ตอนที่ 2

1471 คำ
ตอนที่ 2 ตลอดทางที่ขับรถมาหาภีมะที่กาสิโน เสียงคำพูดของทนายความวัยชรายังคงดังก้องอยู่ในศีรษะ ฟันคมๆ กดลงบนเรียวปากนุ่ม ดวงตาแดงก่ำราวกับเปลวเพลิง แม้จะไม่ได้เก่งในเรื่องการคำนวณ แต่ก็พอจะรู้มาบ้างว่าทรัพย์สินของบิดา ไม่ว่าจะเป็นบ้าน โรงแรม และศูนย์การค้า ที่ถึงแม้จะไม่ใหญ่ แต่ถ้าแปรเปลี่ยนเป็นเงินสดก็จะเป็นเงินก็ไม่ต่ำกว่าหนึ่งพันล้านบาท หากภีมะกลับตีราคามันเพียงแค่เท่าจำนวนหนี้สินที่บิดาติดอยู่ จะฮุบสมบัติที่พ่อฉันปลุกปล้ำสรางมากับมืออย่างยากลำบาก ไม่ง่ายอย่างที่แกคิดหรอกนะไอ้ภีมะ ฉันจะทวงทุกสิ่งทุกอย่างกลับคืนมาแบบทบต้นทบดอก ไม่มีทางที่คนอย่างนายจะใช้เล่ห์กลโกงทำร้ายคนด้อยกว่าได้เสมอไปหรอกเว้ย! ภีมะไม่ยอมให้ตัวเองถูกตบฟรีๆ เขากระชากร่างกลมกลึงเข้าหาและรัดด้วยแขนแข็งแกร่ง พลางฉกจุมพิตลงไปปากอิ่มที่หมายจะก่นด่าเขาอีกรอบ “คิดถึงผมมากเลยหรือหนูโรส มาถึงก็รีบมาให้...” ชายหนุ่มฉกจุมพิตลงไปปากอิ่มที่หมายจะก่นด่าเขาอีกรอบ ริมฝีปากที่เผยออกเปิดโอกาสให้เขาได้สอดลิ้นล่วงล้ำเข้าไปสัมผัสและดื่มด่ำกับความหวานที่ได้รับอย่างถนัดถนี่ “อื้อ...อื้อ...” โรสรินทร์เบี่ยงใบหน้าหนี มือเท้าก็ไม่หยุดประทุษร้ายภีมะ แต่เธอก็ไม่ทำอะไรอีกฝ่ายไม่ได้เลย แล้วยังจะถูกชายหนุ่มที่เธอเกลียดชังฉวยโอกาสเกาะสอดแทรกเรียวลิ้นเข้าไปตวัดไล้ดื่มด่ำกับความหวานในโพรงปากนุ่ม ขณะมือก็ไม่หยุดนิ่ง ลูบไล้เรื่อยไปจนถึงปทุมถันที่ชูช่อไสวอยู่ “ผมอยากจะทำอย่างนี้มานานแล้วนะ ไม่คิดเลยว่าหนูโรสจะใจเร็วยิ่งกว่า กลับมาถึงปั๊บก็รีบมาให้จู๋จูบปุ๊บเลย” ภีมะเอ่ยกลั้วหัวเราะ ขณะขบกัดกลีบปากสลับบดคลึงสอดแทรกเรียวลิ้นเข้าไปควานหาความหวานในโพรงปากนุ่มอย่างย่ามใจ เขารู้อยู่แล้วล่ะ เมื่อใดที่โรสรินทร์รู้เรื่องจากคนรับใช้เก่าในบ้าน รวมถึงทนายความพงษ์เทพด้วย เธอจะต้องร้อนรุ่ม โกรธเคืองจนทนอยู่เฉยไม่ได้ จะต้องรีบมาหาเพื่อทำอะไรสักอย่างที่จะเปิดโอกาสให้เขาทำอย่าง...ที่เกิดขึ้นนี่แหละ “จูบคุณหนูโรสนี่หวานที่สุด จนผมไม่อยากจะหยุดเลย คุณหนูโรสคงจะไม่ว่า ถ้าผมจะขอจูบต่ออีกสักหน่อย” ชายหนุ่มกดฝ่ามือไปบนปทุมถันที่ตอบสนองสัมผัสในฉับพลัน แต่เพราะมีสิ่งขวางกั้นทำให้เขาสัมผัสเนินเนื้อนุ่มหยุ่นได้ไม่เต็มที่ ภีมะไม่รอช้ารีบปลดกระดุมเสื้อที่หญิงสาวใส่อยู่ออกและดันชั้นในขึ้นเหนือเต้ากลมกลึง ก่อนจะส่งมือเข้าไปกอบกุมเอาไว้แทน เขาลากไล้มือฟอนเฟ้นทั้งสองเต้าอย่างไม่ยอมให้น้อยหน้ากัน โรสรินทร์ตัวสั่นกับสัมผัสที่มาอย่างหนักหน่วงและเร่าร้อนซึ่งเธอไม่เคยพบเจอมาก่อน จนไม่รู้ว่าจะรับมือได้อย่างไร ได้แต่กดนิ้วไปแขนแกร่งระบายอารมณ์แปลกๆ ที่เริ่มก่อตัวขึ้นกลางลำตัว ทั้งปั่นป่วนและเสียวซ่าน ใจหนึ่งก็อยากจะแอ่นแผ่นหลังให้ทรวงอกอิ่มแนบชิดกับมือที่ฟอนเฟ้นอยู่มากขึ้น แต่อีกเสี้ยวใจกลับบอกว่าไม่และไม่! ที่ทำให้เธอรีบดึงสติที่เกือบจะหลุดลอยไปกลับคืนมา “ปล่อยฉันนะไอ้บ้าภีมะ” โรสรินทร์แหววเสียงแหลม ทั้งผลักทั้งดันกายแกร่งที่รัดกายออกไป แต่ก็เหมือนผลักหินผาที่ไม่ขยับเคลื่อนเลย “จะให้ปล่อย...หนูโรสก็ควรจะพูดกับผมดีๆ ซิครับ” ภีมะเอ่ยเสียงกลั้วหัวเราะในลำคอ ทุกครั้งที่เจอกัน...ไม่เพียงแค่สายตา หากแต่ยังมีคำพูดที่ภีมะทำเหมือนกับว่าเธอเป็นเด็กไม่รู้จักโต มันทำให้เธอหงุดหงิด...โว้ย อยากหาไม้มาตีหัว...ให้เบะจริงๆ “เวลาหนูโรสโกรธ สวยจนมองได้ไม่เบื่อเลย แล้วก็ทำให้ผมอยากได้จูบหวานๆ อีกสักหลายๆ ครั้ง” ชายหนุ่มเอ่ยเสียงนุ่มทุ้ม ดวงตาคมดุที่ซ่อนอยู่ภายใต้ขนตายาวงอนยิ่งกว่าผู้หญิงอย่างโรสรินทร์เสียอีกเป็นประกายชอบใจ “คุณหนูโรสคงจะไม่ว่านะครับ ถ้าหลังจากนี้ผมจะคอยหาโอกาสจูบบ่อยๆ ” ชายหนุ่มก้มหน้าลงไปแนบจมูกลงไปบนแก้มนุ่ม โรสรินทร์ได้แต่มองใบหน้าคมคร้าม จมูกโด่งเป็นสัน ริมฝีปากแดงระเรื่อเหมือนกับริมฝีปากผู้หญิง กายที่ใหญ่ราวกับยักษ์ปักหลั่น ข่มร่างสูงโปร่งจนดูเหมือนกับเธอว่าเป็นเพียงแค่มดตัวเล็กๆ ทั้งที่ความสูงที่มีก็เกินมาตรฐานหญิงไทยแล้ว แต่เธอก็สูงเลยบ่ากว้างของชายหนุ่มไปแค่เพียงนิดเดียวเอง “ว่าแต่...ผมเข้าใจไม่ผิดใช่ไหม คุณหนูโรสทนคิดถึงกันจนรอพบหน้าที่บ้านไม่ไหว ต้องรีบมาให้ผมกอด” ชายหนุ่มถามในน้ำเสียงเจือหัวเราะ ขณะกวาดตามองร่างอรชรราวกับกำลังประเมินราคาสินค้า ที่เขายังไม่แน่ใจว่า ถ้าลงทุนซื้อมาแล้วผลที่ได้จะคุ้มค่ากับเงินที่เสียไปหรือเปล่า ชายหนุ่มยกมือขึ้นลูบปลายคาง เขายอมรับในความสวยของโรสรินทร์ ใบหน้ารูปไข่ ดวงตากลมโตราวกับดวงตาแขกที่ตอนนี้เปล่งประกายแวมวามด้วยเพลิงโทสะที่เขาเป็นผู้จุดขึ้นมา พวงแก้มขาวซับสีเลือดฝาด จมูกโด่งเป็นสันรับกับริมฝีปากรูปกระจับอวบอิ่ม “ใครว่าฉันคิดถึงแกไอ้บ้า ฉันจะมาเอาเลือดหัวแกออกต่างหาก ไอ้คนขี้โกง!” เมื่อหุ่นตัวเองเป็นรองอีกฝ่ายอยู่หลายขุม โรสรินทร์เลยเลือกที่จะใช้เสียงแปดหลอดที่มี ทำให้ภีมะรู้ว่าเธอไม่ได้เกรงกลัวเขาเลย เธอยังหาโอกาสพาตัวเองหลุดจากอ้อมแขนที่รัดรึงอยู่ด้วย ที่กว่าจะทำได้ก็เล่นเอาเหงื่อตก! โรสรินทร์มองใบหน้ายิ้มๆ ของภีมะแล้วต้องกำหมัดเสียจนแน่น เธอขบกัดฟันดังกรอดๆ ด้วยความแค้นที่สุมอก อยากเอาคืน แต่ก็รู้ตัวดีว่าไม่แกร่งพอรับมือไอ้ตัวร้ายที่คอยแต่จ้องหาโอกาสลวนลาม แค่สิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ มันก็ทำให้เธอรู้สึกขยะแขยงร่างกายตัวเอง จนอยากจะรีบกลับบ้านไปล้างรอยสัมผัสที่เหมือนจะฝังลึกลงไปในผิวเนื้อออกเร็วๆ “จะเอาเลือดหัวผมออก!” ภีมะยกมือขึ้นจับศีรษะตนเอง พร้อมเสียงหัวเราะดังก้องห้อง “เอ๊ะ! ไม่เลยนี่ครับ ศีรษะผมยังปกติ ไม่มีเลือดออกแม้สักนิดเดียวเลย” ชายหนุ่มพูดเล่นลิ้น มองใบหน้าสีแดงราวกับผลเชอรี่สุกอย่างชอบใจมากยิ่งขึ้น เขาก้มหน้าลงไปจนปลายจมูกเกือบจะชิดกับแก้มใสซับสีเลือดฝาด “ผมยังอยู่ดีมีสุขสบายทั้งกายและใจ ที่ตอนนี้มาพร้อมกับความสงสัย ผมไปโกงอะไรคุณหนูโรสหรือครับ” “ไอ้...ไอ้ภีมะ...” โรสรินทร์รีบถอยหลบฉากแทบไม่ทัน ขนาดพาตัวเองมายืนอยู่ไกลๆ และเตรียมตัวตั้งรับอยู่ตลอดเวลาแล้วนะ แต่ก็ยังถูกภีมะเล่นงานได้อีก “ไอ้หมูสกปรก ไอ้หมูโสโครก” “ว้า...” ภีมะลากเสียงยาว “คุณหนูโรสผู้แสนงดงาม พูดไม่เห็นจะเพราะเหมือนใบหน้าเลยแฮะ แต่ไม่เป็นไรเรื่องแบบนี้มันสอนสั่งกันได้ ว่าแต่นอกจากคุณหนูโรสจะคิดถึงผมแล้ว คุณหนูโรสมีเรื่องอะไรจะให้กระผมรับใช้อีกหรือเปล่าครับ” ภีมะยกมือขวาขึ้นและวาดหาหญิงสาวพร้อมกับโค้งคำนับ ราวกับว่าเขาทั้งเคารพและเกรงกลัวในตัวหญิงสาวมาก แต่ใบหน้ากลับเต็มไปด้วยรอยยิ้มกว้าง ดวงตาเป็นประกายระยิบระยับและสนุกสนาน เมื่อครู่พอหญิงสาวพ้นออกมาจากบ้าน ทนายพงศ์เทพก็รีบโทรมาเตือนเขาให้ระวังตัวทันที ไม่งั้นป่านนี้เขาอาจถูกรองเท้าสนแหลมๆ นั่นฝาดศีรษะ จนเลือดออกไปแล้วก็ได้ “อ๋อ...ลืมไป คุณหนูโรสคงจะมาเรื่องที่ผมย้ายเข้าไปอยู่ในบ้าน อีกเรื่องก็คงจะเป็นการที่ผมเข้าไปยุ่งเกี่ยววุ่นวายกับธุรกิจของคุณใช่ไหมครับ” 
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม