ตลอดทางที่ผมขับรถมาจากโรงแรมเธอพยายามยั่วผมสารพัด ไม่ว่าจะแกล้งทำเป็นยื่นหน้ามาใกล้ผม เอามือมาแตะโดนมือผม หรือกางเกงขาสั้นที่เธอใส่เธอก็ขยับไปมาให้ผมต้องหันไปมอง ผู้หญิงบ้าอะไรอ่อยผู้ชายจนน่าเกียจ แถมยังมาบอกว่าชอบผู้ชายได้ง่ายๆไม่รู้จักอายด้วย
“ช่วยมนยกกระเป๋าไปที่ห้องหน่อยสิคะ..”
ผมลงจากรถแล้วก็รีบเดินจะเข้าบ้านแต่เธอก็เรียกผมไว้
“ผมรับปากแม่ผมว่าจะไปช่วยคุณขนของที่โรงแรม หน้าที่ผมจบแล้วที่เหลือคุณก็ทำเองแล้วกัน...”
“คนไร้น้ำใจ...”
“ครับ ผมก็เป็นคนแบบนี้แหละ...”
“....” เธอจ้องหน้าผมอย่างหน้าบึ้ง แต่ผมไม่สนหรอกว่าเธอจะรู้สึกยังไง ผมเลือกที่จะเดินหนีเธอเข้าบ้าน
“ว๊าย...”
ผมได้ยินเหมือนเสียงเธอร้องก็หันไปดูเห็นกระเป๋าที่เธอยกทับบนตัวเธอทั้ง 2 ใบ
“ทำบ้าอะไรของคุณเนี้ย...?”
“ก็มันหนักนี่ มนยกคนเดียวไม่ไหวหรอก...โอ๊ย”
เธอพยายามดันกระเป๋าขึ้นแต่ก็ไม่ไหว เพราะมันทับขาเธออยู่ผมจึงเข้าไปช่วยดันขึ้น
“อย่ามาสำออย...”
ผมหันไปมองเธอที่ยื่นมือมาให้ผมช่วย
“มนไม่ได้สำออยนะคะ มนเจ็บขาจริงๆ มนลุกไม่ขึ้น...”
“...” ผมหันไปมองหน้าเธอ คงจะอ่อยอีกตามเคยผมไม่มีวันหลงเชื่อเธอหรอก
“หนูมนเป็นอะไร ทำไมไปนั่งอยู่ตรงนั่น...?”
แม่ผมเดินออกมาเห็นก็ทำท่าตกใจเดินเข้ามาหาเธอ
“เอ่อ...เมื่อกี้มนยกกระเป๋าลงมาจากรถแล้วพอดีว่ามันหนักนะคะ แล้วมันก็หล่นมาทับใส่เท้าของมน มนเจ็บเท้าเลยลุกไม่ขึ้นนะคะคุณน้า...”
“สิน...แล้วยืนทำอะไรอยู่ได้ทำไมไม่ช่วยพยุงหนูมนขึ้นมา...?”
ผมหันไปมองหน้าแม่ผมอย่างขัดใจแล้วก็มองหน้าเธอที่ส่งยิ้มมาให้
“เร็วๆสิ จะปล่อยให้คุณมนนั่งอยู่ตรงนี้หรือไง...พยุงคุณมนเข้าไปในบ้านสิ..”
“ครับๆ...” ผมรับคำแม่ผมอย่างเซ็งๆ แล้วก็เดินไปพยุงเธอให้ลุกขึ้น
“โอ๊ย...”
เธอร้องออกมาจนผมตกใจ
“เดินไหวไหมหนูมน...?”
“ไม่ไหวค่ะ มนเจ็บค่ะคุณน้า...”
“สิน อุ้มคุณมนสิ คุณมนเขาเดินไม่ไหวเห็นไหม”
“...” ผมหันไปมองหน้าเธอ เธอยิ้มเยาะให้ผมแล้วอยู่ๆเธอก็ยื่นมือขึ้นมาโอบรอบคอผมไว้
“ตัวมนเบานิดเดียวเองค่ะ...”
“...” ทำไมผมถึงรู้สึกแปลกๆนะ ผมรู้ว่าเธอแกล้งแต่ทำไมหัวใจผมถึงเต้นแรงแปลกๆละ
....
มารยาแค่นิดๆหน่อยๆเองคุณก็แพ้ฉันแล้ว ยังไม่จบหรอกฉันมีแผนที่ต้องจัดการคุณอีกเยอะคุณสินสมุทร
“ขอบคุณนะคะ...”
เขาอุ้มฉันมานั่งที่โซฟา ฉันสบตาเขาแล้วก็ยิ้มให้เล็กน้อยแต่เขาทำเป็นนิ่งใส่
“มนขอบคุณคุณน้าอีกครั้งนะคะ ที่ให้มนมาพักที่นี่...”
“ไม่เป็นไรจ๊ะ หนูมนเพิ่งมาอยู่เมืองไทยยังไม่รู้จักที่ทางดี แถมยังต้องไปอยู่โรงแรมคนเดียวอีก มาพักที่นี่แหละดีแล้วจะได้ไม่ลำบาก ยังไงสะหนูมนก็รู้จักกับตากฤษหลานน้าอยู่แล้ว...”
“ค่ะ ขอบคุณนะคะ...”
“ผมขอตัวนะครับ...?”
ฉันเห็นว่าเขากำลังจะเดินไปจึงรีบชิงพูดก่อน
“คุณน้าคะ...พอดีว่ามนอยากขึ้นไปเก็บของในห้องนะคะ จะรบกวนคุณสินช่วยอุ้มมน...”
“ไม่นะครับแม่...”
“ได้สิจ๊ะ...”
“แม่...”
“แต่ถ้าคุณสินไม่สะดวกก็ไม่เป็นไรค่ะ มนคลานขึ้นไปก็ได้...”
ฉันพูดกับคุณน้าประโยคแรก แต่ประโยคหลังหันไปหาเขาจนเขาหันมามองอย่างไม่พอใจ
“สิน อุ้มหนูมนไปส่งบนห้องเดี๋ยวนี้ แม่สั่ง...”
“เธอบอกว่าจะคลานก็ให้เธอคลานไปสิครับ...”
“สิน...”
“ครับๆ...”
เขาทำตามที่คุณน้าบอกอย่างทำหน้าเซ็งๆ แล้วก็เดินเข้ามาช้อนตัวฉันขึ้นอุ้ม
“ขอบคุณนะคะ...” ฉันยิ้มแล้วก็ขอบคุณเขา แต่เขาก็หันหน้าหนีทำเป็นไม่สนใจ
เขาอุ้มฉันขึ้นมาส่งในห้อง
“วางลงที่เตียงนะคะ...”
ฉันสั่งเขาให้วางฉันที่เตียง เขาพาฉันมาวางที่เตียงจริงๆ แต่มือฉันที่คล้องคอเขายังรัดไว้แน่นอยู่จนเขามองอย่างไม่พอใจ
“ปล่อย...”
“คุณจะไม่ใจอ่อนชอบมนบ้างหรอคะ...?”
“อย่ามาล้อเล่นกับผม ผมไม่ใช่เพื่อนเล่นของคุณ...”
“มนไม่ได้ล้อเล่นนะคะ มนชอบคุณจริงๆ...”
“เราเพิ่งเจอกันคุณจะมาชอบผมง่ายๆได้ยังไง.?”
“ไม่เคยได้ยินหรอคะ...รักแรกพบนะคะ...”
“...”
ฉันคล้องคอเขาแล้วดึงให้เข้ามาใกล้ๆ
“ถึงคุณจะมีภรรยาแล้วมนก็ไม่สนหรอกนะคะ มนชอบคุณ มนไม่ได้ชอบเมียคุณสักหน่อย...”
“คุณบอกว่าชอบผมทั้งที่รู้ว่าผมมีเมียมีลูกแล้วเนี้ยนะ.คุณเป็นผู้หญิงแบบไหนกัน?”
“มนชอบความตื่นเต้นค่ะ มันท้าทายดี...”
“...”
ฉันจ้องตาเขาแล้วดึงหน้าเขาเข้ามาใกล้ๆจนปากเรา 2 คนจะสัมผัสกัน
“ผมไม่ชอบผู้หญิงใจง่ายที่เจอกันแค่วัน 2 วันก็บอกว่าชอบผู้ชายที่เพิ่งรู้จัก แล้วก็ชอบยั่วยวนผู้ชายแบบคุณ.”
เขาดึงมือฉันออกจากลำคอแล้วลุกขึ้นยืน ฉันมองเขาอย่างไม่พอใจ
“หรอคะ...อยากรู้จังว่าที่ผ่านมาผู้หญิงที่คุณชอบเป็นแบบไหน...?
“ไม่ใช่แบบคุณก็แล้วกัน...”
เขากำลังจะเดินออกไป
“ภรรยาคุณคงเป็นผู้หญิงในแบบที่คุณชอบสินะคะ เธอคงเป็นผู้หญิงที่ซื่อสัตย์กับคุณคนเดียว ไม่ใจง่ายแล้วก็อ่อยผู้ชายไปทั่วเหมือนอย่างฉัน...โชคดีจังนะคะที่คุณมีภรรยาที่รักคุณมากๆเริ่มอยากจะรู้จักภรรยาคุณแล้วสิ.”
“...”
ปัง>>> เขาไม่พูดตอบอะไรก็เดินออกจากห้องฉันไปเลย รักกันมากใช่ไหม...? จะคอยดูว่าจะรักกันอีกนานแค่ไหน
......