ตอนที่ 10 ภาพบาดตา

1888 คำ
"เปิ่นไท่จื่อหมายถึงพระอนุชาของเปิ่นไท่จื่อนั้นกำลังหึงหวงเจ้ากับเปิ่นไท่จื่อ เพราะเขารู้สึกพึงใจในตัวเจ้าเช่นไรเล่า เมื่อได้เห็นท่าทีสนิทสนมของเจ้าและเปิ่นไท่จื่อที่แสดงออกมาเช่นนั้น จึงทำให้ไหน้ำส้มของเขาแตก หาได้เป็นอย่างที่เจ้าเข้าใจไม่" "เสด็จพี่ทรงกล่าวเรื่องไร้สาระอันใดกัน น้องหาได้มีความรู้สึกพึงใจในตัวนางไม่" องค์ชายเก้าเหวินลี่หยางตกใจกับคำกล่าวนั้นของพระเชษฐาของตน จนตาแทบจะถลนออกมาจากเบ้าเสียให้ได้ จะมิให้เขาตกใจได้เช่นไรเล่า ก็ในเมื่อความรู้สึกที่เขาซุกซ่อนเอาไว้เป็นอย่างดีนั้น ถูกเสด็จพี่ของตนเปิดเผยให้กับนางได้รับรู้ออกมาเช่นนี้ "ใช่เพคะ ไท่จื่อคงจะเข้าพระทัยอันใดผิดไปแล้วเป็นแน่ อย่างองค์ชายเก้านะหรือ จะพึงใจในตัวหม่อมฉัน พบเจอหน้าหม่อมฉันทีไร มีแต่จะจิกกัดไปเสียทุกทีเช่นนี้ มันเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอน หากเป็นเช่นนั้นจริงพระอาทิตย์คงจะขึ้นทางทิศตะวันตกแล้วกระมัง" ลี่หรูไม่มีทางเชื่อโดยเด็ดขาดว่าองค์ชายเก้าจะมาชมชอบในตัวนาง เพราะไม่ว่าเจอกันครั้งไหนๆ เขาก็แสดงท่าทีและวาจาที่บ่งบอกว่าไม่ชอบนางเป็นอย่างมากเสียทุกครั้ง "เห็นหรือไม่เล่าว่าการแสดง ออกของเจ้านั้น ทำให้นางเข้าใจไปว่า เจ้าจงเกลียดจงชังนางเสียอย่างนั้น แล้วเช่นนี้ความรู้สึกของเจ้าที่ถูกซ่อนเอาไว้นางจะรับรู้ได้เช่นไรหากเจ้ายังยืนยันว่าไม่ได้พึงใจในตัวนางอยู่ งั้นเปิ่นไท่จื่อก็จะทำให้นางหันมาสนใจในตัวเปิ่นไท่จื่อดีหรือไม่ เมื่อถึงตอนนั้นแล้วเจ้าห้ามมาเสียใจภายหลังเล่า" องค์รัชทายาทจ้องมองไปที่ใบหน้าของพระอนุชาของตนอย่างท้าทาย เขาเปิดทางให้ถึงเพียงนี้แล้ว หากยังไม่รีบไขว่คว้าโอกาสนี้เอาไว้เขาคงจะไม่สามารถช่วยอันใดได้อีกแล้ว เมื่อเห็นว่าองค์ชายเก้าเอาแต่เงียบเฉย โดยไม่มีทีท่าว่าจะกล่าวสิ่งใด เขาจึงได้หันไปใช้สายตาเจ้าชู้ส่งไปให้กับนาง และกำลังจะกล่าวบางประโยคกับนางเพื่อยั่วยุพระอนุชาของตนอย่างนึกสนุก "ใช่แล้วเปิ่นหวางพึงใจในตัวเจ้า ในทุกๆ ครั้งที่เจอกันถึงได้เข้าไปหาเรื่องทะเลาะกับเจ้าเช่นนั้น เพราะไม่รู้ว่าจะชวนเจ้าพูดคุยเรื่องอันใดดี เพียงแค่รู้สึกว่าทำเช่นนี้แล้ว จะสามารถพูดคุยกับเจ้าได้เพียงเท่านั้น โดยที่ไม่รู้เลยว่าการกระทำเช่นนี้นั้นจะทำให้เจ้าเข้าใจผิดคิดว่าเปิ่นหวางจงเกลียดจงชังเจ้าเช่นนี้" เคร้ง! เมื่อลี่หรูได้ยินคำสารภาพรักขององค์ชายเก้าที่กล่าวกับตนออกมาเช่นนั้น ก็ถึงกับทำให้นางทำถ้วยชาที่อยู่ในมือของนางหล่นลงพื้นจนเกิดเสียงดัง "ดี! เป็นเช่นนี้ถึงจะสมกับเป็น กุนซือลับที่คอยให้คำแนะนำกับเปิ่นไท่จื่อมาเนิ่นนาน ลี่เอ๋อร์นี่เจ้ารู้หรือไม่ ว่าแท้ที่จริงแล้วนั้น บุรุษผู้นี้มีความสามารถมากเพียงใด ตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา เขาทำหน้าที่เป็นกุนซือลับ คอยให้คำแนะนำต่างๆ ให้กับเปิ่นไท่จื่อ มิเพียงเท่านั้น บุรุษผู้นี้ยังมีวรยุทธที่ล้ำเลิศหาตัวจับยากผู้หนึ่ง เพียงแต่เขาซุกซ่อนมันไว้ภายใต้ใบหน้าอันเจ้าเล่ห์และนิสัยเสเพลของเขา ที่เอาไว้แสดงเพื่อกลบเกลื่อนให้ผู้อื่นเห็นเพียงเท่านั้น บรรดาอนุและสาวใช้อุ่นเตียงมากมายในตำหนักของเขาตามข่าวลือนั้น เขาหาได้ให้ความสนใจกับพวกนางจริงๆ จังๆ ไม่มันเป็นเพียงแค่ฉากหน้า ที่เขาเอาไว้ปิดบังตัวตนและความสามารถที่แท้จริงของเขาเพียงเท่านั้น ซึ่งเรื่องนี้นั้นคงมีเพียงเปิ่นไท่จื่อที่รับรู้" เมื่อมีโอกาสองค์รัชทายาทจึงไม่รอช้า รีบนำเสนอถึงข้อดีมาก มายของพระอนุชาของตนให้กับลี่หรูได้รับทราบ เพราะเขารู้สึกว่าทั้งสองคนนั้นเหมาะสมกันเป็นอย่างมากจริงๆ ในครั้งนี้เขาถึงได้ทำหน้าที่เป็นพ่อสื่อให้ทั้งสองคนนั่นเอง "เสด็จพี่ เหตุใดถึงได้ทรงนำความลับนี้ ไปบอกกับนางเช่นนั้นเล่า นี่พระองค์ทรงไว้ใจนางมากมายเพียงนั้นเชียวหรือ" องค์ชายเก้าถึงกับตกตะลึง เมื่อเห็นพระเชษฐาของตน ได้บอกความลับที่พวกเขาซุกซ่อนเอาไว้เป็นอย่างดีนี้ ให้กับลี่หรูได้รับทราบ นี่เสด็จพี่ของเขาไม่กลัวว่าความลับนี้จะรั่วไหลออกไปเช่นนั้นหรือ "เจ้าอย่าได้เป็นห่วงอันใดไปเลยเจ้าเก้า นางไว้ใจได้ ที่เปิ่นไท่จื่อต้องกล่าวออกไปเช่นนั้น เพื่อสาธยายความดีของเจ้าให้กับนางได้รับทราบ นางจะได้ไม่หลงเชื่อไปตามข่าวลือ เสียหายของเจ้าเหล่านั้น แล้วตัดเจ้าออกไปจากตัวเลือกที่ควรมีในตอนนี้ สตรีผู้นี้นั้นแท้ที่จริงแล้วต้องการเพียงบุรุษที่รักเดียวใจเดียว ซึ่งข้อนี้นั้นเปิ่นไท่จื่อ มั่นใจเป็นอย่างมาก ว่าเจ้าสามารถมอบมันให้กับนางได้" ซึ่งเรื่องราวมากมายที่ลี่หรูเพิ่งจะได้รับทราบเมื่อสักครู่นี้นั้นถึงกับทำให้นางไม่สามารถกล่าวอันใดได้นางรู้สึกมึนงงขึ้นมาชั่วขณะ นางจ้องมองไปที่องค์ชายเก้าอย่างไม่อยากจะเชื่อสายตาตนเอง บุรุษผู้นี้นะหรือที่มีใจให้กับนาง แต่ก่อนที่นางจะได้กล่าวสิ่งใดออกไปนั้น พลันสายตาก็ได้เหลือบไปเห็นบุรุษและสตรีผู้หนึ่ง กำลังเดินเข้ามาภายในโรงเตี๊ยม ภาพที่ทั้งสองเดินเคียงคู่กันมาอย่างสนิทสนมนั้น ถึงกับทำให้ใบหน้าของนางซีดเผือด ทั่วร่างกายรู้สึกไร้เรี่ยวแรงขึ้นมาในทันที บุรุษผู้ที่นั่งเฝ้าคิดถึงอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน กำลังประคองสตรีคนรักของเขา เข้ามาภายในโรงเตี๊ยมแห่งนี้ โดยที่ไม่กลัวคำครหาใดๆ ว่าผู้คนจะมองนางเช่นไร เพราะอย่างน้อยครั้งหนึ่งเขาและนางก็เคยเป็นคนรักกัน และผู้คนทั่วทั้งเมืองหลวงก็ทราบเรื่องนี้ดี แล้วเหตุใดเขาถึงยังนำสตรีผู้นี้เข้ามาในโรงเตี๊ยมของนางกัน นี่เขาไม่ได้คิดถึงความรู้สึกของนางแม้แต่น้อยเลยหรือ… หลังจากที่ชินอ๋องได้ประคองเซียวซูหนี่ว์ เข้ามาภายในโรงเตี๊ยมก็ได้รับรู้ถึงสายตาของผู้คนกลุ่มหนึ่ง ที่ได้จ้องมองมาที่ตน แต่เมื่อเขาหันไปตามสายตานั้น ก็ได้สบเข้ากับนัยน์ตาของสตรีคนรักที่เขาเฝ้าถวิลหา อยากจะพบหน้านางมาหลายวัน ซึ่งนางกำลังจ้องมองมาที่เขา ในสายตาของนางนั้นบ่งบอกถึงความไม่พอใจอย่างรุนแรง "ลี่เอ๋อร์" ชินอ๋องเหวินเฟยหลงก้าวออกไปคล้ายกับคนละเมอ เขาไม่ได้คาดคิดว่าจะได้มาพบเจอกับนางในสถานการณ์เช่นนี้ เพราะเซียวซูหนี่ว์ต้องการที่จะมาทานอาหารที่โรงเตี๊ยมแห่งนี้ ซึ่งเป็นร้านประจำของนางในสมัยที่พวกเขายังรักกันดีอยู่ เมื่อเซียวซูหนี่ว์ หันไปตามสายตาของชินอ๋องก็พบเข้ากับใบหน้าของโฉมสะคราญที่ดูอย่างไรก็ดูงดงามกว่านางหลายเท่านัก กำลังจ้องมองมาที่ชินอ๋องโดยใช้สายตาตำหนิออกมาอย่างชัดเจน "ศิษย์พี่ งั้นวันนี้เราไปทานอาหารที่โรงเตี๊ยมอื่นก็ได้ ซูเอ๋อร์ยังจะพอเดินทางไปไหว แค่นี้คงไม่ทำให้ซูเอ๋อร์เหนื่อยมากนักหรอก" แค่ก! แค่ก! แค่ก! ในขณะที่กล่าวจบประโยคนั้นนางก็เกิดอาการไอออกมาอย่างรุนแรง จนใบหน้าแดงก่ำ "หากให้เจ้าเดินทางต่อไปอีกคงจะไม่เป็นผลดีกับร่างกายของเจ้าศิษย์พี่มิน่าตามใจเจ้าเลย เพราะเจ้าออกมาต้องลมเช่นนี้ เลยทำให้อาการของเจ้าทรุดหนักลงไปกว่าเดิมเสียอีก เข้าไปนั่งยังโรงเตี๊ยมนี้เถิดไม่เป็นไรหรอก" "จะดีหรือเจ้าคะ" ท่าทีเป็นห่วงเป็นใยที่ชินอ๋องแสดงออกมาในตอนนี้นั้น ถึงกับทำให้ลี่หรูกำมือแน่นจนเล็บจิกเข้าไปในเนื้อของนาง แต่นางก็หาได้รู้สึกเจ็บที่มือนั้นแต่อย่างใด เพราะความรู้สึกเจ็บในหัวใจของนางตอนนี้มันมีมากกว่าหลายเท่าตัวนัก ตลอดระยะเวลาหลายวันที่ผ่านมานางคิดว่าตนเองเข้มแข็งขึ้นมาบ้างแล้ว แต่เมื่อต้องมาเผชิญหน้ากับภาพบาดตาบาดใจเช่นนี้ มันจึงทำให้นางได้รับรู้ว่าในหัวใจของนางนั้น ยังมีแค่เพียงเขาอยู่เต็มหัวใจเมื่อได้เห็นบุรุษคนรักของตน มีความใส่ใจและเป็นห่วงเป็นใยกับสตรีอื่นเช่นนี้ความเจ็บปวดจึงถาโถมเข้ามาในหัวใจของนางอย่างห้ามไม่อยู่ "ลี่เอ๋อร์ข่าวลือที่ว่าเจ้าและชินอ๋องเลิกรากันนั้นเป็นความจริงเช่นนั้นหรือ" เมื่อองค์รัชทายาทเห็นบุรุษและสตรีเบื้องหน้าที่กำลังเข้ามาในโรงเตี๊ยม เขาก็ให้เกิดความสงสัย เป็นอย่างมากกับภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จึงได้กล่าวถามนางออกไปเช่นนั้น และเมื่อเห็นว่าลี่หรู เอาแต่นิ่งเงียบ และดวงตาแดงก่ำที่พยา ยามข่มกลั้นน้ำตาของตนเอาไว้อย่างสุดความสามารถของนางเช่นนั้น ก็ให้รู้สึกเห็นอกเห็นใจนางอย่างช่วยไม่ได้ ซึ่งพฤติกรรมทุกอย่างของลี่หรูในตอนนี้นั้น ก็ได้ตกอยู่ในสายตาขององค์ชายเก้าเช่นเดียวกัน เมื่อได้เห็นว่านางในดวงใจของตนเองกำลังเจ็บปวด มือที่กำแน่นจนเล็บจิกเข้าไปในเนื้อของนาง ถึงกับทำให้มีเลือดไหลออกมาเช่นนั้น แต่นางกลับไม่แสดงความรู้สึกเจ็บปวดใดๆ ออกมาให้เห็น ยิ่งทำให้เขารู้สึกอยากจะปกป้องนางมากขึ้นไปอีก องค์ชายเก้ายกมือของตนเองไปคว้ามือที่กำแน่นของนางนั้นให้คลายออกอย่างอ่อนโยน "เหตุใดจึงต้องทำให้ตนเองต้องเจ็บตัวด้วย" เขาใช้ผ้าเช็ดหน้าของตนออกมาซับเลือดที่อยู่ในมือของนางอย่างอ่อนโยน ซึ่งการกระทำขององค์ชายเก้าในครั้งนี้นั้น ถึงกับทำให้ลี่หรูหลุดออกมาจากในภวังค์ของตนเอง และจ้องมองไปที่ใบหน้าของเขาอย่างไม่อยากจะเชื่อสายตา นางไม่คุ้นชินกับความอ่อนโยนที่เขามอบให้นี้เอาเสียเลย จึงทำให้นางพยายามที่จะดึงมือของตนเองออกจากการกอบกุมนั้น แต่มีหรือที่เขาจะยอมโดยง่าย "อย่าดื้อข้ากำลังเช็ดเลือดให้กับเจ้าอยู่ เหตุใดถึงไม่รู้จักรักตนเองเสียบ้าง หากเจ้ากดลึกลงกว่านี้เกิดมันเป็นแผลเป็นขึ้นมาจะทำเช่นไร"
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม