ตอนที่ 2/2

1510 คำ
“วันนี้ไม่ไปทำกิจกรรมกับเพื่อนๆ เหรอ?” รัญนราเอ่ยถามน้องชาย เพราะปกติหลังเลิกเรียนน้องชายมักจะไปซ้อมบาสกับเพื่อนบ่อยๆ เป็นเธอเองที่ต้องโทรตาม “งดซ้อมหนึ่งวันครับ” เด็กหนุ่มตอบพลางส่งกระเป๋านักเรียนให้พี่สาวเป็นฝ่ายสะพายหลัง ปกติถ้าไม่มีเรียนพิเศษหรือติดกิจกรรมเขาก็จะมารับพี่สาวหลังเลิกงานเป็นประจำอยู่แล้ว “พี่เมย์ อยากกินเคเอฟซีจัง” บอกพร้อมกับยกมือมาลูบพุงป้อยๆ “ได้สิ ถ้านายอยากกินเดี๋ยวพี่เลี้ยงเอง” รัญนราพยักหน้าคลี่ยิ้ม แม้เงินในกระเป๋าจะมีไม่มาก แต่ถ้าน้องชายอยากกินเธอก็พร้อมจะเปย์ “โอเคครับ งั้นเราไปกันเลย” คนที่ได้ในสิ่งที่ต้องการยิ้มแป้น ก่อนจะบังคับรถจักรยานยนต์คู่ใจออกจากตึกสูงที่บนยอดตึกมีโลโก้ตัวอักษรว่า s กรุ๊ป “จัดเลยคะคุณชาย” รัญนราลากเสียงเย้าพร้อมรอยยิ้มใจดี ในที่สุดสองพี่น้องก็มาถึงในศูนย์การค้าที่ตั้งอยู่ใจกลางเมือง ห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ในขณะนี้คลาคล่ำไปด้วยผู้คน ทั้งที่วันนี้ไม่ใช่วันหยุด แต่เนื่องจากเป็นเวลาเลิกงานและเลิกเรียน คนเลยเยอะพอๆ กับวันหยุด รัญนราไม่รอช้าควงแขนผู้เป็นน้องชายแล้วตบเท้าไปทางร้านไก่ทอดที่มีแฟรนไชส์อยู่ทั่วประเทศ สำหรับพวกเธอแค่ได้เข้ามากินนักเก็ตไก่ที่นี่ก็ถือว่าหรูแล้ว “ไม่ต้องควงก็ได้มั้งพี่เมย์ ดูสิคนอื่นมองมาที่พวกเรากันหมดแล้ว” รวิเอ่ยอายๆ เมื่อเห็นสายตาหลายๆ คู่จับจ้องมาทางพวกเธอ ซึ่งเป็นปกติของพี่สาวที่มักจะเดินควงแขนเขาบ่อยๆ อยู่แล้ว แต่เขาก็ยังไม่ชินนี่ บางครั้งเวลาเห็นสาวสวยในวัยเดียวกัน เขาก็อยากเข้าไปทำความรู้จักบ้าง แต่เมื่อเดินเข้าไปทัก พวกเธอเหล่านั้นกลับเดินหนีไม่มีใครสนใจเขาเลย ไม่ใช่ว่าเขาไม่หล่อหรอกนะ เขาสูงถึงร้อยแปดสิบ รูปร่างสมส่วน ใบหน้าคมเกลี้ยงเกลา วันวาเลนไทน์ของทุกปี เขามักจะได้ของขวัญจากสาวๆ ในโรงเรียนเสมอโดยเฉพาะดอกกุหลาบ “นี่ นายกลัวสาวเมินว่างั้น?” รัญนราเอียงหน้าขึ้นถามก่อนจะหัวเราะเบาๆ ให้กับน้องชาย ซึ่งศีรษะของเธอถึงแค่หัวไหล่เขา รวิรูปร่างเหมือนพ่อ คือสูงใหญ่ผิวสองสี ส่วนเธอได้แม่มากกว่าเลยมีรูปร่างเพรียวบางสมส่วน โดยเฉพาะผิวพรรณ ขาวนวลเหมือนกับท่าน “โอเคๆ พี่เดินห่างๆ เลยเป็นไง” รัญนราคลายเรียวแขนออกจากการเกาะกุมต้นแขนยาวของน้องชายแล้วหยุดเดิน แต่คนเป็นน้องหันกลับมามองพลางยิ้มบางแล้วรีบเข้าไปจูงมือเล็กก่อนจะพาไปที่ร้านเคเอฟซี ซึ่งเวลานี้มีลูกค้านั่งกินอยู่พอประมาณ “เปล่าเสียหน่อย” ผมกลัวพี่ขายไม่ออกต่างหากล่ะไม่กลัวหนุ่มๆ คิดว่ากำลังเดินควงแฟนเด็กเหรอ?” “จะกลัวทำไม ใครจะคิดอะไรก็ช่างปะไร พี่ไม่แคร์และก็ไม่อยากมีแฟนด้วย สู้เอาตั้งใจทำงานส่งรวิเรียนดีกว่า ถ้าพี่แก่ตัวแล้วนายอย่าทิ้งพี่ก็แล้วกัน นายจะต้องดูแลพี่และถ้านายมีแฟนห้ามเห็นแฟนดีกว่าพี่โอเคไหม” จบประโยคอันยาวเหยียดก็มีเสียงหัวเราะคิกตามมา หากทว่าน้องชายกลับทำหน้าเบ้ “ไม่เอาหรอก พี่ต้องมีแฟนแต่งงานมีลูก แต่ต้องผ่านการสกรีนจากผมก่อนนะ ถ้าใครที่นิสัยไม่ดีอย่าหวังเลยว่าจะได้แอ้มพี่สาวของผม” สองพี่น้องหยอกกันไปมา กระทั่งเมื่อเดินมาถึงร้าน รวิให้พี่สาวนั่งรอที่โต๊ะ ส่วนเขาไปจัดการสั่งไก่ทอดและยืนต่อแถวรอเหมือนคนอื่น รัญนรานั่งรอน้องชายที่ไปยืนสั่งอาหารแล้วคลี่ยิ้มน้อยๆ ตั้งแต่ที่พ่อแม่จากไปเมื่อหกปีก่อน เธอกับน้องก็ช่วยเหลือดูแลซึ่งกันและกันมาตลอด ถึงจะมีกันแค่สองคนพี่น้อง แต่เธอก็ยังรู้สึกอบอุ่นใจ เพราะอย่างน้อยเธอก็ไม่ได้อยู่ตัวคนเดียวบนโลกใบนี้ “พี่เมย์ทำงานที่สแปร์ยนต์เป็นยังไงบ้าง?” รวิกินพลางถามพี่สาวไปพลาง วันนี้เขาเลือกสั่งนักเก็ตไก่ชุดสุดคุ้ม เพราะโปรนี้มีการแถมน้ำอัดลมขวดเล็กถึงสองขวดเลยทีเดียว ดวงหน้าเรียวเล็กทำหน้าครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะตอบด้วยสีหน้ารื่น “ก็ดีนะ แม้จะเหนื่อยบ้างพี่ก็ชอบ” พร้อมกันนั้นก็อมยิ้มนิดๆ เมื่อมองน้องชายกินน่องไก่ทอดสูตรพิเศษด้วยสีหน้าเอร็ดอร่อย ทำให้เธออิ่มเอมใจไปด้วย “โชคดีของพี่เมย์ที่ได้เข้ามาทำงานในบริษัทนี้ แต่ได้ข่าวว่า ซีอีโอ ของบริษัทเป็นเสือผู้หญิงเลยนะ พี่เมย์ระวังตัวด้วยก็แล้วกันสวยๆ อย่างพี่เมย์ ผมกลัวว่าจะไม่รอดพ้นเงื้อมมือของเขา” “นี่นายหวงพี่ด้วยเหรอ อย่าห่วงเลย ท่านประธานไม่มีทางชายตามองพี่หรอก สาวๆ ของเขามีแต่ท็อปๆ พี่ยังห่างไกลเยอะ” รัญนราบอกอย่างไม่ยี่หระขณะหยิบนักเก็ตไก่มากิน “ก็ไม่แน่หรอกครับ ถึงพี่เมย์จะไม่ได้เป็นดารานางแบบ หรือพริ้ตตี้ดังๆ แต่รูปร่างหน้าตาของพี่ไม่ได้ด้อยไปกว่าพวกนั้นเลยนะระวังให้ดีล่ะ ผมกลัวท่านประธานของพี่จะแพ้ความน่ารักสดใสของพี่เข้าสักวันหรอก” รวิยังคงเย้าพี่สาวไม่เลิก จนเมื่อถูกพี่สาวให้เลิกพูดเรื่องนี้เด็กหนุ่มจึงไม่กล่าวถึงเรื่องของเจ้านายของพี่สาวอีก แต่หันมาตั้งใจกินอาหารตรงหน้าต่อ “โอเคครับไม่พูดแล้ว” “นายอยากกินอะไรเป็นพิเศษอีกไหม?” รัญนราถามเมื่อเห็นน้องชายกินอย่างเอร็ดอร่อย ก่อนเลื่อนนักเก็ตชิ้นสุดท้ายในกล่องส่งให้หนุ่มน้อย รู้ว่าเมนูพวกนี้เป็นของโปรดของเขา “ไม่แล้วครับ กินหมดชิ้นนี้ก็พอแล้ว” รวิว่าพลางรับไก่ทอดชิ้นสุดท้ายที่ถูกส่งมาจากพี่สาวมากิน “เดี๋ยวกินเสร็จแล้วไปเดินเล่นอีกสักหน่อยไหม เดินตากแอร์เย็นๆ สักพักเราค่อยกลับบ้านกัน” คนที่กำลังกัดน่องไก่เข้าปากคำโตๆ บอกกับพี่สาว “ได้สิ” รัญนราพยักหน้าเห็นด้วยกับน้องชาย เพราะถึงกลับบ้านเร็วก็ไม่มีอะไรให้ทำอยู่แล้ว ออกจากร้านเคเอฟซีแล้ว สองพี่น้องยังคงเดินเล่นต่อสักพัก พอเดินผ่านร้านขนมเบเกอรี่เจ้าดัง รัญนราอดที่จะหันไปมองขนมเค้กของโปรดของเธอที่วางอยู่ในตู้กระจกไม่ได้ แต่เมื่อเห็นราคาชิ้นละร้อยกว่าบาทเธอก็กินไม่ลง นั่นมันเป็นค่าอาหารของเธอทั้งวันเลยนะ! คิดแล้วจึงเดินผ่านไป ไม่อยากมองนานกลัวห้ามใจไม่อยู่ แต่ยังไม่ทันที่เรียวขาจะขยับก้าวไปข้างหน้า แขนเล็กก็ถูกฉุดโดยมือใหญ่ของน้องชายเสียก่อน “อยากกินก็ซื้อกินเถอะพี่เมย์ เราไม่ได้กินทุกวันนี่ครับนานๆ ที อย่าประหยัดเลย” พูดพร้อมบีบต้นแขนพี่สาวเบาๆ “ดูสิพี่ประหยัดซะจนผอมแห้งเหลือแต่กระดูกแล้ว” กล่าวจบหันไปบอกพนักงานให้หยิบเค้กชาเขียวออกจากตู้กระจก จากนั้นล้วงเอาแบงก์ร้อยกับแบงก์ห้าสิบออกมาจากกระเป๋ากางเกงสีน้ำเงินส่งให้พนักงานสาว “นี่นายจะฟุ่มเฟือยทำไมกัน พี่ไม่ได้อยากกินเสียหน่อย” รัญนราค้อนให้คนหน้าใหญ่พร้อมทำหน้ามุ่ยใส่ รวิรับกล่องเค้กมาจากพนักงานแล้วหันมาทางพี่สาว “ไม่อยากกินอะไร ตาเป็นมันเชียว” เขาว่าด้วยรอยยิ้ม จากนั้นส่งถุงเค้กให้คนทำหน้ามุ่ยก่อนจะพากันเดินออกไป โดยที่พวกเธอไม่ทันเห็นคนที่นั่งอยู่ในร้าน “ชิเบื่อคนจน ไม่มีเงินจะมาเดินห้างทำไม” มินนี่แขวะก่อนจะตักเค้กเนื้อนุ่มรสส้มเข้าปาก พอเห็นดลเทพไม่ยอมแตะขนมที่เธอสั่งเผื่อเขาด้วยจึงได้เอ่ยถาม “คุณดลไม่ทานเหรอคะ ขนมเค้กที่นี่ไม่หวานเลยนะคะ” รู้ว่าชายหนุ่มไม่ทานหวานจึงเลือกเมนูที่คิดว่าเขาน่าจะกินได้มาเผื่อ ดลเทพส่ายหน้าปฏิเสธ มองสาวสวยตรงหน้าที่เอาแต่ตักเค้กเข้าปากและยังพูดจาแขวะคนอื่นแล้วไม่พูดอะไร แต่กลับเบนสายตาไปที่ตู้ขนม…
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม