EP 2 สวยแต่รูป

1261 คำ
“แดงขับกลับไปครับ” เขาหมายถึงคนขับรถคนหนึ่งในบ้านที่แน่นอนว่าพูดภาษาอังกฤษไม่ได้ แต่พุดพิชญาไม่แปลกใจนักหรอก เธอกล้าพนันเลยว่าไอแซคโกก็แค่จับลุงแดงเหวี่ยงเข้ารถ แล้วซิ่งตามเธอออกมาติดๆ “ผมให้แดงนั่งมาด้วยจะได้เอารถกลับไปเลย ผมจะได้ขับรถให้คุณเหมือนเดิม เพราะผมทำเวลาได้สิบนาทีเป๊ะ แต่นาฬิกาของคุณหนูอาจเดินเร็วกว่าผม” พุดพิชญาแสร้งทำเป็นไม่สนใจคำกล่าวหาว่าเธอไม่รักษาคำพูด “แล้วมาถึงก่อนฉันได้ยังไง?” สาบานได้ว่าพุดพิชญาเห็นเขายิ้มมุมปากเป็นเวลาไม่ถึงหนึ่งวินาทีเท่านั้น ก่อนใบหน้าคมเข้มหล่อเหลาแบบชาวอิตาลีแท้ๆ จะกลับมาเรียบนิ่ง พอกับน้ำเสียงที่ไม่ได้แสดงอารมณ์ใด แต่เธอรู้ว่าเขากำลังสนุกที่ได้ปั่นประสาทเธอ “เพราะคุณหนูขับรถช้ากว่าผมครับ” พุดพิชญานึกอยากขยำเช็คสั่งจ่ายเงินเดือนพนักงานในแฟ้มนั่นให้ยับคามือกับคำตอบยียวนกวนประสาททั้งที่ทำหน้านิ่งไม่แสดงอารมณ์ของหมอนั่นนัก! แต่หญิงสาวก็เลือกที่จะไม่ต่อปากต่อคำ เธอหันกลับมาเซ็นลายเซ็นโค้งตวัดมากกว่าปกติและออกแรงกดระบายอารมณ์แทน และเลือกที่จะทำเป็นไม่สนใจเขา แต่เธอกลับทำได้แค่ตอนเพลินกับการใช้กล้องส่องอัญมณีตรวจดูพลอยสีที่เพิ่งได้มาล็อตใหม่และผ่านการตรวจสอบจากพนักงานคัดเพชร / พลอย มาแล้วเท่านั้น หญิงสาวหยิบทับทิมเม็ดใหญ่ที่มีขนาดใกล้เคียงกันขึ้นมาตรวจทีละเม็ด เป็นของพม่าแท้ๆ อย่างที่พนักงานของเธอรายงานมา สีแดงเลือดนกพิราบฉ่ำๆ งามระยับประดุจกำมะหยี่ถูกห่อหุ้มด้วยเกล็ดแก้วเนียนวาว พุดพิชญาระบายยิ้มอย่างชอบใจ ทับทิมพวกนี้เข้ากันดีกับคอลเลกชันใหม่ที่เธอออกแบบไว้ และมีมากพอให้ทำทั้งสร้อยคอ ต่างหู และสร้อยข้อมือเข้าชุดกันด้วย “คุณพุด เที่ยงแล้วนะคะ” “จ้ะ” พุดพิชญาตอบรับเลขาโดยไม่เงยหน้าจากเพชรเม็ดหนึ่งที่สุ่มหยิบขึ้นมา เพชรเม็ดนี้เป็นเพชรน้ำสองที่มีตำหนินิดหน่อย แต่หากเจียระไนดีๆ ก็คงสวยและขับให้ทับทิมเด่นขึ้นได้ไม่เลว “ไปพักกลางวันเถอะ บ่ายแล้วจัดอาหารขึ้นมาให้ฉันกับอีตาก้อนหินนั่นด้วยแล้วกัน” เลขาสาวพยายามกลั้นหัวเราะขณะรับคำ “ค่ะ คุณพุด” พุดพิชญาจมอยู่กับโลกของความงดงามแห่งหินสีอยู่อีกไม่ถึงหนึ่งชั่วโมง เธอก็ขยับนั่งตัวตรงและยกมือนวดต้นคออย่างปวดเมื่อย ก่อนชะงักนิดหนึ่งเมื่อหลุดออกมาจากโลกส่วนตัว เธอก็ยังเจอผู้ชายร้ายกาจเหมือนยักษ์มารยืนตัวตรงเหมือนไม้บรรทัดอยู่ไม่ห่างนักเหมือนเดิม หญิงสาวถอนหายใจยาว เบือนหน้าหนีเขาอย่างเบื่อหน่ายขณะนวดคอตัวเองไปเรื่อยๆ และตำหนิตัวเองว่าเธอหมกมุ่นกับเพชรพลอยมากเกินไปแล้ว คราวหน้าเธอควรรู้ลิมิตร่างกายมากกว่านี้ “ผมช่วยนะครับ” ไม่ทันตอบรับหรือปฏิเสธ ร่างสูงใหญ่ก็ก้าวมาหยุดยืนด้านหลังเก้าอี้นวมของเธอด้วยฝีเท้าเบากริบจนพุดพิชญาไม่ทันระวังหรือรู้ตัว เขาปัดมือเธอออกจากลำคอระหง มือใหญ่หยาบกร้านออกแรงกดที่ไหล่ทั้งสองอย่างพอเหมาะพอเจาะและทำให้รู้สึกสบายจนเธอแทบคราง พุดพิชญาสะดุ้งเยือกในใจเมื่อมือของเขาขยับออกด้านข้างและแตะถูกต้นแขนเปลือย มือเขาร้อน หรือตัวเธอเย็นเกินไปก็ไม่อาจทราบ แต่เมื่อเธอจะปัดมือเขาออก ไอแซคโกก็เลื่อนมือกลับมาแทรกเข้าไปในเรือนผม และกดตามจุดต่างๆ ที่ลำคอด้านหลังพอดี พุดพิชญารู้สึกหายใจติดขัดอย่างประหลาด ทั้งที่เขาไม่มีทีท่า จะลวนลามล่วงเกินหรือทำอะไรที่นอกเหนือจากการนวดผ่อนคลายให้เธอจริงๆ แต่การที่ฝ่ามือร้อนผ่าวแข็งแกร่งเหมือนเหล็กอังไฟมาแตะกดบนเนื้อตัวเธอแบบนี้ ก็ทำให้พูดพิชญาชักกลัวตัวเองจะถูกไฟร้อนๆ จากมือเขาเผาตายในอีกไม่กี่วินาทีข้างหน้าน่ะสิ! “พอแล้ว” เธอปัดมือเขาออก แม้ไอแซคโกจะไม่สะดุ้งสะเทือน แต่เขาก็เลื่อนมือออกจากลำคอนุ่มนวลตามคำสั่ง ชายหนุ่มสอดปลายนิ้วผ่านเรือนผมนิ่มละไมไปจนสุดปลาย กลิ่นหอมของแชมพูราคาแพงและกลิ่นกายสาวโชยชายจนเขาแทบไม่อยากผละห่าง หากแต่เมื่อนึกขึ้นมาได้ว่าผู้หญิงสวยแต่รูปคนนี้ร้ายกาจเพียงไร ร่างสูงใหญ่ก็ขยับถอยห่างเหมือนเธอคือขยะเน่าเหม็นที่น่ารังเกียจทันที! พุดพิชญาตวัดสายตามองเขาในแบบที่หนนี้ไอแซคโกอ่าน แววตาเธอไม่ออก ก่อนที่หญิงสาวจะสะบัดหน้าหนีและเขียนโน้ตกำกับกันลืมไว้บนถาดระหว่างพลอยที่เธอตรวจแล้ว กับที่ยังไม่ได้ตรวจ มือเธอยังจับปากกาได้มั่นคงเหมือนเดิม แต่แก้มที่ขึ้นสีแดงกว่าเมื่อครู่ของเธอก็ทำให้เขาอดสงสัยไม่ได้... ว่าผู้หญิงเจนจัดแบบพุดพิชญา สุชาครีย์น่ะหรือ จะเขินอายขึ้นมาแค่เพราะถูกผู้ชายแตะตัวแค่นี้? หากแต่แอ่งชีพจรของเธอที่เต้นตุบรุนแรงอย่างที่เขาสังเกตเห็นได้ด้วยตาเปล่า ก็ทำให้ไอแซคโกไม่คิดมองข้าม ไม่แน่หรอก... เธออาจไม่ได้ตื่นเต้นเพราะไร้เดียงสา แต่อาจทัดทานเสน่ห์ของเขาไม่ได้มากกว่า แม้ว่าเธอจะปฏิบัติต่อเขาอย่างเย็นชามาตลอดครึ่งเดือนก็เถอะ และหากว่าเป็นอย่างที่เขาสรุป เธอก็จะได้รับบทเรียนจากความผิดมหันต์ของเธอได้อย่างสาสมยิ่งกว่าที่เขาคิดไว้อีก!!! พุดพิชญาคุยงานเสร็จเร็วกว่าที่คิด จึงมีเวลากลับไปอาบน้ำ เปลี่ยนเสื้อผ้าที่คฤหาสน์ก่อนเดินทางไปผับเพื่ออวยพรวันเกิดให้ลูกสาวคนโตของหุ้นส่วนคนสนิทของเจ้าสัวภพ ปีนี้วิลาวรรณอายุ 35 ปีแล้ว เป็นแม่ม่ายทรงเครื่องเนื้อหอมที่หนุ่มๆ ไล่ตามกันเป็นพรวน โดยเฉพาะหนุ่มวัยกระเตาะ... หล่อนเป็นเพื่อนรุ่นพี่คนแรกในชีวิตของพุดพิชญาเพราะเจ้าสัวกับบิดาของวิลาวรรณเป็นทั้งหุ้นส่วนและเพื่อนเก่าแก่กันมานาน และอาจเรียกได้ว่าวิลาวรรณเป็นไอดอลของเธอมาตั้งแต่เด็กๆ ด้วยความที่ตอนพุดพิชญาเป็นเด็กหญิงตัวเล็ก วิลาวรรณก็เริ่มย่างเข้าวัยสาวแรกรุ่นพอดี แม้การที่คฤหาสน์นี้อยู่ชานเมืองก็ทำให้เธอเสียเวลาในการไปกลับที่ทำงาน แต่เจ้าสัวก็ไม่อนุญาตให้เธอแยกบ้านหรือแม้แต่ซื้อคอนโดมิเนียมทิ้งไว้ ท่านสั่งเด็ดขาดจนเธอไม่กล้าโต้แย้ง พุดพิชญา จึงมีเพียงบ้านหลังนี้ให้ได้ซุกหัวนอน และอยู่ในความดูแลของพ่อเหมือนนกน้อยในกรงทองที่แสนอึดอัด “เฝ้าหน้าห้องไว้จนกว่าฉันจะอนุญาตให้นายไป” เธอออกคำสั่งกับไอแซคโก ก่อนก้าวเข้าห้องส่วนตัวและปิดประตูดังปัง ทิ้งบอดิการ์ดหนุ่มให้ยืนเฝ้าหน้าห้องเวลาเธออาบน้ำเหมือนอย่างเคย
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม