เพราะลูกชายคนเล็กของตระกูลซุกเมียเอาไว้โดยไม่ได้บอกครอบครัว ทางบิดามารดาของชายหนุ่มจึงเห็นพ้องต้องกันว่าควรสู่ขอลูกสะใภ้คนเล็กจากครอบครัวให้ถูกต้องตามประเพณี
พวกเขาได้โทรคุยกับคุณมุ่งมั่นซึ่งเป็นบิดาของหญิงสาวและกำหนดวันที่จะไปสู่ขอเสร็จสรรพ ทำให้เคนและคะนึงนิจต้องเลื่อนการเดินทางกลับกรุงเทพออกไปจนกว่าเรื่องของคินและขนมเบื้องจะเรียบร้อย
เช้านี้หลังจากกินข้าวกันเสร็จสองผู้อาวุโสได้เดินทางไปเยี่ยมคนรู้จักซึ่งอยู่ไม่ไกลจากไร่มากนัก ส่วนสองหนุ่มก็แยกไปคุยงานในห้องทำงานของคินแล้วปล่อยให้สองสาวอยู่ด้วยกันตามลำพัง ขนมเบื้องในฐานะภรรยาเจ้าของไร่จึงชวนคะนึงนิจมานั่งคุยกันตรงระเบียงชั้นสองของบ้านที่สามารถเห็นวิวไร่ส้มได้อย่างชัดเจน
“ว้าวววววว สวยมากเลยขนม แบบนี้ต้องถ่ายรูปเก็บไว้” ด้วยความเป็นคนกรุงมาแต่กำเนิดทำให้ดวงตาทั้งสองข้างของคะนึงนิจ
เบิกกว้างด้วยความชอบใจ แล้วรีบเอาโทรศัพท์ขึ้นมาบันทึกความสวยตรงหน้ารัว ๆ
“ตามสบายเลย วันนี้เราไปขี่จักรยานแถวท้ายไร่ไหมน้องเพื่อน แถวนั้นสวยมากเหมือนกัน เผื่อเก็บบรรยากาศเอาไปแต่งนิยาย”
เห็นเพื่อนใหม่ตาวาวกับความเขียวขจีของต้นไม้ขนมเบื้องจึงอดแนะนำสถานที่สวย ๆ ในไร่ไม่ได้ คะนึงนิจบอกว่ามีอาชีพเป็นนักเขียนทำให้สนใจสิ่งรอบตัวเป็นพิเศษ เธอเลยอยากลองพาไปดูเผื่อไร่ส้มของสามีจะได้ไปอยู่ในนิยายบ้าง
“จริงเหรอ ไป ๆ เราอยากไป แต่เราขี่จักรยานไม่เป็นน่ะสิ”
“เรื่องนี้ไม่เป็นปัญหา เดี๋ยวซ้อนท้ายเราไปก็ได้”
“งั้นตกลงเลย เราจะไปตอนไหนดี”
“ช่วงเช้าเลยดีไหม ช่วงบ่ายมันร้อน”
“อืม ก็ดีเหมือนกัน”
เนื่องจากวันพรุ่งนี้เธอต้องไปร่วมงานสู่ขอขนมเบื้องจึงไม่ต้องการตากแดดตากลมเดี๋ยวจะไม่สวย เห็นอย่างนี้เธอก็รักสวยรักงามเหมือนกัน เว้นอย่างเดียวน้ำหนักเกินมาตรฐานไปหน่อย
“เดี๋ยวเราไปบอกพี่คินก่อนนะ”
“จ้า เรารออยู่ตรงนี้นะ ไม่หายไปไหนแน่นอน”
“โอเค แป๊บนะ เดี๋ยวเรามา”
จากนั้นภรรยาของเจ้าของบ้านก็หายไปครู่ใหญ่ ๆ ปล่อยให้แขกสาวนั่งมองวิวอยู่เพียงลำพัง เธอปล่อยใจปล่อยกายไปกับสายลม
และแสงแดดทำให้ไม่รู้ถึงการมาของใครอีกคน เคนเปิดโอกาสให้น้องชายกับน้องสะใภ้ได้คุยกันตามลำพัง ส่วนตนเองก็เดินออกมาหาคะนึงนิจ เห็นเธอสนใจแต่วิวจึงอยากกลั่นแกล้ง
เขาค่อย ๆ ย่องเข้าไปหาแล้วนั่งลงบนเก้าอี้ตัวยาวข้าง ๆ เธอพร้อมกับเรียกชื่อ ทำให้อีกฝ่ายตกใจหันมาทางต้นเสียงอย่างอัตโนมัติ ปากกระจับสีสวยจึงไปสัมผัสบนแก้มสากด้วยความไม่ตั้งใจ สร้างความตกตะลึงแก่เจ้าตัวและชายหนุ่มเป็นอย่างมาก
“อุ๊ย ขะ… ขอโทษค่ะ พะ… เพื่อนไม่ได้ตั้งใจ” เธอรีบดึงใบหน้าออกห่างจากแก้มของเขาแล้วเขยิบหนีพร้อมกับเอ่ยขอโทษด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกัก
“ตั้งใจก็ได้นะครับ พี่ไม่ถือ”
เขาพูดอย่างนั้นก่อนจะลุกจากเก้าอี้แล้วเดินออกไปด้วยหัวใจเต้นรัวอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมานานนับแต่เลิกรากับแฟนเก่า ทั้ง ๆ ที่เขาอยากลงโทษเธอด้วยการปั่นหัวเล่นแต่ทำไมความรู้สึกของเขาถึงได้หวั่นไหวเสียเอง
ชายหนุ่มจึงเอามือขึ้นมาลูบตรงอกด้านซ้ายในขณะเดินห่างออกมา ส่วนหญิงสาวก็นั่งอ้าปากค้างตาโตเพราะไม่เข้าใจในสิ่งที่เคนพูดและงงกับหัวใจของตนเองที่อยู่ดี ๆ ก็เต้นแรงขึ้นมา
'เห็นทีหลังจากกลับกรุงเทพเธอต้องไปตรวจร่างกายสักหน่อย หมู่นี้หัวใจเต้นแปลก ๆ ตลอด' หญิงสาวคิดในขณะหันไปมองแผ่นหลัง
ของเคนที่กำลังเดินจากไป
เมื่อจักรยานทั้งสองคันปั่นมาถึงจุดชมวิว ความสวยงามของดอกไม้ตรงหน้าเกือบทำให้คะนึงนิจกรี๊ดออกมาแล้ว โชคดีที่เธอสามารถยับยั้งความตื่นเต้นได้ทำให้ไม่ปล่อยไก่ต่อหน้าชายหนุ่มและเพื่อนใหม่ หลังจากจักรยานที่นั่งซ้อนท้ายโดยมีคนตัวโตเป็นคนปั่นจอดสนิท
นักเขียนตัวกลมก็เอาโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วส่งให้เพลย์บอยหนุ่มทันทีอย่างไม่เกรงใจ ส่วนขนมเบื้องก็เดินไปสำรวจทุ่งดอกไม้ตรงหน้าด้วยความหลงใหล
'ไหน ๆ ก็ไหน ๆ แล้ว เขาควรทำตัวมีประโยชน์ด้วยการถ่ายรูปเธอและขนมเบื้อง'
“นี่ค่ะพี่เคน ช่วยถ่ายรูปเพื่อนกับขนมด้วย”
“ใช้พี่เหรอ” คนไม่เคยถูกสั่งเลิกคิ้วพร้อมกับชี้มาที่ตัวเอง
“ถูกต้องแล้วค่ะ ถ้าเพื่อนไม่ใช้พี่ แล้วเพื่อนจะใช้ใคร เพื่อนอยากถ่ายรูปกับขนม”
“อืม ๆ ก็ได้ ๆ เดี๋ยวพี่ค่อยเก็บค่าจ้างทีหลัง”
“โหยยยยย รวยอย่างพี่เคนยังจะเก็บค่าจ้างอีก ไหนข่าวซุบซิบบอกว่าประธานบริษัทอสังหาริมทรัพย์ยักษ์ใหญ่อย่างคุณเคน อัครโภภาคิน เป็นเพลย์บอยสายเปย์ไง ข่าวมั่วปะเนี่ย” เธอจ้องหน้าเขาพลางขมวดคิ้วถาม
“แล้วใครบอกว่าพี่อยากได้เงิน”
“แล้วพี่เคนอยากได้อะไรคะ”
'นั่นน่ะสิ ไม่อยากได้เงินแล้วเขาอยากได้อะไร' ชายหนุ่มคิดก่อนจะอ้าปากตอบ
“พี่อยากได้.../น้องเพื่อนมาเร็ว ๆ ตรงนั้นผีเสื้อเต็มเลย”
ยังไม่ทันจะเอ่ยความต้องการออกไป ขนมเบื้องก็วิ่งกลับมาหาทั้งคู่แล้วชวนเพื่อนใหม่ไปดูผีเสื้อที่มีนับร้อย ๆ ตัวด้วยความตื่นเต้น คะนึงนิจพยักหน้าหงึก ๆ แล้วเดินไปทันที ทิ้งให้เคนยืนอยู่คนเดียวตามลำพัง
ชายหนุ่มจึงส่ายหัวเล็กน้อยก่อนที่มุมปากจะยิ้มขึ้นมาด้วยความรู้สึกเอ็นดูในความไร้เดียงสาของอีกฝ่าย จากนั้นขาทั้งสองข้างก็รีบก้าวตามหญิงสาวทั้งสองคนพร้อมกับทำหน้าที่เก็บภาพตามคำสั่ง
“พี่เคนถ่ายสวย ๆ เลยนะคะ เพื่อนจะเอาไปลงเฟสอวดชาวโซเชียล เนอะขนม”
“ครับเจ้านาย กระผมจะถ่ายให้สวยสุดฝีมือเลย” เขาประชดพลางกดโทรศัพท์รัว ๆ
“พี่เคนอยากถ่ายด้วยไหมคะ เดี๋ยวหนูถ่ายให้เอง” ขนมเบื้องถามชายหนุ่มด้วยความมีน้ำใจ
“เอาครับเอา ฝากด้วยนะครับ”
ชายหนุ่มไม่ปฏิเสธน้องสะใภ้ จากนั้นก็ยื่นโทรศัพท์ให้ขนมเบื้องทำหน้าที่ตากล้องแทน ส่วนตัวเองก็ไปยืนชิดคะนึงนิจเหมือนคู่รักก็ไม่ปาน ในจังหวะที่หญิงสาว กำลังเงยหน้าขึ้นมาหมายจะบอกให้ชายหนุ่มขยับออกไปสักนิด เป็นจังหวะเดียวกับที่เคนก้มลงมามองเธอ ดวงตาของทั้งคู่จึงประสานกันอย่างไม่ตั้งใจ
ขนมเบื้องเห็นว่าท่าทางของนายแบบและนางแบบสวยดีจึงรีบกดโทรศัพท์บันทึกรูปเอาไว้ รูปที่ดูอย่างไรก็เหมือนคนเป็นแฟนกันมาถ่ายพรีเวดดิ้ง เสียอย่างเดียวชุดที่ใส่มาไม่ใช่ชุดแต่งงาน
วันถัดมาขบวนรถตระกูลอัครโภภาคินก็มาถึงหน้าบ้านหลังใหญ่ของขนมเบื้องซึ่งมีเจ้าบ้านอย่างคุณมุ่งมั่นพร้อมด้วยสาวใช้ยืนรอต้อนรับ พวกผู้ใหญ่ทำความรู้จักกันเรียบร้อยบิดาของหญิงสาวก็เชิญให้ทั้งหมด
ไปคุยกันต่อในห้องรับแขก
ในระหว่างเดินคะนึงนิจที่แต่งตัวสวยไม่แพ้ว่าที่เจ้าสาวเกิดอาการปวดฉี่จึงกระซิบกระซาบถามถึงห้องน้ำกับเจ้าของบ้าน ขนมเบื้องจึงอาสาพาไปเองเพราะบ้านของเธอหลังใหญ่ กลัวว่าอีกฝ่ายจะหลงเอาได้
“ห้องนี้เลยจ้ะน้องเพื่อน” เพราะคนอื่นเรียกเพื่อนใหม่ของเธอว่า น้องเพื่อน ขนมเบื้องจึงเรียกคะนึงนิจว่าน้องเพื่อนด้วยคนทั้งที่อายุเท่ากัน
“ขอบใจนะจ๊ะขนม ไม่ต้องรอเราก็ได้ เดี๋ยวเรากลับไปเอง”
คะนึงนิจเอ่ยด้วยความเกรงใจในขณะบิดตัวไปมาเพราะอั้นฉี่นาน
“ไม่เป็นไรเรารอได้ น้องเพื่อนไม่ต้องรีบ ทุกคนรออยู่ อิอิ”
“ขนมอะอย่ากดดันเราสิ”
ด้วยความที่สองสาวมีนิสัยใจคอคล้าย ๆ กันทำให้สนิทกัน
อย่างรวดเร็ว คะนึงนิจรีบเดินเข้าไปในห้องน้ำด้วยความไวแสงเมื่อรู้สึกว่าเขื่อนกำลังจะแตกแล้วปล่อยให้เพื่อนใหม่รออยู่หน้าห้องน้ำคนเดียว ในระหว่างที่ขนมเบื้องกำลังยืนรอแขกสาวอยู่ ๆ ก็รู้สึกเสียววาบตรงแผ่นหลังของตนเองจึงรีบหันกลับไปมอง
“ไปกับพี่ดี ๆ ดีกว่าค่ะ ถ้าคุณหนูไม่อยากเจ็บตัว”
น้ำเสียงสั่น ๆ ของสาวใช้ดังขึ้นมาเบา ๆ เมื่อเห็นหนทางที่จะนำตัวเจ้านายไปให้เพลงพิณซึ่งเป็นอดีตแม่เลี้ยงใจร้ายของขนมเบื้อง จันทร์วาดเป็นสาวใช้ที่มาทำงานในบ้านหลังนี้หลายปีแต่พักหลัง ๆ เกิดปัญหาด้านการเงินเนื่องจากติดการพนันออนไลน์
แม่เลี้ยงของขนมเบื้องบังเอิญไปรู้เรื่องเข้าจึงเสนอให้เธอมาเป็นพรรคพวกของตนเองแลกกับเงินเล็ก ๆ น้อย ๆ คอยรายงาน
ความคืบหน้าของคนในบ้านหลังนี้ และครั้งนี้ก็เสนอเงินก้อนโตแลกกับตัวขนมเบื้อง ซึ่งเธอก็ยินดีที่จะทำตามข้อเสนอ
“พี่จันทร์” เพราะมีดปลายแหลมที่จ่ออยู่ตรงเอวขนมเบื้องจึงไม่กล้าเปล่งเสียงดัง ๆ ออกมาทำให้คนที่กำลังทำธุระเสร็จไม่รู้ว่าข้างนอกเกิดอะไรขึ้น จันทร์วาดบังคับเจ้านายสาวให้เดินไปตามทิศทางที่มุ่งหน้าไปยังประตูหลังบ้านพร้อมด้วยคำขู่ เพื่อความปลอดภัยหญิงสาวจึงไม่กล้าเสี่ยง ยอมเดินไปกับสาวใช้แต่โดยดี และอีกอย่างเธอไม่อยากให้คะนึงนิจเข้ามายุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้ด้วย
ทางด้านสาวอวบเมื่อทำธุระเสร็จก็เดินออกมาจากห้องน้ำแล้วเห็นหลังของเพื่อนใหม่เลี้ยวไปอีกทางซึ่งไม่ใช่ทางที่เดินมาก็ตัดสินใจ
จะเดินตามไป แต่ไม่ทันได้ก้าวขาออกก็ได้ยินเสียงของเคนเสียก่อนจึงหยุดชะงักแล้วขานรับเสียงเรียก ชายหนุ่มอาสามาตามสองสาวเพราะผู้ใหญ่รอนานแล้ว
“ขนมเบื้องไปไหนครับน้องเพื่อน”
“ไม่รู้ค่ะ เห็นเดินไปทางนั้น”
หญิงสาวชี้ไปตามทางที่ขนมเบื้องหายไป เคนคิดจะเดินตามแต่เสียงโทรศัพท์ของเขาดังขึ้นมาเสียก่อนจึงเอาขึ้นมาดู เมื่อเห็นเป็นเบอร์ของน้องชายก็รีบกดรับทำให้รู้ว่าเกิดเรื่องกับน้องสะใภ้แล้ว คินฝากให้เขาช่วยดูแลทางนี้ส่วนเรื่องขนมเบื้องเขาจะไปจัดการเอง เพราะหญิงสาวถูกจับตัวไป