“น้องพุด”
เสียงทักทุ้มนุ่มที่ดังจากทางด้านหลังทำให้พุดพิชญาหันกลับไป เธอเห็นชายหนุ่มหล่อเหลาสะอาดสะอ้านยืนถือแก้วเตกีลาพร้อมยิ้มเก๋ในแบบที่ทำให้สาวน้อยสาวใหญ่ที่ไหนละลายก็ได้ทั้งนั้น พุดพิชญายิ้มตอบ ก่อนยกมือไหว้น้องชายของวิลาวรรณ ผู้ชายหนึ่งในไม่กี่คนที่ เธอรู้จักและไว้วางใจ
“สวัสดีค่ะพี่วิทย์”
“ครับ มานานหรือยัง แล้วนี่ดื่มไปกี่แก้วแล้วเนี่ย แก้มแดงเชียว”
เขาหัวเราะเสียงนุ่มในขณะที่เธอยิ้มแหยตอบ มาร์การิต้าสี่แก้วคงไม่ใช่สาเหตุที่ทำให้เธอแก้มแดงอยู่ตอนนี้หรอก แต่การเล่าความต้องการบนเตียงในแบบพิสดารและอาการส่งสายตาให้บาร์เทนเนอร์ที่ดูเหมือนจะอายุน้อยกว่าพุดพิชญาเสียอีกของเจ้าของวันเกิดต่างหาก ที่ทำให้พุดพิชญาแทบบังคับสีหน้าตัวเองให้สงบนิ่งไว้ไม่ได้อย่างเคย
“แหม นายวิทย์! มาตอนงานจะเลิกแล้ว ไม่ทักเจ้าของวันเกิด ซักคำเลยนะยะ”
“พี่วิก็” วิทยาหันไปยิ้ม และยกมือขึ้นเหนือศีรษะ “ทักทายพี่สาวสุดที่รักทั้งที ทักแบบธรรมดาๆ ได้ไงล่ะคร้าบ”
พูดจบเขาก็ดีดนิ้วเป็นสัญญาณ ทั้งๆ ที่เสียงดนตรีกลบเสียงนิ้วเสียดสีกัน หากแต่ว่าทุกอย่างก็ดับสนิทลงหลังจากนั้น ทั้งแสงไฟสลัว เสียงดนตรี แต่แค่ชั่วอึดใจเดียวเสียงร้องเพลงแฮปปีเบิร์ดเดย์ก็ดังใกล้ เข้ามา พร้อมกับที่พนักงานเข็นโต๊ะปูผ้าสีขาวที่มีเค้กวันเกิดขนาดใหญ่เต็มโต๊ะมาหยุดตรงหน้า
วิลาวรรณซาบซึ้งน้ำตาคลอ หล่อนโน้มลงไปจูบแก้มน้องชายฟอดใหญ่ จากนั้นจึงอธิษฐาน แล้วเป่าเทียน
หลังจากนั้นพุดพิชญาก็ถูกทิ้งให้นั่งอยู่คนเดียวที่เคาน์เตอร์บาร์เพราะวิลาวรรณต้องไปรับแขกคนอื่นต่อ เธอยกข้อมือดูเวลา เห็นว่าใกล้ห้าทุ่มแล้วก็ตัดสินใจว่าจะกลับ แต่มาร์การิต้าอีกแก้วที่วางลงบนเคาน์เตอร์ตรงหน้าก็ทำให้หญิงสาวชะงัก
“ไม่ได้สั่งนะคะ”
“พี่สั่งให้เอง”
พุดพิชญาคลายการระวังตัวนิดหนึ่งเมื่อเห็นว่าเป็นวิทยาที่ทิ้งตัวลงนั่งบนเก้าอี้ข้างๆ เขายกมือโบกลาเพื่อนกลุ่มใหญ่ที่เดินมาด้วยกัน เพื่อนๆ ของเขาหันมาก้มศีรษะทักทายเธออย่างเป็นมิตรก่อนเลี่ยงไปอีกทาง วิทยาจึงยกแก้วเตกีลาขึ้นเป็นสัญญาณให้เธอยกแก้วของเธอขึ้นชน
“น้องพุดเป็นไงบ้างคะช่วงนี้” เขาพูดคะขาอย่างที่เธอชิน วิทยาสุภาพเสมอ และมักยิ้มน้อยๆ อย่างผู้ชายอบอุ่น “สบายดีไหม?”
พุดพิชญาวางแก้วที่เพิ่งจิบได้นิดหน่อยลงบนเคาน์เตอร์เธอไม่ใช่คนคอแข็งนัก และเมื่อครู่ก็ถูกวิลาวรรณคะยั้นคะยอให้ดื่มไปเต็มลิมิตแล้ว เธอรู้ตัวว่าหากดื่มมากกว่านี้เธออาจจะเมา
“ก็ดีค่ะ พี่วิทย์ล่ะคะ ไม่ได้เจอกันตั้งนาน จะแต่งงานกับคุณอิ๊งค์เมื่อไหร่คะ?”
รอยยิ้มของวิทยาจางไปในทันที
“คงไม่ได้แต่งแล้วละ”
อาการหงอยเศร้าของเขาที่เกิดจากคำถามของเธอทำให้พุดพิชญารู้สึกผิดอย่างยิ่งยวด เธอไม่ได้ถามสาเหตุของการเลิกราของเขากับแฟนสาวที่คบกันมาเกือบสิบปีและชวนคุยเรื่องอื่น เรื่องงาน เรื่องของวิลาวรรณ และยอมดื่มเป็นเพื่อนเขาต่ออีกหลายแก้ว แม้เธอพยายามถ่วงเวลาจิบทีละนิด แต่อาการร้อนวูบไปทั่วใบหน้าและลำคอก็ทำให้เธอชักสังหรณ์ใจว่าเธอดื่มมากเกินไป
“พุดขอตัวไปห้องน้ำก่อนนะคะ”
“ครับ แล้วรีบกลับมานะ”
“เอ่อ” เธออึกอัก “พุดว่าพุดจะกลับแล้วค่ะ”
“ว้า” วิทยาถอนหายใจเฮือก “พี่อยากคุยกับพุดเรื่องแหวน... เผื่อว่าพี่จะ... ไปง้อ... เอ้อ ไม่เป็นไรค่ะพุด เรื่องของพี่ พี่จัดการเองได้”
สีหน้าหงอยๆ ของเขาทำให้เธอระบายลมหายใจอย่างยอมแพ้
“ค่ะ เดี่ยวพุดกลับมา”
ไอแซคโกมองตามร่างระหงที่เดินออกจากเคาน์เตอร์บาร์อยู่ห่างๆ และไม่รู้ว่าโชคดีหรือโชคร้ายที่การเว้นระยะห่างเพื่อซ่อนตัวจากเธอตามคำสั่ง ทำให้เขาได้เห็นสีหน้าของผู้ชายท่าทางสำอางที่นั่งคุย นั่งดื่มกับเธออยู่นานสองนานเปลี่ยนไปจากเทพบุตรเป็นซาตานในช่วงเวลาแค่ไม่กี่วินาทีที่เธอหันหลัง!
หมอนั่นมองสะโพกเธอ ไล่ต่ำลงไปถึงเรียวขาแล้วเลียริมฝีปากอย่างหื่นกระหาย
วิทยาหันไปส่งขวดยาเล็กจิ๋วที่ไอแซคโกมองแวบเดียวก็รู้ว่าเป็นยานอนหลับให้บาร์เทนเนอร์พร้อมสั่งสองสามคำ วิทยาก็ลุกจากเก้าอี้ และไอแซคโกไม่รีรอที่จะเดินไปชนไหล่เขาก่อนเอ่ย
“Sorry”
บอดิการ์ดหนุ่มเดินสวนวิทยามาโดยไม่มองหน้าหรือรอคำให้อภัยใดๆ ทั้งสิ้น เขาเห็นวิทยาเดินไปสมทบกับเพื่อนกลุ่มใหญ่ที่เป็นชายเสียส่วนมาก มีผู้หญิงในกลุ่มนั้นแค่ไม่กี่คน และแต่ละคนดูจะเป็นคู่ควงของพวกผู้ชายเท่านั้น
ไอแซคโกหลบเข้ามุมมืด เปิดกระเป๋าสตางค์ที่เขาเพิ่งฉกมา ก่อนถ่ายรูปบัตรประชาชนของวิทยาส่งไปยังอิตาลีด้วยแอพพลิเคชั่นของโทรศัพท์มือถือพร้อมข้อความภาษาอิตาเลียนเป็นคำสั่งสั้นๆ แต่ได้ใจความว่าให้ส่งประวัติผู้ชายคนนี้กลับมาภายในสิบนาที
ขณะที่รอ เขาก็ลอบสังเกตคู่สนทนาของคุณหนูของเขาอยู่ห่างๆ เขารู้ดีว่าพุดพิชญาไม่ได้เอ่ยลาชายคนนี้ ดูจากท่าทางโอหังของวิทยาและซองเล็กๆ ที่บาร์เทนเนอร์รับไปแล้ว ไอแซคโกมั่นใจว่าพุดพิชญาต้องย้อนกลับมา และดื่มเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของยานอนหลับ ที่ทำให้เธอจำใจต้องขึ้นเตียงกับไอ้ห่วยแตกนี่โดยไม่รู้ตัว
ถึงเขาจะเกลียดพุดพิชญาเข้าไส้ แต่ไอแซคโกก็ขอประณามการบังคับมีเซ็กส์กับผู้หญิงด้วยยาอะไรก็ตามแต่ มันทุเรศเกินไป เสียศักดิ์ศรีลูกผู้ชายจนเขาอายแทน!
“มึงเลิกกับอีอิ๊งค์ตั้งแต่เมื่อไหร่วะไอ้วิทย์” ใครคนหนึ่งถาม หลังจากวิทยาเล่ามุกที่เขาใช้ล่อดอกฟ้าให้ติดเบ็ดอย่างสนุกสนานเฮฮา
“เลิกคืนนี้ว่ะ” วิทยาตอบพร้อมเดาะลิ้น “ไว้ให้กูได้เลิกผ้าอีน้องพุดสุดยากก่อนเหอะ อีอิ๊งค์มันของตายของกู ต่อให้มันรู้เรื่องนี้มันก็ไม่มีปากมีเสียงอะไรหรอก””
“แต่ว่านะมึง” ใครคนหนึ่งถามขึ้น “บ้านมึงกับบ้านเจ้าสัวก็สนิทกันดีนี่หว่า ถ้าอยากได้ทำไมไม่จีบเลยล่ะวะ? เห็นเขาลือกันว่าแม่นั่นเด็ดอย่างงี้”
เขายกนิ้วโป้งประกอบ
“One night stand มันก็ดี ไม่ผูกมัด ไม่เรื่องมาก แต่ไม่เสียดายเหรอวะ บางทีคืนนี้มึงอาจลืมอีอิ๊งค์ไปเลยก็ได้นะ”
วิทยายิ้มเยาะๆ
“ทำไงได้วะ กูไปเรียนที่ฝรั่งเศสตั้งนานนี่หว่า” เขาละไว้ไม่พูดถึงว่าเพราะมัวแต่ปาร์ตี้จนเรียนจบช้ากว่าปกติ “แล้วไปเจอกับอิ๊งค์ที่นั่น คบกัน กลับมาหมั้นกัน ตอนนั้นเพิ่งเห็นว่ายัยเด็กผอมแห้งตัวเล็กอย่างกับมดนั่นโตเป็นสาวสวยขนาดนี้ แถมระยะหลังวงในปิดกันให้แซ่ดว่าเด็ดอย่างงี้ กูจะทิ้งอิ๊งค์ก็ใช่ที่ ยังไงอิ๊งค์มันก็ดีตรงที่ไม่มีปากมีเสียง”
...และโง่พอที่จะเป็นบ่อเงินบ่อทองให้เขาสูบไม่มีวันหมด