เมียเก็บ
เขามองคนที่ยืนยันหัวชนฝา เก็บเศษหน้าแทบไม่ทัน เป็นคนแรกที่ปฏิเสธเขาแบบไม่ใยดี
"บอกฉันมา ใครมันเปย์ให้มากกว่า"
น้ำเสียงกึ่ง ๆ แสดงความเป็นของ จับจ้องใบหน้าสวยด้วยแววตาออกแนวไม่พอใจ
"ไม่มีค่ะ"
"ไปบอกมันซะ ว่าฉันจองคิวยาว เธอไม่รับงานใครทั้งนั้น"
"คุณคีย์ บอกว่าไม่มีไงคะ"
เขายังคงไม่เชื่อ ในสายตาของเขานั้น อลินดาเข้ามาวงการนี้ก็เพราะต้องการความสะดวกสบาย เป็นที่รู้กันดี จบจากเขาแล้ว เธอก็อาจจะไปรับงานกับใครอีกหลายคน วนเวียนไปไม่รู้จบสิ้น
อาจจะจนกว่าความสาวความสวยหมดราคา
น่าเสียดาย ร่างกายอันแสนสวยงามที่ทำให้เขาคลั่งใคล้ จะต้องแปดเปื้อนน้ำกามจากผู้ชายอีกสักกี่คน
ที่จริง เขาจะไม่สนใจเรื่องนี้ก็ได้ เธอจะไปนอนให้ผู้ชายกี่คนกระทำย่ำยี นั่นก็ตัวของเธอ
แต่คิดแล้วมันหงุดหงิดชะมัด จนถึงกับขนาดเอ่ยปากร้องขอ
"ฉันขอให้เธอเลิกได้ไหม"
"คะ?"
อลินดานั่งงง ไม่รู้เขาคิดอะไรอยู่ แต่เขาคงไม่รู้หรอก ว่า จบงานนี้แล้ว เธอจะไม่กลับสู่วังวนเดิม ๆ อีก
"เลิกทำงานแบบนี้"
"....."
"เลิกซะ แล้วมาเป็นผู้หญิงของฉัน"
เขาสบตากับแววตาที่เต็มไปด้วยความประหลาดใจ มือแกร่งยื่นไปไล้ใบหน้าสวยละมุนใต้แสงไฟ เธอนั่งนิ่งคล้ายกับตั้งหลักไม่ทัน ไม่คิดว่าเขาจะชวนกันง่าย ๆ แบบนี้
"ตกลงไหมลิน แล้วเธอจะได้ในสิ่งที่เธอต้องการ"
"ผู้หญิงของคุณ ก็คือเมียเก็บเหรอคะ"
แววตาลึกล้ำที่จับจ้องมองเธอนั้น ให้คำตอบอย่างชัดเจน แม้เขาจะไม่พูดมันออกมา
"น่าเสียดายความสวยของเธอ ถ้ายังต้องไปทำงานแบบนั้น เอาความสวยของเธอมาใช้กับฉันคนเดียวได้ไหม"
ปลายนิ้วแกร่งลากเข้าหากลีบปากอิ่ม ความร้อนจากกายของเขาแผ่ซ่านซึมลึก ซ่อนแววตาที่ดู 'ร้าย' คล้ายต้องการล่อหลอกให้คนอ่อนประสบการณ์เข้าไปติดหลุมพรางที่วางเอาไว้
"คุณมีเก็บไว้กี่คนแล้วคะ ลินเป็นเมียเก็บคนที่เท่าไหร่ของคุณ"
"ไม่มี เธอเป็นคนแรกที่ฉันเอ่ยปากขอเลี้ยงดู"
น้ำเสียงทุ้มนุ่มกระซิบกลับ ใบหน้าหล่อเหลาโน้มเข้ามาใกล้ 'พยายาม' จะขโมยจูบจากคนที่กำลังเผลอ หากแต่เธอรู้ทันรีบเอี้ยวหน้าหนี รอยจูบนั้นจึงเฉียดผ่านพวงแก้มนุ่ม ฝากเอาไว้แค่รอยจาง ๆ บางเบา
"ถ้าวันนึงคุณต้องแต่งงานกับใครสักคน แล้วลินจะไปอยู่ตรงไหนคะ"
น้ำเสียงนั้นทุ้มต่ำ คำถามที่ไม่มีคำตอบ เขายังไม่ได้คิดไปไกลถึงขั้นนั้น แค่ใช้ชีวิตในแบบที่อยากใช้ให้มันสุดเหวี่ยงก็พอ
"ถ้าฉันเป็นเธอฉันจะไม่คิดเยอะ เธอควรดีใจด้วยซ้ำ เพราะไม่เคยมีใครได้รับโอกาสนี้มาก่อน"
แม้เขาจะหว่านล้อม แต่ก็เป็นได้แค่เมียเก็บ ไม่ได้ออกหน้าออกตาสู่สังคม เธอไม่รู้สึกดีใจเลยสักนิด
แล้วก็รู้ตัวเองดี ถ้าเขาเลือกจะลงเอยกับใครสักคน ผู้หญิงคนนั้นก็ต้องมีฐานะที่สมน้ำสมเนื้อกัน มันจะต่อยอดไปถึงธุรกิจ คนที่จะได้ออกหน้าออกตาก็ต้องช่วยเสริมบารมีให้เขาด้วย
ส่วนเธอไม่มีอะไรที่จะไปสู้ผู้หญิงเหล่านั้นได้เลย หากไม่อยากเจ็บเพราะเผลอใจรักเขา ควรจะรีบพาตัวเองไปให้ไกลจากเขาจะดีที่สุด
"ลินคิดว่า...จะไม่รับข้อเสนอนี้ค่ะ"
"....."
"ลินกลัวเจ็บเพราะรักคุณค่ะ"
เขามองเธอด้วยความประหลาดใจ เธอมาที่นี่เพราะต้องการเงิน มันช่างย้อนแย้งกันสิ้นดี ที่กล้าปฏิเสธข้อเสนอของเขา
ความสะดวกสบายที่เขาหยิบยื่นให้ เธอสะบัดหน้าหนีอย่างไม่ลังเล
ท่ามกลางแสงนุ่มนวลของดวงไฟ แววตาสองคู่สบประสาน คล้ายต้องการล้วงลึกไปถึงก้นบึ้งของหัวใจ ว่าต่างฝ่ายต่างคิดอะไรอยู่ในใจตอนนี้
ทว่าบานประตูที่ถูกผลักเข้ามาโดยใครสักคน ปลุกสองหนุ่มสาวขึ้นมาจากห้วงภวังค์
"ขอโทษครับคุณคีย์ มีคนมาขอพบคุณ"
"ใคร!"
น้ำเสียงออกอารมณ์หงุดหงิดที่ถูกขัดจังหวะ แววตาสาดแสงไม่พอใจ
"คุณภัส"
เมื่อได้ยินชื่อ ชายหนุ่มพยักหน้าให้อินทัชเป็นความหมายที่รู้กันดี ใบหน้าหล่อเหลาที่ฉายความเคร่งขรึม แววตาที่ยากจะคาดเดา ทำให้อลินดารู้สึกประหลาดใจ เขาลุกขึ้นยืนแล้วคว้ามือหล่อนให้ลุกตามมา พาเดินไปยังอีกห้องที่อยู่ชั้นใต้ดินเหมือนกัน
ในห้องโอ่โถงที่ดูเหมือนห้องทำงาน ตรงมุมรับรองแขก มีใครบางคนนั่งรออยู่ก่อนแล้ว ภัสสรมอง 'เจ้าที่' เดินเข้ามาด้วยสีหน้าราบเรียบ เหมือนเช่นทุกครั้ง เขาไม่มีแม้รอยยิ้มให้แก่กัน แล้วเธอก็ไม่เคยเข็ด ไม่เคยจำ ถูกทำร้ายหัวใจกันซ้ำ ๆ ด้วยแววตาหมางเมินเย็นชา ตัดเยื่อใยกันได้ลง
วันเวลาหล่อหลอมผู้ชายคนนี้ให้กลายเป็นคนจิตใจเหี้ยมโหด ไม่เหลือเค้าภาณุภัทรในวันวาน เด็กหนุ่มที่เคยโหยหาอ้อมกอดของเธอ รอยยิ้มที่เคยมีให้ มันหายไปนับตั้งแต่เขาขึ้นกุมบังเ**ยนแทนบิดา เปลี่ยนถ่ายอำนาจและอิทธิพลมาถึงเขา ซึ่งเป็นลูกชายเพียงคนเดียวของอาณาจักรเมธากุล
เธอรู้ ในวันสูญเสียบิดาแบบกะทันหัน เขาคงเจ็บปวดมาก ความเสียใจมาพร้อมกับภาระบนบ่าอันหนักอึ้ง หากแต่เธอก็ไม่ได้อยู่ร่วมในช่วงเวลานั้น มันคือความผิดพลาด ที่ไม่สามารถย้อนกลับไปแก้ไขอะไรได้
ภัสสรมองเลยไปยังเด็กสาวที่ยืนอยู่ข้างหลัง หน้าตาสะสวย เขาควงเข้ามาหาเธอถึงที่นี่ คิดในใจว่าเด็กสาวคนนี้เป็นอะไรกับเจ้าพ่อคาสิโนที่รักคนยาก ถึงพากันตามติดชนิดไม่ให้ห่างกาย ผิดวิสัย ภาณุภัทร ที่ไม่เคยควงใครมาให้เห็นง่าย ๆ
ผู้หญิงส่วนใหญ่ก็ใช้เงินซื้อมา เมื่อเบื่อก็เขี่ยทิ้งไปซื้อกินใหม่ ไม่เห็นเขาจริงจังกับใครเลยสักคน
"คุณมีอะไรก็พูดมา เวลาผมมีน้อย"
น้ำเสียงนั้นฟังดูห่างเหิน เย็นชา หากแต่ภัสสรก็ชินเสียแล้ว เขามาไกลเกินกว่าจะกลับไปเป็นคนเก่า เธอควรก้มหน้ายอมรับ
"นั่งก่อนสิจ๊ะคีย์ แม่มีเรื่องจะคุยด้วย"
"ถ้าจะมาคุยเรื่องคิตตี้ ก็กลับไปซะ ไร้สาระสิ้นดี"
ภัสสรถอนหายใจ เมื่ออีกฝ่ายรู้ทัน ดักคอจนเธอไม่ต้องเกริ่นอะไรอีก
"แม่ขอร้อง อย่าไปยุ่งกับคิตตี้ อย่าดึงเธอมาในเกมของคีย์"
เจ้าของชื่อกระตุกยิ้ม แววตาสาดประกายชิงชังมองไปยังผู้หญิงที่ได้ชื่อว่าเป็นมารดา ต้องเป็นคนแบบไหนถึงไปแต่งงานใหม่กับผู้ชายที่ทำธุรกิจขัดผลประโยชน์กับเขา ความรักที่เคยมีให้ เขาสลัดมันทิ้งไปจากใจที่แห้งผากนานแล้ว
คนที่เอ่ยถึงก็คือดานิกาซึ่งเป็นลูกติดของอลัน ผู้ชายที่แม่ของเขาไปแต่งงานด้วย
"แล้วระหว่างผมกับคิตตี้ คุณเลือกใคร"
"แม่ไม่อยากให้คีย์เดือดร้อน ก็เลยมาบอกดี ๆ"
"เธอวิ่งแจ้นไปฟ้องคุณงั้นสิ"
"อย่าทำร้ายเธออีก ถ้าคุณพ่อของเธอรู้ว่าคีย์ทำอะไรลงไป เรื่องมันจะบานปลาย"
"ผมควรต้องกลัวไหม"
"คีย์…"
"ผัวคุณจะฆ่าผมหรือไง ก็ลองดู ถ้าคิดว่าจะจัดการผมได้"
"คีย์ ถือว่าแม่ขอร้อง ต่างคนต่างอยู่ ไม่ต้องวุ่นวายกัน"
"ถ้าไม่รู้อะไรก็อย่าเสนอหน้ามาขอร้องในสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ มันคือเรื่องของธุรกิจ ถ้าเป็นไปได้ ช่วยอยู่เฉย ๆ ไม่ต้องวุ่นวายอะไรทั้งนั้น"
"คีย์ ก็เพราะรักหรอกนะ ถึงมาเตือน"
"อืม...ซาบซึ้งใจจนน้ำตาจะไหล"
ทั้งประโยคและน้ำเสียง ทั้งสีหน้าและแววตา กระตุ้นความเจ็บในหัวใจคนฟัง ภัสสรนั่งนิ่ง ข่มความรู้สึกหลาก หลายเอาไว้ภายใต้สีหน้าราบเรียบ
อลินดายืนมองสองคนสลับกันไปมา ฟังการโต้ตอบนั้นแล้วพอจะจับใจความได้ ผู้หญิงตรงหน้าคือมารดาของเขา และดูเหมือนความสัมพันธ์จะไม่ปกติเอาเสียเลย
ใบหน้าหล่อเหลาที่เคร่งขรึม แววตาที่สาดความชิงชังไม่ซ่อนเร้น บอกเธอว่าเขาเกลียดผู้หญิงคนนี้เข้ากระดูกดำ
เมื่อมาอยู่ตรงกลางความขัดแย้งของคนสองคน เธอจึงรู้สึกอึดอัด ปั้นหน้าไม่ถูก ในอารมณ์ที่ไม่รู้จะปรับไปทางไหน เธอเริ่มเอะใจ สรุปภาณุภัทรเป็นอะไรกับ Interstellar tower
หรือว่าอาณาจักรแสนหรูหราแห่งนี้ จะมีผู้ชายที่ชื่อ ภาณุภัทร เป็นผู้ครอบครอง