“ฉันบอกให้เงียบไงวาสิตา! หยุดร้องไห้เดี๋ยวนี้!” เสียงที่ยิ่งตะคอกของเขายิ่งทำให้หญิงสาวร้องไห้หนักมากขึ้นกว่าเก่า หากหยุดร้องได้ง่ายๆ อย่างที่เขาว่าเธอคงทำไปนานแล้วไม่รอให้เขาตวาดกันแน่
“ฮึกๆ วาหยุดไม่ได้…”
“ดี! ถ้าอย่างงั้นฉันจะเป็นคนหยุดมันให้เธอเอง!!” อธิปตวาดก่อนจะกระชากใบหน้าอ่อนหวานเข้าหาตัวพร้อมกระแทกริมปากประกบลงกับเรียวปากสวยอย่างรุนแรงเพื่อทำให้แม่คนงี่เง่าในอ้อมกอดหยุดร้องไห้เสียที ซึ่งวิธีของเขาก็ได้ผลแทบจะทันทีเมื่อร่างบอบบางหยุดร้องไห้แต่กลับเปลี่ยนมาระดุมทุบอกของเขาอย่างบ้าคลั้งแทน
“อื้อ…คุณปราณปล่อยตานะคะ! อื้อ!!” เสียงร้องห้ามถูกปิดลงไปอีกครั้งเมื่อคนเอาแต่ใจแนบริมฝีปากลงมาอีกครั้งและอีกครั้ง จูบที่คิดว่าจะแค่สั่งสอนค่อยๆ เปลี่ยนไปตามความหอมหวานจากเรียวปากสวยที่ได้ลิ้มลองจนอธิปแทบไม่อยากหยุดการกระทำของตัวเอง เขายังคงจูบกันต่อไปเรื่อยๆ จนกระทั่งเสียงไอเบาๆ ของใครบางคนดังขึ้นเขาถึงได้ยอมหยุดการกระทำของตัวเอง หยุดมันทั้งๆ ที่ใจไม่ได้อยากที่จะหยุด และคงไม่คิดหยุดหากคนๆ นั้นที่ว่าไม่ใช่ผู้เป็นพ่อของเขาเองที่กำลังมองจ้องกันเหมือนท่านมีอะไรบางอย่างอยู่ภายในใจ
“คุณพ่อ…” คุณชัยจ้องมองพ่อลูกชายตัวดีของตัวเองสลับกับหญิงสาวในอ้อมแขนของอธิปที่ได้แต่ก้มหน้านิ่งไปมาก่อนจะเอ่ยขึ้น
“กลับไปทำงานต่อเถอะหนูตา ส่วนแกอย่าเพิ่งไปไหนเจ้าปราณ!” เสียงเข้มดูมีอำนาจเอ่ยบอกวาสิตาเสียงอ่อนโยนแล้วเปลี่ยนมาดุดันใส่ลูกชายที่ทำท่าจะเดินตามร่างเล็กที่วิ่งหนีกันไปอีกคนเอาไว้
“คุณพ่อมีอะไรกับผมครับ” อธิปถามเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“อย่าทำแบบเมื่อกี้นี้อีก หนูตาแกยังเด็ก ตัวแกเองก็ด้วย นี่ถ้าแม่ของแกรู้เรื่องเข้า ระวังเอาไว้เถอะจะถูกบ่นจนหูชา” คนถูกตำหนิไม่ได้ตอบตกลงอะไรนอกจากเบือนหน้าหนีไปอีกด้านอย่างไม่พอใจ ใครว่าเขาอยากจะจูบยัยเด็กบ้าวาสิตานั่นกัน ที่ทำไปเมื่อกี้มันก็แค่อยากสั่งสอนให้หล่อนได้สำนึกเสียบ้างว่าใครเป็นใครมันก็เท่านั้นเอง
เขาไม่ได้ชอบเธอเลยสักนิด และไม่ได้มีความรู้สึกอะไรต่อเธอเลยทั้งนั้น! แม้สักนิดเดียวก็ไม่มีและจะไม่มีวันมีด้วย…
วาสิตาวิ่งหอบหายใจหนักหน่วงมาไกลจนถึงที่ที่มีคนงานมากมายยืนออกกันอยู่เต็มไปหมดทุกรอบด้าน และเพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่มีใครตามเธอมาอีกหญิงสาวจึงรีบกึ่งเดินกึ่งวิ่งไปหามารดาที่กำลังนั่งหลังขดหลังแข็งทำงานหนักเพื่ออนาคตที่ดีของเธอ เพราะว่าพ่อเธอมาด่วนจากไปเพราะโรคร้ายที่เป็นมานานหลายสิบปี ทำให้เธอและแม่ต้องอยู่ด้วยกันตามลำพังนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาจนถึงวันนี้ แต่ไม่ว่าจะผ่านร้อนผ่านหนาวมากันสักเท่าไหร่เธอกับแม่ก็ยังสู้อยู่ไม่คิดถอย
เพื่อเชื่อว่าสักวันหนึ่งทั้งสองจะมีอนาคตที่ดีกว่าวันนี้!
“แม่จ๊ะ! เหนื่อยก็ไปพักเถอะเดี๋ยวตรงนี้ตาทำต่อเองจ๊ะ” เสียงหวานเอ่ยบอกอย่างอดห่วงไม่ไหว ยิ่งหมู่นี้อาการของโรคหัวใจของแม่เธอกำเริบอยู่บ่อยๆ มันเลยทำให้เธอเป็นห่วงจนไม่อยากที่จะให้ท่านคาดสายตาจากกันไปไหนเลยแม้แต่นาทีเดียว เธอเหลือแค่ท่านเท่านั้น
“อย่าเลยลูก แม่ไม่อยากเอาเปรียบคนอื่นๆ เขา ประเดี๋ยวเขาจะมาว่าเราเอาได้ ว่าแต่เราเถอะหายไปไหนมาตั้งนาสองนานน่ะ เมื่อกี้คุณชิดชบาท่านมาหาถึงที่นี่..” ผู้เป็นแม่เอ่ยขึ้นก่อนจะลอบมองลูกสาวไปพลาง โชคดีของวาสิตาเหลือเกินที่คุณหญิงชิดชบาเมตตาลูกเธอ
“นายหญิงน่ะเหรอจ๊ะมาหาตา ท่านมีอะไรรึเปล่าจ๊ะแม่”
“เห็นบอกว่าจะให้เราไปงานเลี้ยงต้อนรับเพื่อนบ้านคนใหม่ด้วยกันน่ะ ยังไงซะหนูก็รีบไปหาท่านเถอะป่านนี้คงรอแย่แล้ว” แม้ใจจะไม่อยากไปสักเท่าไหร่แต่ด้วยอีกฝ่ายนั้นเป็นถึงผู้มีพระคุณต่อเธอและแม่มานาน วาสิตาจึงไม่มีทางเลือกนอกจากเดินออกจากไร่มุ่งหน้าสู่บ้านหลังใหญ่ที่หากเลือกได้เธอขอเลือกที่จะไม่มาเหยีบมันจะดีกว่า
“อ้าวตา! ฉันตามหาไปเสียทั่วเลย มาแล้วก็รีบขึ้นมาข้างบนสิจ๊ะ” เด็กสาวพยักหน้ารับก่อนจะเดินขึ้นบันไดไปหานายหญิงของไร่
“นายหญิงเรียกหาหนูเหรอคะ” คำพูดที่อ้อนน้อมถ่อมตนของเด็กสาวยิ่งทำให้คุณชิดชบารู้สึกรักและเอ็นดูในตัวของเธอไปไม่น้อย วาสิตาเป็นเด็กน่ารักและมีความเป็นผู้ใหญ่มากกว่าที่ใครๆ เห็น ต่างจากปิ่นมณีลูกสาวแสนเอาแต่ใจของเธอเสียเหลือเกิน ฝ่ายนั้นเพราะถูกผู้เป็นพ่อกับพี่ชายเฝ้าเพียรตามใจมาตั้งแต่เด็กๆ จนถึงตอนนี้เลยกลายเป็นคนเอาแต่ใจไปแล้ว นิสัยนั้นแก้เท่าไหร่ก็ไม่ยอมหายไปเสียที
“จ๊ะ เดี๋ยวตาเอาชุดนี่ไปเปลี่ยนนะ เพราะว่าเย็นนี้เราจะไปงานเลี้ยงที่ไร่ข้างๆ ด้วยกัน”คุณหญิงชิดชบาเฉลยพร้อมลอบยิ้มให้กัน
“ให้หนูไปด้วย…มันจะดีเหรอคะนายหญิง”
“ดีสิ แต่จริงๆ แล้วคนที่อยากให้เธอไปนอกจากฉันแล้วยังมีอีกคนนะ” คุณหญิงชิดชบาเอ่ยบอกพร้อมกับอมยิ้มน้อยๆ เมื่อคิดถึงตอนที่เด็กหนุ่มหน้าหล่ออย่างทรงวิทย์โทรมาขอร้องตนเองให้พาวาสิตาไปงานเลี้ยงด้วยกัน ความรักแรกแย้มของเด็กแรกรุ่นเป็นสิ่งที่ดีงามและหากเด็กสองคนใจตรงกันนางเองก็ไม่คิดที่จะขัดขวาง แต่ทุกอย่างคงต้องอยู่ในสายตาของผู้ใหญ่ไปจนกว่าทั้งคู่จะบรรลุนิติภาวะเท่านั้น ไม่เช่นนั้นนางคงไม่มีทางยอมแน่ๆ เพราะรักและห่วงวาสิตาพอๆ กับลูกของตัวเอง และหากใครจะมาทำร้ายเธอก็ต้องผ่านนางไปเสียก่อน
“ใครเหรอคะ” วาสิตาย้อนถามอย่างอดสงสัยไม่ได้