เย็นชา

1537 คำ
ไร่แสงจันทร์ ฉันได้เจอกับคนที่ฉันอยากเจอมาตลอด 1 ปีที่ผ่านมา ฉันเขาไปในเฟสบุคของพี่ณะเพื่อดูว่าคนที่ชื่อสินเป็นใครมีหน้าตายังไง รูปที่พี่ณะลงในเฟสแทบจะเป็นรูปคู่กับผู้ชายคนนี้เกือบทุกรูป พี่ณะรักเพื่อนคนนี้มากและก็คงไว้ใจมาก ถึงได้ไม่มีความระแวงไดๆแต่ทำไมเขาถึงทำแบบนี้กับพี่ณะได้ “คุณมนได้มาประจำการที่นี่ 2 ปีครับ น้าแสง” คุณกฤษชัยแนะนำตัวฉันให้เจ้าของไร่แสงจันทร์ฟัง เขาเรียกว่าน้าแสงเพราะคุณกฤษชัยเป็นลูกชายของพี่สาวของเจ้าของไร่แสงจันทร์นี้ “หรอจ่ะ...ที่นี่บรรยากาศดี หนูมนมาอยู่ที่นี่น่าจะชอบ...” “ค่ะ อากาศที่นี่เย็นๆเหมือนที่เมืองนอกเลย ไม่ร้อนกำลังดีค่ะ...” “ใช่จ่ะ ยิ่งถ้าเป็นช่วงหน้าหนาวยิ่งเย็นสบาย คนงานในไร่ของน้าใส่เสื้อกันหนาวกันเหมือนอยู่เมืองนอกเลยละ...” “สงสัยมนจะต้องมาบ่อยๆแล้วละคะ ถ้าที่นี่อากาศดีแบบนี้...” ฉันยิ้มแล้วก็หันไปเหล่ตามองคนที่นั่งเงียบไม่พูดอะไรอยู่ข้างๆคุณแสงจันทร์ “ได้เลยจ่ะ อยากมาเมื่อไหร่ก็มาได้เลยไร่แสงจันทร์ยินดีต้อนรับจ่ะ...” “จริงหรอค่ะคุณแสง...?” “จริงสิจ่ะ...เรียกว่าน้าก็ได้นะไม่ต้องเรียกคุณหรอกคราวหน้ามาจะได้ชิน...” “ขอบคุณนะคะน้าแสง...แต่ว่า...” “แต่อะไรจ่ะ...?” ฉันเหล่ตาไปมองเขาอีกรอบ “น้าแสงยินดีต้อนรับ แล้วคุณสินสมุทรละคะยินดีต้อนรับมนด้วยหรือเปล่า...?” ฉันพูดกระแซ๊ะเขาเขาหันมามองหน้าฉันนิ่งๆ “แม่ผมเป็นเจ้าของไร่ครับ ไม่ใช่ผม...” เขาพูดหน้าตานิ่งๆจนฉันรู้สึกหมั่นไส้ ในความขี้เก๊กของเขา “งั้นมนจะมาทุกวันเลยนะคะ...?” “เชิญครับ...” เขาพูดจบก็นั่งทานข้าวโดยไม่พูดอะไรต่อ คนบ้าอะไรหยิ่งชะมัดแล้วยังถามคำตอบคำอีก “อย่าถือสาไอ้สินเลยนะครับ มันก็เป็นแบบนี้แหละ” ฉันทานอาหารเสร็จก็เดินออกมากับคุณกฤษชัย 2 คน เขาพาฉันเดินชมไปรอบๆไร่ “ปกติคุณสินเขาเป็นคนเงียบๆแบบนี้หรอคะ...?” “เมื่อก่อนไอ้สินมันเป็นคนสนุกสนานร่าเริงนะครับ แต่อยู่ๆมันก็เปลี่ยนไปตั้งแต่มันกลับมาจากกรุงเทพฯเมื่อปีที่แล้ว...” “เกิดอะไรขึ้นกับเขาหรอคะ...?” “มันโดนผู้หญิงทิ้งมานะครับ แล้วตอนที่มันกลับมามันก็พาลูกสาวกลับมาด้วยคนหนึ่ง แต่ก็ไม่มีใครรู้ว่าแม่ของเด็กเป็นใคร...” ฉันเดินไปกับคุณกฤษชัยและคิดตามถึงเรื่องที่พี่ณะเคยเขียนไว้ในจดหมาย “เด็กผู้หญิงคนนั่นอายุเท่าไหร่แล้วคะ...?” “สายใจอายุได้ขวบครึ่งแล้วครับ...น่ารักมากกกก กำลังหัดเดินหัดพูดเลย น้าแสงรักสายใจมากๆแล้วก็หวงสุดๆด้วยนะครับ...” เด็กคนนี้คงจะเป็นลูกของพี่อ้อมสินะ แม่ของเขาคงไม่รู้ว่าลูกชายตัวเองไปมีอะไรกับเมียเพื่อนจนเพื่อนต้องฆ่าตัวตายแต่แปลกจังแล้วพี่อ้อมหายไปไหนนะ “คุณมนรอผมตรงนี้ก่อนนะครับ เดี๋ยวผมขอไปเข้าห้องน้ำก่อน...” “ได้ค่ะ...” คุณกฤษชัยพาฉันมาเดินดูสวนกล้วยไม้ แต่เขาขอตัวไปเข้าห้องน้ำฉันจึงเดินเล่นไปเรื่อยๆในสวน “อุ๊ย...!” ฉันกำลังก้มดูกล้วยไม้ไปเรื่อยๆโดยไม่ได้ดูทางไปชนเข้ากับอกของใครไม่รู้ เงยหน้าขึ้นมาถึงกับตกใจ “คุณสิน...” เขาจ้องหน้าฉันนิ่งโดยไม่พูดอะไร เขาถอยหลังห่างจากฉัน 1 ก้าวแล้วก็เดินหลีกไปอีกทาง “เดี๋ยวสิคะ...” ฉันหันไปเรียกเขา เขาจึงหยุดแต่ก็ไม่ได้หันมามองฉัน “เอ่อ...คุณสินพอจะมีเวลาว่างพามนเดินชมรอบๆไร่หน่อยได้ไหมคะ...?” “ไม่ว่างครับ...ผมขอตัว” “แค่แป๊ปเดียวเองก็ไม่ได้หรอคะ.?” “....” เขายืนนิ่งไม่หันมา แต่ก็เลือกที่จะก้าวขาเดินออกไป “แค่ 20 นาทีก็ได้ นะคะ...?” “จะ 10 นาที หรือ 20 นาทีผมก็ไม่ว่างครับ คุณไปให้พี่กฤษพาคุณไปนู้น ผมไม่ได้มีเวลาว่างขนาดนั้น...” เขาพูดจบก็เดินไปเลยฉันรู้สึกโมโหมากจึงวิ่งไปดักหน้าเขา “เคยมีคนบอกคุณไหมคะว่าเวลาคุยกับคนอื่นให้หันมามองหน้าเขาด้วย ไม่ใช่พูดแต่ไม่หันมามองหน้ากันแบบนี้ มันเสียมารยาทรู้ไหมคะ...?” “....” เขาก้มลงมามองหน้าฉันนิ่งๆ “ฉันแค่ขอเวลาคุณแค่ 20 นาทีเอง คุณจะไม่ให้ฉันก็ไม่เป็นไร ฉันจะได้รู้ไว้ว่าคนที่นี่ไร้น้ำใจ” “....” ฉันจ้องหน้าเขาอย่างไม่พอใจแต่เขาก็ไม่พูดอะไร แต่เลือกที่จะเดินผ่านหน้าฉันไป “คุณ...” เขาไม่หยุดเดินแถมยังเดินหนีไปหน้าตาเฉย “คนบ้า...คนไม่มีน้ำใจ คนทุเรศ พี่อ้อมไปชอบคุณได้ยังไงนะ...” ฉันไม่ยอมแพ้ง่ายๆหรอก ฉันวิ่งตามเขาไปเขาขึ้นรถฉันก็เปิดประตูไปนั่งกับเขา “ลงไป...” “ไม่ลง...คุณไปไหนมนจะไปด้วย” “ผมบอกให้ลงไป...” “มนอยากเข้าไปในไร่ด้วย แค่คุณขับรถแล้วยอมให้มนนั่งไปด้วย มนจะนั่งเงียบๆไม่พูดอะไรเลย นะคะ...” “ลงไป...” “ทำไมคุณถึงได้ไร้น้ำใจแบบนี้นะมนแค่ขอติดรถไปด้วยแค่นั้นเอง ถ้าครบ 20 นาทีมนยอมลงกลางทางให้คุณทิ้งมนได้เลย นะคะ...?” “....” “นะคะคุณสิน...?” ฉันทำสายตาอ้อนวอนเขา เขาหันมามองแต่ทำหน้านิ่งๆแล้วก็ยอมสตาร์ทรถขับออกไปแต่โดยดี ในที่สุดคุณก็ยอมแพ้ฉันแต่ใครจะยอมลงจากรถง่ายๆละ ขึ้นมาแล้วไม่มีทางลงง่ายๆหรอก “ไร่แสงจันทร์กว้างมากเลย ทั้งหมดมีกี่ไร่หรอคะ...?” “....” เงียบไม่ตอบ “แล้วที่นี่ปลูกดอกไม้กี่ชนิดหรอคะ...?” ”....” ไม่มีคำตอบไดๆ ฉันเห็นว่าเขาไม่ตอบอะไรก็เริ่มไม่พอใจ จึงเงียบไม่ถามอะไรต่อ กริ๊งงง กริ๊งงงง สายจากแม่โทรเข้ามา “ฮัลโหลค่ะแม่...” “วันนี้มนตื่นแต่เช้ามาดูงานในไร่นะคะ อากาศที่นี่เย็นสบายมากเลยค่ะ ไม่ร้อนเลย ถ้าแม่มาอยู่นี่ต้องชอบแน่ๆเลย มนชอบที่นี่มากๆอยากจะอยู่ที่นี่ไปตลอดแล้วสิคะ...” ฉันเหล่ตาไปมองเขา จะดูปฎิกิริยาเขาแต่เขาก็ดูไม่สนใจ “เมื่อเช้ามนทานอาหารพื้นเมืองค่ะ เจ้าของไร่ที่นี่น่ารักมากๆ ต้อนรับมนดีทุกคนเลยแล้วก็ทำอาหารอร่อยสุดๆเลยค่ะ....” อยู่ๆเขาก็จอดรถจนฉันสงสัยต้องหันไปมอง “แม่ค่ะ เดี๋ยวแค่นี้ก่อนนะคะ...” ฉันวางสายจากแม่ก็หันไปมองหน้าเขา “คุณหยุดรถทำไมคะ...?” “ครบ 20 นาทีแล้ว คุณลงไปได้แล้ว...” ฉันก้มดูเวลาในโทรศัพท์ก็ต้องตกใจ และยิ่งหันไปมองรอบๆไร่ที่เขาจะปล่อยให้ฉันลง “คุณจะปล่อยให้มนลงตรงนี้เนี๊ยนะ แล้วมนจะกลับยังไงละ...?” “ผมไม่รู้ ก็คุณบอกเองว่าถ้าครบ 20 นาทีเมื่อไหร่ ให้ผมปล่อยคุณลงตรงไหนก็ได้นี่ไงครบแล้ว...ลงไปได้แล้ว...” “คุณจะบ้าหรอนี่มันตรงไหนของไร่ก็ไม่รู้ แล้วคุณปล่อยมนลงมนจะกลับยังไงละ...?” “ไม่รู้...” “คุณสิน...” “ลงไปได้แล้ว ผมจะไปทำธุระ...” “...” “ผมบอกให้ลงไป...” เขาหันมาทำหน้าดุใส่ฉัน “ไม่ลงใช่ไหม...?” เขาเปิดประตูรถฝั่งเขาแล้วอ้อมมาฝั่งฉันเปิดประตูแล้วดึงตัวฉันให้ออกมาจากรถ “ปล่อยนะ คุณสิน....” “ผมบอกให้ออกมาจากรถผมไง....” เขาดึงตัวฉันออกแล้วเอาตัวเองยืนบังประตูไว้ไม่ให้ฉันเปิด “ทำไมคุณถึงได้ใจดำแบบนี้ ฉันเป็นผู้หญิงนะ...” “แล้วไง...?” “คุณมันบ้าที่สุด...” เขามองหน้าฉันอย่างกวนๆแล้วก็เดินอ้อมไปฝั่งคนขับ เปิดประตูรถแล้วเข้าไปนั่งล็อกรถทันทีแล้วก็ขับออกไป “ไอ้บ้า...ไอ้ทุเรศ...ไอ้คนไร้น้ำใจ” ฉันโมโหมากที่เขาทำกับฉันแบบนี้ ฉันจะหยิบมือถือขึ้นมาก็ต้องตกใจ “มือถือฉันหายไปไหน...อย่าบอกนะว่าตกอยู่ในรถเขา...ไม่นะ...” ซวยจริงๆเลยแล้วจะหาทางกลับยังไงละที่นี้   .....
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม