หญิงสาวนั่งตรวจรายการเบิกเงินบริษัทอยู่อย่างเงียบๆ เพราะเธอต้องการทำงานให้รอบคอบมากที่สุด
Rrrrr Rrrrr Rrrrr
[ตอนไหนจะเข้ามาตัวแสบ พี่รอนานแล้วนะ] สงสัยพี่ชายเธอจะอยากให้เธอมีคนใหม่จริงๆ สินะ
"อีกซักพักได้มั้ยคะ ตรวจบัญชีอยู่"
[พี่จองร้าน xxx นี้นะ ชั้น 4 โซนวีไอพี่ วิวดีมาก] พี่ชายเธอเริ่มจะเหมือนผู้ช่วยเธอเข้าไปทุกวัน
"โอเคค่า ไม่เบี้ยวแน่นอน แค่นี้ก่อนนะคะเดี๋ยวโทรกลับ" เธอวางสายจากพี่ชายเพราะมีคนโทรซ้อนเข้ามาและก็ไม่ใช่ใครทีไหน
สามีจอมโง่เง่า
และใช่เธอเมมเบอร์เขาแบบนี้จริงๆ ก็เพราะมันเป็นเรื่องจริงถึงได้เมมไว้แบบนี้น่ะสิ
"มีอะไรคะ?"
[เย็นนี้ไปทานข้าวนอกบ้านดีมั้ยคุณ เอ่อ พี่จะชวนนิการ์ไปทานข้าวเย็นนี้นิการ์ว่า]
"ไม่ว่างค่ะ มีนัดแล้ว แค่นี้นะคะ" เธอตัดสายทิ้งอย่างไม่ใยดีเพราะการที่เขาทำแบบนี้มีไม่กี่เหตุผลหรอกนอกซะจาก คุณแม่พิมสุดาบังคับ
ถ้าจะเป็นเหตุผลอื่นก็คงไม่มีหรอกเพราะเขาไม่ชอบควงเธอออกสังคมสักเท่าไหร่ คงจะอายมั้งที่มีเธอเป็นเมียแทนที่จะได้ลิการ์เป็นเมียแทน
หญิงสาวกลับคอนโดตัวเองเพราะยังไม่อยากกลับบ้านสักเท่าไหร่เพราะอึดอัดใจที่จะอยู่กับสามีโดยที่มีน้องเมียเทียวเข้าออกไม่เว้นแม้แต่วันหยุด ไม่รู้ว่าจะทำงานอะไรกันนักหนา
เธอกลับมาที่คอนโดเพื่ออาบน้ำเปลี่ยนชุดมั้ยเพราะนักบอร์ดครั้งนี้เธอต้องสร้างภาพลักษณ์ผู้บริหารของตัวเองให้ดีที่สุดเพื่อไม่เป็นการขายหน้าแม่และคุณย่าเฉพาะพี่ชายบอกแล้วว่าคนนี้ทำธุรกิจส่วนตัวอาชีพหน้าที่การงานมั่นคง
"ไม่ทราบว่าได้จองโต๊ะไว้หรือเปล่าคะ" พนักงานเข้ามาถามเธอด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม
"จองไว้ค่ะชื่อ ธาดา วานิชญากรณ์" เมื่อพนักงานพาเธอไปที่โต๊ะก็มีคนที่พี่ชายนัดไว้ให้นั่งรออยู่ก่อนแล้ว
"สวัสดีค่ะคุณใช่.." เธอเอ่ยถามคนคนนั้นจึงเงยหน้าขึ้นทำให้เธอถึงกับนิ่งไปเพราะคนนี้คือเพื่อนสนิทพี่ชายเธอ
"พี่คิมหันต์!?"
"หึ ตัวแสบไม่เจอกันนานก็แต่งงานไปซะแล้ว" ชายหนุ่มผู้มีนามว่า คิมหันต์ เอ่ยขึ้นหยอกล้อน้องสาวเพื่อนที่เอ็นดูในวัยเด็ก
"มาตั้งแต่เมื่อไหร่คะ" หลังจากนั้นเธอและเขาก็นั่งคุยกันตามประสาคนที่ไม่ได้เจอกันมาหลายปีตั้งแต่ที่เขาไปเรียนต่อต่างประเทศเลยไม่ได้เจอกันอีกเลยนับแต่นั้นมา
"มาได้สามวันแล้ว มาหาใครบางคนน่ะ มาทวงของของพี่คืน" เขาพูดเป็นนัยๆ แต่เธอก็ไม่ได้ถามอะไรมากเพราะตอนที่จ้องตาเขาเธอรู้สึกแปลกๆ ยังไงก็ไม่รู้
หลังจากนัดบอร์ดเสร็จทั้งสองก็เอ่ยลากันไว้คราวหน้าค่อยเจอกันใหม่ก็ไม่สาย
"ไปกับใครมา!" น้ำเสียงเข้มๆ ของสามีเธอดังขึ้นมาตั้งแต่ที่เธอเดินผ่านพ้นประตูบ้านเข้ามา
"ไปไหนก็เรื่องของนิการ์ค่ะ พี่ไม่ต้องมายุ่ง" เธอดึงแขนออกมาจากพันธนาการของเขาก่อนจะก้าวเท้าเดินขึ้นห้องแต่ก็ไม่ทันเพราะเขากระชากเธอเข้ามาชนแผงอกของเขาเสียก่อน
"หรอ ไม่ต้องมายุ่ง? อย่าคิดว่าฉันไม่รู้ว่าเธอมีนัดกับใครฉันอุตส่าห์ชวนไปทานข้าวแต่เธอเลือกไปกับมัน!" ผู้เป็นสามีตะคอกใส่เธอ
"รู้แล้วทำไมคะ หึงหรอ หรือหวงก้าง อุ้ยตายดีใจจังที่คุณยังหวงเมียตัวเองอยู่ ฉันก็นึกว่าคุณจะหวงเป็นแค่น้องเมียเท่านั้น" ต่างคนต่างฟาดฟันกันทางสายตาแต่คราวนี้เป็นอคิราเองที่เงียบไป
"เธอรู้หรอ?"
"ใช่ค่ะ ทำไมคะถ้าฉันไม่พูดคุณก็จะไม่บอกฉันเลยว่างั้น? ถ้าอยากได้มันเป็นเมียนักทำไมคุณถึงไม่แต่งงานกับมันไปเลยหล่ะ แล้วจะมาตกลงแต่งงานกับฉันทำไม!"
"มันไม่ใช่แบบนั้น..พี่" น้ำเสียงของเขาอ่อนลงแต่เธอกลับนึกขยาด
"..."
"ก็ผู้ชายคนนั้นมันตามลิการ์พี่เห็นว่าเธอกลัวพี่ก็เลยช่วย" เขาอธิบายให้เธอฟังแต่ก็ได้กลับมาแค่รอยยิ้มเย้ยหยันจากเธอ
"เราหย่ากันเถอะค่ะ นิการ์เบื่อที่จะทนอยู่กับสามีโง่เง่าแบบคุณไม่ไหวแล้ว เป็นนายคนซะเปล่าแต่มาตกม้าตายเพราะอีผู้หญิงตอแหลคนนี้!" เธอคิดไว้อยู่แล้วว่าจะต้องมีสักวันที่เธอจะต้องเอ่ยคำนี้ออกมาเพราะมันเหลือทนแล้ว
"ไม่หย่า!! เพราะมันสินะเธอถึงอยากหย่ากับพี่!" เขาเองก็ไม่คิดว่าเธอจะเป็นคนเอ่ยคำนี้ออกมาทั้งที่เธอรักเขามากขนาดนี้
"มันไม่ใช่เพราะใครหรอกค่ะ แต่มันเป็นเพราะตัวคุณเอง สามีเฮงซวยแบบคุณฉันไม่ต้องการอีกแล้ว! มีอย่างที่ไหนตัวเองมีเมียอยู่แล้วแต่ก็ไปทำตัวสนิทสนมกับน้องเมียอยู่ได้!" เธอตะคอกใส่เขาอย่างเหลืออด
"มันจะมาเกินไปแล้วนะนิการ์!" เขาเองก็ไม่คิดว่าเธอจะกล้าพูดให้เขาขนาดนี้เหมือนกัน
"บางครั้งฉันก็แอบคิดนะคะว่ายัยนั่นเป็นเลขาเท่านั้นหรืออาจจะเป็นมากกว่านั้น เลขาบนเตียงมั้ง"
"ต่อไปนี้ก็อยู่ใครอยู่มันเถอะค่ะ ถ้าพร้อมหย่าเมื่อไหร่ก็ค่อยเจอกัน!" เธอเดินขึ้นห้องโดยไม่สนใจเขา
"ยังแต่งไม่ถึงเดือนจะหย่า บ้าป่ะไม่อายรึไง" เขาเดินตามหลังเธอและพูดไม่หยุด
"แล้วถ้าหย่ามันดีกว่ามีผัวเฮงซวยแบบคุณฉันก็ไม่เอาหรอกค่ะ อายคนอื่นไม่นานแต่อยู่กับผัวเฮงซวยแบบคุณมันทุกข์ใจกว่าอีก?" หลังจากทะเลาะกันต่างคนต่างก็ไม่ใครยอมใครและสุดท้ายแล้วคืนนี้ก็ต้องแยกกันนอนเพราะถ้ายังร้อนกันอยู่แบบนี้มีหวังเรื่องใหญ่โตมากกว่านี้แน่
เช้าวันต่อมา
หญิงสาวเดินลงมาจากห้องตั้งแต่เช้าเพราะเธอต้องไปทำงานเนื่องจากวันนี้มีถ่ายงานแต่ระหว่างที่เธอเดินเข้ามาหยิบนมในครัวโดยลืมสังเกตว่ามีใครบางคนที่เธอไม่ชอบหน้าอยู่ในนี้กับเธอด้วย
"แหมๆ น่าสงสารจังเลยนะคะมีผัวแล้วผัวไม่เอา ก็อย่างว่าแหละค่ะเมียที่วันๆ เอาแต่โวยวายจะไปสู้กับผู้หญิงที่คอยเอาอกเอาใจได้ยังไงหล่ะ จริงมั้ยคะ?" มัลลิการ์พูดเย้ยเธอแต่เธอไม่สนใจเพราะนั่นมันเป็นคำพูดของคนแพ้ที่พูดเพื่อให้ตัวเองดูชนะ ชนะแบบโง่ๆ
"อ๋อหรอ เอาอกเอาใจแต่เขาก็ไม่เอาเธอเหมือนกัน เธอนี่ก็ช่างคิดเนอะให้คนมาจีบเพราะอยากทำตัวน่าสงสารให้ผัวคนอื่นปกป้อง" นิการ์นั่งจิบนมอย่างสบายใจไม่สนใจว่ามัลลิการ์จะโกรธเธอมากน้อยแค่ไหน
"อินิการ์!"
เพล้ง!!! มัลลิการ์ปัดแก้วนมในมือเธอจนแตกกระจายพร้อมกับใช้เศษแก้วเข้ามากับไว้แน่นเพื่อทำให้เวนิการ์ดูแย่และร้ายกาจในสายตาของอคิรา
"โธ่ น้องสาวที่รักของพี่ทำร้ายตัวเองแบบนี้ไม่น่ารักเลยนะ แบบนี้สิถึงน่ารัก" จากที่ค่อยๆ กุมมือของน้องสาวต่างแม่เธอค่อยๆ บีบมือลิการ์ให้กำเศษแกล้วแน่นขึ้นจนทำให้เลือดหยดลงพื้นจนน่ากลัว
"อึก ปล่อยนะ" เธอพยายามดึงมืออกแต่ไม่สำเร็จเพราะนิการ์ดึงเธอมากอดก่อนจะพูดข้างใบหูของเธอ
"อย่าทำให้ฉันหมดความอดทนไปมากกว่าเลย เพราะถ้าฉันหมดความอดทนกับแก เพราะถ้าแกมาวุ่นวายกับฉันอีกแกกับแม่ของแกจะไม่มีที่ซุกหัวนอนตราบใดที่ยังอาศัยบ้านฉันอยู่แล้งก็หัดอยู่ให้เป็นจะดีกว่า ที่สำคัญฉันสามารถทำให้เธอหมดอนาคตได้เธอก็รู้ว่าฉันไม่ได้แค่ขู่"
ผลั่ก!!
"ฮึก โอ้ย!" มัลลิการ์ร้องออกมาด้วยความเจ็บที่แผลและเนื่องจากเวนิการ์ผลักเธอลงพื้นเต็มแรงจนเสียการทรงตัว
"ฉันจะไม่เอาปมด้อยของเธอมาเหยียบย่ำเธอหรอกนะว่าเธอเป็นลูกใคร เพราะยังไงเธอก็ไปโพธนาให้คนสงสารอยู่แล้วนิว่าเธอเป็นลูกใคร หึ"
"..."
"สาวน้อย..ถ้าฉันเป็นเธอฉันจะไม่ทำแบบนี้ เพราะการที่เธอทำแบบนี้มันไม่ได้ทำให้คนอื่นสงสารเธอเลย แต่มันกลับกันเพราะสิ่งที่เธอทำมันทำให้คนอื่นสมเพชเธอมากกว่าเดิม จำใส่สมองตัวเองไว้ดีๆ หล่ะ" พูดจบเธอก็เดินข้างมัลลิการ์ไปอย่างนึกสมเพชหากไม่มีสายเลือดเดียวกันเธอทำมากกว่านี้ไปแล้ว