“กี่โมงแล้ว?”
เธอถาม ขณะเอนศีรษะพิงเสาเตียงและหลับตาลงอย่างอ่อนล้า
ไอแซคโกวางเท้าขวาของเธอลงบนพื้นพรม ก่อนยกเท้าซ้ายขึ้นมาจากกะละมังน้ำและวางลงบนหน้าขา ขณะหันมองนาฬิกา
“ตีสองครับ”
“เหรอ...” เสียงเธองึมงำหายไปในลำคอ “วันนี้ไม่ต้องเฝ้าหน้าห้องฉันนะ ...วันนี้เขาคงหลับไปแล้ว คงไม่เป็นไรแล้ว...”
“อะไรนะครับ?”
เขาวางเท้าซ้ายเธอลงบนพื้นพรมและเอ่ยถามย้ำ ภาษาอังกฤษที่เธอพูดออกมาประโยคแรกนั้นก็ฟังไม่ได้ศัพท์ มิหนำซ้ำเธอยังพูดต่อพึมพำเป็นภาษาไทยอีก
แต่เมื่อเงยหน้ามอง ก็เห็นเธอพิงเสาพริ้มตาหลับ และดูเหมือนจะหลับไปแล้วจริงๆ
ไอแซคโกถอนหายใจเฮือก เขายกกะละมังไปเทน้ำทิ้งและเก็บเข้าที่ ก่อนกลับมารวบตัวเธอขึ้นอุ้มอย่างเบามือ ไม่ใช่ว่าอยากจะถนอมเธอหรอกนะ เขารำคาญหากเธอตื่นมาชี้นิ้วสั่งให้เขาทำนั่นทำนี่อีกต่างหาก! คิดแล้วก็ยิ่งหงุดหงิด จนรู้ตัวอีกที ไอแซคโกก็ทิ้งร่างแน่งน้อยให้หล่นลงตรงกลางเตียงโดยไม่บรรจงวางเหมือนคราวอุ้มเธอขึ้นมา
แต่เขาไม่ทันคิดว่าเธอจะสะดุ้งตกใจตื่นแบบนั้น...
พุดพิชญาร้องกรี๊ด เสียงไม่ดังมาก แต่ดังพอที่จะทำให้เขาเอื้อมมือไปรับเธอโดยสัญชาตญาณการปกป้องของบุรุษเพศ และเธอเอื้อมมือมาดึงอกเสื้อเขา แรงโน้มถ่วงของโลกก่อให้เกิดแรงกระชากจน ไอแซคโกเสียหลักล้มลงไปทับตัวเธอบนฟูกที่ยวบลงตามน้ำหนักตัวของทั้งสอง
เธอสูดลมหายใจลึกด้วยความตกใจ มือสั่น ตัวสั่น และนัยน์ตา สีน้ำตาลมีหยดน้ำเอ่อคลอ พุดพิชญามองสบตาเขา ก่อนออกแรงผลัก มาดราชินีเมื่อครู่หายวับ เหลือเพียงสาวน้อยชุดแดงเย้ายวนที่ดูเหมือนจะกลัวหมาป่าใส่สูทแบบเขามากกว่าหนูน้อยหมวกแดงในนิทาน
“อย่า...”
เขาคิดจะเอ่ยแก้ต่างให้ตัวเองว่าไม่ได้คิดจะทำอะไรเธอเลย มันเป็นอุบัติเหตุ! แต่อากัปกิริยาสั่นสะท้านไปทั้งร่างและอาการเหมือนกำลังจะร้องกรี๊ดขอความช่วยเหลือของเธอทำให้เขายกมือขึ้นปิดปากสีแดงสดโดยอัตโนมัติ
พุดพิชญาเบิกตาโตอย่างตื่นตะลึง ก่อนหลับหูหลับตาดิ้นรนอยู่ใต้ร่างเขา พยายามผลักเขาออก แต่นั่นยิ่งทำให้เขาต้องออกแรงกดเธอไว้มากขึ้น และทำให้ร่างกายนุ่มนิ่มหอมกรุ่นบดเบียดกับกายเขาจนไอแซคโกครางฮึ่มในคอ ชักไม่แน่ใจตัวเองแล้วว่าจะอดทนรออีกได้ไหม
หรือเขาควรจัดการเธอคืนนี้ และใช้กำลังลักพาตัวเธอไปเลย ไม่ต้องรออะไรอีกแล้ว!
“หยุดดิ้นซะที! ...คุณหนู” เขาพยายามข่มใจให้เย็นลง แม้จะรู้ว่าความกลัวส่วนหนึ่งของเธอมาจากการที่เธอรับรู้ถึงความแข็งแกร่งที่บดเบียดอยู่ตรงต้นขาเธอแน่ แต่เขาผิดเสียเมื่อไหร่ ทั้งหมดทั้งมวลก็ความผิดเธอทั้งนั้น! “ถ้าคุณสัญญาว่าจะไม่ร้อง ผมจะปล่อยคุณ”
เธอหยุดดิ้น มองตาเขา
“ถ้าคุณโอเค พยักหน้า”
และหนนี้เธอทำตามอย่างว่าง่าย
“ดี” เขาเผลอยิ้มอย่างไม่รู้ตัว และเมื่อรู้ตัวก็หุบยิ้มลงทันที “และผมอยากให้คุณรู้ไว้ด้วยถ้าตื่นมาแล้วคุณจำเรื่องนี้ได้... มันเป็นอุบัติเหตุ ผมจะพาคุณมานอน แต่ทำคุณหลุดมือ คุณเลยตกใจจนกระชากผมล้มมาด้วย เข้าใจใช่มั้ย?”
เธอดูลังเลไปครู่หนึ่ง หากแต่ก็พยักหน้าอีกครั้ง แบบที่ไอแซคโกไม่รู้ว่าเธอเข้าใจจริงๆ หรือทำไปอย่างนั้นเองเพื่อสวัสดิภาพของตัวเอง เพราะฉะนั้นเขาไม่มีทางรู้เลยว่าพรุ่งนี้ เขาจะยังคงสถานภาพบอดิการ์ดของบ้านนี้อยู่หรือเปล่า
แต่ต่อให้เขาโดนไล่ออกก็ช่างมันเถอะ! เขามีวิธีพาตัวเธอไปโดยไม่ต้องใส่สูทสับปะรังเคนี่อยู่แล้ว
ก็อย่างที่บอก
เขามีแผนสำรองเสมอนั่นแหละ
มือหนาหยาบค่อยๆ ละจากริมฝีปากนุ่มที่เผยอนิดๆ ด้วยความตื่นตกใจ เธอสูดลมหายใจลึก มองสบตาเขา หัวใจเต้นตึกตักกระแทก อกอวบหยุ่นที่แนบชิดกับอกกว้าง สร้อยข้อมือเธอส่งเสียงกรุ้งกริ้งเมื่อเธอขยับ ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนชุ่มฉ่ำด้วยน้ำตา หากแต่กลับมีประกายตื่นเต้นเจืออยู่อย่างน่าประหลาดอยู่ในแววตานั้น เรือนผมสีน้ำตาลเข้มสยายเต็มฟูกอ่อนนุ่ม ส่งกลิ่นหอมกำจาย ปลายผมเธอหยักศกเป็นลอนเท่าๆ กัน ราวกับได้รับการถักทออย่างประณีตจากพระผู้เป็นเจ้า
ไม่อยากยอมรับก็ต้องยอมรับ เขาละสายตาจากเธอไม่ได้เลย
พุดพิชญาในตอนนี้ดูบอบบาง ล้ำค่า เหมือนตุ๊กตากระเบื้อง-เคลือบที่หากแตะต้องแรงๆ เธออาจจะแตกหัก
แล้วก็สวยมากด้วย
เขาไม่รู้ และไม่คิดหาคำตอบว่าทำไมเธอจึงจ้องมองสบตาเขาโดยไม่หลบ แม้ชายหนุ่มจะโน้มหน้าลงไปเกือบชิดใบหน้าหวานละมุนก็ตาม
สำหรับเขาแล้ว เขาโทษว่าเป็นเพราะเธอ...
เขาสอดแทรกปลายนิ้วเข้าไปในเรือนผมอ่อนนิ่ม และโทษว่าดวงตาคู่นี้ของเธอเชิญชวนอย่างร้ายกาจ ขณะแนบริมฝีปากลงไปกับเรียวปากอวบอิ่มที่เผยอรับ เธอปิดเปลือกตา เลื่อนมือโอบรอบคอเขา หากแต่กลับไม่ตอบสนองจนเขาเกือบจะคิดว่าเธอหลับไปแล้ว
หากไม่ใช่ว่ามือนั้นยังขยับ ยังมีเสียงกรุ้งกริ้งดังกังวาน
เขาดื่มด่ำกับความหอมหวานและรสนุ่มของคอกเทลที่ปลายลิ้นเธอ รุกเร้าคลอเคลียและเพิ่งรู้ตัวว่าปรารถนาการตอบสนองของเธอยิ่งกว่าสิ่งใดในโลก เขาสอดไซร้เรือนผม บังคับให้ใบหน้าของเธออยู่ในองศาที่พอเหมาะ แต่เธอก็ยังคงไม่สนองตอบ
เขาเกือบจะคิดว่าเธอจงใจแกล้ง แกล้งให้เขาคลั่ง!
หากไม่ใช่ว่ามือเธอสั่น ตัวเธอสั่น และมีเสียงครวญหวานอย่างสุขสมดังลอดผ่านเรียวปากอ่อนนุ่มที่แนบชิดกับริมฝีปากเขา
ไอแซคโกคิดทันทีว่าก็คงเป็นนิสัยเธอ
นิสัยชอบชี้นิ้วสั่งที่ลามมาติดพันกับการมีเซ็กส์ของเธอด้วย
เขาผละริมฝีปากออกอย่างหมดอารมณ์จะสานต่อ เขายังไม่พร้อมจะเป็นทาสเธอบนเตียง ไม่ว่าเวลานี้หรือเวลาไหน! ชายหนุ่มลุกพรวดและหันหลังเดินมาทางประตู ได้ยินเสียงกระพรวนข้อมือดังกรุ้งกริ้ง และเห็นทางกระจกโต๊ะเครื่องแป้งว่าเธอขยับลุกนั่งมองตามเขา
แต่ไอแซคโกไม่สนใจ
เขาดึงประตูเปิดออก และดึงมันปิดตามหลังดังปัง