ซ่อนเร้น

1928 คำ
ซ่อนเร้น Death Valley หรือ 'หุบเขามรณะ' วางตัวตนอยู่กลางทะเลทรายโมฮาวี เขตรอยต่อแคลิฟอร์เนียและเนวาดา หุบเขาแห่งความตายแห่งนี้ ได้รับการขนานนามว่าเป็นดินแดนที่ร้อนสุดในซีกโลกตะวันตก พื้นที่ต่ำสุดในอเมริกาเหนือ มีความกว้างใหญ่และซับซ้อนเหมือนเขาวงกต แห้งแล้งทุรกันดาร แทบไม่มีฝนตกเลยในแต่ละปี แต่ด้วยสภาพอากาศที่แปรปรวนแบบสุดขั้ว ทำให้วันนี้โมฮาวีถูกครอบคลุมไปด้วยเมฆหมอก ฝนที่โปรยปรายลงมาไม่ขาดสาย เมื่อสัมผัสพื้นโลกก็ถูกทรายที่ร้อนระอุดูดน้ำลงไปใต้ผืนดินในเวลาอันรวดเร็ว ท่ามกลางเวิ้งทรายสีขาวสุดลูกหูลูกตา ปรากฎเทือกเขาลวดลายคล้ายหินอ่อน ไล่ระดับสีสวยงามแปลกตาน่าทึ่ง ริมผาสูงชัน สิ่งปลูกสร้างคล้ายกล่องรูปตัวแอลอิงแอบอยู่อย่างกลมกลืน มีสระว่ายน้ำสีครามอยู่ด้านหน้า เข้ากันดีกับตัวบ้านสีดำด้าน ผนังเป็นกระจกใสรอบทิศทาง เพื่อเสพมุมมองวิวด้านนอกแบบสามร้อยหกสิบองศา รถหรูสามคันเคลื่อนเข้ามาตามทางที่พาเข้าสู่อาณาจักรเมธากุล การมาเยือนของแขก 'ที่ได้รับเชิญ' ทำให้การ์ดในชุดสูทที่ยืนกระจายกันตามจุดต่าง ๆ ปล่อยผ่านเข้ามาได้โดยง่าย ทุกสายตาโฟกัสไปยังรถหรูคันนั้น เมื่อมีใครบางคนก้าวลงมา หนึ่งในนั้นรีบเอาร่มมากางให้เจ้านาย เมื่อสายฝนยังคงโปรยปรายลงมาเป็นละอองบางเบา คิตตี้ หรือ ‘ดานิกา’ สาวสายเลือดไทยอเมริกัน กวาดสายตามองบ้านหรูสีดำสุดเท่ห์ ร่างระหงในเดรสขาวบริสุทธิ์ สวมทับด้วยเบลเซอร์สีดำ ก้าวเดินเข้าไปในตัวบ้าน โดยมีบอดี้การ์ดเดินตามเข้ามาสี่คน ทุกซอกมุมของบ้าน มีคนของเขายืนคุมกันเต็มไปหมด เธอพยายามทำตัวให้เหมือน 'นางพญา' ที่ไม่ครั่นคร้ามกับสิ่งใด แม้คนที่นัดเธอมาจะคือ 'พี่ชายนอกสายเลือด' ที่ใครๆ ก็ไม่อยากมีปัญหาด้วย เนื่องจากเกรงในอิทธิพล อำนาจที่เขากุมเอาไว้ในมือ ในห้องแสนโอ่โถง ผนังกระจกใสรอบทิศทาง มองออกไปคือผาสูงที่เบื้องล่างเป็นทะเลทรายเวิ้งว้าง แววตาหยิ่งผยองของดานิกามองไปยังชายสองคนที่ถูกจับมัดให้นั่งตากฝนอยู่ริมหน้าผา สภาพบอบช้ำ ใบหน้าอิดโรย คล้ายถูกทรมานมาแล้วหลายชั่วโมง เธอไม่อยากคิดเลยว่า หากวันนี้ฝนไม่ตก สภาพอากาศที่เลวร้ายกลางทะเลทรายแห่งนี้ จะทำให้พวกเขาทานทนกับการอดน้ำอดอาหารไปได้นานแค่ไหน หญิงสาวยืนนิ่งตั้งสติ รวบรวมความกล้า มองร่างสูงสง่าน่าเกรงขามในเทรนช์โค้ทดำ เขายืนหันหน้าออกไปทางหน้าผา พ่นควันจากบุหรี่ไฟฟ้าเข้าผนังกระจกใสจนอบอวลไปทั่วห้อง "นัดคิตตี้มาทำไมคะ" น้ำเสียงที่พยายาม 'ซ่อนเร้น' ความยำเกรงเอ่ยขึ้น การมาของเธอดึงสายตาคมกริบดั่งพญาเหยี่ยวให้จับจ้อง ภาณุภัทรมองไปยังหุ่นสมส่วนในเดรสขาวบริสุทธิ์ เธอเดินตรงเข้ามาอย่างช้า ๆ ด้วยก้าวที่มั่นคง ดานิกามองชายตรงหน้าด้วยแววตาลึกล้ำสุดจะหยั่งถึง ไม่ให้เขาจับทางได้ ว่าเธอเองกำลังใจเต้นแรง แอบกลัว เมื่อเข้ามาสู่อาณาจักรของเขา ท่ามกลางปืนที่รายล้อม พร้อมจะลั่นไกได้ทุกเมื่อ "ฉันคิดว่าเธอรู้ดี" เขาเอ่ยโดยไม่มองหน้า อัดบุหรี่เข้าปอด ทอดสายตามองไปยัง 'ผู้กล้า' ที่แฝงตัวเข้าไปล้วงความลับในบริษัทของเขา ขณะที่ดานิกาเอียงหน้ามอง แสร้งทำพาซื่อ พยายามปรับน้ำเสียงให้ราบเรียบที่สุด "พี่คีย์คิดว่าคิตตี้ทำอะไรอีกคะ" ภาณุภัทรกระตุกยิ้ม หันไปมองใบหน้าสวยที่พยายามทำตัว 'เยือกเย็น' แฝงเย่อหยิ่ง เธอคงไม่รู้ว่ากำลังเล่นอยู่กับอะไร อำนาจมืดที่เธอยังไม่เคยสัมผัสว่ามันน่ากลัวขนาดไกล นรกบนดิน เขาจะทำให้เธอได้พานพบ "คนข้างนอก เธอส่งมันมาใช่ไหม" แววตาคู่สวยมองตามสายตาคมกล้า เธอตีหน้าขรึม เขาคงคิดว่าจะรีดเค้นจากเธอได้อย่างง่ายดาย "ไม่ใช่ค่ะ ไม่ใช่คนของคิตตี้" "ใครก็ตาม ที่มันยุ่งกับโปรเจกต์ของฉัน...ฉันจะส่งมันไปลงนรกให้หมด!" เขาหมายถึง โปรเจกต์ สเปช สเตชั่น การลงทุนร่วม กับรัฐบาลญี่ปุ่น ในการเปิดบ่อนคาสิโนแบบถูกกฎหมาย มีมูลค่าหลายแสนล้าน แต่วันนี้ข้อมูลกำลังรั่วไหลไปถึงคู่แข่งอย่าง 'อลัน' บิดาของคนที่ยืนอยู่ตรงหน้า "พี่คีย์พูดถึงโปรเจกต์อะไรคะ" "ดี ปากแข็งดี ฉันอยากรู้เหมือนกัน ว่าระหว่างแลกกับข้อมูลฝั่งเธอ กับส่งคนสนิทเดนตายไปลงนรก เธอจะเลือกอะไร" ดานิกาแสร้งกระตุกยิ้ม กดอารมณ์ตื่นกลัวเอาไว้ "เลอะเทอะค่ะ คิตตี้ไม่รู้จักพวกเขาสักคน ต่อให้พี่จะฆ่าพวกเขาทิ้ง พี่ก็จะไม่ได้อะไรจากคิตตี้ทั้งนั้น" "โอเค ยอมแลกได้ ชีวิตของคนที่ทำงานแบบถวายหัวให้เธอ" ภาณุภัทรคลี่ยิ้มเยือกเย็น แววตาสาดประกายอำมหิตสบตากับอินทัช พยักหน้าให้อีกฝ่ายลงมือได้เลย แววตาซ่อนความขลาดกลัวของดานิกามองผ่านม่านกระจกใส ใจเธอเต้นแรงยามที่อินทัชเดินไปยังชายสองคนที่นั่งคอตกอยู่กลางสายฝน ความที่ถูกทรมานมาหลายชั่วโมง ทำให้พวกเขาไร้เรี่ยวแรงที่จะตะเกียกตะกายหนี หนึ่งในนั้นมีท่าทีลนลานเมื่อปลายกระบอกปืนจ่อไปที่ศีรษะของตน ปัง! ดานิกาเบิกตากว้าง เมื่อร่างนั้นหงายหลังลอยละลิ่วลงสู่ก้นเหว ก่อนที่เธอจะรีบปรับให้เป็นปกติ ซ่อนความกลัว สองมือชื้นเหงื่อกำเข้าหากัน พยายามควบคุมการหายใจให้ราบเรียบ แม้ภาพตรงหน้าจะทำให้ขวัญกระเจิงก็ตาม ภาณุภัทรอัดบุหรี่เข้าปอด พ่นควันใส่เสี้ยวหน้าของคนที่ยืนนิ่ง เก็บอาการสั่นไปทั้งตัว "เธอคงเห็นแล้วว่าฉันซีเรียส แล้วก็โกรธมาก" เสียงนั้นทุ่มนุ่ม หากแต่ไม่อาจกลบประกายอำมหิตที่สาดแสงออกมาได้ "พี่ฆ่าคนไม่เกี่ยวข้อง คิตตี้บอกแล้วว่าไม่ใช่ไงคะ พี่มีศัตรูมากมาย ทำไมต้องเพ่งเล็งคิตตี้ด้วย" "ถือว่าใจโหดเหี้ยมใช้ได้ ยืนมองคนของตัวเองตายโดยไม่รู้สึกอะไร" ดานิกาบดกรามแน่น แววตาแสนหยิ่งผยองมองคนที่จิตใจแสนอำมหิตตรงหน้า ฆ่าคนเป็นผักปลาโดยไม่รู้สึกเกรงกลัวต่อกฎหมายเลยสักนิด "ถึงเวลาต้องตัดสินใจแล้ว คิตตี้ ระหว่างโปรเจกต์ลับของเธอ กับอีกหนึ่งชีวิตที่เหลืออยู่" "......" "อย่าลืม ที่เธอยืนหน้าเชิดใส่ฉันอยู่คือโมฮาวี มีคนเข้ามาแล้วหายสาบสูญปีละหลายร้อยคน การที่คนของเธอจะหายไปสักคนสองคน ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกของที่นี่ ดานิกา" น้ำเสียงนั้นเย็นเยียบ แววตาน่ากลัวราวซาตานร้ายกระหายเลือด เด็ดเดี่ยว กระตุ้นความอ่อนแอในส่วนลึกที่เธอพยายามกดเอาไว้ ใจของดานิกาเต้นแรง ยังช็อคไม่หายที่เขาสั่งฆ่าคนต่อหน้าต่อตา เชื่อว่าเขาทำได้ กับอีกหนึ่งชีวิตที่อยู่ในกำมือของเธอ แต่มันไม่ต่างกัน การยอมรับก็เท่ากับว่ากำลังนำพาความเดือดร้อนไปสู่ครอบครัว เธอจึงยืนตีหน้านิ่ง เชิดหน้า นับหนึ่งถึงร้อยในใจ ตั้งสติรวบรวมความกล้า ข่มเสียงไม่ให้สั่นไหว "ไม่ค่ะ เขาไม่ใช่คนของคิตตี้" "โอเค คนสวย ฉันไม่คาดคั้นเอากับเธอแล้วก็ได้" ชายหนุ่มยกมือส่งสัญญาณให้อินทัชที่ยืนรออยู่ด้านนอก ร่างสูงสง่าขยับเข้าไปใกล้คนที่ยืนตัวแข็ง ชูคอ สองมือร้อนดันร่างอวบอิ่มไปชิดผนังกระจกในท่าหันหน้าออก กักเอาไว้ด้วยกายแกร่ง "ทำอะไรน่ะ!" "จงเสพความตายซะ! คิตตี้" ดานิกาพยายามขัดขืน เมื่อสองมือถูกเขากดตรึงเอาไว้กับผนังกระจก จะขยับหนีก็ไม่ได้เพราะเขาใช้สะโพกดันเบียดเอาไว้ เธอหลับตานิ่งอย่างยอมจำนน ไม่กล้ามองภาพตรงหน้า ที่เขา 'จงใจ' ให้เธอเสพมัน ความตายตรงหน้า เพื่อตอกย้ำว่าใคร ที่คือคนหยิบยื่นความตายให้พวกเขาเหล่านั้น ปัง! เธอยังคงหลับตา หายใจแรง หากแต่ก็จินตนาการได้ว่าร่างนั้นกำลังลอยละลิ่วลงสู่ก้นเหว ภายใต้เงาใหญ่ที่ทาบทับ หญิงสาวยืนตัวสั่น ใจสั่น ไม่อาจเก็บความกลัวที่ซ่อนอยู่ในส่วนลึก เขาทำเธอขวัญกระเจิง มันจะโหดเหี้ยมเกินไปแล้ว ชั่วโมงบินเธอยังน้อยนัก คิดจะโลดแล่นในวงการมาเฟีย ใจเธอยังนิ่งไม่พอ ความอำมหิตที่ผิดมนุษย์มนา เธอยังไม่ได้ครึ่งของภาณุภัทรเลยด้วยซ้ำ "ถ้าเธอไม่หยุดวุ่นวายกับโปรเจกต์ของฉัน คิดจะปาดหน้าเค้ก ฉันเอาเธอตายแน่!" น้ำเสียงเย็นยะเยือกกระซิบอยู่ข้างใบหู เธอสัมผัสได้ถึงลมหายใจอุ่นร้อนที่คลอเคลียอยู่ข้างพวงแก้ม เขาจงใจเบียดกายส่วนล่างกับก้นนุ่มเด้งของเธอ ‘ตรงนั้น’ ที่กดเข้าหา นี่มันคือการลวนลามกันชัด ๆ ดานิกาพยายามส่ายสะโพกหนีอุ้งมือแกร่งที่บีบเคล้นลงบนก้นเต่งตึง เอี้ยวหน้าหนีความสากระคายที่ซุกไซ้อยู่กับซอกคอและใบหน้าสวย สัมผัสที่แม้จะต่อต้าน หากแต่ลึก ๆ เธอกลับ 'ตื่นเต้น' อย่างบอกไม่ถูก เธอกำลังควบคุมตัวเองไม่ได้ ทั้งที่เขาหยาบคายใส่กันแบบไม่ไว้หน้าใคร "ถ้าคิดจะท้าทาย ฉันไม่สนหรอกนะว่าเธอจะลูกเต้าเหล่าใคร ฉันเอาได้หมด!" เขาปล่อยเธอให้เป็นอิสระเมื่อลวนลามจนพอใจ หญิงสาวรีบหมุนกายไปเผชิญหน้า มองใบหน้าหล่อเหลาแสนร้ายด้วยแววตากราดเกรี้ยว เผียะ! ใบหน้าหล่อเหลาหันไปตามแรง แต่ถามว่าเจ็บไหม มันไม่ระคายผิวเขาเลยด้วยซ้ำ ฝ่ามือแกร่งยกขึ้นไล้ไปตามซีกหน้าข้างที่อีกฝ่ายฝากรอยแสบ ๆ คัน ๆ แววตาสาดประกายอำมหิตร้อนแรง เผียะ! เขาตวัดฝ่ามือลงบนซีกหน้าสวยจนร่างนั้นฟุบลงไปกองกับพื้น ดานิดาตวัดสายตามอง เลือดสด ๆ ไหลซึมออกมาจากมุมปาก หากแต่ไม่ได้ทำให้หัวใจแกร่งสะท้านสะเทือนขึ้นมาได้ "อย่ามาล้อเล่นกับฉัน เธอควรทำความเข้าใจเสียใหม่ ฉันเหี้ยเกินกว่าเธอจะจินตนาการได้ ดานิกา!" ดานิกามองตามร่างสูงที่หันหลังเดินจากไป สองมือของเธอกำแน่นด้วยอารมณ์แค้น เจ็บกายไม่เท่ากับเจ็บใจ พยายามกลั้นหยาดน้ำตาไม่ให้ไหล เธอจะอ่อนแอไม่ได้ โดยเฉพาะต่อหน้าคนอื่น พ่อของเธอสอนไว้ให้เป็นคนเข้มแข็ง อย่าหวั่นไหวกับอะไรง่าย ๆ ไม่ว่าจะเจอเรื่องที่มันหนักหนาสาหัสแค่ไหนก็ตาม และการที่เธอต้องฟาดฟันกับ ภาณุภัทร คนที่มีศักดิ์เป็นพี่ชายต่างสายเลือด มันทำให้เธอมองเห็นอนาคต อาจต้องแลกด้วยอะไรหลายอย่าง เพราะเขาไม่ใช่คนที่จะให้ใครมาลูบคมได้ง่าย ๆ
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม