“มายืนอ๋อยเหยื่ออะไรตรงนี้วาสิตา! ตรงนี้ไม่ต้องทำแล้ว รีบกลับเข้าไปในครัวซะ!!” วาสิตาตกใจและอับอายเมื่อถูกตวาดมาแบบนั้น หญิงสาวค่อยๆ หมุนตัวและพาตัวเองเดินเลี่ยงออกจากงานเพราะกลัวจะถูกคนไร้เหตุผลตามมาตวาดกันอีกรอบ ทั้งๆ ที่เธอก็ทำหน้าที่ของตัวเองปกติ ไม่ได้ไปทำอะไรอย่างที่ถูกเขากล่าวหากันเลยสักนิด
“คนอะไรใจร้ายจริงๆ” หญิงสาวรำพึงเบาๆ ก่อนจะสะดุ้งโหยงขึ้นเมื่อเสียงตวาดของคนที่เธอเพิ่งจะต่อว่าดังขึ้นจากด้านหลัง
“เธอว่าใคร!!”
“คะ…คุณปราณ! เปล่านะคะ ตาไม่ได้ว่า…” แม้จะรู้ว่ามันคือคำแก้ตัวที่ฟังไม่ขึ้น แต่ขืนยอมรับออกไปตรงๆ ว่าเธอกำลังต่อว่าเขานั่นแหละมีหวังเธอคงได้ถูกเขาฆ่าตายฉลองงานแต่งน้องเขาเข้าจริงๆ
“ก็ฉันได้ยิน! เดี๋ยวนี้เธอกล้าว่าฉันเหรอวาสิตา! แล้วนี่มันชุดบ้าอะไรใครสั่งให้ใส่! ไม่เห็นรึไงว่ามันคว้านลึกจนเห็นเนื้อนมไปถึงไหนต่อไหน!!” เสียงเข้มตวาดอย่างหงุดหงิด สายตาของเขาที่จ้องมองเนินอกคู่อวบอิ่มที่มีขนาดใหญ่เกินตัวทำให้วาสิตารีบยกมือขึ้นกอดตัวเองเบาๆ เธอก็ใส่ชุดแบบสาวใช้คนอื่นๆ แล้วอีกอย่างคนที่เป็นคนไปหาชุดพวกนี้มาให้กันมันก็คือเขาไม่ใช่รึไงนะ หญิงสาวตอบเขาแค่ภายในใจ
“ว่าไง! ฉันถามว่าใครใช้ให้ใส่ชุดแบบนี้เข้าไปเดินในงาน”
“คุณปราณเป็นคนสั่งให้ทุกคนใส่ชุดนี้เองนะคะ” คำตอบที่ได้ทำให้คนอารมณ์ร้ายชะงักไปชั่วครู่แทบจะทันที ให้ตาย! เป็นเขาเองจริงๆ ที่หาชุดพวกนี้มา แต่ตอนที่ดูในรูปมันไม่โป๊แบบนี้นี่ แล้วอีกอย่างทำไมเวลาที่เขามองดูสาวใช้คนอื่นๆ เขาถึงได้ไม่หงุดหงิดเท่ามองเธอ
“ถึงอย่างนั้นก็เถอะ! ยังไงซะคืนนี้ไม่ต้องเข้าไปในงานอีก อยู่ในครัวนี้ห้ามออกไปไหนจนกว่างานจะเลิก ถ้าฉันเห็นเธอเข้าไปในงานอีกครั้งรับรองได้เลยว่าฉันเล่นงานเธอหนักแน่!”อธิปทิ้งท้ายเอาไว้ก่อนจะเดินเลี่ยงกลับเข้าไปในงานอีกครั้งท่ามกลางความหงุดหงิดตัวเอง
นี่เขากำลังเป็นบ้าอะไรอยู่
ทำไมจู่ๆ เขาถึงได้รู้สึกหวงผู้หญิงคนนั้นขึ้นมา นี่เขาคงต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ ชายหนุ่มคิดกับตัวเองก่อนจะบังคับให้หยุดทุกสิ่งที่เกี่ยวกับวาสิตาเพื่อที่เขาจะได้ทำหน้าที่พี่ชายส่งตัวน้องสาวเข้าหอได้อย่างสนิทใจโดยไม่ต้องมีสิ่งใดหรือใครมารบกวนความคิดได้อีกต่อไป
“พี่ขอให้ปิ่นมีความสุขมากๆ เราไม่ได้ตัวคนเดียวแล้วจะคิด จะทำอะไรก็ขอให้ใช้เหตุผลให้มากๆ นะ ฉันฝากน้องสาวของฉันด้วยนะไอ้วิทย์ ดูแลให้ดีไม่งั้นเป็นเรื่องแน่!” ทรงวิทย์ได้แต่พยักหน้ารับคำขู่ของเพื่อนรักช้าๆ ก่อนที่เขาและปิ่นมณีจะนั่งรับพบจากพวกผู้ใหญ่อีกหลายท่านจนกระทั่งทั้งหมดเห็นพ้องกันว่าถึงเวลาที่จะให้คู่บ่าวสาวได้อยู่ด้วยกันตามลำพังเสียทีจึงค่อยๆ พากันทยอยกลับออกไปเหลือไว้แค่คู่ข้าวใหม่ปลามันส์สองคนที่กระทั่งตอนนี้ก็ยังไม่มีใครพูดอะไร
“พี่วิทย์เมื่อยไหมคะ มาค่ะเดี๋ยวปิ่นนวดให้” ปิ่นมณีไม่รีรอที่จะรีบทำหน้าที่ภรรยาที่ดีอย่างที่เคยฝันจะได้ทำ เธอขยับเข้าไปหาสามีก่อนจะเอื้อมแขนไปนวดให้แต่แค่สัมผัสโดนตัวเขากลับลุกหนีกันไป
“พี่รู้สึกเหนื่อยๆ ขอตัวอาบน้ำก่อนนะครับน้องปิ่น” ทรงวิทย์เอ่ยขึ้นก่อนจะพาตัวเองหลบหายเข้าไปในห้องน้ำทันทีที่พูดจบ ทิ้งไว้แต่ปิ่นมณีที่ได้แต่นั่งหน้ามุ้ยอยู่คนเดียวบนเตียง แต่ไม่นานรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ของหล่อนก็เผยขึ้นเมื่อนึกแผนอะไรบางอย่างออก เธอไม่รอช้าค่อยๆ ถอดทุกๆ อย่างในร่างกายออกจนหมดเหลือไว้แค่เพียงหุ่นสูงเพียวลมที่มีเนื้อนมสมส่วน หญิงสาวสำรวจตัวเองในกระจกเพื่อเพิ่มความมั่นใจก่อนจะเดินย่องตามสามีเข้าไปในห้องน้ำด้วยอีกคน…
ภาพที่เห็นทำให้หญิงสาวชะงักไปด้วยใจที่สั่นระทึกอย่างหนัก ภาพของร่างสูงกำยำสมชายชาตรีที่กำลังยืนเปลือยหันหลังอยู่ใต้ฝักบัวทำให้เธอลอบกลืนน้ำลายลงคออย่างกล้าๆ กลัวๆ แต่หากมัวกลัวก็คงไม่มีวันได้ใจเขาแน่ คิดเช่นนั้นเท้าทั้งสองจึงก้าวเดินต่อไปด้วยความมั่นใจเต็มเปี่ยมว่าเธอจะยอมเป็นของคนๆ นี้เพียงคนเดียวเท่านั้น
“น้องปิ่น!!” ทรงวิทย์ตกใจเป็นอย่างมากเมื่อจู่ๆ ก็ถูกสวมกอดเข้าจากด้านหลัง เมื่อหันมาก็พบกับปื่นมณีในสภาพที่เปลือยเปล่าไปทั้งตัว ให้ตายนี่เขารีบหนีเธอมากเสียจนลืมล็อคประตูห้องน้ำ!
“พี่วิทย์ขา…ให้ปิ่นดูแลพี่วิทย์นะคะ” ปิ่นมณียังคงไม่ยอมแพ้ เธอค่อยๆ ลูบไล้แผ่นอกกำยำสุขภาพดีของสามีอย่างเชื่องช้าๆ ทุกๆ สัมผัสปลุกเร้าทรงวิทย์ได้ไม่ยากอะไรเท่าไหร่เลย เพราะเขาเองถึงแม้จะไม่ได้ชอบพออะไรในตัวของเธอเลย หากได้มาเห็นเรือนร่างที่งดงามราวกับสวรรค์ปั้นแต่งขึ้นมาเช่นนี้ ต่อให้เป็นพระอิฐพระปูนมาเองก็คงไม่มีทางทนได้อีกต่อไป และเขาเองก็ไม่ใช่ทั้งสองนั้นด้วยเช่นกัน
“น้องปิ่นหยุดก่อนเถอะครับ…อย่าทำแบบนี้เลย” แต่ถึงอย่างนั้นอีกใจก็ยังสั่งการให้หยุดยั้งเพราะไม่อยากให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นอีก