สองทุ่มกว่าคือเวลานัดหมายระหว่างภีมพลและลูกค้า นักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์รู้กันอยู่แล้วว่าสิ่งที่จะทำให้ทุกอย่างง่ายขึ้นนอกเหนือจากผลประโยชน์นั่นก็คือมิตรภาพ ชายหนุ่มรู้อยู่แล้วว่าลูกค้าวันนี้เป็นผู้หญิง แต่ไม่คิดว่าจะเป็นผู้หญิงที่มาพบเขาตามลำพัง
“คุณภีมสวัสดีค่ะ รอหญิงนานไหมคะ” สาวสวยมาดนักธุรกิจที่ดูดีตั้งแต่หัวจรดปลายเท้าทักทายคนที่นั่งรออยู่ก่อนแล้ว
มุมปากบางผุดรอยยิ้มออกมาอย่างพอใจเมื่อเห็นว่าภีมพล ประภากรที่ใครต่อใครต่างบอกว่าหล่อและรวยมาก วันนี้ได้มาเห็นกับตาไม่ผิดหวังเลยจริงๆ
หนุ่มหล่อโดดเด่นตั้งแต่มองเห็นอยู่ไกลๆ
“สวัสดีครับคุณหญิง รอไม่นานเลยครับ” ภีมพลหยัดตัวขึ้นเพื่อรอให้อีกฝ่ายนั่งลงก่อน มองไกลๆ ว่าหล่อแล้วมามองในระยะประชิดยิ่งเห็นว่าหล่อมากกว่าเดิม
“ดีใจที่ได้เจอกันนะคะ หญิงได้ยินคนอื่นพูดถึงคุณภีมตลอดเลย”
“พูดถึงผมเหรอครับ?”
“ใครๆ ก็บอกว่าคุณหล่อ พอหญิงมาเห็นตัวจริงก็บอกได้คำเดียวเลยว่าหล่อจริงๆ” ภีมพลขยับยิ้มเบาๆ แทนคำตอบ นับครั้งไม่ถ้วนที่ฝ่ายหญิงพยายามเข้าหา ใช้ทั้งเรื่องงานเป็นข้ออ้างและพยายามเข้าหาแบบตรงไปตรงมา
“ยินดีที่ได้ร่วมงานนะครับ คนของผมแจ้งว่าคุณหญิงอยากซื้อขาดมากกว่าใช้สัญญาเช่าแบบรายปี”
“คิดว่าถ้าลงทุนด้วยการซื้อขาดมันอาจจะคุ้มกว่าน่ะค่ะ คุณภีมมีคำแนะนำสำหรับนักธุรกิจมือใหม่ไหมคะ หญิงอยากได้ที่ปรึกษา”
“คุณหญิงไม่มีที่ปรึกษาเหรอครับ”
“ไม่มีเลยค่ะ หญิงมีแค่ลูกน้องที่รอรับงาน บอกตรงๆ เลยนะคะว่าหญิงเองก็อยากมีที่ปรึกษาเหมือนกัน คุณภีมรู้ใช่ไหมคะว่าหญิงไม่มีใคร” ขาสวยตวัดขึ้นไขว้ห้างอย่างมีจริตจะก้าน อวดต้นขาขาวเนียนอย่างไม่ไว้ตัว
“สั่งอาหารกันก่อนดีไหมครับ”
“คุณภีมเลือกได้เลยนะคะ หญิงทานอะไรก็ได้ค่ะ ดีซะอีก อย่างเห็นเมนูโปรดของคุณเหมือนกัน”
“เอางั้นเหรอครับ” ภีมพลหันหน้าเข้าหาพนักงานที่เข้ามารับออเดอร์ก่อนจะสั่งอาหารที่เป็นเมนูแนะนำของทางร้าน
ระหว่างที่รออาหาร อดไม่ได้ที่จะกวาดสายตามองหาใครบางคน
ครั้นพอพบก็เห็นว่าเพลงกำลังมองมาที่เขาตาแป๋ว สบตากันปุ๊บเธอยิ้มให้เขาทันที คนตัวเล็กอยู่ในชุดลำลองสบายๆ แค่เดรสสีครีมที่เธอชอบ แต่ถึงอย่างนั้นใบหน้าจิ้มลิ้มที่สวยเป็นทุนเดิมอยู่แล้วก็ทำให้เธอดูดี
“ดื่มไวน์เป็นเพื่อนหญิงหน่อยได้ไหมคะ” นักธุรกิจสาวยื่นแก้วเครื่องดื่มให้กับคู่สนทนา ไม่เน้นจริงจังแต่เน้นแบบเป็นกันเองมากกว่า ภีมพลที่ไม่ชอบความเรื่องมากอยู่แล้วก็ไม่ได้คิดที่จะคัดค้านเลยปล่อยเลยตามเลย
“ยี่ห้อนี้รสชาติดีนะคะ หญิงดื่มประจำแต่มันก็มีข้อเสียแหละ คนโสดดื่มแล้วเหงา” สาวสวยขยิบตาเบาๆ อย่างออดอ้อน ไม่ติดถ้าจะสนุกๆ ขำๆ หล่อระดับนี้ถ้าเล่นด้วยเป็นใครก็คงเอา
“ที่จริง วันนี้ผมไม่ได้มาคนเดียวนะครับ”
“คะ? หมายถึงคุณภีมมีคนมาเฝ้าแบบนั้นเหรอคะ หญิงว่าไม่น่าจะใช่แน่ๆ”
“ไม่ถึงกับเฝ้าหรอกครับ วันนี้ผมแค่พาเขามาด้วย”
“พามาด้วย แต่การที่คุณภีมมาคุยกับหญิงสองต่อสองก็แปลว่าเขาไม่ได้สำคัญอะไรขนาดนั้นหรือเปล่าคะ หญิงหมายถึง คนระดับคุณภีมน่าจะแยกแยะชัดเจนว่าอะไรสำคัญในระดับไหน เพราะถ้าสำคัญมากพอ คุณไม่ยอมมาหาหญิงคนเดียวแล้วปล่อยเขาให้รอหรอกถูกไหมคะ” นักธุรกิจสาวมองตามรัศมีสายตาของคู่สนทนาที่หันไปมองอยู่บ่อยครั้ง
การทิ้งสายตาไปมองบ่อยๆ อาจจะพอบอกถึงความสำคัญได้บ้างก็จริง แต่เธอก็ยังเชื่อว่าถ้าแคร์กันมากกว่านี้เขาไม่มีทางทำแบบที่กำลังทำแน่ๆ
“คุณหญิงคิดแบบนั้นเหรอครับ”
“น่ารักดีนะคะ แต่มองยังไงก็คงไม่ใช่ระดับที่สำคัญกับคุณภีมที่สุดแน่ๆ”
“…”
“คุณภีมเลี้ยงดูระหว่างที่ยังไม่เจอตัวจริงใช่ไหมคะ” ความเป็นกันเองและค่อนข้างตรงไปตรงมาส่งผลให้ภีมพลหลุดเสียงหัวเราะออกมาเบาๆ
“ประมาณนั้นครับ เขาเป็นคนของผม ผมเลี้ยงดูอยู่ แต่ยังไม่ใช่ตัวจริงเหมือนที่คุณหญิงพูดเลย” ภีมพลพูดออกมาได้เต็มปาก ถึงเพลงจะให้ความสุขกับเขาในบางครั้ง แต่ความจริงก็ยังเป็นความจริงอยู่วันยังค่ำ
เธอไม่ใช่ตัวจริง และอีกไม่กี่เดือนข้างหน้าก็ต้องเลิกกันอยู่ดี
“มันไม่ผิดหรอกค่ะ หญิงเชื่อว่าใครๆ ก็ทำแบบนี้ทั้งนั้น อะไรที่ทำให้เราพอใจเราก็ต้องคว้าเอาไว้ สุดท้ายวันหนึ่งหากไม่สำคัญแล้วก็แค่ปล่อยไป คนที่เขามีความสุขเขาคิดกันแบบนี้แหละค่ะ”
“คุณหญิงดูเข้าใจชีวิตดีนะครับ คุยกันตรงๆ แบบนี้ผมว่าโอเคดี”
“จะไม่ให้เข้าใจได้ยังไงล่ะคะในเมื่อหญิงคิดแบบคุณ อะไรที่เราเรียกมันว่าความสุขเราไม่ควรปล่อยให้หลุดมือหรอกนะคะ โลกใบนี้มันไม่เห็นจะมีอะไรแน่นอนเลย”
“…”
“เห็นเป็นแบบนี้ไม่ใช่ว่าหญิงไม่คิดจะหยุดหรอกนะคะ หญิงจะหยุดค่ะ หยุดเมื่อเจอตัวจริง เจอคนที่หญิงอยู่ด้วยแล้วมีความสุขมากจริงๆ”
“ผมเองก็คิดแบบคุณหญิงเหมือนกัน!”