ฝนพรำ
ท้องฟ้าทั่วเมืองลาสเวกัสฉ่ำไปด้วยน้ำ แสงอาทิตย์ไม่อาจลอดผ่าน เมฆฝนปกคลุมทั่วทั้งเมือง สายฝนยังคงโปรยปรายลงมาอย่างต่อเนื่อง แม้จะล่วงเข้ายามสายของอีกวันแล้วก็ตาม
อลินดาลืมตาตื่นขึ้นมาในอ้อมกอดของผ้าห่มอุ่น ร่างเปลือยเปล่านอนคว่ำ ใบหน้าตะแคงซบอยู่กับหมอนนุ่ม กลิ่นหอมของกาแฟลอยกรุ่นอยู่รายรอบ
หญิงสาวกระพริบตาถี่ ๆ ตั้งสติอยู่ชั่วครู่ เมื่อนึกขึ้นได้ก็รีบลนลานลุกนั่ง กวาดตามองไปโดยรอบ
เธอมัวนอนเพลิน แล้วเขาก็ไม่คิดจะปลุก ทั้งที่วันนี้เธอต้องบินไฟท์บ่าย
เห็นภาณุภัทรนั่งละเลียดกาแฟอยู่บนอาร์มแชร์ที่หันหน้าไปทางผนังกระจกใส เขาอยู่ในชุดคลุมอาบน้ำ มีท่าทีผ่อนคลาย คล้ายกำลังดื่มด่ำกับบรรยากาศชุ่มฉ่ำ จากสายฝนที่พร่างพรมไปทั่วลาสเวกัส
"คุณคีย์ กี่โมงแล้วคะ!"
เขาหันมามองคนที่นั่งหน้าตื่นอยู่บนเตียง แววตาเข้มไม่ได้มีท่าทีแปลกใจอะไร
"สิบโมงเช้า"
"แล้วทำไมคุณไม่ปลุกลินคะ! คุณก็รู้ว่าลินต้องบินวันนี้"
อลินดาทำท่าจะผลุนผลันลงจากเตียง เพื่อรีบเตรียมตัว แต่เสียงเขาก็แทรกขึ้นมาก่อน
"เธอไม่ต้องรีบ พายุเข้าขนาดนี้ ไม่มีใครขึ้นบินหรอก"
"พะ...พายุเข้า!"
เสียงถอนหายใจตามมา อะไรมันจะเหมาะเหม็งขนาดนี้
"ต้องเลื่อนไฟท์ไปพรุ่งนี้ รอให้พายุสงบก่อนถึงจะได้รับอนุญาตให้ขึ้นบินได้"
หญิงสาวนั่งซึม หน้าเศร้า เมื่อคิดว่าต้องอยู่ที่นี่ต่อไปอีกหนึ่งวัน เธอมองผ่านกระจกใสไปด้านนอก สายฝนโปรยปรายความชุ่มฉ่ำไปทั่วทั้งเมือง
ภาณุภัทรยิ้มมุมปาก นั่งมองคนบนเตียงที่อดกลับบ้าน พร้อมละเลียดกาแฟเกอิชาแห่งปานามาอย่างใจเย็น
"แม้แต่ฟ้าดินก็ยังไม่เป็นใจให้เธอกลับ เทวดาคงไม่ยอมให้เธอไปจากฉันง่าย ๆ"
อลินดามองคนที่ทำใจเย็นอ้อยอิ่ง ไม่ทุกข์ร้อนที่ไฟท์ดีเลย์ ต่างจากเธอที่ฟุ้งซ่าน กระสับกระส่ายเพราะอยากบินกลับบ้านวันนี้
แต่พายุดันเข้า ฟ้าดินไม่เป็นใจอย่างที่เขาว่าจริง ๆ
ชายหนุ่มลุกขึ้นจากอาร์มแชร์ ผมเผ้าที่ยังเปียกชื้นไม่ผ่านการเซ็ทปรกอยู่บนหน้าผาก บอกให้รู้ว่าเขาอาบน้ำแล้ว เป็นอีกมุมที่อลินดาได้เห็น แม้ผมเขาจะยุ่งไม่เป็นทรง ผู้ชายคนนี้ก็ไม่เคยทิ้งลายความหล่อ
ปฏิเสธไม่ได้ เขาดูดีในทุกช่วงเวลาจริง ๆ
"เดี๋ยวฉันจะไปสะสางอะไรหน่อย เธอรออยู่ที่นี่ก็แล้วกัน"
เขายื่นบัตรเครดิตมาให้ถึงตรงหน้า หากแต่อลินดาก็ยังคงนั่งนิ่ง ไม่สนบัตรในมือเขาเลยสักนิด
"คุณไม่ได้ไปฆ่าใครใช่มั้ยคะ"
คำว่า 'สะสาง' ทำให้เธอคิดเป็นอื่นไม่ได้เลยจริง ๆ
เขาจบการสนทนาด้วยสายดาดุดันคมกริบ แววตาเย็นชาคู่นั้นได้ให้คำตอบแก่เธอแล้ว บอกอลินดาให้สงบปากสงบคำ
เขาไม่ชอบคนเรื่องเยอะ
เธอลืมไป ในชีวิตจริง เขาคือ 'เจ้าพ่อมาเฟีย' ที่ไม่มีใครกล้ายุ่ง แล้วเธอเป็นใคร ถึงกล้าที่จะยุ่งเรื่องของเขา แม้เขาจะ 'ฆ่าคน' ก็ตาม
ภาณุภัทรคนเดิมกลับมาแล้ว เมื่อคืนมันก็แค่ภาพฝัน คนที่ทำให้เธอ 'สูญสิ้นความเป็นตัวตน' หายไปพร้อมแสงจันทร์นำทาง
การที่เธอไม่ยอมรับบัตรเครดิต เขาจึงโยนมันไว้บนเตียง ก่อนจะเดินไปยังมุมแต่งตัว เพื่อแต่งกายออกไปหา 'ใครบางคน'
อลินดาแทบไม่ได้ยินเสียงอะไร นอกจากกลิ่นหอมอ่อน ๆ ที่มาจากขวดน้ำหอมราคาแพง เขาฉีดพรมไปทั่วกายแกร่งที่แสนมีเสน่ห์
แววตาคู่สวยมองร่างสูงสง่าในเชิ๊ตดำที่ผูกเนคไทสีเดียวกัน สวมทับด้วยเทรนช์โคทดำยาวถึงเข่าเพื่อกันฝน ผมที่ไม่เป็นทรงถูกเซ็ทเรียบร้อย ลุคที่ดูเท่ห์ดุดันแสนกร้าวใจในสายตาคนมอง
ก็เหมาะสมดี กับเจ้าพ่อมาเฟียที่แม้แต่ทางการยังไม่อยากยุ่ง
เขาเดินมาหยุดยืนอยู่ข้างเตียง
"เธออยู่ได้ใช่ไหม"
อลินดาไม่อยากทำตัวมีปัญหา จึงพยักหน้าเบา ๆ
"เห็นว่าเธอได้ภาษา ถ้างั้นก็คงขอข้าวขอน้ำฝรั่งกินได้ ไม่อดตายถ้าฉันไม่อยู่"
"คุณไปสะสางธุระของคุณเถอะค่ะ ลินอยู่ได้
"เก็บบัตรเอาไว้ใช้ บางทีเธออาจอยากออกไปช้อปปิ้งแก้เบื่อ ไม่ต้องกลัว ฉันไม่ส่งคนไปเก็บหนี้เธอถึงเมืองไทยหรอก"
ดวงตากลมโตหลุบมองบัตร JP Morgan Chase Palladium Visa ตัวบัตรทำจากทองคำแท้ สลักชื่อเจ้าของไว้บนบัตรอย่างสวยงาม ไม่จำกัดวงเงิน คนที่จะถือบัตรนี้ได้ต้องได้รับคำเชิญจากธนาคารเท่านั้น ต้องมีทรัพย์สินสูงมาก และมีหุ้นอยู่ในธนาคารที่มากพออีกด้วย
การที่เขามีบัตรนี้ในครอบครอง บอกเธอให้รู้โดยไม่ต้องสาธยายความรวย เขาต้องมีหุ้นอยู่ในธนาคารของอเมริกาอย่างแน่นอน
แต่ถึงเขาจะทำธุรกิจอะไรบ้างก็ตาม เธอไม่สนหรอก เพราะถึงอย่างไรก็จะไม่ได้เจอกันอยู่แล้ว
โลกของเขาและเธอต่างกันเกินไป จบจากตรงนี้ เขาก็หาซื้อกินใหม่ไปเรื่อย ๆ ไม่มีความรักเข้ามาเกี่ยวข้อง มีแต่เงินแสนหอมหวานที่ใครหลายคนพยายามไขว่คว้า
มองตามร่างสูงในเทรนช์โค้ทสีดำที่เดินจากไปอย่างเงียบ ๆ ทุกอย่างกลับสู่ความเงียบงัน เหมือนห้องจะกว้างเกินไปเสียแล้ว
หญิงสาวยังคงขังตัวเองไว้บนเตียง
แววตาคู่สวยทอดมองผ่านม่านกระจกไปข้างนอก เม็ดฝนยังสาดมากระทบเบา ๆ จนเป็นฝ้ามัว ทั่วทั้งเมืองครึ้มและอึมครึม บรรยากาศที่ทำให้รู้สึกหนาวจนต้องนั่งชันเข่ากอดตัวเอง