ณ คฤหาสน์หลังใหญ่ที่เต็มไปด้วยความสุขตลอดหลายปีวันนี้เป็นวันดีที่คุณผู้หญิงของบ้านที่กำลังนั่งเล่นกับลูกคนที่สองอายุ 5 ขวบ
นั่นก็คือเวนิการ์
"น่ารักน่าชังจังเลยลูก" วรรณิการ์ มารดาของเจ้าสัวมนตรีกำลังหยอกล้อกับหลานอยู่ที่พื้นพรมที่กำลังวาดรูปครอบครัวสุขสันต์ด้วยรอยยิ้มแห่งความสุข
"คุณผู้ชายมาแล้วค่ะ" เสียงสาวใช้ก่อนจะเดินไปหยิบเอากระเป๋าเดินทางที่เจ้าสัวมนตรีกลับมาจากทำงานต่างประเทศแต่ที่วิชุดาแม่ของเวนิการ์เซอไพรส์ไปมากกว่านั้นคือ เจ้าสัวมนตรีประคองผู้หญิงหน้าตาจัดว่าดีเข้ามาในบ้านเมื่อมองลงไปที่หน้าท้องก็ทำให้เห็นว่าผู้หญิงคนนั้นกำลังกุมมือที่หน้าท้องแบนราบราวกับจะสื่อว่ากำลังตั้งครรภ์อ่อนๆ
"นะนั่นใครคะ" วิชุดาเอ่ยถามเสียงสั่นๆ จนผู้เป็นแม่สามีเข้ามาหาใกล้ๆ เมื่อเห็นว่าลูกสะใภ้เหมือนกำลังจะเป็นลม
"สวัสดีค่ะฉันชื่อเอมอรเป็นเมียอีกคนของคุณมนตรีค่ะ" ผู้หญิงคนนั้นแนะนำตัวเองด้วยใบหน้ายิ้มแย้มโดยไม่สนใจว่าตัวเองกำลังทำให้ครอบครัวของคนอื่นแตกแยก
"ออกไปจากบ้านฉัน อิผู้หญิงแพศยา!!" วรรณิการ์ผู้เป็นย่าตะโกนใส่ผู้หญิงที่ลูกชายพาเข้าบ้านมาหน้าตาเฉย
"แม่ นี่เมียผมนะ!?"
"เมียแก มันเป็นเมียใครต่อใครแล้วบ้างก็ไม่รู้ แล้วถ้าแกบอกว่าอินี่มันเป็นเมียแก แล้วคนที่อุ้มท้องลูกแกมาตั้งสองคนล่ะเป็นใคร!"
"แต่ฉันท้องลูกของลูกชายคนอยู่นะคะ" ผู้หญิงคนนั้นยังเถียงหน้าไม่อาย
"เหอะ ลูกในท้องใช่ลูกของลูกชายฉันบ้างหรือเปล่าก็ไม่รู้ บางครั้งแกอาจจะท้องกันคนอื่นแล้วมาโบ้ยว่าลูกชายฉันเป็นพ่อของมารหัวขนในท้องแกก็ได้!"
"คุณคะ" เอมอรหันมาออเซาะบีบน้ำตา
"ไหนคุณบอกว่ารักฉันแต่ทำไมคุณถึงต้องเอาผู้หญิงคนนี้เข้ามาทำให้ครอบครัวแตกแยกคะ คุณทำได้ไงคุณมนตรี!" วิชุดาตวาดลั่นทั้งน้ำตาก่อนจะทรุดฮวบลงเป็นจังหวะที่ธาดาเลิกโรงเรียนมาพอดี
"แม่ครับ!"
"วิ!" มนตรีผละออกจากผู้หญิงอีกคนเข้ามาดูภรรยาของตัวเองที่เป็นลมร้องไห้หมดสติ
"อึก โอ้ย!!" เอมอรเห็นว่ามนตรไปดูภรรยาของเขาจึงแสร้งทรุดลงปวดท้องทำให้มนตรีกลับมาดู
"ออกไป!! ออกไปจากแม่หนู ออกไป!!" กรี๊ด!!" เวนิการ์ผลักผู้เป็นพ่อออกไปก่อนจะกรีดร้องเสียงดังจนพี่ชายต้องเข้ามากอดน้องสาวเอาไว้เมื่อเห็นว่าเด็กน้อยกรีดร้องอย่างบ้าคลั่ง
"พ่อนอกใจแม่!! พ่อทำทำไม!" ธาดาเด็กหนุ่มตวาดใส่ผู้เป็นพ่อด้วยความโกรธพร้อมจ้องมองผู้หญิงคนนั้นที่ยิ้มมุมปากด้วยสายตาที่เครียดแค้น
"ธาร..พ่อ พ่อขอโทษ" มนตรีพูดด้วยน้ำเสียงรู้สึกผิดที่เขาปล่อยให้กิเลสตัณหาครอบงำจนทำร้ายจิตใจครอบครัวจนแทบไม่เหลือชิ้นดี
"แกออกไปจากบ้านฉัน ถ้าแกยังอยากได้สมบัติของฉันแกก็ต้องเอามันออกไปถ้าแกยังเห็นนังผู้หญิงแพศยาคนนี้ดีกว่าแม่กับเมียก็ไม่ต้องกลับมาที่นี่อีก แม้แต่สมบัติของฉันแกก็จะไม่ได้สักอย่าง!"
เอมอรที่ได้ยินว่าจะไม่ได้สมบัติถึงกับกัดฟันกรอดเพราะเธออุตส่าห์อ่อยให้มนตรีมีอะไรด้วยเพื่อปล่อยท้องหวังจับคนรวยเพื่อความสุขสบายของตัวเองก็กำหมัดแน่น
เอมอรทำตัวน่าสงสารเพื่อยื้อเวลาและในท้ายที่สุดก็ต้องตรวจ DNA ปรากฏว่าเด็กในท้องมีสายเลือดเดียวกับกับเขาก้เท่ากับว่านี่คือลูกที่กำลังจะเกิดมาอีกคนของเขา
จากนั้นมนตรีก็พยายามพูดคุยกับมารดาจนตกลงได้ว่าผู้หญิงคนนั้นต้องไปอยู่บ้านอีกหลังที่อยู่คฤหาสน์
วันเวลาผ่านไปเด็กน้อยได้ลืมตาดูโลกนามว่า มัลลิการ์เธออยากมีเพื่อนเล่นจึงพยายามเข้าหาเวนิการ์ แต่ผู้เป็นแม่ก็รู้เข้าจึงลงโทษด้วยการขังเธอไว้ในห้องมืดๆ และพยายามสอนเด็กน้อยในทางที่ผิดๆ จนมัลลิการ์กลายเป็นแบบนี้เพราะผู้เป็นแม่
"แกต้องทำให้คุณพ่อรักแกมากๆ มากกว่านังเด็กนั่นทำยังไงก็ได้ให้คุณพ่อไม่รักมันเกลียดมันได้ยิ่งดี เข้าใจใช่มั้ย!" เอมอรสอนบุตรสาวซึ่งมัลลิการ์ก็พยักหน้ายิ้มมุมปาก
"ถ้าเราเขี่ยมันไปจากบ้านหลังนี้ได้ บ้าน รถ ทรัพย์สมบัติของคุณพ่อทุกอย่างจะต้องตกเป็นของเราแม่ลูก" เอมอรคลี่ยิ้มอย่างสะใจที่ทุกอย่างจะตกเป็นของเธอในไม่ช้า
ตั้งแต่นั้นมามัลลิการ์ก็ำำนายทำให้มนตรีเกลียดพี่สาวต่างแม่และป้อนทุกอย่างที่ผิดๆ ทำตัวอ่อนแอเป็นผู้ถูกกระทำจนมนตรีเชื่อสนิทใจเลยค่อยๆ ห่างเหินกับลูกสาวและลูกชายตัวเองไปติดพันสองแม่ลูกนั่นตั้งแต่นั้นมา
"แกมาบ้านฉันทำไม อิผู้หญิงแพศยา!!?" วรรณิการ์ตวาดลั่นอย่างไม่พอใจพรางชี้นิ้วไล่สองแม่ลูกแพศยาออกไปจากบ้าน
"ก็พาหลานมาเยี่ยมย่ามั้งคะ ลิการ์ลูกไหว้คุณย่าสิคะ" เอมอรจีบปากจีบคอพูดอย่างมีความสุข
"สวัสดีค่ะคุณย่า" เด็กสาวก็ทำตามคำสั่งของผู้เป็นแม่อย่างดี
"อย่ามาไหว้ฉัน ฉันไม่ใช่ย่าแก! มีสายเลือดฉันบ้างหรือเปล่าก็ไม่รู้แกคงไปขายตัวให้คนอื่นแล้วมาโบ้ยว่าเป็นสายเลือดฉันหรือเปล่าก็ไม่รู้"
"ต้องให้ฉันบอกมั้ยล่ะคะว่าฉันเอากับลูกชายคุณกี่ครั้งท่าไหนเวลาไหนบ้าง และที่สำคัญผลตรวจ DNA ก็ออกมาขนาดนั้นแล้วจะเชื่อไม่เชื่อก็แล้วแต่นะคะ" เอมอรกระตุกยิ้มมุมปากที่ทำให้หญิงชราอาการกำเริบขึ้นมาได้
"อึก โอ้ย!!" เอมอรร้องออกมาด้วยความเจ็บปวดเมื่อมีบางอย่างดึงผมเธอจากด้านหลังก่อนจะตบเธอหน้าหัน
เพี๊ยะ!!
"ออกไปจากบ้านฉัน อย่าเอาความสกปรกของแกสองแม่ลูกมาแปดเปื้อนบ้านฉัน เพราะลำพังที่พวกแกมาเกาะบ้านฉันเป็นปลิงฉันก็ขยะแขยงมากพออยู่แล้ว!" เวนิการ์ที่เพิ่งกลับมาจากมหาวิทยาลัยเดินปรี่เข้ามาตบเอมอรเมื่อเห็นว่าเอมอรหาเรื่องยั่วอารมณ์ย่าของเธอ
"พอได้แล้วยัยนิการ์!" มนตรีที่เพิ่งกลับมาจากบริษัทตรงเข้ามากระชากลูกสาวจนเกือบก้มลงกับพื้นแต่โชคดีที่ธาดาเข้ามารับพอดี
"มันจะมากเกินไปแล้วนะพ่อ!" ธาดาต่อว่าพ่อด้วยความโมโหที่ทำน้องสาวตัวเอง
"เอมอรก็เหมือนแม่แกสองคน ลิการ์ก็เหมือนน้องสาวพวกแก ทำอะไรก็หัดเกรงใจพวกเขาสองคนบ้างอย่าน้อยก็เป็นเมียและลูกฉัน!"
"ไม่!! นิการ์ไม่ยอมรับสองคนนี้หรอก อินี่มันตอแหลพ่อเชื่อมันได้ยังไงอ่ะ! พ่อมันน่ามืดตามัวพ่อทำร้ายพวกเรา ผู้หญิงดีๆ ที่ไหนภูมิใจที่ทำให้ครอบครัวคนอื่นแตกแยกเป็นเมียน้อยคน.."
"ยัยนิการ์!"
เพี๊ยะ!! เธอกุมในหน้าตัวเองไว้เมื่อถูกผู้เป็นพ่อตบเป็นครั้งแรกก่อนจะตัดพ้อทั้งน้ำตาและวิ่งขึ้นไปในบ้าน
"ฮรึก พ่อมันเห็นแก่ตัว!"
"นิการ์ พ่อ..." มนตรีได้สติจ้องมองมือตัวเองที่พลาดพลั้งทำร้ายลูกสาวตัวเอง ด้านเอมอรกับลูกสาวก็แอบยกยิ้มด้วยความพอใจที่สามารถทำให้เวนิการ์ถูกตบ
"คนอย่างคุณมันไม่สมควรเป็นพ่อใครหรอก!" ธาดาตัดพ้อก่อนจะวิ่งตามน้องสาวขึ้นไปบนห้อง
"เอาผู้หญิงคนนี้ออกไปจากบ้านฉันเดี๋ยวนี้!" วรรณิการ์ผู้เป็นมารดาตวาดลั่น
เวนิการ์กำหมัดแน่นเมื่อนึกถึงเรื่องราวในอดีตน้ำตาค่อยๆ ไหลออกมาอย่างไม่รู้ตัว เพราะพ่อคนเดียวที่เอาพวกมันสองแม่ลูกเข้ามา เพราะพ่อทำให้ครอบครัวที่แสนอบอุ่นแตกแยกเพราะความไม่รู้จักพอและทำให้แม่ของเธอตรอมใจมาเกือบสองปี และกว่าจะดีขึ้นก็ใช้เวลานานพอสมควร