‘นับเดือนแกต้องกินข้าว รีบทำตัวเองให้แข็งแรงจะได้ไปผจญชีวิตข้างนอกต่อไปได้’ เธอบอกกับตัวเอง ก่อนจะพยุงร่างกายที่เมื่อยขบไปยังที่เขานั่งรออยู่
“อย่าร้องไห้ตอนกินข้าวอีกนะ” เสียงเขาแซว และยิ้มให้อย่างอ่อนโยน นับเดือนรู้สึกใจชื้นขึ้นมาบ้าง อย่างน้อยตอนนี้ก็ยังมีที่ซุกหัวนอน ถึงจะรู้สึกไม่ปลอดภัยร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ ณ ตอนนี้ คนอย่างเธอจะทำอะไรได้
“กินเยอะ ๆ จะได้แข็งแรงเร็ว ๆ” เขาบอกเธอ และส่งช้อนให้เหมือนเดิม
“พี่สั่งเขานะ ว่าให้เอาหมูทอด แล้วก็ต้มจืด” เขาบอก
“นับไม่กินแต่ต้นหอมหรอกค่ะ ผักอย่างอื่น นับก็กินได้” เธอเอ่ยบอกเขา รู้สึกว่าเขาช่างดูเป็นห่วง อย่างน้อยตอนนี้คงต้องทำดีกับเขาไว้บ้าง เธอคิดไปไกลถึงว่าจะขอเงินของพศินธ์สักก้อนไว้ติดเนื้อติดตัว
นับเดือนกินอาหารได้เยอะเหมือนกัน คงเป็นความเคยชิน ดีกว่าต้องอด และยิ่งเวลาเธอไม่สบาย ลุงจะสั่งให้ป้าทำอาหารดี ๆ มาให้ตลอด จึงต้องกินให้มากเข้าไว้ เธอรับขวดน้ำจากเขาที่ยื่นให้ เธอยังขอบคุณเขาเบา ๆ
“เออ... พี่ซื้อเสื้อผ้าผู้หญิงมาให้เราใส่ด้วย พอดีออกไซต์งานอีกที่หนึ่ง ผ่านตลาดขายเสื้อผ้า เลยซื้อมาให้ ใส่ได้หรือเปล่า ชอบหรือเปล่า”
เขาบอกพลางยกถุงกระดาษที่วางอยู่ใต้เตียงออกมาให้ พอเปิดออกดู เห็นมีทั้งเสื้อผ้า และชุดชั้นใน นับเดือนก็ออกอาการหน้าแดง แต่ก็ยกมือไหว้ขอบคุณเขา
ชายหนุ่มไล่ให้เธอไปอาบน้ำ เขาเก็บจานและถ้วยออกไปล้างข้างนอก ก่อนจะกลับเข้ามาเอามันมาเก็บไว้ที่เดิม
นับเดือนออกมาพร้อมกับชุดนอนที่เขาซื้อให้ เธอใส่ได้พอดีตัว เขาเห็นก็ส่งยิ้มและเดินเข้ามานั่งลงที่เตียง
ตู้คอนเทนเนอร์ถึงจะใหญ่แค่ไหน ก็ยังแคบอยู่ดี
“ไม่มีทีวีให้ดู เพราะพี่ไม่ชอบดู หัวถึงหมอนก็หลับเป็นตาย” เขาพูดถึงเรื่องตัวเองบ้าง นับเดือนนั่งลงบนเตียงข้าง ๆ เขา
“นับเกรงใจ” เธอพูดขึ้นด้วยเสียงอันเบา เขาหันไปมองหน้าเธอรีบพูด
“ไม่เป็นไร แล้วนับนึกออกหรือยังว่าจะเอายังไง” เขายังถามคำเดิม เธอถึงกลับสะท้านในหัวใจ ตัวเธอเองยังหวั่นไหวที่ได้อยู่ใกล้ ๆ เขา แต่เขามีแต่จะผลักไสเธอให้ออกห่าง
‘เรามันคนไม่มีหัวนอนปลายตีน ยังไปได้มาจากในซ่อง แล้วใครเขาจะยกแกเป็นเมีย’ คำพูดหนึ่งผุดขึ้นมาในหัวสมอง
“นับอยากได้กระเป๋าและเอกสารของนับคืน มันอยู่ในห้องนอนของพี่ชะเอมที่ร้านน่ะค่ะ” เธอบอกเขาไปถึงจุดประสงค์ เพราะคิดว่าอย่างน้อย เขาคงช่วยเธอได้ในจุดนี้
“ได้สิ แล้วพี่จะไปเอาให้” เขาบอกเธอ ก่อนจะเอนตัวลงนอนเหยียดยาวอยู่บนเตียง
งานที่ค่อนข้างหนักของเขาและการเดินตรวจตราที่แข็งขัน ทำให้ร่างกายของพศินธ์ก็หมดพลังเมื่อหัวถึงหมอน
นับเดือนนั่งเก้ ๆ กัง ๆ ไม่รู้จะทำอะไรดี อีกอย่างก็เพิ่งตื่นนอนขึ้นมาด้วย
“นวดเป็นไหม” เสียงทุ้ม ๆ ถามขึ้น นับเดือนหันไปมองหน้าเขา
“ค่ะ”
“งั้นนวดให้พี่หน่อยสิ ปวดไปทั้งตัวเลย” เขาทำเหมือนเป็นเรื่องปกติ แต่สาวน้อยใจสั่นไปหมดเมื่อมีเขาอยู่ใกล้ ๆ นับเดือนก็นวดให้ป้าสุดใจเป็นประจำ แทบจะทุกวันด้วยซ้ำ
พศินธ์นอนคว่ำหน้าลงไปแนบกับหมอน นับเดือนจึงค่อย ๆ ใช้ฝ่ามือกดไล่ขึ้นไปตั้งแต่ปลายเท้า เขาร้องครางออกมาแบบพอใจเวลาที่เธอกดโดนจุดที่เขาเจ็บเกร็ง
หญิงสาวหัวเราะออกมาเมื่อเห็นกิริยาร้องเจ็บปวดเหมือนเป็นเด็ก ๆ ของพศินธ์ เสียงหัวเราะของเธอทำให้เขายิ้มออกมาได้ ก่อนจะหันไปมองหน้าสาวน้อยที่พยายามทำงานในหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด
กลิ่นกายนางยังตรึงใจ รสสัมผัสอันอ่อนนุ่มที่เขาได้รับจากร่างกายของเธอยังไม่จางหาย ร่างกายกำยำแสดงตัวว่าอยากหลับนอนกับเธอขึ้นมาอีก พศินธ์มีเธออยู่ข้างกาย เขาจะปล่อยให้เธอลอยนวลหรือ ความคิดผิดชอบชั่วดีอยู่ภายในสมองกำลังตีกัน
เด็กสาวเลื่อนตัวเองมานวดคลึงไปที่ฝ่ามือหนา
พศินธ์ลืมตาขึ้นมองเธอแบบหลงใหล หน้าตาที่สะอาดสะอ้าน ความสดใสน่ารักของเธอ เขาสลัดมือเบา ๆ ก่อนจะคว้าเข้าไปที่เอวคอดที่อยู่ใกล้ ตวัดรัดร่างเธอจนล้มลงมานอนบนเตียง
เธอลืมตาขึ้นมองเขาอย่างเต็มตา ตอนนี้ร่างหนาใหญ่เกยขึ้นมาทับเธอเอาไว้ทั้งร่าง เขาบรรจงหอมแก้มเธอเบา ๆ ความใหญ่โตแข็งขืนดันตัวเองแทบทะลุออกมานอกกางเกง นับเดือนเริ่มใจเต้นหนัก เธอรู้สึกดีและอบอุ่นที่ได้อยู่ใกล้ ๆ เขา
พอเขาจุมพิตเธอ นับเดือนก็ได้แต่หลับตาปี๋ รสจูบที่อ่อนโยนชวนฝัน ความหวานซ่านเข้าไปถึงหัวใจ เธอเคยอ่านเจอแต่ในนิยาย ว่ารสจูบมันหวานนะ ‘มันหวานแบบนี้นี่เอง’ เธอรำพันภายในใจ
ร่างหนาใหญ่ที่ทับอยู่ข้างบนไม่ได้อยู่นิ่ง เขาเริ่มปฏิบัติการตามที่หัวใจของเขาเรียกร้อง
ริมฝีปากหนาอุ่นไล่เรื่อยลงต่ำมาเรื่อย ๆ ชุดนอนที่เขาซื้อถูกปลดเปลื้องออกไปอย่างรวดเร็ว นับเดือนนอนใจสั่นไม่มีทางปฏิเสธ หากเธอยังอยู่ที่นี่คงต้องเป็นของเขาอยู่ร่ำไป ‘เขาซื้อเรามาแล้ว ซื้อด้วยเงิน เขาก็ต้องเรียกเก็บคืนอย่างคุ้มค่า’ คำโอดครวญเกิดขึ้นในใจ น้ำตาเริ่มไหลรินเมื่อรู้ชะตากรรม
ใบหน้าที่คลุกเคล้าไปบนเนื้อตัวเธออย่างย่ามใจ ยิ่งเห็นเธอไม่ปฏิเสธเขาก็ยิ่งได้ใจใหญ่ ประโคมโลมเลียเธอเหมือนเป็นของหวาน นับเดือนร้องครางออกมาอย่างลืมตัว
นับเดือนยกมือขึ้นปิดปากตัวเองเอาไว้แน่น ใบหน้าเข้มคลุกวงในลงไปในเนื้ออ่อนไหวตรงจุดซ่อนเร้น ความชำนิชำนาญทำให้สาวเจ้าต้องหลั่งรินความพร้อมพรั่งพรูออกมามากมาย คืนนี้ไม่มียาปลุกเร้าอารมณ์ แต่ทำไมเธอก็ยังตอบเขาด้วยเสียงครวญแผ่ว ๆ
ยิ่งเขาตวัดปลายลิ้นระรัว เธอแอ่นร่างเด้งกายใส่ใบหน้าเข้ม ๆ ของเขายกใหญ่ เมื่อเห็นสาวน้อยสุขสมปล่อยหัวใจให้ลอยลม เขาก็เลื่อนกายขึ้นประกบ สองแขนแข็งแรงสอดรั้งขาของเธอ ก่อนจะกดตัวเองเข้าไปในช่องทางคับแคบที่เขาเพิ่งได้เชยชมไปเมื่อคืน
“โอ้ย... นับเจ็บ... อื้อ...” เสียงร้องห้าม พร้อมกับยกมือขึ้นยันหน้าอกของเขาเอาไว้ ผลักไสให้เขาลงไปจากตัวเธอ น้ำตาไหลรินออกมาด้วยความเจ็บร้าวที่เกิดขึ้น