มุมมืด
ในงานเลี้ยงที่แสนหรูหรา รวมบรรดานักธุรกิจจากทั่วทุกมุมโลก บรรยากาศเต็มไปด้วยรอยยิ้มและเสียงพูดคุยเบา ๆ ห้องโถงขนาดใหญ่ตกแต่งด้วยโคมไฟระย้า การจัดดอกไม้ที่สวยงาม และผลงานศิลปะชั้นเลิศที่นำมาจัดแสดง สร้างบรรยากาศให้น่าสนใจและตื่นเต้นมากยิ่งขึ้น
งานเลี้ยงเป็นรูปแบบค็อกเทล เนื้อย่างฉ่ำ ๆ อาหารทะเลสด ๆ จัดเสิร์ฟเป็นชิ้นพอดีคำ คือผลงานชิ้นเอกของการทำอาหาร ปรุงโดยเชฟที่เก่งที่สุดในประเทศ มีทั้งคาเวียร์ ทรัฟเฟิล และล็อบสเตอร์
แขกทุกคนแต่งกายด้วยชุดสุภาพ สวยงาม ช่วงเริ่มต้นของงานเลี้ยง พวกเขามีส่วนร่วมในการสนทนาที่มีชีวิตชีวา จิบแชมเปญและไวน์ชั้นดี ดื่มด่ำไปกับงานเลี้ยงอันเป็นสัญลักษณ์ของความมั่งคั่ง และอำนาจของเศรษฐี ซึ่งแสดงถึงความสามารถของพวกเขา ที่ก้าวมายืนอยู่จุดนี้ได้อย่างเต็มภาคภูมิ
เมื่อในงานมีแต่บรรดาคนรวย ผู้มีอิทธิพล จึงมีการรักษาความปลอดภัยอย่างแน่นหนา บอดี้การ์ดในงานใส่สูทแฝงตัวกระจายกันอยู่ตามจุดต่าง ๆ อย่างกลมกลืน แทบแยกไม่ออกว่าใครเป็นใคร
"สวัสดีค่ะพี่คีย์"
เสียงทักทายทำให้ภาณุภัทรหันไปมอง ดานิกาเดินถือแก้วไวน์ตรงมาทางเขา คลี่ยิ้มมาให้ ทำราวกับว่าเขาอยากคุยกับเธอนักหนา ถึงกล้าเป็นฝ่ายเดินเข้ามาทักทายก่อน
ชายหนุ่มหันไปขออนุญาตปลีกตัวกับเพื่อนในแวดวง ขณะดานิกาเดินเข้ามาหยุดอยู่ตรงหน้า ยื่นแก้วไวน์มารอ
ภาณุภัท**นแก้วกับเธอตามมารยาท แววตาเข้มไล่มองเรือนร่างอวบอิ่มในชุดราตรีสีแดงโดดเด่น ขับผิวขาวให้ยิ่งออร่ากระจายภายใต้แสงไฟสว่างไสว
ดูเหมือนเธอจะไม่เข็ด ถึงพาตัวเองมาวุ่นวายกับเขาไม่เลิก
"เธอมีธุระอะไรกับฉัน"
สุ้มเสียงไม่กราดเกรี้ยว หากแต่ก็สัมผัสได้ถึงการวางอำนาจ การเว้นระยะห่าง ดานิกาทำทีแค่นหัวเราะ จิบ
ไวน์พอให้ได้รสชาติ
"การที่คิตตี้จะคุยกับพี่คีย์ในงานเลี้ยงต้องมีธุระด้วยเหรอคะ"
"แต่ฉันไม่อยากคุยกับเธอ"
ภาณุภัทรจิบแชมเปญ แล้วหันไปทางอื่น เป็นเวลาเดียวกันกับที่ซีอีโอของธนาคารกำลังจะขึ้นกล่าวสุนทรพจน์
ตอนนี้สายตาทุกคนในงานหันไปโฟกัสอยู่บนเวที รวมทั้งภาณุภัทรและดานิกา ทั้งสองยืนอยู่ข้างกัน หันหน้าไปทางจุดที่ซีอีโอกำลังก้าวขึ้นมา
"เลิกงานแล้วไปต่อที่ไหนหรือเปล่าคะ"
ขณะสายตาจดจ่ออยู่บนเวที และซีอีโอกำลังกล่าวสุนทรพจน์ ดานิกาก็เอ่ยกับคนข้าง ๆ
"ฉันจะไปต่อที่ไหนแล้วเกี่ยวอะไรกับเธอ"
"คิตตี้ว่าจะชวนพี่คีย์ไปดื่มต่อค่ะ"
แววตาเข้มเหลือบมองเสี้ยวหน้าคนข้างกาย เขารู้ทันกับเกมตื้น ๆ ของเธอ
"นี่เธอยังไม่ล้มเลิกความคิดเรื่องโปรเจกต์นั้นอีกเหรอคิตตี้"
เสียงที่หัวเราะอยู่ในลำคอ เรียกแววตาคู่สวยให้หันมาสบตา
"คิตตี้ว่าเราน่าจะหันมาคุยกันดี ๆ เกี่ยวกับเรื่องการลงทุนร่วมกัน"
"เราอยู่คนละฝั่งน่ะดีแล้ว ฉันไม่อยากร่วมโปรเจกต์อะไรกับเธอทั้งนั้น"
"คิตตี้ทำอะไรผิดเหรอคะ พี่คีย์ถึงไม่อยากญาติดีด้วย"
เสียงนั้นสื่อถึงอารมณ์ตัดพ้อ หากแต่มันไม่สะท้านสะเทือนไปถึงหัวใจคนฟัง
"เธอปรึกษาพ่อเธอหรือยัง คิดจะมาเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกันน่ะฮึ"
ยังไม่ทันที่ดานิกาจะพูดอะไร อินทัชก็เดินมาประชิดตัวเจ้านาย กระซิบกระซาบให้พอได้ยิน
"มีคนน่าสงสัยแฝงตัวเข้ามาในนี้ ไม่รู้ว่าพกอะไรเข้ามามั้ย ผมว่าทางที่ดี คุณควรรีบออกไปจากตรงนี้เพื่อความปลอดภัย"
ภาณุภัทรนิ่งเงียบ แววตาเข้มกวาดมองไปโดยรอบ บนเวที ซีอีโอของธนาคารยังคงกล่าวสุนทรพจน์ไปเรื่อย ๆ
โดยที่ไม่มีใครรู้ถึงความผิดปกตินี้
การที่อินทัชเดินมาบอกแบบนั้น เขาคิดว่าต้องมีคนใดคนหนึ่งในงานตกเป็นเป้าหมายของผู้ไม่หวังดี ที่ต้องการอะไรบางอย่าง
"ส่งสารไปถึงการ์ดบนเวที ให้รีบพาซีอีโอลงไปก่อน"
"ครับ"
อินทัชใช้วิทยุในการสื่อสาร พริบตาเดียวบอดีการ์ดในงานก็เริ่มขยับ พวกเขาเดินหาบุคคลต้องสงสัย ซึ่งอาจเป็นใครสักคนที่ใส่สูทเดินปะปนอยู่ในงานเลี้ยง
การที่จู่ ๆ ซีอีโอก็ถูกพาตัวลงจากเวที ทั้งที่ยังพูดไม่จบ ทำให้แขกในงานเริ่มเลิ่กลั่ก ว่าต้องมีอะไรไม่ชอบมาพากลแล้วแน่นอน
"มากับฉันถ้าไม่อยากตาย"
"อะไรคะ!"
ดานิกางุนงงไม่น้อย เมื่อจู่ ๆ ภาณุภัทรก็คว้าข้อมือของเธอให้เดินฝ่าฝูงชนเพื่อย้ายตำแหน่ง และในวินาทีนั้นเองก็มีเสียงคล้ายระเบิดดังขึ้น
"กรี๊ดดด!"
ท่ามกลางควันของระเบิดที่คละคลุ้ง เสียงเซ็งแช่ที่มาจากความตื่นกลัว ฝูงชนที่แตกฮือวิ่งหนีตาย ดานิกากรีดร้องสุดเสียง เอามือข้างที่ว่างอุดหู เธอกึ่งเดินกึ่งวิ่งเมื่อถูกภาณุภัทรลากไปยังทิศทางที่พาไปสู่ทางออกฉุกเฉิน โดยที่อินทัชตามมาดูแลความปลอดภัยให้เจ้านาย
คล้ายเธอจะได้ยินเสียงปืนอีกหลายนัด พร้อมกับเสียงกรีดร้องเพราะความตกใจ หากแต่เวลานี้ต้องเอาตัวเองให้รอดก่อน ด้วยการวิ่งตามภาณุภัทรขึ้นบันไดไปเรื่อย ๆ โดยไม่รู้เลยว่าวิ่งขึ้นมาถึงชั้นที่เท่าไหร่แล้ว
เหมือนจะมีการวางแผนไว้รองรับเหตุฉุกเฉิน เมื่อมีคนของภาณุภัทรยืนเคลียร์ทางอยู่ตามมุมบันไดแต่ละชั้น เขาพาเธอขึ้นมาถึงชั้นดาดฟ้า มีฮอจอดรออยู่ พร้อมที่จะออกไปจากตรงนี้ได้ทันที
ดานิกายืนหอบหายใจสูดอากาศเข้าปอด มองคนที่ก้าวเร็ว ๆ ไปยังฮอลำนั้น เธอไม่มีทางเลือก จะกลับลงไปก็ไม่ได้ จึงต้องวิ่งตามเขาไปขึ้นฮอ พาตัวเองไปจากสถานการณ์ความวุ่นวายตรงนี้ให้ได้ก่อน