี่ขอตัวก่อนนะคะ พรุ่งนี้มีเรียนแต่เช้าน่ะค่ะ” ด้วยความตกใจที่โดนจู่โจมแบบไม่ทันตั้งตัว ทำให้น่านนรีออกอาการหน้าแดงเป็นลูกตำลึงสุกเพราะตั้งแต่เล่นดนตรีที่นี่มาเป็นเวลากว่าสามปี ก็เพิ่งจะโดนแฟนคลับถึงเนื้อถึงตัวขนาดนี้เป็นครั้งแรก ส่วนเจ้าของวันเกิดก็ออกอาการเขินไม่แพ้กัน ยืนบิดตัวเอียงอายจนเพื่อน ๆ ต้องรีบลากออกไป แถมยังส่งเสียงแซวกันไปตลอดทาง “เฮ้อ....” ถอนหายใจออกมากับพฤติกรรมของเด็กสมัยนี้ ถึงแม้จะเห็นบ่อยเพราะอยู่ในสถานที่แบบนี้ แต่เธอก็ยังไม่ค่อยชินเท่าไหร่นัก แถมยังเป็นผู้หญิงด้วยกันอีก คิดแล้วขนในกายก็พร้อมใจกันลุกพึ่บพั่บให้เจ้าตัวได้สยองขึ้นไปอีก น่านนรีไม่เคยดูถูกความรักในทุกรูปแบบ เพราะทั้งชีวิตของเธอ มีความรักของยายคอยช่วยหล่อเลี้ยง เยียวยาบาดแผลในวัยเยาว์ ถึงแม้จะเป็นเพียงความรักเดียว จากคนคนเดียว มันก็สามารถทำให้เธอมีชีวิตอยู่ได้มาจนทุกวันนี้ เพียงแค่นึกถึงใบหน้าเหี่ยวย่นของผู้เป็นยาย มือบางไร้เรี่ยวแรงยามใช้ลูบคลำแก้มบวมช้ำจากน้ำมือของแม่ผู้ให้กำเนิด คำพูดสั่นเครือที่ใช้ปลอบโยนยามเด็กหญิงน่านนรีวิ่งเข้าไปซบบนตักแล้วร้องไห้สะอึกสะอื้น เมื่อผู้หญิงสวยใจร้าย ผู้ที่ได้ชื่อว่าแม่ ตะโกนใส่หน้าว่า “นังหนามยอกอก”... น่านนรีสะบัดศีรษะเล็กไปมาอยู่หลายครั้ง เพื่อสลัดภาพความทรงจำในอดีต หัวใจดวงน้อยหน่วงหนักราวกับมีใครเอาหินก้อนใหญ่มามัดติดเอาไว้ สองมือเรียวยกขึ้นขยี้ผมตัวเองจนแทบไม่เป็นทรงก่อนจะเดินไปเข้าห้องน้ำเพื่อใช้ความสะอาดของมัน ชะล้างสิ่งสกปรกที่อยู่ในใจให้มันหลุดออกไปเสียที ภายในห้องกระจกบนชั้นสองของสถานบันเทิงหรูแห่งนี้ ชายหนุ่มเจ้าของดวงตาสีเขียวมรกต กำลังนั่งมองลงมาด้านล่าง ซึ่งตอนนี้กำลังมีการแจกลายเซ็น และถ่ายรูประหว่างแฟนคลับสาวสวยกับนักดนตรีสาวหล่อที่มองดูแล้วรู้สึกคุ้นตายังไงบอกไม่ถูก พยายามนึกเท่าไหร่ก็นึกไม่ออก ว่าเจ้าของร่างเล็กที่ยืนอยู่ท่ามกลางแฟนคลับคนนั้นเคยเห็นที่ไหนมาก่อนหรือไม่ “ไง! ท่านประธานใหญ่ รู้สึกเป็นเกียรติมากครับที่ได้ต้อนรับท่าน” คนมาใหม่เอ่ยทักทายด้วยถ้อยคำล้อเลียนหนุ่มหน้าดุ พร้อมเข้ามาสวมกอดร่างสูงที่ลุกขึ้นทักทายเพื่อนสนิทที่ไม่ค่อยได้เจอกันบ่อยนัก “สวัสดีครับ ซูซาน” ภาษาอังกฤษสำเนียงไม่ต่างจากเจ้าของภาษาถูกส่งมาทักทายนางแบบสาวข้างกายผู้ที่ถูกเรียกว่าท่านประธานใหญ่ แล้วหันมาทิ้งตัวลงนั่งโซฟาเดี่ยวข้าง ๆ เพื่อนรัก “นายได้คุยกับไอ้มาร์คหรือยัง มันบอกช่วงนี้คงไม่ว่างมาดูงานนะ คาสิโนที่ฝรั่งเศสของมันกำลังมีปัญหา ต้องอยู่จัดการอีกพักใหญ่เลย” หันมาพูดคุยกับหนุ่มหน้าเข้มที่กำลังให้ความสนใจกับบรรดาสาว ๆ ด้านล่าง โดยไม่สนใจร่างระหงที่นั่งเบียดกระแซะอยู่ข้างกายสักเท่าไหร่ “และฉันเอง คงไปดูบ่อย ๆ ไม่ได้เหมือนกัน ก็อย่างที่รู้แหละ พ่อฉันอาการไม่ค่อยดี ไม่อยากทิ้งไปไหน” เนื่องจากตกลงกันไว้แต่แรกว่า ภาทิศจะเป็นคนดูแลโปรเจ็คที่กำลังกล่าวถึงเนื่องจากเป็นคนไทยร้อยเปอร์เซ็น ไม่ได้ถือสัญชาติอื่นเหมือนหุ้นส่วนอีกสองคนที่เหลือ ทำให้เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่และเพื่อนอีกสองคนก็มีธุรกิจและใช้ชีวิตส่วนใหญ่อยู่ที่ต่างประเทศทั้งคู่จึงไม่สะดวกหากต้องเทียวไปเทียวมาเพื่อควบคุมโครงการด้วยตัวเอง “ช่วงนี้ฉันยังอยู่เมืองไทยอีกหลายวัน นายไม่ต้องห่วง จัดการปัญหานายก่อนเถอะ” เจ้าของดวงตาสีเขียวมรกตละจากภาพความสนุกสนานเบื้องล่าง หันมาพูดคุยกับเจ้าของสถานที่ด้วยท่วงท่าผ่อนคลาย และตอนนี้ข้างกายมีสาวเซ็กซี่คอยคลอเคลียไม่ห่างกายอีกทั้งมือเรียวที่กำลังเรียกร้องความสนใจของเขาด้วยการเลื้อยไปตามสาบเสื้อที่ถูกหล่อนค่อย ๆ จับแยกออกตั้งแต่ตอนไหน เขาก็ไม่ทันมอง นางแบบสาวนามว่าซูซาน เพิ่งเดินทางมาถึงเมื่อช่วงบ่ายของวันนี้ หลังจากเสร็จงานเดินแบบที่แอลเอ ถึงแม้ว่าจะกะทันหันไปสักหน่อย เพราะผู้จัดการส่วนตัวของเธอ เพิ่งได้รับโทรศัพท์สายด่วนจากเลขาฯ คนสนิทของ อัลเฟรโดร ฌองค์คอลนูเอล มาเวลราจ ก่อนเธอจะขึ้นเดินแบบแค่เพียงไม่กี่นาทีเท่านั้น และแน่นอนไม่มีผู้หญิงคนไหนกล้าปฏิเสธได้เพราะแค่ได้ยินชื่อ “มาเวลราจ” ใคร ๆ ต่างรู้กันดีว่าการได้ขึ้นเตียงกับนายใหญ่แห่งมาเวลราจนั้น ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เพราะผู้หญิงมากมายแทบจะตบตีกันเพื่อขอแค่สักครั้งหนึ่งในชีวิตที่จะได้โอกาสแสนพิเศษนี้ ในเมื่อตอนนี้โอกาสตกมาอยู่ในมือเธอแล้ว คงจะโง่น่าดูถ้าปล่อยให้ชายหนุ่มที่ทั้งหล่อ รวย แสนเพอร์เฟคตรงหน้าหลุดมือไป
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม