พศินธ์ขยับตัวให้เธอลงมานั่งใกล้ ๆ เขาก็มองผู้หญิงในร้านคาราโอเกะเหมือนกันทุกคน เขาวางมือลงบนไหล่ของเธอก่อนจะกระชับร่างบางเข้าหา และจุ๊บไปที่แก้มของเธอเบา ๆ นับเดือนหน้าแดงร้อนผ่าวขึ้นมาทันที เธอหันไปสบตากับพี่ชะเอม ชะเอมได้แต่พยักหน้าและหลิ่วตาให้ เธอจึงถอนหายใจออกมานิด ๆ
“ดื่มอะไรไหม” พศินธ์เอ่ยถาม
“ไม่เป็นไร เด็กที่นี่กินได้แต่ดริงก์ของที่ร้าน” เสียงอานัสดังขึ้น ตอนนี้เขากำลังนัวเนียกันกับชะเอมดูแล้วช่างสุขใจ
“เรียกพี่ว่าพี่โตก็ได้นะ” เขาเอ่ยเสียงนุ่ม สัมผัสได้ถึงอาการสั่นเทาของร่างบางที่อยู่ข้างตัว
“นับค่ะ” เธอเอ่ยเสียงสั่น และค่อนข้างเบา
“อ้าว... ชนแก้วอวยพรวันเกิดให้พี่โตเขาหน่อย นาน ๆ ได้ออกมาจากกองหินดินทราย ทำชีวิตให้มันสนุกเข้าไว้”
อานัสยกแก้วตัวเองขึ้น แล้วยื่นไปตรงหน้า
ทุกคนยกแก้วของตัวเองขึ้นมา นับเดือนมองดูน้ำส้มที่อยู่ในแก้ว ก่อนจะชนแก้วของตัวเองไปกับแก้วของทุกคน เธอกลืนมันลงคอเกือบหมดเพราะรู้สึกคอแห้งพิกล และน้ำส้มแก้วใหม่ก็ถูกยกมาเสิร์ฟ
“ขอให้มีความสุขนะเพื่อน” อานัสกล่าวอวยพร
เสียงร้องเพลงที่หมู่นักร้องที่อยากร้องดังลั่นไปทั้งร้าน ได้ยินเสียงตบมือ โห่ร้องประสานเสียงกันเซ็งแซ่
นับเดือนนั่งตัวเกร็งอยู่ภายใต้อ้อมกอดของเขา ชายหนุ่มดูสุภาพมาก เพียงแต่วางมือไว้ ไม่ได้ละลาบละล้วงแตะต้องเนื้อตัวให้รำคาญ ภาพพี่ชะเอมกับคุณอานัส ทำให้เธอต้องเบือนหน้าหนีไปทางเวทีที่มีแขกขึ้นไปยืนร้องเพลงอยู่บนนั้น
คุณอานัสทั้งล้วงทั้งขยำจนสาวน้อยนึกขยาด เธอหายใจติด ๆ ขัด อยู่ในอ้อมกอดของพศินธ์
“อยากกินอะไรเป็นพิเศษไหม” น้ำเสียงที่ดูอาทร เขาใช้นิ้วมือเขี่ยปอยผมของเธอที่ระมาปิดใบหน้า
“นับกินแล้วค่ะ ก่อนจะเริ่มงาน”
เธอตอบเขาด้วยน้ำเสียงสุภาพ ตัวก็ยังดูเกร็ง ๆ เหมือนเดิม ด้วยอาการเขิน นับเดือนจึงยกแก้วน้ำส้มของตัวเองขึ้นดื่มอย่างไม่รู้จะทำอย่างไรดี
เสียงพี่ชะเอมสั่งให้เธอชงเหล้าให้กับพศินธ์ด้วย เธอก็ทำมันอย่างเก้กัง เพราะยังไม่เคยชงเหล้าหรือเครื่องดื่มแบบนี้มาก่อน มือไม้เริ่มสั่นเทา เพราะความไม่ชิน
พศินธ์มองกิริยาเธอแล้วยิ้ม ก่อนจะเอ่ยถาม
“เพิ่งมาทำงานหรือ”
“ค่ะ วันแรก” เธอตอบเขาเขิน ๆ ยกมือเอาผมที่ระปิดหน้าขึ้นคล้องที่ใบหู เขาดึงเธอเข้ามากอดไว้ทั้งตัว ก้มลงหอมแก้มใส ๆ ที่แต่งแต้มสีเอาไว้ไม่มาก
“ไม่รู้หรือ ว่ามาทำงานอย่างนี้มันเปลืองตัว” เขากระซิบถามข้างใบหู พศินธ์คลอเคลียกับร่างกายนุ่มนิ่มอย่างจงใจ
“เฮ้อ...” เสียงเธอถอนหายใจแทนคำตอบ ก่อนจะยกแก้วน้ำส้มขึ้นมาดื่มอีกครั้ง อย่างไม่รู้จะทำอะไรดี
นับเดือนไม่รู้เลยว่าน้ำส้มที่เธอดื่มในคืนนี้ เป็นน้ำส้มที่ผสมยาปลุกเซ็กซ์อ่อน ๆ เพื่อให้พนักงานทุกคนหน้าด้านใจกล้า และบางคนบอกตรง ๆ ก็ไม่ได้เต็มใจจะทำอาชีพแบบนี้ แต่ทำอย่างไรได้ ขาหน้าเหยียบเรือลงมาแล้ว ขืนชักเท้ากลับตอนเรือออกจากฝั่งก็ตกน้ำกันพอดี
มือไม้ของพศินธ์เริ่มไม่อยู่นิ่ง ๆ ชายแท้ชายจริงอกสามศอก วัน ๆ ทำแต่งาน นานเท่าไหร่แล้วไม่รู้ที่เขาไม่ได้มีอะไรกับใคร วันนี้หากไม่ใช่วันเกิด และทนเสียงรบเร้าของอานัสไม่ได้ เขาคงนั่งดื่มคนเดียวเงียบ ๆ อยู่ที่ไซต์งานเหมือนเช่นทุกวัน
ปลายนิ้วแข็ง ๆ ขยำเบา ๆ ไปที่หน้าอกที่ไม่เล็กและก็ไม่ใหญ่ของนับเดือน เธอถึงกลับรีบจับมือเขาเอาไว้อย่างรวดเร็ว
“อย่าค่ะ” เธอเอ่ยห้ามเสียงแผ่ว
ตอนนี้ร่างกายบอบบางกำลังถูกฤทธิ์ของยาปลุกเซ็กซ์เข้าครอบงำ เธอรู้สึกร้อนออกตามผิวตัวและผิวหน้า ส่วนอ่อนไหวกลางร่างกายเต้นระยิบอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ลมหายใจของพศินธ์ที่สูดดมอยู่ข้างใบหู ทำให้เธอขนลุกเกรียว นั่งนิ่ง ๆ ใจเต้นไม่เป็นจังหวะ
ภาพในร้านที่หนุ่มสาวนั่งกันเป็นคู่ และแสดงความรักกันอย่างออกนอกหน้า ไม่เว้นแม้แต่พี่ชะเอมกับคุณอานัส ที่เหมือนจะร่วมเพศกันเสียตรงนั้น
พศินธ์ดื่มมากกว่าทุกวัน และวันนี้มีร่างกายเนียน ๆ มานั่งเบียดชิด ทำให้เขาคึกคักอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
นับเดือนขอตัวเข้าห้องน้ำ เธอไปนานเลยทีเดียว ก่อนที่พี่ชะเอมจะอาสาไปตามเธอกลับมานั่งที่โต๊ะ
“พี่ชะเอม นับว่านับคงทำงานนี้ไม่ได้” เธอเอ่ยเบา ๆ แต่ก็ยังเดินตามแรงจูงของชะเอมมานั่งที่โต๊ะ
“ใคร ๆ เขาก็ทำกัน จะเป็นอะไรไป อีกอย่างถ้านับไม่ชอบก็ทำแค่คืนนี้คืนเดียว พรุ่งนี้พี่จะบอกเจ๊เองว่านับไม่ทำงานที่นี่แล้ว” พูดพลางดันหลังให้เธอนั่งลงที่เดิม
ตอนที่สองสาวเดินหายไป อานัสขยับเข้ามาใกล้เพื่อน
“คืนนี้กูออฟเด็กนับไว้ให้มึงแล้วนะเว้ย จะพาไปม่านรูดกับกูไหม” อานัสพูดกับเพื่อนทำสีหน้ายิ้ม ๆ
“น่าเกลียดไหม พาน้องเขาไปม่านรูด”
“ไอ้บ้าโต นี่มันอาชีพเขา มึง... เธอก็ทำเหนียมไปแบบนั้นแหละ ที่จริงอยากจนสั่นแล้วไม่รู้” คำพูดของเพื่อนทำให้พศินธ์หัวเราะออกมาได้
ไอ้ความทะลึ่งทะเล้นนี่ต้องยกให้อานัสมัน
“เออ ดูก่อนสิ พรุ่งนี้มีงานต่างจังหวัดด้วย”
“เฮ้ย... ได้ไงวะ กูจ่ายแพงนะเว้ย เด็กนี่เด็กใหม่ ชะเอมกระซิบอยู่ว่าซิง แม่งมึงไม่เอา กูเอาเองนะเว้ย ตังค์ก็จ่ายไปแล้ว ถ้ามึงไม่เอาจริง ๆ คืนนี้กูควบสอง”
อานัสพูดขึ้นมาสีหน้าจริงจัง แต่ตอนนี้หันไปยิ้มกว้างกับสองสาวที่เดินกลับมา
พศินธ์ขยับตัว จับมือน้อย ๆ ของนับเดือนไว้แน่น ดึงเธอให้มานั่งลงตรงกลางตัก เขาโอบกอดเธอเอาไว้แบบนุ่มนวล จ้องมองใบหน้าที่สะอาดหมดจด และสายตาที่ดูขลาดและหวาดกลัวนิด ๆ
นับเดือนยังคงสั่นเป็นแมวน้อยอยู่ในอ้อมกอดของเขา
‘วันนี้วันเดียว ทนเอานิดหนึ่ง’ เธอบอกกับตัวเอง ตอนนี้น้ำส้มแก้วที่เท่าไหร่ไม่รู้ที่มาเสิร์ฟลงตรงหน้าของเธอ นับเดือนยกมันขึ้นดื่มอีกครั้ง
แต่ครั้งนี้พอดื่มไปได้สักพักชักมึนที่ใบหน้า เธอยกมือขึ้นมากุมขมับตัวเองแล้วบีบเบา ๆ
‘สงสัยจะเครียด’ เธอปลอบใจตัวเอง
พศินธ์ยังคลอเคลียอยู่กับร่างกายของเธอไม่ห่าง สองคนที่นั่งร่วมโต๊ะเดียวกันเริ่มแลกลิ้นกันอย่างสนุก เขาหัวเราะในความหื่นกามของเพื่อน ที่ขยำหน้าอกที่ล้นทะลักของชะเอมอย่างสนุกมือ