เวลา 5 โมงเย็น ผมกลับมาถึงบ้านเพราะออกไปรับสายใจที่เนอสเซอรี่ในเมือง กลับมาถึงก็เห็นทุกคนวุ่นวายกันโดยเฉพาะพี่กฤษที่ยังอยู่ไม่กลับ
“นี่พี่ยังไม่กลับอีกหรอ...?”
“จะกลับได้ไง คุณมนไม่รู้หายไปไหนตั้งแต่เที่ยงแล้ว นี่ฉันโทรไปหาก็ไม่มีคนรับสาย ไม่รู้คนมนเป็นอะไรหรือเปล่า...?”
“เดี๋ยวเธอก็กลับมาเองมั้งพี่...”
“แต่นี่มันหลายชั่วโมงแล้วนะ ฉันเป็นห่วงว่ะให้คนออกตามหาทั่วไร่ก็ไม่เจอ...”
ผมมองหน้าพี่กฤษก็เริ่มรู้สึกกังวล จึงจะรีบขับรถออกไปแต่ก็
“คุณมน...”
เธอก็เดินสวนเข้ามาพอดีพร้อมกับคนงานที่ออกไปตามหาเธอ
“คุณมนหายไปไหนมาครับ ผมโทรไปตั้งหลายสายคุณมนก็ไม่รับ...?”
“มนไปเดินเล่นในไร่มานะคะ ขอโทษนะคะที่มนไม่ได้รับโทรศัพท์คุณกฤษ มัวแต่เดินเพลินไปหน่อย...”
ผมหันไปมองหน้าเธออย่างอึ้งๆที่เธอตอบออกไปแบบนั้น
“แล้วทำไมถึงได้มอมแมมแบบนี้ล่ะจ๊ะ...น้าก็คิดว่าไปหลงอยู่ในป่าที่ไหนสะอีก ให้คนออกตามหาจนทั่ว...”
เธอหันมามองหน้าผมด้วยสายตาโกรธๆ
“มนขอโทษนะคะที่ทำให้ทุกคนเป็นห่วง...”
“ไม่เป็นไรครับ คุณมนกลับมาก็ดีแล้ว...”
แม่ผมเดินเข้าไปพยุงเธอให้เดินมานั่งที่เก้าอี้ แต่อยู่ๆเธอก็เซเหมือนจะเป็นลม
“หนูมน...”
“มนรู้สึกเวียนหัวนะคะ คงจะเดินตากแดดนานไปหน่อย...”
“งั้นมานั่งตรงนี้ก่อนจ๊ะ เดี๋ยวน้าให้คนเอายาลมมาให้...”
แต่ไม่ทันแล้วเธอเป็นลมล้มพับไปกับพื้นแล้วจนทุกคนตกใจ ช่วยกันดูแลยกใหญ่ด้วยความเป็นห่วง
เวลา 2 ทุ่ม ฉันแกล้งหลับนอนเล่นไปเรื่อยๆในห้องนอนบ้านของเขา
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
“คุณฟื้นแล้วหรอคะ...?”
แม่บ้านของที่นี่เดินเข้ามาพร้อมถาดข้าวต้มกับยาที่เอามาให้ฉัน จริงๆฉันไม่ได้เป็นลมจริงๆหรอกฉันแกล้งเพื่อให้เขารู้สึกผิดแต่ไหนละเขานี่ยังไม่เห็นหัวเลย
“คุณทานข้าวต้มแล้วก็ทานยา แล้วก็นอนพักนะคะ...”
“ขอบคุณค่ะ....”
ฉันทานข้าวต้มเสร็จก็ทานยาแล้วก็ล้มตัวลงนอนพักคิดถึงเรื่องเมื่อตอนบ่ายที่เขาทิ้งฉันไว้กลางทาง ฉันต้องเดินอยู่ท่ามกลางแสงแดดทั้งหิวทั้งร้อนแต่มันก็คุ้มนะที่ฉันได้นอนค้างที่นี่
“ฉันจะทำให้คุณหลงรักฉันให้มากๆแล้วฉันก็จะทำให้คุณได้เจ็บปวด อย่างที่พี่ณะเจอ...”
ฉันเด้งตัวลุกขึ้นนั่งเพราะได้ยินเหมือนเสียงคนเดินอยู่หน้าห้อง ฉันรีบลุกขึ้นเดินไปที่ประตูห้องแล้วเปิดแง้มเพื่อดูเป็นว่าใคร
“คุณสิน..”
ฉันรีบปิดประตูแล้วเดินเข้ามาในห้องนอนคิดอะไรขึ้นได้ ก็รีบถอดเสื้อผ้าตัวเองออกจนหมดแล้วใช้ผ้าขนหนูพันตัวเองไว้ วิ่งเข้าไปในห้องน้ำเอาน้ำลูบตัวเองหมาดๆแล้วเอาหัวจุ่มน้ำให้เปียกเหมือนตัวเองเพิ่งผ่านการอาบน้ำมาแล้วรีบเดินออกไปจากห้องนอน
“นี่คุณ...”
“ว๊าย...”
ฉันเดินออกมาเจอเขาที่นั่งอยู่ที่ระเบียงด้านหน้า ฉันทำทีเป็นตกใจที่เจอเขา
“คุณแต่งตัวบ้าอะไรเนี๊ย แล้วออกมาจากห้องทำไมแบบนี้...?”
“เอ่อ...คือ มนเพิ่งอาบน้ำเสร็จแล้วก็ลืมไปว่าเสื้อผ้ามนไม่มี มันเหม็นมากเลยนะคุณ มนก็เลยจะหาพี่แม่บ้านเพื่อขอยืมชุดเขาสักชุดนะ...”
“ผมว่าคุณไปรอที่ห้องก่อนเถอะ แต่งตัวออกมาแบบนี้ไม่อายคนอื่นเขาบ้างหรือไง...?”
“มนไม่ได้แก้ผ้าสักหน่อย ทำไมต้องอายด้วย...ตอนมนอยู่เมืองนอกนะ มนแก้ผ้าอาบแดดยังเคยมาแล้วเลย.”
“แต่ที่นี่มันเมืองไทย ไม่ใช่เมืองนอก กลับเข้าห้องไปได้แล้ว.”
ฉันจ้องหน้าเขาอยากจะดูนักว่าจะทนได้แค่ไหน ฉันเดินเข้าไปใกล้ตัวเขาเรื่อยๆ
“คุณจะทำอะไร...?”
เขาเดินถอยห่างฉันช้าๆ
“คุณทำให้มนเป็นลม คุณเป็นต้นเหตุคุณต้องรับผิดชอบ...”
“รับผิดชอบอะไร ทำไมผมต้องรับผิดชอบด้วย...?”
“จะให้มนบอกแม่คุณไหมว่าคุณเป็นคนเอามนไปทิ้งกลางป่าจนทำให้มนเป็นลม แม่คุณต้องไม่ยอมแน่ๆ”
“...”
ฉันยื่นหน้าเข้าไปใกล้ๆเขา
“คุณต้องไปหาเสื้อผ้ามาให้ฉันใส่ ถ้าคุณไม่ทำฉันจะเข้าไปค้นเอาเสื้อผ้าคุณในห้องเอง...”
“อะไรนะ...?”
“คุณจะให้ฉันไปเอาเสื้อผ้าในห้องคุณ หรือคุณจะไปหาเสื้อผ้าชุดใหม่มาให้ฉันใส่...เลือกเอา?”
เขามองหน้าฉันนิ่งๆ
“คุณกลับไปรอที่ห้อง เดี๋ยวผมเอาชุดไปให้.”
“ไต้...อย่าช้านะคะ ฉันไม่อยากนั่งแก้ผ้ารอเสื้อผ้าจากคุณจนเปื่อย...”
เขาเดินหนีไปอย่างมีสีหน้าหงุดหงิด ฉันยิ้มอย่างสะใจแล้วก็เดินไปที่ห้องตัวเองรอเขาเอาชุดมาให้
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
ฉันยิ้มที่ทุกอย่างเป็นไปตามแผน ฉันเดินไปเปิดประตูห้องแต่ก็ต้องตกใจ
“คุณสินให้หนูเอาชุดมาให้คุณค่ะ...”
“....” ฉันยืนอึ้งเลย นี่เขาทำแบบนี้กับฉันหรอ ฉันรับชุดมาถือไว้แล้วขอบคุณแม่บ้าน
“กำแพงคุณหนาแค่ไหน ฉันก็จะทุบมันให้พังด้วยมือของฉันเอง...”
....