“อย่าดิ้นสิ… อยู่นิ่งๆ ฉันจะได้ค้นหาให้ถนัด”
สองมือใหญ่สอดเข้าใต้สะโพก
ดันต้นขาด้านในให้กลีบก้นแบะอ้า พูทุเรียนลอยเด่นขึ้นมารับปลายลิ้น ปาดเลียเร่าร้อน
ฉั่ว... ฉั่ว... ฉั่ว... ฉั่ว... ฉั่ว...
ปลายลิ้นของคมน์ ชอนไชเข้ามาในทุกซอกเสียวของความเป็นสาว กระตุ้นน้ำเหวานสวาทให้แตกซ่านออกมาอย่างมิจสะกดกลั้นเอาไว้ได้ ดาวเรืองจำต้องอดทนให้เขาลากลึ้นขึ้นๆ ลงๆ ตามแนวยาวของร่องกลีบ
“อ๊าย… อูย… ”
หญิงสาวคราง ไม่คิดว่าในชีวิตของหล่อนจะได้เจออะไรแบบนี้
คมน์ลงลิ้นเบิร์นร่องสวาทจนดาวเรืองหลับตาปี๋ ลิ้นของเขาบดขยี้ย้ำๆ กับเม็ดกระสันจนปูดพอง แดงเรื่อขึ้นมาเป็นตุ่มไตแข็งตั้งตามแรงดูดดึงของอุ้งปาก แนบเคล้าลงมาอย่างหื่นหิว
“อ๊า… ฮื่อๆ”
เสียงครางคล้ายจะร้องไห้
ไม่ไหวแล้ว สองมือของดาวเรืองยันศีรษะของเขาเอาไว้ ด้วยเป็นทางเดียวที่จะหยุดคนหื่น
“ร้อนแรงนะแม่คุณ… โดนเบิร์นไม่ทันไรน้ำเสียวทะลักออกมาเชียว”
คมน์กล่าวเสียงกระเส่า
ตวัดลิ้นเลียริมฝีปาก มองดูท่าทางอ่อนระทวยของหล่อนอย่างนึกสะใจ
ทว่าในขณะที่กำลังจะก้มลงเบิร์นซ้ำ มือสองข้างของดาวเรืองก็เอื้อมลงมายื้อยันบ่าของเขาเอาไว้
และทันใดนั้นเอง!
เสียงโทรศัพท์มือถือของคมน์ที่วางอยู่บนโซฟาก็ดังขึ้น
ราวกับมีระฆังห้ามยก!
ดาวเรืองฉวยจังหวะสั้นๆ ที่เขาหยุด รีบขยับลงจากโต๊ะ จัดเสื้อผ้าให้เข้าที่เข้าทางแล้ววิ่งออกไปจากห้องของคนหื่นโดยไม่หันกลับมามองข้างหลัง
“พี่คมน์คะ… อย่าลืมนัดนะคะ”
เป็นเสียงหวานออดอ้อนของคู่หมั้นสาวที่กรอกมาจากต้นสาย
“ไม่ลืมครับ… อีกชั่วโมงเจอกันนะที่รัก”
คมน์กรอกเสียงหวานไปสู่ปลายสาย
“ค่ะ… เจอกันนะคะ”
โรสตอบกลับมาพร้อมเสียงจูบ
“ครับที่รัก… บายจุ๊บ”
คมน์จูบตอบฝากไปทางโทรศัพท์พร้อมเสียงหวานกระเส่า ก่อนตัดสาย
คมน์เดินไปที่ประตู มองตามด้วยความเสียดาย แต่ร่างของดาวเรืองก็ลับตาไปแล้ว
“ร้อนแรงเป็นบ้า… แบบนี้สนุกแน่”
คมน์หมายถึงดาวเรือง
เขาเดินมาที่หัวเตียง เปิดลิ้นชักเอาแหวนหมั้นมาสวมที่นิ้วนางข้างซ้าย ครุ่นคิดถึงเหตุการณ์เมื่อครู่ด้วยอารมณ์ที่ยังตื่นเต้นไม่หาย
ความเย้ายวนใจของดาวเรืองทำเอาแก่นกายของเขาคัดแข็งขึ้นมาเป็นลำ
น่าแปลก… !
คมน์ครุ่นคิดถึงเหตุการณ์สุดระทึกเมื่อครู่ ไม่คิดว่าความเซ็กซี่ของผู้หญิงที่ชื่อดาวเรืองคนนี้ จะทำให้เขารู้สึกมีอารมณ์ทางเพศอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
อึดใจสั้นๆ ต่อมา
ภายในห้องน้ำกว้าง คมน์ยืนตระหง่านอยู่ภายใต้สายน้ำพร่างพรมรดศีรษะ
ในสภาพเปลือยเปล่า มือข้างหนึ่งของเขารูดชักแก่นกายยาวใหญ่ขนาดใกล้เคียงท่อนแขนเด็ก ขณะความคิดหื่นยังแล่นพล่านอยู่ในสมอง
“นี่ฉันต้องคิดถึงเธอขนาดนี้เชียวหรือ… ยัยเด็กบ้า?”
คมน์รำพึงกับตัวเอง เหมือนไม่เชื่อในความรู้สึกของตัวเองที่มีต่อดาวเรือง
‘ยัยเด็กร่าน… ’
คมน์ไม่อาจสลัดภาพความงามของดาวเรืองออกไปจากสมอง
สิ่งที่ได้เห็น ความรู้สึกตอนได้แตะต้องเรือนร่างเต็มตึงไปด้วยเลือดเนื้อของวัยสาวสะพรั่ง
โนมเนื้อทั้งบนและล่างที่เขาเพิ่งได้สัมผัส กลิ่นสาบสาวจากซอกกลีบมาลีที่เขาเพิ่งลงลิ้นเบิร์นอย่างกระหาย… ยังไม่จางหายไปจากจมูก
ดาวเรืองกลับเข้ามาในครัว ป้านิ่มร้องทักในทันทีที่เห็นท่าทางแปลกๆ ของหญิงสาว
“ดาว… เอ็งเป็นอะไร”
ป้านิ่มจ้องมองหน้าดาวเรือง เห็นตาแดงๆ เหมือนเพิ่งร้องไห้
“ปะ… เปล่าค่ะป้า… ผงเข้าตาน่ะ”
ดาวเรืองรีบโกหก
ยกหลังมือขึ้นปาดคราบน้ำตาที่อาบอยู่ในร่องแก้ม พยายามระงับความตื่นเต้นอย่างที่สุด ด้วยกลัวว่าป้านิ่มจะสงสัย ว่าเกิดอะไรขึ้นในห้องของคุณคมน์
อีกสัปดาห์ต่อมา
ตลอดทั้งสัปดาห์คมน์แทบไม่ได้อยู่บ้าน เขาต้องเดินทางไปฮ่องกงเพื่อคุยกับนักธุรกิจรายหนึ่งที่สนใจจะร่วมทุนในโปรเจคใหม่ของโรงแรมแห่งใหม่ที่กำลังจะสร้างขึ้นใจกลางเมืองเชียงใหม่
เมื่อกลับมาถึงบ้าน
พอดีกับวันนี้เป็นวันเกิดของเขา คมน์จึงจัดงานปาร์ตี้สังสรรค์ขึ้นที่บ้าน มีแค่โรสราซึ่งเป็นคู่หมั้นและเพื่อนสนิทของเขาราวๆ สิบคนมาร่วมงาน
ที่ห้องครัว
ดาวเรืองรำพึงกับตัวเองเบาๆ ทอดสายตามองไปยังสนามหญ้าที่หน้าคฤหาสน์หลังใหญ่ที่มีลูกโป่งหลากสีสันประดับประดาไว้ในงาน แลเห็นโต๊ะถูกจัดตั้งไว้ห้าโต๊ะ มีเครื่องดื่มตั้งเอาไว้พร้อมเสิร์ฟ
“ไม่อยากเลยค่ะ… ”
ดาวเรืองรำพึงเบาๆ กับตัวเอง
หล่อนทำหน้าอิดออด เมื่อรู้ว่าตัวเองจะต้องไปทำหน้าที่เสิร์ฟเหล้าในงานปาร์ตี้ที่ไม่อยากเฉียดกรายเข้าไปใกล้เลยสักนิด
“หนูไม่ไปได้ไหมคะ”
ดาวเรืองกล่าวเสียงแผ่ว ถามป้านิ่ม
อันที่จริงดูแลเรื่องเครื่องดื่มและเสิร์ฟเหล้านั้นไม่ใช่งานหนัก หล่อนทำได้สบายๆ แต่เหนือสิ่งอื่นใดก็คือไม่อยากเจอหน้าคุณคมน์ เพราะว่ายังรู้สึกอับอายไม่หาย กับสิ่งที่เขาทำกับหล่อนในวันนั้น
นึกถึงทีไรก็ยังใจเต้นแรง