ทรงวิทย์เดินหลบความว้าวุ่นภายในใจมาจนถึงบริเวณที่จัดงานแต่งงานของเขากับปิ่นมณีซึ่งตอนนี้เหล่าบรรดาคนงานและสาวใช้กำลังช่วยกันเก็บโต๊ะและข้าวของอื่นๆ กันอยู่ ท่าทางของแต่ละคนบ่งบอกถึงความเหนื่อยให้ได้เห็น หนึ่งในนั้นก็คือหญิงสาวที่เขารักตั้งแต่แรกเห็น ชายหนุ่มไม่รีรอที่จะเดินตรงเข้าไปหาคนที่ว่าที่ตอนนี้กำลังเดินเก็บโต๊ะอยู่ตามลำพังคนเดียวในมุมมืดที่สุดของสถานที่จัดงาน…
“น้องตาครับ…ดึกทำไมป่านนี้ยังไม่กลับบ้านอีก” เสียงเข้มที่ดังขึ้นทำให้คนที่กำลังเหนื่อยได้ที่ตกใจเป็นอย่างมากเพราะเวลาแบบนี้เขาไม่น่าจะมายืนอยู่ต่อหน้ากันตรงนี้ได้ แล้วทำไมเขาถึงได้…
“พี่วิทย์! มาทำอะไรแถวนี้ค่ะ ทำไมไม่อยู่ในห้องหอ…” หญิงสาวถามพร้อมจ้องมองชายหนุ่มที่ดีแสนดีกับเธอเหลือเกิน แม้จะรู้ว่าทรงวิทย์คิดเช่นไรกับเธอ แต่วาสิตากลับไม่เคยมองเขาเป็นอย่างอื่นไปได้เลยนอกจากพี่ชายที่แสนดีของเธอเท่านั้น และมันจะเป็นเช่นนั้นไปอีกนานเท่านาน สิ่งเดียวที่คนเราไม่สามารถฝืนได้นอกจากเวลาก็คือความรัก ความรักที่เลือกไม่ได้ว่ามันจะต้องเกิดขึ้นกับใคร และเมื่อไหร่
“เรื่องนั้นช่างมันเถอะ มาครับเดี๋ยวพี่ช่วยเก็บจะได้เสร็จไวๆ น้องตาคงเหนื่อยอยากกลับบ้านจะแย่แล้ว” ทรงวิทย์เอ่ยอาสาก่อนจะทำท่าจะเอื้อมมือไปช่วยหญิงสาวเก็บของ และเขาคงทำเช่นนั้นไปแล้วหากไม่มีเสียงวางอำนาจของใครบางคนดังขัดจังหวะขึ้นเสียก่อน…
“แกมาทำอะไรอยู่ตรงนี้ไอ้วิทย์! เวลานี้ที่เดียวที่แกควรจะอยู่คือในห้องหอกับน้องสาวของฉันไม่ใช่รึไง!!” อธิปตวาดถามเพื่อนรักที่ตอนนี้เปลี่ยนสถานะมาเป็นน้องเขยของเขาเป็นที่เรียบร้อยแล้วอย่างไม่พอใจ ยิ่งได้เห็นว่ามันอยู่กับใครก็ยิ่งหงุดหงิดเป็นเท่าตัว มิน่าเขาเดินตามหาไปเสียทั่วถึงไม่เจอ ที่แท้ก็หลบมาให้ท่าผัวน้องสาวเขาอยู่ตรงนี้นี่เอง ร้ายไม่เบาเลย ตอนในงานก็ทีหนึ่งแล้ว ไม่เข็ดไม่จำเสียที…
“คือว่าฉัน…” ทรงวิทย์ตอบคำถามนั้นไม่ได้ เขาจึงได้แต่เงียบ
“ถ้าแกตอบไม่ได้ก็ช่างมันเถอะ กลับขึ้นไปข้างบนซะ! แกกำลังทำให้ทุกๆ อย่างมันแย่ลง และฉันจะขอเตือนแกเอาไว้ว่าคนที่แกควรจะห่วงใยให้มากๆ ตอนนี้มีแค่ยัยปิ่นคนเดียวเท่านั้น! ส่วนคนอื่นฉันจะจัดการต่อเอง” นั่นมันก็ไม่ผิดที่เพื่อนรักของเขาว่ามาทั้งหมด ทรงวิทย์คิดก่อนจะยอมตัดใจเดินกลับขึ้นไปบนบ้านไม้หลังงามอีกครั้ง ทิ้งไว้แต่วาสิตาที่พอเขาจากไปเธอก็ไม่รีรอที่จะหมุนตัวเตรียมไปด้วยอีกคน…
“แล้วนั่นเธอจะไปไหน!!” เสียงแข็งกร้าวที่ดังตวาดตามหลังมาทำให้หญิงสาวหยุดชะงักแทบจะทันที เธอค่อยๆ หันกลับไปมองเจ้าของเสียงแต่ยังไม่ทันจะได้เอ่ยปากตอบอะไรเขากลับเดินเข้ามาใกล้พร้อมกระชากไหล่ทั้งสองข้างของเธอเข้าหาตัวอย่างรุนแรงเข้าซะก่อน
“คิดจะตีท้ายครัวน้องสาวของฉันรึไง!”
“คุณปราณ! ตาไม่เคยคิดอะไรแบบนั้นเลยนะคะ” วาสิตาเถียงกลับเสียงสั่น เธอไม่เคยคิดอะไรอย่างที่เขาว่า ไม่เคยเลยที่จะกล้าคิดแย่งของๆ คนอื่นที่ไม่ใช่ของตัวเอง โดยเฉพาะของปิ่นมณีใครรึจะกล้า
“เชื่อได้สักแค่ไหนกันเชียว! ฉันจะจับตาดูเธอไว้ตลอดเวลาวาสิตา ถ้าวันไหนเธอเผลอตัวทำให้น้องสาวของฉันเจ็บล่ะก็…เธอได้เจ็บกว่ายัยปิ่นหลายเท่าแน่!” คนใจร้ายว่าจบก็ผลักกันออกจากตัวอย่างรุนแรง เมื่อเขาไม่พูดอะไรต่อวาสิตาจึงหมุนตัวพาตัวเองวิ่งหนีออกมา
“แม่จ๋า…ทำไมทุกคนเขาถึงได้ใจร้ายกับตานักล่ะจ๊ะ…” เสียงหวานดังถามขึ้นเบาๆ พร้อมกับฝีเท้าที่ก้าวเดินกลับไปยังกระท่อมหลังน้อยที่อาศัยอยู่เพียงลำพังคนเดียว…
ความสัมพันธ์ของทรงวิทย์กับปิ่นมณีดูครุมเครือจนคนรอบข้างสังเกตได้ เริ่มจากช่วงเช้าที่ชายหนุ่มพาตัวเองหายเข้าไปในไร่กับอธิปจนกระทั่งดึกดื้นเขาก็เมามายกลับมาแทบจะทุกครั้ง ภาพที่สามีถูกหิ้วปีกกลับมาบ้านจึงกลายเป็นภาพที่ปิ่นมณีได้เห็นจนชินสายตาไปเสียทุกค่ำคืนแล้วตอนนี้ แต่ถึงกระนั้นหญิงสาวก็ยังคงทำหน้าที่ภรรยาที่ดีของตัวเองต่อไปอย่างไม่คิดบ่น เพราะหวังว่าสักวันเขาจะเห็นมัน…
เห็นความรักที่เธอมีต่อเขา มีมาโดยตลอดเวลา…
“พรุ่งนี้เช้าพี่จะไปคุยกับมันให้รู้เรื่องให้เอง ปิ่นเองก็รีบๆพักผ่อนเถอะประเดี๋ยวจะไม่สบายเอา” อธิปเอ่ยขึ้นกับน้องสาวหลังจากพยุงเพื่อนรักมาส่งถึงเตียงนอนในห้องของปิ่นมณีด้วยตัวเอง
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะพี่ปราณ ปิ่นทนได้ แล้วเรื่องที่ปิ่นขอร้องพี่ปราณเอาไว้ล่ะคะ พี่ปราณจัดการไปถึงไหนแล้ว” เรื่องที่ทำให้อธิปเครียดหนักจนต้องทำให้ตัวเองเมาไปด้วยอีกคนคือเรื่องที่น้องสาวของเขาขอร้องให้เขาไล่วาสิตาไปจากที่นี่ ซึ่งแน่นอนว่าไม่ได้ไล่ไปปากเปล่าแต่เขาจะมอบเงินอีกจำนวนหนึ่งให้เธอไปเริ่มต้นใหม่ด้วย นั่นคือสิ่งที่คิดเอาไว้แต่ครั้นพอได้เห็นใบหน้าอ่อนหวานของอีกฝ่ายนั้นเขาก็ไล่เธอออกไปไหนไม่ลง ปากมันหนักขึ้นมาเสียเฉยๆ จะพูดก็พูดไม่ออก!
“พี่ขอเวลาหน่อยก็แล้วกัน ปิ่นก็รู้ว่าเด็กนั่นอยู่ที่นี่มาตั้งแต่เด็ก ถ้าขืนไล่เธอไปกระทันหันก็คงหาที่อยู่ยาก ส่วนเรื่องไอ้วิทย์ตอนนี้พี่ก็สั่งเธอเอาไว้แล้วว่าห้ามเจอหน้ามัน หรือถ้าเจอก็ให้เดินหนีไป น้องไม่ต้องห่วงไปหรอก วาสิตาไม่กล้าทำอะไรอย่างที่พวกเรากลัวแน่ พี่รับรอง”เพราะถ้าเธอทำ เขานี่แหละที่จะเป็นคนฆ่าเธอด้วยสองมือของเขาเอง ชายหนุ่มต่อเติมคำตอบในใจก่อนจะขอตัวกลับมาพักที่ห้องนอนของตัวเองปล่อยให้น้องสาวดูแลสามีของตัวเองตามลำพังเหมือนทุกคืน
“นั่นใคร! ใครอยู่ตรงนั้น!!” เสียงที่ร้องถามทำให้ใครบางคนที่ถูกเรียกจากสีนวลหัวหน้าแม่ครัวให้ยกเอาผ้าเย็นมาให้เจ้าของบ้านชะงักไป วาสิตาค่อยๆ เดินออกมาจากมุมอับของบ้านก่อนจะเอ่ยบอกจุดประสงค์ที่เธอต้องพาตัวเองขึ้นมาบนนี้ออกไป…
“ป้านวลให้ตาเอาผ้าเย็นมาให้คุณปราณกับคุณวิทย์ค่ะ”
“ของไอ้วิทย์คงไม่ต้องแล้วล่ะ! เพราะมันมีเมียของมันคอยดูแลอยู่แล้ว ส่วนเธอเดินตามฉันเข้ามาในห้อง!” แม้ใจอยากจะขัดแต่ด้วยอะไรหลายๆ อย่างทำให้หญิงสาวทำได้เพียงแค่คิด วาสิตาค่อยๆ เดินตามร่างสูงของเจ้าของบ้านเข้าไปในห้องนอนของเขาก่อนเธอจะวางถาดที่มีผ้าเย็นเอาไว้ที่ข้างเตียงพร้อมกันกลับมาสอบถาม..