ตอนที่ 5 วิธีกำจัดแฟนเก่า

2020 คำ
หลังจากเรื่องวุ่นวายของขนมเบื้องกับคินผ่านพ้นไป เคนและคะนึงนิจก็ขอตัวกลับกรุงเทพก่อนเนื่องจากมีงานต้องสะสาง ส่วนผู้อาวุโสทั้งสองคนยังไม่กลับเพราะห่วงลูกสะใภ้คนเล็กที่มีอาการความจำเสื่อมหลังประสบอุบัติเหตุ เนื่องจากถูกแม่เลี้ยงใจร้ายจับตัวไปเป็นเหตุให้รถที่โดยสารชนกับรถสิบล้ออย่างจัง ขนมเบื้องลืมเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับตนเองและสามี จำไม่ได้เลยว่าเธอมาอยู่กับคินได้อย่างไร อีกอย่างหญิงสาวกำลังตั้งครรภ์ด้วย สองสามีภรรยาจึงขออยู่ดูแลสองแม่ลูกที่ไร่ส้มอัครโภภาคินอย่างใกล้ชิดรวมถึงคอยเป็นกำลังใจให้คิน “มองอะไรคะพี่เคน เพื่อนเห็นพี่เคนมองทางนั้นตั้งนานแล้ว” นักเขียนตัวกลมเอ่ยถามว่าที่เจ้านายด้วยความสงสัยในขณะนั่งรถเข้ามาที่บริษัทของเขาเพื่อมากรอกใบสมัครงาน แม้เคนจะรับปากมารดายอมให้เธอมาทำงานใกล้ชิดตนเอง แต่บริษัทมีกฎระเบียบอย่างไรก็ต้องทำตาม คะนึงนิจต้องสมัครและเข้าสัมภาษณ์งานตามขั้นตอน “ไม่มีอะไร ก็แค่มองวิว” เขาตอบด้วยน้ำเสียงราบเรียบไร้อารมณ์แต่แววตาแฝงไปด้วยความเจ็บปวด ก่อนจะดึงสายตากลับมามอง ตุ๊กตาหน้ารถของตนเองอีกครั้งที่วันนี้แต่งตัวสวยเป็นพิเศษ เมื่อคืนก่อนนอนคะนึงนิจไลน์ไปบอกว่าช่วงเช้าของวันนี้ เธอจะเข้ามากรอกประวัติและขอติดรถมาด้วย เธอขอร้องชายหนุ่มให้ช่วยแวะรับตนเองหน่อยเพราะไม่รู้ว่าบริษัทตั้งอยู่ตรงไหน เคนจึงตอบตกลงแวะรับหญิงสาวที่หน้าคอนโด “อืมมมมม วิวของพี่เคนสวยจัง” รอยยิ้มซุกซนบวกกับน้ำเสียงทะเล้นทำให้ชายหนุ่มส่ายหัวเบา ๆ จากนั้นก็ยกมือไปขยี้หัวของเธออย่างไม่เบานักด้วยความมันเขี้ยว ทำให้บรรยากาศภายในรถกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง เหมือนตอนที่ รถแล่นออกจากคอนโด “แซวพี่เหรอ เดี๋ยวเหอะ” “อย่าขยี้หัวเพื่อนสิพี่เคน เพื่อนอุตส่าห์ตื่นมาทำผมตั้งนาน เดี๋ยวพังหรอก” “นี่ทำแล้วเหรอ พี่ดูไม่ออกเลย” “อ้ายยยยยย ผู้ชายปากร้าย พูดแบบนี้อยากโดนสักตุ้บสองตุ้บใช่ไหม” เธอขู่เหมือนลูกหมา เคนจึงตอบกลับด้วยประโยคเด็ด “กล้าเหรอ ถ้ากล้าก็เอาเลย บอกไว้ก่อนนะ ตุ้บมา จ๊วบกลับ พี่แปรงฟันมาแล้วรับรองฟิน” “อี๋ คนหื่น เพลย์บอยหื่น หนูสู้นะบอกเลย” “ฮ่า ๆๆๆ ตัวเท่าลูกหมาเนี่ยนะ อะ ๆ ไม่แกล้งแล้ว ถึงพอดี” “ฝากไว้ก่อนเหอะ อย่าเผลอละกัน เพื่อนเอาคืนพี่แน่ แบร่” เธอแลบลิ้นใส่ว่าที่เจ้านายอย่างไม่เกรงกลัว จากนั้นก็วิ่งลงรถแล้วปล่อยให้ชายหนุ่มเข่นเขี้ยวอยู่ในใจกับความแสบซ่าของแม่นักเขียนสาวตัวกลม เคนหัวเราะเบา ๆ อย่างอารมณ์ดีให้กับความเป็นเด็กของคะนึงนิจ ก่อนที่ใบหน้าหล่อเหลาจะกลับมานิ่งเหมือนเดิมยามที่มองไปยังหญิงสาวรายหนึ่งที่ยืนอยู่ในร้านกาแฟใต้ตึกของเขา “เธอมาทำไม ผ้าแพร” คะนึงนิจวิ่งออกมาจากรถเสร็จก็ไปยืนเอ๋ออยู่ตรงหน้าเคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์เพราะไม่รู้ว่าตนเองต้องไปตรงไหน เป็นจังหวะเดียวกับ ที่เคนเดินมาพอดี ชายหนุ่มจึงเดินเข้าไปจูงมือเธออย่างถือวิสาสะแล้วลากไปทางลิฟต์ที่มีคนรอใช้บริการอยู่จำนวนมาก ทำให้ตนเองและหญิงสาวกลายเป็นจุดสนใจไปโดยปริยาย หลังจากที่เข้ามาในลิฟต์เรียบร้อย หญิงสาวก็พยายามสะบัดมือออกแต่ไม่เป็นผลเมื่อคนหน้ามึนไม่ยอมปล่อย แม้ลิฟต์ที่ใช้บริการ จะมีคนเข้ามาน้อยเพราะเกรงใจท่านประธาน แต่เธอก็อายอยู่ดี “พี่เคน ปล่อยมือเพื่อนก่อนได้ไหม คนมองกันใหญ่แล้ว” “แล้วไง ใครสนใจกัน” ตอบได้น่าตบมาก หญิงสาวคิดก่อนจะกระซิบบอกเขาเบา ๆ “เพื่อนไงคะ เพื่อนสนใจ เดี๋ยวผู้ชายในบริษัทนี้ไม่เข้ามาจีบเพื่อนหรอก” “พี่ให้เรามาทำงาน ไม่ได้มาหาผัว” “แรงอะ ผัวเลยเหรอ แฟนพอมั้ง” “หึ จะผัวหรือแฟนพี่ก็ไม่ให้มี” “ทำไมคะ มันผิดกฎบริษัทเหรอ” “เปล่า มันไม่ผิดกฎบริษัทหรอก” “อ้าวววว แล้วทำไมไม่ให้เพื่อนมีผัว เอ๊ย มีแฟน” “ก็เพราะ…/เคน” ประตูลิฟต์เปิดออกชั้นที่เคนทำงานทำให้หญิงสาวที่มารอคนรักเก่าออกอาการดีใจและเรียกชื่อเขาเสียงดัง แทรกการต่อปากต่อคำของทั้งสองคน “คุณผ้าแพร” “แพรเองค่ะ” “คุณผ้าแพรมาที่บริษัทของผมทำไม” “แพรมาหาเคน แพรมีเรื่องจะคุยกับเคน” “ครับ เชิญคุณผ้าแพรไปคุยกันที่ห้องทำงานของผม ไปครับที่รัก เราเสียเวลามาเยอะแล้ว” “ที่รัก!” เธอชี้มาที่ตนเองพลางเงยหน้ามองเขาด้วยอาการตกใจ และตกใจหนักขึ้นกว่าเดิมเมื่อเอวของตนเองมีมือหนามาโอบอย่างแนบชิดแบบที่ไม่เคยมีใครทำมาก่อนในชีวิต ชายหนุ่มจึงพยักหน้าหงึก ๆ แล้วย้ำด้วยน้ำเสียงอ่อนหวานปานน้ำผึ้งเดือนห้า “ก็ใช่สิ หนูนั่นแหละ จะใครอีกที่รักของพี่เคน” เขาขยิบตาเล็กน้อยเพื่อส่งสัญญาณ “ค่า ที่รักก็ที่รัก พี่เคนที่รักของน้องเพื่อน”คะนึงนิจตอบด้วยความจำยอม เออออห่อหมกไปก่อนเพราะไม่อยากหักหน้าเขาพร้อมกับยิ้มหวานใส่คล้ายประชดยิ้มอย่างเดียวไม่พอ เธอขอหยิกคนตัวโตตรงแผ่นหลังสักนิด เอาคืนที่เขากล้าโอบเอว แต่ชายหนุ่มทำเป็นไม่สนใจแม้จะเจ็บจี๊ด ๆ ก็ตาม แล้วหันไปพูดกับอดีตแฟนแทน “คุณแพรเข้าไปรอในห้องก่อนนะครับ ผมมีเรื่องจะคุยกับแฟน” “ได้ค่ะ เชิญเคนตามสบายนะคะ” หญิงสาวร่างโปร่งมาดผู้ดียิ้มตอบอย่างเลี่ยงไม่ได้ จากนั้นก็ค่อย ๆ ขยับกายออกห่างจากคู่รักกำมะลอแล้วเข้าไปในห้องทำงานของชายหนุ่มที่ตนเองเคยมานั่งเล่นนอนเล่นเมื่อหลายปีก่อน พลันภาพเก่าๆ ที่เคยมีกับเจ้าของห้องก็ผุดขึ้นมาราวกับดอกเห็ด เธอไม่น่าทิ้งเขาเลย เธอกลับมาทวงเขาตอนนี้จะทันไหม ทางด้านคู่รักจอมปลอมที่ยืนอยู่หน้าห้องกำลังตกลงกันไม่ได้ถึงผลประโยชน์จากการแสดงละครครั้งนี้ คะนึงนิจรู้ทันทีว่าตนเองถูกใช้เป็นเครื่องมือกำจัดแฟนเก่าโดยที่ชายหนุ่มไม่ต้องอธิบายให้เสียเวลา เพราะเธอคือนักเขียน งานมโนจึงเป็นที่หนึ่ง ไอ้แบบนี้พล็อตนิยายชัด ๆ ฉะนั้นเธอต้องเรียกค่าตอบแทนให้สาสม “ตกลงไหมคะ ที่รักของน้องเพื่อน” “มันจะมากเกินไปไหม คอนโดตรงนั้นไม่ต่ำกว่าร้อยล้าน เราจะให้พี่ซื้อแลกกับงานนี้งั้นหรอ” “ถูกต้องแล้วค่ะ แล้วแต่นะคะ เพื่อนยังไงก็ได้ ถ้าพี่เคนไม่ยอมก็แก้ปัญหาเอาเอง เพื่อนไปดีกว่า” เธอหันหลังอย่างว่องไวพร้อมกับยิ้มร้ายเมื่อได้ยินเสียงหลงของที่รักจอมปลอม “เฮ้ยยยยย อย่าใจร้อนสิ โอเค ๆ พี่ยอมซื้อคอนโดตรงนั้นให้ก็ได้ แต่เราต้องช่วยพี่ทุกอย่าง ตกลงไหม ทุกอย่างจริง ๆ ไม่มีข้อแม้” “ตกลงค่า ถ้าพี่เคนเบี้ยวเพื่อนล่ะก็… โดนแฉแน่” “ลูกผู้ชายคำไหนคำนั้น” “ดีมาก งั้นเข้าไปกันเถอะ ถึงเวลาของนักแสดงมืออาชีพแล้ว” “ให้มันมืออาชีพจริงๆ เถอะ อย่าท่าดีทีเหลวก็แล้วกัน ไม่งั้นน่าดู” เขาขู่เสียงเข้มในขณะที่หญิงสาวกำลังล้วงเข้าไปในกระเป๋าแล้วหยิบลิปสติกออกมาเติมปากพร้อมกับจัดผมเผ้าให้เรียบร้อย ก่อนจะหันมามองหน้าชายหนุ่มพร้อมกับคว้าแขนไปควงราวกับตนเองคือคนรักของเขาจริง ๆ จากนั้นก็เดินเข้าไปในห้องที่มีแฟนเก่าของเคนด้วยความมั่นใจ ในฝีมือการแสดงของตนเอง หารู้ไม่ว่าคนตัวโตไม่มั่นใจในตัวเธอเลยสักนิด เขาจึงคิดวิธีสำรองในแบบที่เธอคาดไม่ถึงเลยทีเดียว “ขอโทษที่ให้รอนานนะครับคุณผ้าแพร” เคนเอ่ยด้วยน้ำเสียงราบเรียบและห่างเหินทำให้อดีตแฟนเกิดอาการน้อยใจ เธอจึงแสดงออกมาทั้งสีหน้าและวาจาคล้ายตัดพ้อ หากไม่ใช่เพราะตนเองตัดสินใจผิดพลาดป่านนี้คนที่ได้ยืนอยู่ข้าง ๆ เคนต้องไม่ใช่แม่สาวอวบคนนี้แน่ หญิงสาวคิดก่อนจะตวัดสายตาไม่พอใจไปมองคะนึงนิจที่ยืนยิ้มแฉ่งเกาะแขนแฟนกำมะลอหนึบไม่ห่างกาย “เรียกแพรเหมือนเดิมดีกว่านะคะ เรียกแบบนี้ดูห่างเหินจัง” “คงไม่ได้หรอกครับ แฟนผมเขาไม่ชอบ เนอะที่รัก” 'เนอะที่รัก' พร้อมกับหันมามองหน้าคนข้างกายด้วยสายตาหวานเชื่อมราวกับเป็นแฟนจริง ๆ ทำให้คนถูกเรียกว่าที่รักรู้สึกหวั่นไหวไม่น้อย พลันใบหน้าขาวใสไร้สิวก็เริ่มแดงขึ้นมาอย่างห้ามไม่อยู่เมื่อริมฝีปากหยักฉกลงมาบนแก้มเนียนอย่างถือวิสาสะ แต่ความเป็นมืออาชีพและรางวัลชิ้นใหญ่ทำให้นักเขียนสาวกัดฟันยิ้มสู้ทำเหมือนเรื่องหอมแก้มคือเรื่องปกติของชีวิต “ใช่ค่ะ ว่าแต่คุณคนนี้คือใครเหรอคะที่รัก” “พี่ลืมแนะนำเลย นี่คุณผ้าแพร แฟนเก่าพี่เอง เราเลิกกันหลายปีแล้ว” ชายหนุ่มบอกตามจริงและเน้นน้ำเสียงหนัก ๆ ตรงท้ายประโยคทำให้อดีตแฟนของเขาหน้าเสีย แต่แฟนกำมะลอกลับชอบใจจึงเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงไร้เดียงสาทั้งที่จริงเธอรู้ดีไอ้ที่การมาหาแบบนี้อยากคืนดีกับฝ่ายชายร้อยเปอร์เซ็นต์ “อ้อ นึกว่าใคร ที่แท้แฟนเก่าของที่รัก แล้วคุณพี่ผ้าแพรมาหาพี่เคนทำไมคะ” “คือแพรมีเรื่องธุรกิจจะปรึกษาเคนหน่อยค่ะ ก็เลยมาหา เคนพอจะว่างคุยกับแพรสองต่อสองไหม แบบไม่มีคนนอก” คำว่าคนนอกที่หันไปมองทางคะนึงนิจทำให้เพลย์บอยหนุ่มเกิดอาการเดือด ออกโรงปกป้องแม่สาวอวบข้างกายทันที “ในนี้ไม่มีคนนอกนะครับคุณผ้าแพร น้องเพื่อนคือแฟนผม ถือว่าเธอคือคนใน” “จะ… จะดีเหรอคะ แพรว่า.../กริ๊ง กริ๊ง กริ๊ง” หญิงสาวพูดไม่ทันจบเสียงโทรศัพท์ของเธอก็ดังขึ้นมาขัดจังหวะ เจ้าตัวจึงขอไปคุยธุระข้างนอกห้องแล้วปล่อยให้คะนึงนิจกับเคนอยู่ตามลำพัง เมื่อไม่มีคนอื่นแล้วนักเขียนที่เปลี่ยนอาชีพเป็นนักแสดงชั่วคราวก็ถอนหายใจออกมาด้วยความรำคาญพร้อมกับทำหน้าเซ็ง และยังไม่ทันคิดอะไรร่างกายอันอวบอัดก็ถูกอุ้มขึ้นแนบอกด้วยฝีมือของคนตัวโตที่พาแฟนกำมะลอไปยังโต๊ะทำงานแล้วให้เธอนั่งบนตักเพื่อจุดประสงค์บางอย่าง “พะ… พี่เคนทำอะไร นี่มันเกินไปนะคะ” เธอดิ้นขลุกขลัก ๆ พลางหันไปมองทางประตูเพราะกลัวมีคน เข้ามาเห็น ท่าทางล่อแหลมแบบนี้ใครเห็นเป็นอันต้องคิดลามกอย่างแน่นอน อีกอย่างเธอใส่กระโปรงสั้นทำให้มันร่นขึ้นมาจนน่าหวาดเสียว “เรามาทำให้เรื่องนี้จบลงเถอะ พี่ขี้เกียจคุยแล้ว” เขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงแน่วแน่พลางจ้องไปที่ใบหน้าของแฟนสาวกำมะลออย่างคนที่ตัดสินใจแล้ว นาทีนี้วิธีอื่นคงไล่อดีตแฟนของตนเองกลับไปไม่ได้แน่นอนนอกจาก... และไม่ทันที่หญิงสาวจะอ้าปากถามจบประโยค ใบหน้าหล่อเหลาก็ก้มลงมาปิดปากของเธอเสียก่อน “มะ… หมาย คะ... อื้อ”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม