ก๊อก ก๊อก ก๊อก ฉันแต่งตัวด้วยเสื้อยืดตัวใหญ่โคร่งของเขา มันแทบจะเป็นชุดนอนกระโปรงฉันได้ ไม่ต้องใส่กางเกงขาสั้นเลยเสื้อมันยาวคุมเข่าฉันได้เลย ฉันใส่เสื้อเสร็จก็เดินออกจากห้องตรงไปที่หน้าห้องนอนเขา เดาเอาว่าห้องนี้น่าจะเป็นห้องนอนเขาเพราะเป็นห้องด้านในสุดของบ้าน
“คุณ...”
“ค่ะ มนเอง...”
เขาเปิดประตูมาเจอฉันที่ยืนอยู่หน้าห้อง มองฉันตั้งแต่หัวจรดเท้า
“มาทำอะไร.ทำไมไม่ไปนอน.?”
“มนอยากมาขอบคุณสำหรับชุดนอนที่ให้มนนะคะ..”
“แค่นี้ใช่ไหม...?”
“เดี๋ยวสิคะ...” เขากำลังจะปิดประตูฉันก็เอามือดันไว้ เขามองมือฉันแล้วก็หันมามองหน้าฉัน
“ไปนอนได้แล้ว ผมว่ามันดูไม่เหมาะสมนะที่คุณจะมายืนคุยกับผู้ชายหน้าห้องแบบนี้...”
“ไม่เหมาะสมตรงไหนคะ?.ปกติมนก็เข้าไปคุยในห้องกับผู้ชายได้ไม่เห็นจะแปลกเลย..”
“อย่าเอาความเคยชินมาใช้ที่นี้ เพราะบ้านผมไม่ใช่....”
“...”
“เสียงใครนะ...?”
“อุ๊ปส์.!”
ฉันได้ยินเหมือนเสียงใครเปิดประตูออกมา แล้วจู่ๆตัวฉันก็ถูกกระชากเข้าไปในห้องเขา โดยที่มือเขาอ้อมมาปิดปากฉันไว้ ด้านหลังของประตูที่เพิ่งปิดลงไป ฉันได้ยินหัวใจเขาเต้นแรงมาก มันใกล้มากๆจนเราแทบจะสิงร่างเป็นคนเดียวกัน ฉันเงยหน้ามองเขาทั้งที่เขาเอาหน้าพยายามเงี้ยหูฟังที่ประตูว่าคนที่ส่งเสียงเมื่อกี้น่าจะเป็นแม่ของเขาเอง และตอนนี้เธอน่าจะเดินกลับเข้าห้องไปแล้ว
“แม่ผมคงเข้าห้องไปแล้ว...”
เขาก้มหน้าลงมาที่ฉันตาของเราประสานกันเขาจ้องหน้าฉันนิ่ง
ถึงทีของฉันแล้วนายสิน
เขาดึงมือออกจากหน้าฉันแล้วก็จะถอยห่างจากฉัน ฉันจึงใช้มือทั้ง2ข้างของตัวเองกอดเอวเขาไว้
“คุณทำอะไรเนี๊ย.?”
ฉันยิ้มให้เขาแล้วยื่นหน้าไปหอมที่แก้มเขา 2 ที่สลับซ้ายขวา
ฟ๊อด ฟ๊อด
“คุณมาหอมแก้มผมทำไม...?”
เขาดูตกใจมากที่จู่ๆฉันก็ไปหอมแก้มเขา
“ก็ขอบคุณสำหรับเสื้อตัวนี้ไงคะ นี่ก็เป็นการขอบคุณแบบที่ฉันทำเป็นประจำ คุณคงไม่ถือสาหรอกนะคะ.?”
“คุณจะมาหอมแก้มผู้ชายมั่วๆแบบนี้ไม่ได้ ผู้หญิงอะไรไม่มียางอาย...”
“แล้วคุณชอบผู้หญิงแบบไหนละคะ...?”
“ถามทำไม...?”
“ก็แค่อยากรู้ ว่าปกติชอบผู้หญิงแบบไหน โสดซิง หรือแบบมีเจ้าของแล้ว แต่ถ้าให้เดาอย่างคุณน่าจะชอบแบบหลังมากกว่า เพราะการได้แย่งคนอื่นมันน่าตื่นเต้นดีใช่ไหมคะ..?”
เขาหันมามองหน้าฉันด้วยสีหน้าที่ดูไม่พอใจ
“กลับห้องคุณไปได้แล้ว...”
“...” ฉันจ้องหน้าเขาอย่างรู้สึกแค้นในใจ ไม่รู้สึกอะไรเลยสินะคนอย่างนายที่แย่งได้แม้กระทั่งเมียเพื่อน
“เดี๋ยว...”
ฉันกำลังจะเดินออกจากห้อง เขาก็เรียกไว้
“นี่โทรศัพท์คุณ...ผมเก็บได้ในรถผม”
เขายื่นโทรศัพท์มาให้ฉันรับไว้แล้วเขาก็ปิดประตูใส่หน้าฉันทันที
“การแย่งคนรักของคนอื่นมาเป็นของตัวเอง คุณคงมีความสุขมากสินะ ฉันจะทำให้คุณได้รับบทเรียนอย่างสาสมคุณสินสมุทร...”
....
ไร่แสงจันทร์ เวลา 7 โมงเช้า
ผมตื่นมาพร้อมกับได้ยินเสียงหัวเราะของคนในบ้านที่ดังเข้าไปในห้องนอนผม และคนที่ทำให้ผมหงุดหงิดตั้งแต่เมื่อคืนก็คือมนวดี เธอยังไม่กลับโรงแรมเธอไปอีกหรอเนี๊ย
“เดี๋ยวน้าให้คนไปช่วยหนูขนของที่โรงแรมแล้วเอามาไว้ที่นี่นะจ๊ะ..”
“ได้ค่ะ ขอบคุณน้าแสงมากๆนะคะ...”
“นี่มันอะไรกันครับ...แม่จะให้คนไปช่วยคุณมนขนอะไร...?”
“แม่จะให้หนูมนมาพักที่บ้านเรา เลยให้คนไปช่วยขนเสื้อผ้าที่โรงแรมนะ...”
ผมอึ้งไปเลยนี่เธอพูดยังไงให้แม่ผมยอมง่ายๆแบบนี้ นี่เธอจะมาไม้ไหนกันแน่ถึงลงทุนทำแบบนี้
“หนูมนจะอยู่กี่วันก็ได้นะจ๊ะน้าอนุญาต คิดสะว่าเป็นบ้านของตัวเอง...”
“จริงหรอคะ...ถ้ามนติดใจแล้วจะอยู่ตลอดไปเลยจะได้ไหมคะ...?”
“ได้สิจ๊ะ หนูมนคุยสนุกแบบนี้ที่ไร่เราจะได้มีแต่เสียงหัวเราะ สายใจหลานน้าจะได้มีเพื่อนเล่นด้วย...”
“ได้ค่ะ มนก็อยากอยู่ที่นี่ไปนานๆเหมือนกัน...”
เธอหันมาเหล่ตาให้ผม ผู้หญิงอะไรไม่รู้เล่นหูเล่นตากับผู้ชายน่าเกียจที่สุด
“ผมขอตัวเข้าไปในไร่ก่อนนะครับ...?”
“คุณน้าคะ ถ้ามนจะขอให้คุณสินเป็นคนไปช่วยมนขนของที่โรงแรมจะได้ไหมคะ...?”
ผมกำลังจะเดินออกไปก็หยุดชะงักเท้าทันที
“พอดี...มนมีเรื่องจะคุยกับคุณสินเรื่องดอกไม้ที่จะเอามากลั่นน้ำหอมนะคะ ในระหว่างขับรถก็อยากขอคำปรึกษาไปด้วยเลยจะได้ไม่เสียเวลา.”
ผมกำลังจะตอบ
“ผมไม่สะ...”
“ได้จ๊ะ...เดี๋ยวน้าให้สินไปช่วยหนูขนของที่โรงแรมนะ ระหว่างทางจะได้คุยงานไปด้วยเลย...”
“ขอบคุณค่ะ...”
ผมหันมามองหน้าเธออย่างไม่พอใจ นี้เธอคิดจะอ่อยผมใช่ไหม
....
ระหว่างขับรถมาที่โรงแรมฉันนั่งยิ้มมีความสุขที่ฉันรู้สึกเหมือนกำลังจะทำตามแผนตัวเองสำเร็จ อีกหน่อยเขาก็จะชอบฉันและเขาก็จะขอฉันแต่งงาน ถึงตอนนั้นเขาจะได้ลิ้มรสชาติของความเจ็บปวดเหมือนที่พี่ณะเจอ
“ที่นี่ใช่โรงแรมของคุณไหม...?”
ฉันสะดุ้งทันทีที่เขาเรียก
“ใช่ค่ะ... “
ฉันเดินลงจากรถกำลังจะเดินเข้าโรงแรมแต่ก็หันมามองเขาที่ยังนั่งนิ่งไม่ยอมลงมาจากรถ
“คุณจะไม่ลงมาช่วยมนขนของหรอคะ...?”
“คุณก็ให้ รปภ.ในโรงแรมช่วยขนสิ เดี๋ยวผมนั่งรอในรถ...”
“เขาก็ต้องทำงานใครจะมาช่วยมนขนเยอะแยะละ มนเกรงใจเขา คุณสินนั่นแหละขึ้นไปช่วยมนขนของเลย เร็วๆสิคะจะได้รีบกลับไร่กัน...”
เขามองหน้าฉันอย่างเซ็งๆแต่ก็ยอมเดินลงมาจากรถอย่างง่ายดาย เราขึ้นไปชั้นบนของห้องพักด้วยกันไขประตูเข้าไปในห้อง โดยที่เขาเดินตามมาข้างหลัง
“คุณดื่มอะไรก่อนไหมคะ..?”
“ไม่...”
“ทำไมคะ.กลัวมนจะใส่ยานอนหลับให้คุณหรือไง..?”
“...” เขาไม่ตอบแต่เลือกที่จะเดินไปหยิบน้ำในตู้ออกมาเทใส่แก้วกินเอง
ฉันเดินเข้าไปในห้องนอนอย่างยิ้มๆ เก็บเสื้อผ้าทุกอย่างลงกระเป๋าประมาณ 2 ใบ และกระเป๋าเป้อีก 1 ใบเล็กๆ
“คุณสินเข้ามาช่วยมนยกกระเป๋าหน่อยสิคะ...”
ฉันเรียกเขาให้เข้ามาในห้องนอน แต่ก็ยังเงียบไม่เห็นแม้แต่เงาเขา
“คุณสิน...”
ฉันตะโกนเรียกเขาอีกรอบและเขาก็ยอมเดินเข้ามายืนหน้าบึ้งๆ
“ช่วยมนยกกระเป๋าหน่อยสิมันหนัก มนยกขึ้นไม่ไหว...”
เขาเข้ามายกกระเป๋าฉันให้ตั้งขึ้นแล้วกำลังจะยกมันขึ้นฉันเห็นเขากำลังจะเดินหันหลังไป จึงเตะกระเป๋าอีกใบให้ไปโดนเท้าเขาจนเขาเสียหลักเซล้มลง ฉันจึงรีบไปขว้าแขนเขาไว้แต่ตัวเขาเอนล้มไปก่อนแล้วเกี่ยวแขนฉันลงไปด้วย ฉันตั้งใจให้หน้าฉันไปโดนหน้าเขาแต่เขาดันหันหน้าหนีอย่างเร็ว ปากฉันจึงโดนที่แก้มของเขาแทน
“ลุกออกไปได้แล้ว...”
ฉันใช้แขนชันตัวเองขึ้นมองหน้าเขา
“นี่มนหอมแก้มคุณตั้ง 2 ครั้งแล้ว คุณไม่อยากหอมมนกลับบ้างหรอคะ..?”
“ไม่...”
“คุณคงรักแม่ของน้องสายใจมากสินะ คุณถึงได้ไม่สนใจมนเลย...?”
“อย่ามายุ่งเรื่องส่วนตัวของผม.”
เขาพยายามจะดันตัวฉันแต่ฉันขืนไว้ไม่ยอม
“แล้วทำไมมนถึงไม่เคยเห็นหน้าแม่ของน้องสายใจเลยละคะ...คุณเลิกกับเธอแล้วหรอคะ..?”
“ผมบอกว่าอย่ามายุ่งเรื่องของผม ลุกกออกไปจากตัวผมได้แล้ว...”
“มนชอบคุณนะคะ...”
“...”
“มนชอบคุณตั้งแต่วันแรกที่เจอ...ชอบทั้งๆที่รู้ว่าคุณก็มีเมียแล้ว...”
“พูดบ้าอะไรของเธอ ลุกออกไปได้แล้ว...”
เขาดันตัวฉันจนเด้งออก
“มนพูดจริงนะคะ มนชอบคุณจริงๆ...”
“....”
เขาลุกขึ้นไปหยิบกระเป๋าแล้วยกออกไปจากห้อง ปล่อยให้ฉันยืนยิ้มอยู่คนเดียว
“นี่มันแค่เริ่มต้น ฉันจะทำให้คุณชอบฉันตอบให้ได้คอยดู...”
.....