1 ปี ผ่านไป
กรุงเทพฯ
ฉันบินกลับมาที่ไทยพร้อมกับแม่เพราะตั้งใจมาเคลียร์เรื่องทุกอย่างที่พี่ณะทำค้างไว้ให้จบ เรื่องทรัพย์สิน ที่ดิน ทุกอย่างที่เป็นของเขาเพราะก่อนที่เขาจะเสีย เขาเขียนจดหมายทิ้งไว้ให้ฉันฉบับหนึ่ง เขียนทุกอย่างที่เกิดขึ้นกับเขาที่นี่
“มน...จะบินไปเชียงใหม่เลยหรอ...?”
“ค่ะแม่ มนคิดว่าจะบินไปดูงานที่นู้นเลย เดี๋ยวถ้าเสร็จแล้วมนจะรีบกลับมานะคะ...”
ฉันขอที่บริษัทกลับมาทำงานที่สาขาในไทย และสาขาในไทยก็มีแค่กรุงเทพฯกับเชียงใหม่เท่านั้น ฉันโกหกแม่ว่าบริษัทส่งฉันไปทำงานที่เชียงใหม่ 2 ปี แล้วพอเสร็จแล้วจะได้มาประจำที่กรุงเทพฯต่อ
“ไปกี่วัน ให้แม่ไปด้วยไหม..?”
“อาทิตย์เดียวค่ะ แม่ไม่ต้องไปกับมนหรอก รอมนอยู่ที่บ้านนี่แหละ เดี๋ยวมนก็มาแล้ว...นะคะ?”
“ทำไมบริษัทของมนต้องส่งไปเชียงใหม่ด้วยนะ แม่ไม่เข้าใจเลย สาขาในกรุงเทพก็มีแท้ๆ...”
ฉันมองหน้าแม่ที่ทำหน้าเซ็งๆเพราะแม่ไม่รู้ว่าที่จริงแล้วฉันต่างหากที่เป็นคนขอไปเอง จริงๆแล้วแม่ไม่รู้เรื่องที่เกิดขึ้นกับพี่ณะ ฉันเป็นคนเห็นจดหมายนั้นแล้วเก็บมันไว้ก่อนที่แม่จะเข้ามาเห็น
“งั้นมนไปนะคะ...เอาไว้ถึงเชียงใหม่แล้วมนโทรหาแม่นะคะ...”
“จ่ะ...”
......
เชียงใหม่
ฉันลงเครื่องมาถึงเชียงใหม่แล้วก็หยิบโทรศัพท์กดหาแม่เพื่อรายงานว่าฉันถึงแล้ว พอคุยโทรศัพท์เสร็จฉันก็กดวางสายเปิดหาที่อยู่ตามในจดหมายที่พี่ณะเคยเขียนไว้ให้
“ไร่แสงจันทร์...?”
ฉันต้องไปที่ไร่นี้แต่ฉันไม่รู้ว่าไร่นี้มันอยู่ตรงไหนของจังหวัดเชียงใหม่นี่สิจะทำยังไงละทีนี่ ฉันจึงตัดสินใจไปเริ่มต้นที่โรงแรมก็แล้วกัน เพราะไม่รู้ว่าจะเริ่มจากตรงไหนก่อนดี ฉันไปถึงโรงแรมก็มีรถของบริษัทมารับเพื่อไปที่โรงงาน งานที่ฉันทำเกี่ยวกับด้านวิจัยกลิ่นน้ำหอม เครื่องสำอางทุกชนิดให้กับสินค้าในบริษัท ฉันมีหน้าที่คิดค้นกลิ่นน้ำหอม สรรพคุณ คุณประโยชน์ของเครื่องสำอางว่าต้องทำออกมารูปแบบไหน นี่คือหน้าที่ของฉันค่ะ
“สวัสดีครับ คุณมนวดีนะครับ...?”
“สวัสดีค่ะ มนวดีค่ะ...เอ่อ...คุณกฤษชัยนะคะ...?”
“ครับ ผมกฤษชัยครับ...”
คุณกฤษชัยเดินเข้ามาทักทายฉัน เขาทำตำแหน่งคิดค้นผลิตภัณฑ์ที่อยู่สาขาในไทยโดยประจำอยู่ที่นี่
“ขยันจังเลยนะครับ ผมได้ยินมาว่าคุณมนเพิ่งบินมาถึงไทยเมื่อเช้า แล้วก็ต่อเครื่องบินมานี่เลย...”
“ค่ะ...มนตื่นเต้นนะคะ ไม่ได้กลับมาไทยตั้งหลายปี แล้วยิ่งได้มาประจำเชียงใหม่ด้วยยิ่งตื่นเต้นเข้าไปใหญ่ เพราะมนยังไม่เคยมาเชียงใหม่เลย...”
“หรอครับ...? ถ้างั้นให้ผมพาเดินชมโรงงานก่อน เดี๋ยวช่วงบ่ายๆผมพาเข้าเมืองไปหาอะไรทานกันครับ จะได้เดินเล่นชมเมืองเชียงใหม่ไปด้วย...”
“ดีค่ะ ขอบคุณนะคะ...”
คุณกฤษพาฉันเดินวนรอบโรงงาน แนะนำให้ฉันรู้จักพนักงานทุกคน จำไม่ได้หมดหรอกคงต้องทำความรู้จักไปเรื่อยๆทีละคน ฉันได้รู้จักเกือบทุกโซนของโรงงานแล้ว พอช่วงบ่ายคุณกฤษชัยก็พาฉันขับรถเข้าไปในเมืองเพื่อไปทานข้าวพร้อมกัน
“เป็นไงบ้างครับ ที่นี้บรรยากาศดีไหมครับ...?”
“ดีค่ะ...อาหารก็อร่อยด้วย...”
“คุณมนอยู่ที่นี่เดี๋ยวก็ชินครับ พยายามปรับตัวไปเรื่อยๆถ้ามีอะไร ถามผมได้ตลอดเวลานะครับ..?”
ฉันมองหน้าเขาที่ส่งยิ้มมาให้อย่างรู้สึกเป็นมิตรจนฉันสบายใจ
“ค่ะ ขอบคุณนะคะ...”
“เดี๋ยวพรุ่งนี้ ผมจะพาคุณมนไปดูแหล่งผลิตน้ำหอมชั้นเลิศของเรากันนะครับ...”
“ที่ไหนหรอคะ...?”
“ไร่แส่งจันทร์ครับ...”
ฉันอึ้งไปเลยที่ได้ยินชื่อนี้ นี่ฉันไม่ได้หูฝาดไปใช่ไหม
“อะไรนะคะ...?”
“พรุ่งนี้ผมจะพาคุณมนไปไร่แสงจันทร์ครับ ไร่ที่ใหญ่ที่สุดในเชียงใหม่ และก็ยังเป็นไร่ที่เป็นแหล่งผลิตให้กับน้ำหอมและก็เครื่องสำอางของบริษัทเราหลากหลายกลิ่นอีกด้วยนะครับ...”
“....”
ฉันอึ้งไปกับสิ่งที่ได้ยินทำไมโลกมันถึงได้แคบแบบนี้นะ ไม่ต้องตามหาก็ได้เจอง่ายๆเลยหรอเนี๊ย
“คุณมนตื่นแต่เช้านะครับ พรุ่งนี้ผมจะมารับ 6 โมง...”
“ค่ะ...”
......
จดหมายพี่ณะ
ถึงมนวดี
พี่ไม่อาจทนอยู่บนโลกนี้ได้อีกต่อไป พี่เจ็บปวดเหลือเกินมน พี่ทนเห็นพวกมันมีความสุขไม่ได้อีกแล้ว จริงๆแล้วพี่อยากจะฆ่าพวกมันด้วย 2 มือของพี่เองด้วยซ้ำแต่พี่ก็ทำไม่ได้ เพื่อนกับเมียแอบมีอะไรกัน....พี่มันโง่ที่หลงไว้ใจพวกมัน 2 คน ไอ้สินสมุทรมันเป็นเพื่อนที่พี่รัก ส่วนอ้อมผู้หญิงที่พี่รักมากก็เป็นเมียที่พี่รักสุดหัวใจ พี่ทำทุกอย่างให้อ้อมได้อย่างที่อ้อมตัองการ แต่พวกมัน 2 คนกลับมาแอบเล่นชู้กันลับหลังพี่
พวกมันแอบมีอะไรกันบนความไว้ใจเชื่อใจของพี่ และที่พี่เสียใจที่สุดก็คือ อ้อมท้อง....อ้อมท้องกับไอ้สิน ลูกในท้องของเมียพี่ไม่ใช่ลูกของพี่ พี่ไม่อยากมีชีวิตเพื่อดูวันที่เด็กคนนั้นเกิดมา พี่ขอโทษนะมนที่พี่อ่อนแอเกินไป พี่เจ็บปวดเกินไปที่จะมีชีวิตอยู่
ฝากขอโทษแม่ด้วยที่พี่ต้องจากไปแบบนี้
ลาก่อนมน
พี่ณะ
.....