พศินธ์ไม่พูด แต่หยัดตัวเอาไว้ พร้อมกับจุมพิตปลอบประโลม เขาปลุกเร้าอารมณ์ให้เธอใหม่ หยอกเอินไปกับร่างกายต้องจุดอ่อนไหว ริมฝีปากร้อนรุ่นทำงานแบบไม่ลดละ ยิ่งเห็นอาการสะท้านหวั่นไหว และการบิดส่ายตัวขนลุกตามแรงยุของเขา
ชายหนุ่มก็ตอกตัวเองเข้าไปหนักจนสุดปลายทาง ใบหน้าใส ๆ เหยเกด้วยความเจ็บปวด ระคนความอยากรู้ที่ซ่อนอยู่ภายใน พอเขาจูบประโลม เธอก็ตอบสนองเขาด้วยอ้อมแขนที่รั้งยึดเอาไว้ และจูบแลกลิ้นเขาอย่างเต็มใจ
ร่างหนาขยับโยกอย่างช้า ๆ การรอคอยความสุขที่จะเกิดขึ้นพร้อม ๆ กัน ดีกว่าเขาต้องสุขสมอยู่แค่คนเดียว เมื่อเห็นเธอดูผ่อนคลาย เขาก็เริ่มใช้แรงอัดตัวเองเข้าไปแน่น
และกดแช่หมุนควงอยู่อย่างนั้น สาวน้อยได้แต่จิกเล็บจับมัดกล้ามเนื้อของเขาไป เหมือนรอคอยความหรรษาแปลก ๆ ที่เธอได้รับ เสียงร้องหวาน ๆ ทำให้เขาพอใจ
พศินธ์ยกตัวเองขึ้น ก่อนจะขยับอย่างสนุก มีเสียงสองร่างที่สอดประสานกันเป็นจังหวะ และเสียงร้องครางออกมาจากปากทั้งสองคนระงมไปทั้งห้อง
“เรียกชื่อพี่โตสิ” เขากระซิบข้างหูเหมือนเป็นคำสั่ง เด็กสาวทำตามแบบว่าง่าย
“ค่ะ พี่โต อื้อ... นับ... อึ... นับ... ไม่ไหวแล้ว อ้า... พี่โต... ขา...” เสียงเรียกของเธอ และเสียงครางไม่นับ ทำให้พศินธ์รัวสะโพกใส่เธอแบบไม่ยั้ง ครั้งนี้เป็นครั้งแรกกระมังที่เขามีความสุขแบบสุด ๆ ช่องทางรักของเธอตอดรัดขมิบแกนแกร่งจนเจ็บร้าว แต่ปนไปด้วยความสนุกสุขสันต์
ร่างใหญ่กระแทกตัวถี่ จนหัวสั่นหัวคลอน ก่อนจะครางคำราม ส่งตัวเองเข้าไปลึกสุด ๆ ปลดปล่อยอารมณ์ที่สมใจออกมาแบบล้นพ้น ลืมไปว่าไม่ได้ป้องกันอะไรเลย
นับเดือนกอดรัดร่างเขาไว้แน่น เธอก็รู้สึกอิ่มเอมกับรสรักที่เขาปรนเปรอให้ พศินธ์ทิ้งร่างทับเธอเอาไว้ทั้งตัว ทั้งจูบทั้งหอมแก้มเธออยู่อย่างนั้นจนพอใจ
นับเดือนนอนหันหลังให้เขาทันทีที่เขาผละตัวเองออก เขาสอดแขนก่ายกอดเธอจากข้างหลังดึงร่างนวลเข้าแนบชิด จรดจมูกลงไปบนแก้มเธออีกหลายครั้ง เพียงครู่ใหญ่ ๆ เขาก็ส่งเสียงกรนเบา ๆ
นับเดือนพาตัวเองเข้าห้องน้ำไปอย่างลำบาก เธอเจ็บร้าวไปทั้งส่วนกลาง พอเห็นหน้าตัวเองในกระจกก็เขินอายตัวเอง และยกมือขึ้นทาบอกที่ตอนนี้ยังเต้นระยิบไม่หยุด
ผู้ชายที่นอนอยู่ในห้องเป็นสามีของเธอแล้ว เธอพ่นลมหายใจออกมา ก่อนจะกลับเข้าไปในห้องหาเสื้อผ้ามาใส่ เดินไปปิดสวิตช์ไฟ แล้วล้มตัวลงไปนอนเคียงคู่กับเขา
สองแขนแกร่งรั้งร่างเธอมาแนบชิด นับเดือนได้แต่ซุกหน้าเข้าไปหาเขา มันอบอุ่นในหัวใจอย่างบอกไม่ถูก เวลานี้ขออยู่แบบนี้ไปก่อนนะคะ
‘พี่โตอย่าไล่นับนะคะ ให้นับอยู่แบบนี้อีกสักพัก นับไม่มีที่ไป’
เธอสอดแขนเข้าไปโอบกอดร่างเขาเอาไว้แน่น นี่คงเป็นความอบอุ่นแรกที่เธอได้รับอีกครั้งตั้งแต่เกิดมาในอ้อมกอดของเขา หัวใจสาวน้อยเต้นตึก ๆ อยู่ตลอดเวลา พิษไข้ทำให้เธอหลับลงไปในที่สุด
พศินธ์ตื่นขึ้นมาตั้งแต่เช้า นับเดือนยังนอนอุตุอยู่บนเตียง เขาอาบน้ำแต่งตัวจนเสร็จ ก่อนจะนั่งลงใกล้ ๆ แล้วก้มหน้าลงไปหอมแก้มนวล เธอจึงลืมตาขึ้นมาดู
“พี่ไปทำงานนะ นับอยู่แต่ในห้องนี้นะ อย่าออกไปไหน แล้วก็วันนี้กินอาหารสำเร็จรูปไปก่อน แล้วเย็น ๆ พี่กลับมา พี่จะพาเราออกไปกินข้าวนะ” เธอพยักหน้าตอบรับ เขาก้มลงมาหอมแก้มเธออีกหลายครั้ง ก่อนจะยิ้มให้แล้วเดินออกไป
นับเดือนรู้สึกยังมึน ๆ หัว จึงลุกมาหายาแก้ไข้กิน ก่อนจะทิ้งตัวหลับลงไปอีก
สาย ๆ เธอตื่นมาหาอะไรกิน หลังจากนั้น ก็ลงมือทำความสะอาดในห้องของเขาทุกซอกทุกมุม มันเป็นงานที่เธอถนัดอยู่แล้ว ทำแค่แป๊บเดียวก็เสร็จ
หลังจากนั้น เธอก็เอาเสื้อผ้าต่าง ๆ ที่อยู่ในตู้มาพับเก็บ และบางตัวที่ควรรีดเธอก็เอามารีดให้แขวนไว้อย่างเป็นระเบียบ
เธอนั่งทรุดตัวลงไปเมื่อทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว มองดูนาฬิกาที่ติดอยู่ในห้อง เกือบจะหกโมงเย็น เธอนั่ง ๆ นอน ๆ อยู่ในห้องสี่เหลี่ยมนี่จนเบื่อ สายตามองไปที่ประตูว่าเมื่อไหร่เขาจะกลับมาด้วยความใจจดใจจ่อ
แค่ได้ยินเสียงเปิดกุญแจเธอก็ใจเต้น พอเห็นใบหน้าของพศินธ์โผล่เข้ามา นับเดือนบอกกับตัวเองว่าดีใจมาก เธอส่งรอยยิ้มให้กับเขา
“วันนี้ไปเลอะโคลนมาอีก เดี๋ยวพี่อาบน้ำก่อนนะ ค่อยไปหาอะไรกินกัน” เขาบอก ก่อนจะวางกระเป๋าและเอกสารลงที่โต๊ะทำงาน นับเดือนลุกขึ้นยืนอย่างไม่รู้จะทำอะไรดี
“อ๋อมีกระเป๋าของนับ พี่ไปเอามาให้แล้วนะ วางอยู่บนโต๊ะ ดูสิว่าของยังอยู่ครบหรือเปล่า” เขาบอกเธออีกครั้งก่อนจะเดินเข้าห้องน้ำไป
หัวใจของนับเดือนหล่นลงวูบ
‘เขาอยากให้เธอไปจากเขาใจจะขาดใช่ไหม’ เธอเกิดอาการน้อยอกน้อยใจขึ้นมาทันที ในหัวใจเจ็บแปลบ ๆ ขึ้นมาอีก
หญิงสาวเดินไปที่กระเป๋าของตัวเอง ก่อนจะนั่งลงไปที่พื้นห้อง ค่อยสำรวจว่ามีเอกสารสำคัญยังอยู่ครบหรือเปล่า พอเห็นว่ามันอยู่ดีก็ยิ้มออกมาได้ และหยิบกระเป๋าตังค์ที่เธอแอบไว้ข้างในจนลึกสุด เปิดดูก็ยังเห็นทุกอย่างอยู่เหมือนเดิม และในกระเป๋าซิปที่เธอพับแบงก์พันเก็บไว้สามใบ ธนบัตรนั้นก็ยังอยู่ เธอคลี่ยิ้มออกมาเบา ๆ รู้สึกขอบคุณพี่ชะเอม อย่างน้อยนางก็ไม่ใจร้ายกับเธอ และโลกนี้ก็ยังปรานีเธออยู่บ้าง
“อะแฮ่ม... เป็นไงใช่กระเป๋าของนับไหม” พศินธ์กระแอมเบา ๆ เขาใส่แค่ผ้าเช็ดตัวผืนเดียว และใช้ผ้าผืนเล็ก ๆ เช็ดผมที่เปียกไปพลางเดินเข้ามาหา
“ค่ะ” เธอตอบพลางรวบทุกอย่างเข้าไปเก็บไว้ในกระเป๋าเหมือนเดิม แล้ววางมันแอบไว้ติดกับฝาผนังที่สุด
พศินธ์เดินกลับไปหาเสื้อผ้า พอเห็นเสื้อผ้าของตัวเองถูกจัดวางไว้อย่างเป็นระเบียบ และเขาสังเกตมาตั้งแต่ในห้องน้ำแล้ว มันดูสะอาดสะอ้านแปลกตาไปเลยทีเดียว
เธอหยิบเสื้อผ้าของตัวเองบางตัวออกมาจากกระเป๋า เดินเลี่ยงเข้าห้องน้ำไปเปลี่ยนเสื้อผ้า เพราะพศินธ์บอกแล้วว่าจะพาไปกินข้าว
พอนับเดือนเดินออกมาเขาก็คว้าเอวคอดของเธอไว้ ก่อนจะดึงเข้าหาตัวเอง
“นับรีดผ้าให้พี่ด้วยหรือ” เขามองหน้าเธอแบบแปลกใจ เด็กรุ่น ๆ สมัยนี้ไม่สนใจการบ้านการเรือนด้วยซ้ำ
“ค่ะ อยากทำตัวมีประโยชน์กับพี่โตบ้างน่ะค่ะ” เธอตอบเบา ๆ ออกอาการเขินที่โดนจ้องแบบระยะประชิดแบบนี้