Chapter 7: จูบแรก

1816 คำ
สองหนุ่มหล่อแสร้งอ่านหนังบ้าง ทำงานบนแล็ปท็อปบ้างจนหริณะหลับไปบนเตียงใหญ่ เขาทั้งสองจึงค่อย ๆ แทรกตัวลงใต้ผ้าห่มแล้วกอดน้องนอนไปด้วย “ไอ้ขาล น้องแม่งโคตรน่ารัก แก้มโคตรเนียนเลยมึง เวลาหลับแล้วยิ่งน่ารัก เหมือนกระต่ายตัวเล็ก ๆ เลยมึง” วาฬพูดกับเพื่อนแล้วยกมือขึ้นไล้แก้มเนียนของน้องที่นอนหงายกลางเตียงใหญ่เบา ๆ “อืม น่ารัก... ช่างต่อปากต่อคำด้วย เวลายิ้มตาหยีก็น่ารัก” ขาลพูดต่อเพื่อน “เฮ้อ! กูคิดไม่ออกเลยว่าถ้าเราจีบน้องพร้อมกันแล้วน้องเลือกคนใดคนหนึ่ง อีกคนหนึ่งจะเป็นยังไง? พวกเราผูกจิตกันไว้แล้ว ให้แยกกันอยู่ก็คงยาก อีกคนที่ไม่ถูกเลือกต้องทนเจ็บเหรอ?” วาฬพูดขึ้นมาในขณะที่เขาจ้องหน้าใสที่หลับตาพริ้มของหริณะ “มึงว่าชาติก่อนกูกับมึงแล้วก็น้องเคยเจอกันไหมวะ? ทำไมแค่เห็นหน้าน้องก็รักได้ขนาดนี้วะ?” ขาลไม่ตอบเพื่อนแต่กลับถามขึ้นมาแทน “กูไม่เชื่อเรื่องชาติภพแต่กูเชื่อเรื่องพรหมลิขิต กูกับมึงผ่านผู้หญิงมานับไม่ถ้วน ยังไม่เคยใจเต้นให้ใครได้มากเท่าบันนี่...” “มึงเป็นหมอเวทห่าอะไรไม่เชื่อเรื่องกลับชาติมาเกิดวะ? ดวงกู ดวงมึง กับดวงน้องอาจเกี่ยวพันกันมาแต่ชาติก่อนก็ได้ แบบ... น้องเป็นวันทอง กูเป็นขุนแผน มึงเป็นขุนช้างอะไรงี้” ขาลพยายามหาสาเหตุที่เขาและไอ้วาฬหลงรักผู้หญิงคนเดียวกันตั้งแต่นาทีแรกที่พบ “ทำไมกูต้องเป็นขุนช้างวะไอ้เชี่ยขาล? กูออกจะหล่อ” วาฬโต้ขึ้นมา “มันใช่ประเด็นไหมวะไอ้วาฬ? ประเด็นคือ... ตอนสุดท้ายวันทองตาย ทั้งขุนช้าง ขุนแผนอดแดกแม่งทั้งคู่” ขาลด่าเพื่อนด้วยความเซ็ง ในหัวสมองของเขาเริ่มมีความคิดบางอย่างเกิดขึ้น “แล้ว?” “มึง... มึงเคยคิดเรื่องสามคนผัวเมียไหมวะ?” ขาลถามเหมือนหยั่งเชิงเพื่อน “เชี่ย! กูไม่เคยคิด มึงคิดห่าอะไรเนี่ย?! ขืนบันนี่รู้ได้วิ่งหนีตั้งแต่ยังไม่ทันเริ่มจีบน้องแน่” “มึงก็อย่าให้น้องรู้สิวะ พวกเราก็ช่วยกันจีบน้อง จีบให้น้องหลงรักพวกเราทั้งคู่ ถึงตอนนั้นค่อยกล่อมน้องให้เข้าใจพวกเรา บอกเรื่องที่พวกเราผูกดวงจิตไว้ด้วยกัน... ไม่อย่างนั้นไม่มึงก็กูคงต้องเจ็บไปจนตาย พอเราสองคนผูกดวงจิตไว้ด้วยกันไม่มีทางที่จะมีคนแพ้และชนะ ถ้ากูอกหักมึงก็ต้องเจ็บด้วย ถึงมึงจะได้น้องไปความรู้สึกเจ็บในใจมันก็ไม่มีทางหาย และในทางกลับกันถ้ากูได้น้องไปกูก็ต้องแบกรับความเจ็บของมึงอยู่ดี ทางออกที่ดีที่สุดคือเราต้องคิดว่าทำยังไงจะให้เราทั้งคู่ไม่เจ็บ” ขาลพยายามโน้มน้าวเพื่อนรัก “แต่... น้อง... แล้วกูก็... ไม่เคย... หรือมึงเคยวะ?” วาฬพูดตะกุกตะกักแล้วถาม ขาลถอนหายใจ ไอ้วาฬมักวางตัวเป็นผู้ใหญ่ เงียบ สุขุม รู้ดี แต่เรื่องเสเพลทั้งหลายกลับทำเป็นไร้เดียงสา “เคยสิวะ กูลองแล้ว มันก็แค่เซ็กซ์ แต่กับบันนี่ไม่ใช่ และกับมึงก็ไม่ใช่ มึงคือชีวิตของกู และกูคือชีวิตของมึง กูกับมึงต้องอยู่ด้วยกันไปจนวันตาย มึงเคยคิดว่าการที่กูกับมึงจะตกหลุมรักคนคนเดียวกันมันเป็นเรื่องที่ผิดมหันต์ แต่มึงลองมองกลับกัน มันดีกว่าที่เราสองคนจะต่างคนต่างตกหลุมรักผู้หญิงคนละคนแล้วเสือกใช้ดวงจิตร่วมกัน มึงคิดดู... ถ้าเป็นอย่างนั้นจริงทั้งมึงและกูต้องหลงรักผู้หญิงทีละสองคนเลยนะมึง แม่ง... ปวดหัวฉิบหาย” “แต่... กูจะทนได้ที่เห็นน้องรักมึงไปพร้อม ๆ กับกูเหรอ?” วาฬถามด้วยความไม่แน่ใจ “กับคนอื่นมึงอาจไม่ยอม แต่นี่คือกูนะไอ้วาฬ กูไม่ใช่คนอื่นสำหรับมึง กูกับมึงมีดวงจิตที่ผูกเข้าด้วยกัน” วาฬเงียบไปครู่หนึ่ง เขาตัดสินใจถอดแว่นออกแล้ววางไว้บนหัวเตียง “เรื่องที่มึงบอกกูจะลองคิดดู ตอนนี้ดึกแล้ว กูขอกอดน้องนอนก่อนได้ไหมวะ? มึงอย่าเสือกเอาเรื่องไม่สบายใจมาใส่หัวกูก่อนนอน เดี๋ยวกูนอนไม่หลับ” วาฬบอกเพื่อนแล้วล้มตัวลงนอนข้างร่างบางของหริณะ ชายหนุ่มใช้แขนกระหวัดเกี่ยวตัวน้องเข้ามากอด ขาลกอดเอวบางของน้องแล้วซุกหน้าเข้ากับซอกคอหอมกรุ่น กระทำการล่วงล้ำในขณะที่เจ้าของร่างหลับสนิท “มึง... เราเป่าคาถาสะกดนิทราให้น้องดีไหม เผื่อเราเผลอทำอะไรแบบที่... ทำให้น้องต้องตื่น” ขาลลองถามเพื่อนเสียงเบา “ไอ้เชี่ยขาล หลับไปเลยมึง อุตส่าห์บอกน้องว่าไม่เล่นมนตร์เป่าคาถาใส่หญิง แม่ง... ความคิดเหี้ย ๆ นี่เก่งอันดับหนึ่งเลยมึงเนี่ย” วาฬดุเพื่อน “เออ นอนกอดเฉย ๆ ก็ได้ แต่มึงลองคิดดูเรื่องสามคนผัวเมียให้ดีนะไอ้วาฬ ถ้ามึงยอม กูว่าเราสองคนกล่อมน้องได้” ขาลบอกเพื่อนแล้วข่มตาหลับ ในใจมันสั่นไหวอยากจับ อยากกอดมากกว่าเอวของน้อง แต่ก็ได้แค่ทำใจ เจอกันแค่วันแรก... อย่าทำให้กระต่ายน้อยต้องตื่นตูม... หริณะลืมตาตื่นในตอนเช้าเพราะรู้สึกหนักตรงหน้าอกเป็นพิเศษ พอเปลือกตาเปิดเธอก็แทบกรี๊ดอีกครั้ง แต่ไม่ได้กรีดร้องด้วยความกลัวเหมือนเมื่อคืนที่ผ่านมา ครั้งนี้เป็นการกรีดร้องด้วยความตื่นเต้นเพราะพอลืมตาขึ้นมาเธอก็เห็นหน้าหล่อเหลาของพี่วาฬอยู่ห่างจากใบหน้าน้อยของเธอยังไม่ถึงนิ้วน่ะสิ แถมปลายจมูกโด่งของเขายังแทบจะชนกับปลายจมูกน้อย ๆ ของเธออีกต่างหาก ส่วนตรงอกที่รู้สึกหนักตอนนี้ก็รู้แล้วว่าทำไม... หัวทุยได้รูปของพี่ขาลซุกอยู่กับอกนิ่มของเธอ ไม่รู้ว่าตั้งใจหรือไม่ตั้งใจ รู้แต่หนุ่มหล่อหน้าตี๋หลับสนิทแถมยังถูไถศีรษะสวยได้รูปไปมากับอกอวบของเธอจนสาวน้อยหน้าแดงอีกด้วย โอ๊ย! เกิดมายังไม่เคยเห็นหน้าผู้ชายใกล้ขนาดนี้มาก่อน แล้วมาเห็นตอนตื่นนอนตั้งสองคน แถมยังเป็นคนที่หล่อแบบทำให้ใจสั่นระดับแปดริกเตอร์อีกด้วย ไม่หัวใจวายตายเพราะผีหนูก็จะหัวใจวายตายเพราะพวกพี่นี่แหละ สาวน้อยคิดแล้วพยายามขยับตัวออกจากการกอดเกาะของสองหนุ่มแต่ก็ไม่เป็นผล สุดท้ายจึงได้แต่หันไปมองพี่ ๆ ซ้ายทีขวาที พิจารณาและเก็บเกี่ยวภาพชายหนุ่มหล่อเหลาทั้งสองคนไว้เป็นประสบการณ์ดี ๆ ในใจ เพราะไม่รู้ว่าเกิดมาชาตินี้จะมีกี่ครั้งที่เธอจะได้ตื่นขึ้นมาบนเตียงของหนุ่มหล่อลากดินพร้อมกันสองคนแบบนี้ กระดุมเสื้อนอนของพี่ ๆ สองเม็ดบนไม่ได้ติด เผยให้เห็นแผงอกกว้างที่มีรอยสักรูปเสือคำรามอยู่ ไม่แน่ใจว่ามันหลุดออกตอนนอนหรือเป็นเพราะพวกเขาร้อนถึงไม่ได้ติดกระดุมทุกเม็ด แต่สิ่งที่หริณะแน่ใจคือ... กล้ามของพี่ ๆ แน่นมาก อกแน่น เนื้อเป็นมัด น่าฟัดชะมัด แถมรอยสักเสือบนอกข้างซ้ายของพี่ ๆ ยังเหมือนกันเป๊ะ เท่สุด ๆ หริณะคิดแล้วแอบกลืนน้ำลาย หญิงสาวส่งมือน้อยไปลูบเขี้ยวเสือบนอกแกร่งของพี่วาฬเบา ๆ จนเขาขมวดคิ้วแล้วครางออกมา สาวน้อยรีบชักมือกลับแล้วเงยหน้ามองใบหน้าหล่อคมของพี่วาฬ ตอนพี่วาฬไม่ใส่แว่นก็ดูมีเสน่ห์ไปอีกแบบ ตอนใส่แว่นเขาดูขรึม ๆ เป็นผู้ใหญ่ พอถอดแว่น เอาผมลงก็ดูเด็กลงอีกหลายปี ส่วนพี่ขาล... สาวน้อยคิดพลางก้มหน้าลงมองหนุ่มหล่อหน้าตี๋แล้วคลี่ยิ้มออกมาน้อย ๆ พี่ขาลที่ดูปากร้ายเวลาหลับผมยุ่งเหมือนเด็กน้อยไม่มีผิด พอหลับแล้วน่ารักชะมัด แต่พอตื่นแล้วชอบว่าประชดประชัน น่าตีสักทีสองที หริณะคิดไปยิ้มไปแล้วมีอันต้องสะดุ้งสุดตัวเมื่อชายหนุ่มที่เธอกำลังคิดว่าน่ารักลืมตาขึ้นมาแล้วจ้องหน้าเธอตาเขม็ง “แอบมองพี่ตอนหลับเหรอบันนี่?” ขาลยิ้มแล้วถาม “พี่ขาลตื่นแล้วทำเป็นหลับเหรอ? แกล้งหนูงั้นล่ะสิ” หริณะต่อว่าเขาแล้วทำหน้างอ ขาลหัวเราะเบา ๆ แล้วเลื่อนหน้าขึ้นมาประกบจูบที่ริมฝีปากอิ่มของหริณะเบา ๆ สาวน้อยตกใจตาค้างกว่าจะรู้ตัวเขาก็จูบซ้ำเป็นรอบที่สอง “พะ... พี่... พี่... พี่ขาลทำอะไรหนูอะ?!” เธอรีบลุกขึ้นนั่งแล้วถามเสียงสั่น ตรงริมฝีปากยังมีไออุ่นจากปากหนาของเขาหลงเหลืออยู่ นั่นจูบแรกของหนูนะ! เมื่อวานก็หอมแก้มหนูไปตั้งสองที วันนี้ตื่นมาก็จูบปากหนูเลย! “ก็จูบอรุณสวัสดิ์ไง ไม่เคยเหรอ? อายุเท่าไหร่แล้ว? ไม่เคยมีแฟนเหรอ?” ขาลถามแล้วหัวเราะน้อย ๆ “หือ? เสียงดังอะไรกัน?” วาฬงัวเงียตื่นขึ้นมาแล้วถามเสียงอู้อี้ “พี่วาฬขา พี่ขาล... เขา... เขา...” หริณะเตรียมจะฟ้องนายใหญ่ของบ้านแต่ไม่รู้จะเริ่มจากตรงไหนดี “กูจูบปากน้อง น้องเลยตกใจ” ขาลชิงบอกเอง วาฬที่งัวเงียอยู่เมื่อได้ยินถึงกับดีดตัวขึ้นมานั่งแล้วกระหวัดร่างบางของหริณะเข้ามากอดก่อนจะเชยคางเธอขึ้นมาดูใบหน้าน้อยที่ทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ “บันนี่ อย่าร้องนะครับ... ไอ้ขาลมันล้อเล่น” วาฬรีบปลอบน้อง “แต่... นั่น... จูบแรกของหนู... หนูยังไม่เคยมีแฟน... พี่เขามาขโมยจูบแรกหนูได้ยังไงอะ? บ้าที่สุดเลย!” สาวน้อยหันไปด่าขาลแล้วกลับมาซบหน้าเข้ากับอกกว้างของวาฬ “ไอ้ขาล! มึงขอโทษน้องเดี๋ยวนี้!” วาฬสั่งเสียงแข็ง “ขอโทษก็กลัวสิวะ กูไม่ได้ทำอะไรผิด กูชอบน้องเขา กูจะจีบเขา พี่จะจีบเธอนะบันนี่ รู้ไว้ด้วย เริ่มตั้งแต่วินาทีที่พี่จูบเธอ!”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม