EP 3 สังคมจอมปลอม

1284 คำ
หากวันไหนเธอออกท่องราตรีน่ะดีหน่อย หลังกลับจากผับแล้ว พุดพิชญาจะลาเขาที่หน้าห้องและไล่ให้กลับไปพักผ่อนที่ห้องพักของเขาได้เลย แต่ถ้าวันไหนเธอนึกไม่อยากออกไปไหน หรือจะอาบน้ำขึ้นมาเมื่อไหร่ เป็นได้ตามตัวเขามาเฝ้าที่ประตูหน้าห้องทุกที ยิ่งหากคืนไหนเธอนอนไว พุดพิชญาจะสั่งให้เขามานอนเฝ้าที่หน้าห้องเธอเสียทุกคืน อย่างเมื่อคืนนี้นั่นปะไร เขาต้องยืนเฝ้าอยู่ตรงนี้ตั้งแต่เธอกลับถึงบ้าน จนถึงตอนเช้าที่เธอลืมตาตื่นแต่งตัวสวยพร้อมออกไปทำงาน ถึงเธอจะอนุญาตให้เขานอนได้ แต่บนพื้นทางเดิน หน้าประตูห้องบ้าๆ นี่ ใครจะไปล้มตัวลงนอนให้เหมือนสุนัขเฝ้าเจ้าหญิงเล่า ถ้าจะถามว่าเธอต้องการอะไรถึงสั่งๆๆ เขาอย่างไร้เหตุผลแบบนี้ ไอแซคโกก็รู้คำตอบดีอยู่เต็มอก เธอต้องการจะแกล้งเขาละสิ ผู้หญิงนิสัยเสียแบบเธอจะไปมีเหตุผลอะไร “นี่” เสียงนั้นดังมาจากประตูห้องที่ถูกแง้มเปิด พุดพิชญาก้าวออกมาแค่ครึ่งตัวโดยอีกครึ่งหลบอยู่หลังบานประตู เธออาบน้ำเสร็จแล้ว ใบหน้าเกลี้ยงเกลาไร้เครื่องสำอางยังชื้น และกรุ่นจากไอน้ำ เรือนผมนุ่มถูกรวบผมเป็นมวยไว้บนศีรษะ ปอยผม ไม่มากนักร่วงลงระผิวแก้มลงไปถึงผ้าคลุมสีขาวเนื้อนุ่มที่เธอสวมอย่างแน่นหนา ไอแซคโกมองสบตาเธอรอคำสั่ง และพยายามลืมที่เห็นว่าปอยผมนุ่มนิ่มนั้นทิ้งตัวลงแตะบนผ้าที่ห่อหุ้มเนินเนื้อหนั่นนุ่มและดูยั่วยวนอย่างร้ายกาจเพียงไร “นายไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วไปรอที่รถ ฉันแต่งตัวเสร็จจะตามไป” “ครับ คุณหนู” บอดิการ์หนุ่มรับคำและก้มศีรษะให้เธอนิดหนึ่ง พุดพิชญาจึงหายเข้าไปในห้องส่วนตัวหลังบ้านประตูไม้สักทองแกะสลักลายนกยูง ไอแซคโกเลี่ยงไปจัดการตัวเองบ้าง เขาอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดสูทแบบเดิมๆ ที่จำใจต้องสวมทั้งวันทั้งคืนอย่างน่าเบื่อ เรียบร้อยแล้วก็ออกไปรอเธออยู่หน้าบ้านเป็นนานสองนาน กว่าแม่คุณจะยุรยาตรลงมาจากบันไดวนชั้นสอง และก้าวเดินฉับๆ ออกมาทางประตูหน้าบ้านที่เปิดรอไว้ ไอแซคโกหันมอง เห็นเธออยู่ในชุดเดรสสั้นสีแดงเพลิงเปิดไหล่ เหนือเนินอกอวบอิ่มคือผ้าชีฟองบางๆ ต่อระหว่างเกาะอกกับคอเสื้อทรงกลมประดับอัญมณีโทนสีน้ำตาลแดง เธอสวมสร้อยข้อมือเข้าชุดกับคอเสื้อ แต่ที่ร้ายคือมีเสียงกรุ้งกริ้งจากสร้อยข้อมือเธอยามเคลื่อนไหว เธอแต่งหน้าเข้ม ตาคม ทาลิปสติกสีเดียวกับชุด แบบที่ทำให้เขานึกถึงนักระบำหน้าท้องคนสวยที่เขาเคยได้ชมการแสดงสดที่ตุรกี ไอแซคโกเปิดประตูรถให้เธอก้าวเข้าไปนั่งโดยอัตโนมัติอย่างที่ทำมาตลอดหลายวัน แม้ไม่แสดงออกทางสีหน้า แต่เขาต้องยอมรับอยู่อย่าง... ว่าผู้หญิงคนนี้มีเสน่ห์และเย้ายวนต่อเพศตรงข้ามอย่างร้ายกาจ ทั้งที่เธอไม่เคยหว่านเสน่ห์ใส่บอดิการ์ดผู้ต่ำต้อยแบบเขาเลยสักครั้ง และในอีกแง่เธอก็เย่อหยิ่งยโสและจิตใจโสมมต่ำช้าอย่างที่สุดด้วยเหมือนกัน! งานวันเกิดถูกจัดในห้องจัดเลี้ยงที่ใหญ่ที่สุดของ Fullmoon House พุดพิชญาอึดอัดนิดหน่อยที่การมางานวันเกิดคนรู้จักแบบชิลๆ กลับต้องหิ้วบอดิการ์ดตัวสูงที่สูงที่สุดในห้องเสียจนยิ่งเด่นสะดุดตาแบบนี้มาด้วย เธอหันไปขึงตาดุเมื่อไอแซคโกประกบติดเธอใกล้เกินเหตุจนแผ่นอกเขาแทบชิดไหล่ ก่อนกระซิบบอกเขาแข่งกับเสียงดนตรีและไฟวิบวับว่าให้ไปจับตาดูเธอ ‘ห่างๆ!’ ชายหนุ่มก้มศีรษะรับ และเมื่อพุดพิชญาหันหลังให้เขาแล้วหันไปมองอีกครั้ง เธอก็ไม่เห็นเขาแม้แต่เงาแล้ว หญิงสาวระบายลมหายใจอย่างโล่งขึ้นนิดหนึ่ง รู้ดีว่าเขากำลังมองดูเธอจากที่ไหนสักที่ แต่อย่างน้อยให้เขาคอยมองเธอคนเดียวก็ยังดีกว่าเป็นเป้าสายตาของคนทั้งงาน เธอเดินหาวิลาวรรณผู้เป็นเจ้าของวันเกิดจนเจอและยืนรอวิลาวรรณเอ่ยขอตัวจากเพื่อนกลุ่มหนึ่ง ก่อนหญิงม่ายร่างอวบจะเดินยักย้ายมาหาพุดพิชญาด้วยรอยยิ้มกว้างขวางจริงใจ “ยัยพุด! นึกว่าจะมาไม่ได้แล้ว” พุดพิชญายิ้มรับ “สุขสันต์วันเกิดค่ะพี่วิ” เธอยื่นกล่องของขวัญที่ภายในบรรจุนาฬิกาข้อมือฝังเพชรไปให้เจ้าของวันเกิด จากนั้นสองสาวจึงหาที่นั่งคุยกันตามประสาที่ไม่ได้ เจอกันนาน ตั้งแต่วิลาวรรณแต่งงานไปอยู่ฝรั่งเศส กระทั่งหล่อนหย่าขาดกับสามีและย้ายกลับมาอยู่เมืองไทยเมื่อไม่กี่เดือนก่อน ล่าสุดที่พุดพิชญาบังเอิญเจอพี่สาวคนนี้ก็ที่ผับแห่งนี้นี่ละ เธอมาเที่ยว วิลาวรรณก็มาเที่ยว ต่างกันแต่พุดพิชญามาคนเดียว แต่วิลาวรรณมากับเด็กหนุ่มหล่อล่ำผู้มีกล้ามแขนและลักยิ้ม “เจอกันล่าสุดนี่ไม่ได้คุยกันเลย น้อง ขอมาร์การิต้าสอง” วิลาวรรณหันไปสั่งเด็กหนุ่มหลังเคาน์เตอร์พร้อมขยิบตาอย่างมีเลศนัยที่พุดพิชญาแสร้งทำเป็นไม่เห็น “เป็นไงบ้างล่ะเรา? ป๊าบอกว่าเดี๋ยวนี้พุดทำธุรกิจเครื่องประดับเหรอ? แบรนด์อะไรนะ? อินเดียคอลเล็คชั่น?” พุดพิชญาหัวเราะคิก “อินดา คอลเลกชันค่ะ” “อ้อ” วิลาวรรณหันไปรับมาร์การิต้าจากบาร์เทนเนอร์และแอบสอดกระดาษโน้ตเบอร์ห้องพักของเธอคืนนี้ไปด้วยอย่างเนียนๆ “Inda... ชื่อท้องถิ่นของดอกพุดพิชญาที่ศรีลังกา เข้าใจคิดนะ” ต่อจากนั้นคือเรื่องเล่าของวิลาวรรณเกี่ยวกับสามีเก่าที่ไม่เอาไหนของหล่อน พุดพิชญาพยายามอย่างหนักไม่ให้ตัวเองแก้มแดงขณะที่ฟังวิลาวรรณเล่าเรื่องเซ็กส์ห่วยแตกของอดีตคนเคยรักให้เธอฟังอย่างไม่มีหมกเม็ด เธอเข้าใจวิลาวรรณดีที่กล้าพูดเรื่องนี้ เพราะต่อให้สนิทสนมรักใคร่กันอย่างไร ก็มีกำแพงของความห่างของความไกลมาคั่นกลาง วิลาวรรณรู้จักเธอเหมือนที่คนทั่วไปคิด พุดพิชญา สุชาครีย์ ผู้หญิงเจนโลก เจนจัด เล่นตัว จีบยาก แต่หากใครหิ้วเธอขึ้นเตียงได้จะพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ‘ไม่มีวันลืมคืนนั้นเด็ดขาด’ พุดพิชญาได้ยินเรื่องพวกนี้มาก็ได้แต่ขำ เธอรู้ว่ามันเริ่มจากผู้ชายคนหนึ่งที่จีบเธอไม่ติดแล้วไปคิดมุกแก้เสียหน้าว่าอย่างน้อยก็ได้สนุกกับเธอทั้งคืน แล้วคนที่สองสามสี่ก็เอาบ้าง น่าตลกที่ใครๆ พากันเชื่อผู้ชายพวกนั้นเสียสนิทใจโดย ไม่หยุดคิดไตร่ตรองหรือไต่ถามจากเธอตรงๆ อาจเพราะพุดพิชญาที่วงสังคมรู้จักในปีสองปีหลัง คือสาวนักท่องราตรี เธอเลยดูรักสนุก ไม่คิดผูกพัน อะไรเทือกๆ นั้นละมัง พุดพิชญารู้ดีว่าข่าวลือแพร่ไปทั่วเหมือนคลื่นซัดชายหาด แต่เธอไม่แคร์หรอก ชีวิตเธอมีอะไรให้แคร์มากกว่าชื่อเสียงห่วยแตกในวงสังคมจอมปลอมที่หาคนจริงใจแทบไม่ได้เลย!
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม