บทที่ 4 งานพิเศษ...ทำไมต้องเจอ?3

1404 คำ
ใคร ๆ ต่างรู้กันดีว่าการได้ขึ้นเตียงกับนายใหญ่แห่งมาเวลราจนั้น ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เพราะผู้หญิงมากมายแทบจะตบตีกันเพื่อขอแค่สักครั้งหนึ่งในชีวิตที่จะได้โอกาสแสนพิเศษนี้ ในเมื่อตอนนี้โอกาสตกมาอยู่ในมือเธอแล้ว คงจะโง่น่าดูถ้าปล่อยให้ชายหนุ่มที่ทั้งหล่อ รวย แสนเพอร์เฟคตรงหน้าหลุดมือไป บุรุษร่างสูงใหญ่เชื้อสายไทยอเมริกันฮ่องกง เจ้าของสถานที่เดินมาหยุดมองลงไปเบื้องล่างเพื่อตรวจตราความเรียบร้อย แล้วหันกลับไปยังโต๊ะทำงานกลางห้อง เดินผ่านหนุ่มสาวที่กำลังคลอเคลียกันอยู่บนโซฟา อย่างเป็นเรื่องปกติธรรมดาสำหรับฉากแสดงความเร่าร้อนของเพื่อนหนุ่ม สะโพกงอนงามเบียดกระแซะแทบจะขึ้นไปเกยอยู่บนตัวชายหนุ่มที่กำลังเพลิดเพลินกับสัมผัสเร่าร้อนของมือเรียวที่กำลังลูบไล้ไปบนแผงอกแกร่งและมัดกล้ามแน่นตึง ใบหน้าสวยเงยขึ้นเผยอริมฝีปากเคลือบลิปสติกสีแดงสดขึ้นขมเม้มไปบนแก้มสากที่มีไรเคราจางๆ “อืม....” เสียงทุ้มลากลึกในลำคออย่างถูกใจ เมื่อมือเรียวข้างหนึ่งกำลังพยายามจะรูดซิบกางเกงของเขา และมันก็ไม่ใช่เรื่องยากสำหรับมืออาชีพอย่างซูซาน “อูว....” นางแบบสาวครางเสียงพร่าเมื่อได้สัมผัสกับความแข็งขึงที่ซุกซ่อนอยู่กลางซอกขาแกร่ง แต่เสียงประตูที่เปิดออกพร้อมกับเสียงเล็ก ๆ ที่ตะโกนเข้ามาก่อนตัว ก็ทำให้ทั้งสองร่างบนโซฟาชะงักกึก “พี่พีทคะ! หนามจะกลับแล้วนะค...” เสียงตะโกนดังแว่วมาก่อนที่เจ้าตัวจะยื่นใบหน้าหวานเข้ามาสะดุดกับฉากเลิฟซีนที่กำลังทวีความร้อนแรงขึ้นเรื่อย ๆ ภายในห้องทำงานเจ้านายหนุ่ม “ขอโทษค่ะ! หนามไม่ทราบว่าพี่พีทมีแขก งั้นหนามกลับก่อนนะคะ ตามสบายเลยค่ะ” ดวงตากลมเบิกกว้าง รีบหันหน้ากลับไปมองทางอื่นทันที ภาพมือแกร่งที่เกาะอยู่บนทรวงอกขาวผ่องติดแน่นอยู่ในความทรงจำของเธออย่างช่วยไม่ได้เลยจริง ๆ แถมยังมือเรียวที่...เอ่อ...เป้า...กางเกง...ทำไม่ต้องมาเจอเรื่องแบบนี้นะยัยหนามเอ้ยยยยย! “อ่อ...เอ่อ ได้ ๆ แล้วจะกลับยังไงล่ะ เดี๋ยวพี่ไปส่ง มันดึกมากแล้ว พรุ่งนี้มีเรียนเช้าไม่ใช่เหรอ” เจ้าของห้องที่เพิ่งจะเรียกสติตัวเองกลับมาได้ รีบเอ่ยบอก เพราะลืมไปว่าเมื่อเลิกงาน น่านนรีต้องขึ้นมาบอกลาทุกครั้ง ‘ไม่น่าปล่อยไอ้เพื่อนเวรนี่มันเล่นหนังสดเลย อย่างนี้ลูกน้องเขาก็เอาไปนินทาแย่เลย’ แอบบ่นในใจถึงความไม่ระวังตัวของเพื่อนหนุ่มและคู่ควง พลางก็นึกเห็นใจน่านนรีที่ต้องมาเจอภาพที่มันไม่ค่อยเหมาะสมเท่าใดนัก “เฮ้ยอัล! เดี๋ยวฉันไปส่งหนามก่อนนะ แกจะกลับเลยไหม” หันมาถามเป็นเชิงไล่ให้กลับเร็ว ๆ พลางลุกขึ้นเต็มความสูง เดินอ้อมโต๊ะทำงานมาหยุดตรงหน้าหนุ่มสาวที่กำลังนัวเนียกันอยู่ “เดี๋ยวหนามกลับเองได้ค่ะ พี่พีทมีแขกนี่คะ” เสียงเล็กรีบเอ่ยขึ้นเมื่อหันไปสบดวงตาคมที่ยังคงนั่งอยู่บนโซฟา และก็ต้องแปลกใจอีกครั้งเมื่อจำเจ้าของดวงตาคมคู่นี้ได้ “เอ่อ...สวัสดีอีกครั้งค่ะ มาเที่ยวเหรอคะ” เอ่ยทักอย่างเสียไม่ได้ ทักทายเสร็จก็รีบเบือนหน้าร้อนผ่าวหนีจากความอุจาดตาทันที “อืม” ตอบออกไปสั้น ๆ เนื่องจากเขาก็ตกใจเหมือนกันที่เห็นยัยเด็กสกปรกที่นี่อีกเป็นครั้งที่สองของวัน “อ้าว! รู้จักกันด้วยเหรอ” เจ้าของร้านหนุ่มเอ่ยถามด้วยความแปลกใจ เพราะเพื่อนเขาเพิ่งจะมาเมืองไทยแค่ไม่กี่วัน “เจอที่บริษัท เมื่อเช้าน่ะ” หันไปบอกเจ้าของห้องที่กำลังเตรียมเก็บของ เพื่อออกไปส่งหญิงสาวร่างเล็กที่ยังยืนหน้าแดงอยู่ตรงประตู “ฉันก็จะกลับแล้วเหมือนกัน ออกไปพร้อมกันเลยล่ะกัน” อัลเฟรโดร บอกเพื่อนด้วยน้ำเสียงหงุดหงิดที่ถูกขัดจังหวะ แถมสายตาที่ยัยเด็กนั่นมองมา ยังทำให้เขารู้สึกราวกับถูกตำหนิอย่างไรบอกไม่ถูก “เมื่อกี้นายบอกจะรีบไปไม่ใช่เหรอ เด็กนายบ้านอยู่แถวไหน เดี๋ยวฉันไปส่งให้ก็ได้” “ได้ยังไงคะ? ก็ไหนคุณบอกจะกลับโรงแรมเลยนี่คะ” นางแบบสาวตวัดเสียงถามด้วยความไม่พอใจ เพราะถ้าต้องไปส่งยัยเด็กนั่น ก็หมายถึงช่วงเวลาแสนเร่าร้อนที่ตนวางแผนเตรียมตัวมาอย่างดีต้องถูกเลื่อนออกไปอีก “ถ้าอยากกลับก่อนก็ได้นะ เดี๋ยวฉันให้จอห์นไปส่ง” หันมาส่งสายตาดุใส่นางแบบสาวด้วยความไม่พอใจ เมื่ออีกฝ่ายกล้าขึ้นเสียงใส่เขาต่อหน้าคนอื่น “เอ่อ...ขอโทษค่ะ ซูซานไม่ได้ตั้งใจ” เสียงตะกุกตะกัก เพราะรู้ตัวว่าเผลอแสดงกิริยาที่อีกฝ่ายไม่ชอบ แค่เผลอขึ้นเสียงนิดหน่อยเท่านั้นเอง ถึงขนาดต้องมองกันเหมือนเธอไปฆ่าใครตายอย่างนั้นแหละ ‘ห้ามขัดคำสั่ง ถ้าไม่อยากลงไปนอนเป็นอาหารปลาในทะเล!’ คำพูดแนะนำของเพื่อนนางแบบด้วยกันผุดเข้ามาในสมองอย่างกะทันหัน พาลให้ขนแขนลุกชันอย่างหวาดกลัวแล้วพยายามบอกตัวเองให้อยู่เฉย ๆ เป็นดีที่สุด “พีท นายกลับไปก่อน เด็กนี่เดี๋ยวฉันไปส่งเอง” “ไม่เป็นไรค่ะ หนามกลับเองได้ ไม่รบกวนดีกว่าค่ะ” เอ่ยจบก็หันหลังเตรียมก้าวออกจากห้อง แต่ก็ต้องสะดุ้งตกใจเมื่อรู้สึกถึงแรงบีบไม่เบานักที่ข้อมือเล็ก “จะไปส่ง! อย่าเรื่องมาก” เอ่ยจบก็จูงกึ่งลากร่างเล็กที่กำลังยืนตะลึง อ้าปากค้าง ประมวลผลคำพูดจากปากคนหน้าดุจนคิ้วเรียวขมวดมุ่น พลางรีบซอยเท้าเดินลงบันไดลงมาจากชั้นสองของสถานบันเทิงหรูด้วยอาการกึ่งเดินกึ่งวิ่ง เพราะคนตัวสูงที่เดินอยู่ข้างหน้านั้นแค่ก้าวเดินเพียงก้าวเดียวก็เท่ากับเธอต้องก้าวถึงสามก้าวเชียว คนอะไรจะขายาวได้ขนาดนั้นนะ แล้วนี่พี่พีทไม่คิดจะช่วยกันเลยหรือยังไงกัน “พี่พีท!...ช่วยหน่อยสิ หนูไม่รู้จักเขาเลยนะ อยู่ดี ๆ ปล่อยให้ใครก็ไม่รู้ มาลากลูกน้องตัวเองแบบนี้ได้ยังไง” ตะโกนหาตัวช่วย ที่ยังคงยืนตะลึงมองการกระทำของเพื่อนรักอย่างไม่เข้าใจ แล้วดูหน้าตามันก็ไม่แสดงอารมณ์ใด ๆ ให้เขารู้บ้างเลยว่ามันคิดอะไรอยู่ ถึงแม้จะเป็นเพื่อนกันมานาน แต่เขาก็ไม่เคยเดาใจเพื่อนคนนี้ได้เลยสักครั้ง “เดี๋ยวสิคะ! คุณอัลเฟรโดร รอซูซานด้วย นี่! ถอยไปสิยืนขวางอะไรตรงนี้ล่ะ” นางแบบสาวร่างบางหันมาขึ้นเสียงใส่เลขาฯ หนุ่มที่ยืนขวางทาง แล้วรีบก้าวตามเจ้าของร่างสูงซึ่งกำลังเดินลงไปไม่สนใจเสียงตะโกนตามหลัง “นี่จอห์น เจ้านายแกเป็นบ้าอะไรวะ แล้วไปสนิทกับเด็กฉันตั้งแต่เมื่อไหร่ มีอะไรที่ฉันยังไม่รู้หรือเปล่าวะ?” พีท หรือภาทิศ แมคเรอเวล เจ้าของสถานบันเทิงหรูพ่วงด้วยตำแหน่งทายาทเพียงคนเดียวของตระกูลแมคเรอเวล หันมาคาดคั้นกับเลขาฯ หนุ่มของเพื่อนสนิท ที่กำลังเดินตามเจ้านายมาดเข้มลงไปชั้นล่าง ด้วยเขาก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าเจ้านายเกิดนึกอะไรขึ้นมา ถึงขนาดต้องลงทุนฉุดกระชากลากถูผู้หญิงขนาดนี้ “ผมก็ไม่ทราบครับ คุณพีทน่าจะรู้มากกว่าผมนะครับ เพราะคนที่เจ้านายกำลังลากออกไปนั่น เป็นเด็กคุณพีท!” จอห์นสันหันมาตอบคำถามขณะรีบเดินตามเจ้านายแสนเอาแต่ใจไปอย่างเร่งรีบ ตั้งแต่เข้ามาทำงานในอาณาจักรมาเวลราจ ไม่เคยมีสักครั้งที่จะเห็นนายใหญ่ต้องฉุดกระชากผู้หญิง และที่สำคัญผู้หญิงที่โดนลากออกไปนั่นช่างห่างไกลกับคำว่าสาวสวยมากมายนัก จอห์นสันคิดพลางส่ายหัวอย่างระอาใจ นี่เจ้านายเขาจะถูกข้อหาพรากผู้เยาว์ไหมล่ะเนี่ย เด็กตัวเล็กนิดเดียว!
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม