เสียงอุทานของพุดพิชญาหายไปในลำคอเมื่อถูกเขารวบตัวขึ้นอุ้มอย่างไม่ทันระวัง เธอเกร็งตัวแข็งเหมือนหิน ขณะกำไหล่เสื้อเขาไว้แน่นหนา รู้ตัวอีกทีก็ถูกเขาพาเข้ามาในห้องน้ำแล้ว และเธอเริ่มดิ้นรน อีกหนเมื่อกำลังจะถูกวางตัวลงและผลักเข้าไปในกระจกฝักบัวโดยมีคนตัวโตก้าวตามมาด้วยและดึงประตูกระจกปิด เขาผลักเธอจนหลังชิดกำแพง ก่อนหมุนเปิดวาล์วจนน้ำอุ่นไหลซ่าลงมากระทบร่างทั้งสองที่ยืนอยู่ภายในนั้น
พุดพิชญาปาดน้ำออกจากดวงตา พยายามเบี่ยงตัวหาทางหนี แต่เขายืนจังก้าขวางประตูทางออก จนเธอรู้สึกเหมือนเป็นหนูติดกับดัก ที่ซวยซ้ำซ้อนต้องมาเจอกับราชสีห์หิวโซ
“คุณจะทำอะไร”
เธอร้องถาม ขณะพยายามถอยหลังจนแทบจะถูกกลืนเป็นหนึ่งเดียวกับกำแพงกระจก หญิงสาวกลืนน้ำลายลงคอฝืดๆ พยายามบังคับตัวเองไม่ให้สั่น แต่เมื่อบังคับไม่ได้ เธอก็ปลอบตัวเองว่ากำลังหนาวต่างหาก เธอไม่ได้กลัวเสียหน่อย!
“ทำให้คุณเย็นลงไง” เขาบอกเสียงลอดไรฟัน
“ก็บอกแล้วไงว่าอย่ามายุ่งกับเรื่องของฉัน” เธอแทบอยากจะกรี๊ด แต่เมื่อสบสายตากับดวงตาดุดันเกรี้ยวกราดเหมือนระเบิดเวลาของชายหนุ่ม เธอก็หุบปากสนิท คิดหาทางเอาตัวรอดทันที เพราะต่อให้คนที่โง่ที่สุดในโลกยังรู้ดีว่าเธอไม่มีทางสู้แรงเขาได้
หญิงสาวเชิดหน้า ออกคำสั่งอย่างถือสิทธิ์
“ถอยไป แล้วฉันจะไม่ถือโทษคุณ”
ไอแซคโกแค่นยิ้ม
“นวลด้วย คุณจะไม่ไปเอาเรื่องนวลทีหลัง”
“คุณไม่มีสิทธิ์มาสั่งฉันนะ” เธอขมวดคิ้วมุ่น “คุณไม่รู้ด้วยซ้ำว่านังเด็กนั่นมัน...”
เธอขบเขี้ยวเคี้ยวฟันอย่างสุดจะทน
“คุณเป็นบ้าอะไรของคุณ ไอแซค! นี่คุณลืมไปแล้วรึเปล่าว่าคุณก็แค่บอดิการ์ดที่พ่อฉันจ้างมาปกป้องความปลอดภัยของฉัน ไม่ใช่มาคอยควบคุมความประพฤติฉัน! กับแค่ต้องพูดภาษาอังกฤษกับ ‘ลูกจ้าง’ แบบคุณ ฉันก็ว่าฉันมีเมตตาให้คุณมากพอแล้วนะ ทำไมฉันต้องทำตามที่คุณบอกด้วยมิทราบ? แล้วคุณคิดเหรอว่าคุณจะทำอะไรฉันได้”
พุดพิชญามองเขาตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้าด้วยแววตาดูถูกเหยียดหยัน
“ถ้าคุณจะล่วงเกินฉัน ในห้องน้ำนี่ แล้วคุณคิดว่าฉันจะปิดปากเงียบ ไม่บอกให้คุณพ่อไล่คุณออก คุณคิดผิด!”
เขาไม่โต้ตอบ หากแต่ก้มมองเธออย่างเงียบงัน มองสีหน้าที่เปลี่ยนไปมาอย่างมีชีวิตชีวา จากหยิ่งยโส เป็นโกรธเกรี้ยว และดูแคลนหยามเหยียด ในเวลาแค่ไม่กี่นาที เธอเปียกไปทั้งตัวแล้วโดยอาจไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่ากระแสน้ำทำให้ผ้าคลุมเริ่มหนักและร่องผ้ารูปตัววีตรงอกก็เลื่อนลง เผยให้เห็นเนินอกอวบอิ่มชื้นฉ่ำ
ไอแซคโกกำมือตัวเองแน่น เมื่อนึกรู้ว่าอยากกระชากสายรัดเสื้อคลุมนั้นออกมากเพียงไร
“ถึงคุณไม่ไล่ มะรืนนี้ผมก็ไม่อยู่แล้ว ผมแจ้งกับท่านเจ้าสัวแล้ว จะมีบอดิการ์ดคนใหม่มาดูแลคุณแทน” เขาพอใจที่เธอหน้าซีดและพยายามแนบแผ่นหลังกับกำแพงกระจกมากขึ้นไปอีก “ยังไงผมก็จะ ออกจากงานบ้าๆ นี่อยู่แล้ว ออกไปวันนี้ กับมะรืนนี้ ก็มีค่าเท่ากันนั่นละ คุณว่ามั้ย?”
เขาก้าวไปชิดร่างโปร่งบางที่เริ่มสั่นเหมือนลูกกวางกลัวราชสีห์ เกือบนึกสงสารเธออยู่แล้วหากไม่ใช่ว่าเธอใช้เวลาแค่เสี้ยวนาทีในการกระชากอกเสื้อเขาแล้วแทงเข่าขึ้นมาที่ท้องน้อย ไอแซคโกปัดป้องไว้ ได้ทันท่วงที เขาจับมือเธอรวบขึ้นเหนือศีรษะ และก้าวเข้าไปจนชิด แสงจากไฟเพดานถูกร่างใหญ่โตของเขาบดบังจนใบหน้าหอมละมุนตกอยู่ในแสงสลัว
เธอเงยมองเขาหน้าตาตื่น ร่างอ่อนนุ่มสั่นสะท้านด้วยความกลัว ด้วยต่อให้เด็กอนุบาลยังรู้เลยว่าเขาเอาจริง!
“อย่านะ!”
พุดพิชญาผลักอกเขา แต่ชายหนุ่มกลับเบียดกายเข้ามาชิดใกล้มากขึ้น จนเธออยากจะกลั้นใจตายเสียให้รู้แล้วรู้รอดไปก่อนจะหัวใจวายตายขึ้นมาจริงๆ หญิงสาวมองหาทางหนีทีไล่ เมื่อเห็นว่าไม้แข็งใช้ไม่ได้และยิ่งอันตราย ก็พยายามงัดไม้อ่อนเข้าสู้
“ดะ... เดี๋ยว” เธอร้องบอกเสียงแหบแห้งเมื่อเขาโน้มลงมาใกล้ “ถ้า... ถ้าคุณต้องการ จ... จริงๆ ก็พาฉันไปที่เตียงเถอะ”
พุดพิชญาสูดลมหายใจลึกอย่างนึกหวั่น
“ฉันไม่ชอบ... ท่ายืน... มันเมื่อย”
เธอเสหลบตาวูบวาบ พวงแก้มแดงปลั่งอย่างน่ารักจนเขาชักไม่แน่ใจว่านี่หรือคือพุดพิชญาที่ร้ายกาจที่เขารู้จัก หากแต่เพราะเธอเปลี่ยนไปกะทันหัน มันทำให้เขารู้ทันว่าเธอแค่หาข้ออ้างเพื่อหนีรอดไปเท่านั้น
แล้วนึกเหรอว่าคนแบบเขาจะตามไม่ทัน?
“เอางั้นก็ได้” เขาก้มลงไปหาเธอช้าๆ จนปลายจมูกชิดปลายจมูกโด่งรั้น “แต่ขอมัดจำก่อนออกไปได้ไหม?”
พุดพิชญาไม่ตอบ เธอมองเขานิ่ง ดวงตามีประกายความกลัว วูบวาบหากแต่เธอพยายามกลบเกลื่อนมันอย่างน่าชื่นชม ร่างโปร่งบางสะดุ้งเมื่อเขารวบมือเธอไว้ชิดกำแพงกระจกเหนือศีรษะด้วยมือข้างเดียว และเลื่อนลูบอีกมือมาตามท่อนแขนเรียวนุ่ม ก่อนเลื่อนมาถึงเอวคอดกิ่วที่ถูกผ้าผืนหนาเปียกชื้นห่อหุ้ม และเลื่อนไปทางด้านหลัง รั้งร่างเธอมาชิดกายแกร่ง
ลมหายใจหอมสะอาดเป่ารดใบหน้าเธอ และแม้พุดพิชญาจะพยายามแข็งใจไม่ขยับ แต่หัวใจเจ้ากรรมกลับเต้นตุบตับระรัวอย่างไม่อาจห้าม
“หัวใจคุณเต้นแรงจัง” เขากระซิบชิดริมฝีปาก “ตื่นเต้นเหรอ?”
ประโยคคำถามนั้นไม่ต้องการคำตอบ เพราะเขาบดจูบลึกซึ้งจนเธอหายใจติดขัด พุดพิชญาหลับตาแน่น มือไม้อ่อนแรงเหมือนถูกสูบวิญญาณออกจากร่าง ร่างกายที่อ่อนระทวยนั้นถูกพยุงไว้ด้วยมือใหญ่และร่างกายแข็งเหมือนหินศิลา
เธอค้นพบว่าตัวเองครวญครางเมื่อเขาสอดแทรกปลายลิ้นเข้ามาในโพรงปาก ลึกล้ำดื่มด่ำจนเหมือนเขาพยายามจะช่วงชิงลมหายใจของเธอไป
“อย่า...” เธอครางสะท้านเมื่อเขาถอนริมฝีปากออก หากแต่ร่างกายกลับเอนซบร่างใหญ่หนาโดยไม่รู้ตัว เธอกำอกเสื้อเขา สมองสั่งให้ผลัก แต่รู้ตัวอีกทีเธอกลับกำลังดึงให้เขาชิดใกล้มากเข้า รู้สึกถึงฝ่ามือร้อนๆ ที่ลวกไล่เรียวขาเข้าไปในใต้ร่มผ้า เขายกขาเธอขึ้นมาพักที่เอวแกร่ง ขณะจูบไซ้ซอกคอและเนินอกอวบรุนแรง ทิ้งความร้อนจากรสจูบไปเป็นทาง