ตอนที่ 1 พระองค์จะทรงกุมมือหม่อมฉันไปนานแค่ไหน

1298 คำ
เหลียนลี่หรู จ้องมองไปที่ใบหน้าของบุรุษคนรัก ที่กำลังนอนอยู่บนเตียงเดียวกันกับนางอย่างรักใคร่ มือหนากอบกุมมือบางของนางเอาไว้ตลอดเวลา บ่งบอกว่าเขานั้นหวงแหนมือน้อยๆ คู่นี้ของนางมากเพียงใด "พระองค์จะทรงกุมมือหม่อมฉันไปนานแค่ไหนกันเพคะ" "ตลอดชีวิตของเปิ่นหวาง" คำตอบสั้นๆ แต่ความหมายช่างสลักลึกลงไปในจิตใจของหญิงสาว จนเกิดความอบอุ่นแผ่ซ่านเข้ามาในหัวใจ ซึ่งมันได้สลักลึกเข้าไปในจิตใจดวงน้อยๆ ของนาง ว่าครั้งหนึ่งบุรุษผู้นี้ได้กล่าววาจาหวานหูกับนางเช่นนี้ จะมีผู้ใดเชื่อกันเล่า ว่าเทพสงครามอย่างชินอ๋องเหวินเฟยหลง จะกล่าววาจาเกี้ยวสตรีได้หวานหูเช่นนี้ได้ บุรุษผู้ที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นแม่ทัพทมิฬ ที่มิเคยยิ้มให้กับสตรีใด ในตอนนี้เขากำลังนอนส่งยิ้มละลายใจให้กับนางอยู่ ชินอ๋องเหวินเฟยหลงจะแอบเข้ามาในช่วงกลางดึกของทุกคืนเพื่อที่จะส่งนางเข้านอน เหตุการณ์ยังคงดำเนินต่อไปเช่นนี้ ซึ่งมันทำให้หญิงสาวมีความสุขที่ได้รับความรักจากบุรุษที่นางมิคิดจะรัก เหตุใดจึงกล่าวว่านางไม่คิดจะรักบุรุษผู้นี้เช่นนั้นน่ะหรือ เพราะนางไม่ต้องการที่จะมีคนรักเป็นชายชาติทหาร หรือคนในราชวงศ์ที่ต้องมีหญิงงามรายล้อมอยู่ตลอดเวลา บุรุษในราชวงศ์จะต้องแต่งงานเพื่อสะสมอำนาจของเหล่าขุนนางในราชสำนัก ให้ฝักใฝ่และมีความจงรักภักดีต่อตนเอง และนางก็ไม่ชอบบุรุษที่เป็นทหาร เพราะว่าจะต้องใช้ชีวิตห่างไกลกัน โดยมิรู้ว่าเมื่อไหร่จะได้พบเจอกันและมิรู้ว่าบุรุษผู้นั้น จะได้กลับมาหานางหรือไม่ ดังนั้นนางจึงได้ปฏิญาณกับตนเองแล้ว ว่าจะไม่ขอมีคนรักที่เป็นคนในราชวงศ์และเป็นชายชาติทหาร แต่สวรรค์มักจะไม่เห็นใจในคำขอของนาง เมื่อเกลียดสิ่งใดก็ย่อมได้สิ่งนั้น บุรุษผู้ที่นางมิคิดว่าจะรักผู้นี้ กลับกลายมาเป็นบุรุษที่ครอบครองหัวใจของนางทั้งดวงใจ "สัญญาแล้วนะเพคะ และอย่าได้ทรงคิดจะไปกุมมือของสตรีใดอีก เพราะหากหม่อมฉันรู้เข้า หม่อมฉันจะลงมือตัดมือของสตรีผู้นั้นด้วยมือหม่อมฉันเอง" "หึ! เหตุใดเจ้าถึงเลือกตัดมือของสตรีอื่น มากกว่ามือของเปิ่นหวาง" "เพราะหม่อมฉันไม่สามารถตัดใจทำร้ายพระองค์ได้ลงคอเช่นไรเล่า จึงเลือกที่จะตัดมือของสตรีที่คิดจะมาแย่งพระองค์ไปจากหม่อมฉันเสียดีกว่า" ด้วยความหมั่นเขี้ยวในคำกล่าวนั้นของนาง ชินอ๋องเหวินเฟยหลง จึงอดไม่ได้ ยื่นมือออกไปบีบปลายจมูกเชิดรั้นของนางอย่างเอ็นดู "มันจะไม่มีวันนั้น เปิ่นหวางจะ ไม่ยอมปล่อยมือจากมือน้อยๆ ของเจ้าเป็นแน่ ทั้งชีวิตของเจ้าจะมีแค่เพียงเปิ่นหวางที่สามารถอยู่เคียงข้างได้เพียงผู้เดียวเท่านั้น" คำพูดหวานหู ที่คงจะมีเพียงนางเท่านั้นที่ได้ยินคำกล่าวนี้ มันออกมาจากปากของบุรุษที่ได้ขึ้นชื่อว่า 'ชินอ๋องเหวินเฟยหลง' เขาโอบกอดนางไว้ในอ้อมกอดอย่างหวงแหนจนนางหลับไปด้วยใจที่เป็นสุข เมื่อเขาเห็นว่าสตรีในอ้อมกอด ได้หลับลงไปแล้ว เขาก็ได้จากไปอย่างเช่นทุกคืนที่เคยทำ ก่อนจะไป เขายังไม่ลืมที่จะจุมพิตไปที่หน้าผากมนของนางอย่างรักใคร่ บุรุษเช่นเขา มิคาดคิดเลยว่าจะสามารถรักผู้ใดได้อีก จนได้มาเจอกับสตรีผู้นี้ ที่เขาคิดว่า นางช่างไม่มีความเหมาะสมใดกับเขาเลยแม้แต่น้อย เหตุใดสตรีที่ดูแล้วมีแต่ความหยาบกระด้างเช่นนาง ถึงสามารถสั่นคลอนหัวใจที่ปิดสนิทของเขาให้เปิดออกมาได้ จนถึงวันนี้เขาก็ไม่สามารถหาคำตอบนั้นได้เช่นกัน "ลี่เอ๋อร์ เปิ่นหวางรักเจ้ายิ่งนัก" เมื่อชินอ๋องกลับมาถึงยังตำหนักของตนก็รู้ถึงความผิดปกติบางอย่างขึ้นภายในห้อง สัญญาณอันตรายกำลังบอกกับเขาให้ได้ทราบ ว่าในตอนนี้เขาไม่ได้อยู่เพียงลำพัง "ออกมา" สิ้นเสียงคำสั่งของเขา ก็ได้มีเงาร่างหนึ่งค่อยๆ ปรากฏขึ้น ซึ่งเมื่อชินอ๋อง ได้เห็นเงาร่างนั้นอย่างชัดเจน ก็ถึงกับทำให้เขา หัวใจกระตุกวูบ แขนขาชาอย่างที่บุรุษเช่นเขาไม่เคยคิดว่า จะพบเจอกับอาการเช่นนี้ นี่เขากำลังฝันไปใช่หรือไม่? ขาของเขาค่อยๆ ก้าวไปข้างหน้าอย่างเลื่อนลอย มืออันสั่นเทาค่อยๆ ยกขึ้นไปสัมผัสกับใบหน้าของสตรีตรงหน้า อย่างไม่อยากจะเชื่อสายตาตนเอง "ซูเอ๋อร์ เป็นเจ้าจริงๆ เช่นนั้นหรือ หรือว่าในตอนนี้เปิ่นหวางกำลังฝันไป" "เพคะ เป็นหม่อมฉันเองขอโทษนะที่ทำให้พระองค์ทรงรอนานขนาดนี้" เมื่อสิ้นสุดคำกล่าวนั้นของหญิงสาวตรงหน้า ชินอ๋องก็ไม่รอช้าดึงร่างบางของนางเข้ามาไว้ในอ้อมกอดอย่างรวดเร็ว เนื้อตัวของเขาสั่นเทาไปด้วยความดีใจ นานเท่าไหร่แล้วที่เขาโหยหาต้องการจะโอบกอดนางเช่นนี้ "อย่าจากเปิ่นหวางไปไหนอีก เข้าใจหรือไม่" ตลอดระยะเวลา 2 ปีที่ผ่านมาเขาเฝ้าส่งคนออกตามหานางไปทั่ว หลังจากที่เกิดเหตุการณ์ปะทะกันในวันนั้น นางก็ได้ตกลงไปในหุบเขา หัวใจของเขาแทบแตกสลาย เมื่อเห็นภาพของนางที่กำลังจมดิ่งลงไปในหุบเขานั้น ภาพสตรีคนรัก กำลังตกลงไปในหุบเขาต่อหน้าต่อตา โดยที่เขาไม่สามารถช่วยอันใดได้ มันยังคงตราตรึงอยู่ในหัวของเขาไม่จางหายไป เซียวซูหนี่ว์ คือสตรีคนรักของเขา และนางก็เป็นศิษย์น้องของเขาด้วย นางร่วมเป็นร่วมตายและใช้ชีวิตร่วมกันกับเขามาหลายปี ตั้งแต่เขาได้ออกไป ร่ำเรียนวิชากับท่านอาจารย์ตอนเขาอายุได้ 10 หนาว และนางคือบุตรีเพียงคนเดียวของท่านอาจารย์ ที่อายุได้ 4 หนาวในตอนนั้น จึงทำให้เขากลายเป็นเสมือนพี่ชายของนาง ที่คอยเฝ้าดูแล และฝึกวิชาร่วมกันมาจนเติบใหญ่ จนก่อเกิดเป็นความรู้สึกรักใคร่ซึ่งกันและกัน จนเมื่อ 5 ปีก่อน ท่านอาจารย์ได้เสียชีวิตลง และเซียวซูหนี่ว์ก็ไม่เหลือใครให้พึ่งพิง เขาจึงตัดสินใจนำนางมาอยู่ด้วยที่เมืองหลวง โดยที่ไม่สนใจคำครหาที่ไม่เหมาะสมใดๆ บุรุษและสตรีที่ยังมิได้ออกเรือนมิควรจะอยู่ใต้ชายคาเดียวกัน แต่แล้วอย่างไร? ในเมื่อเขาและนาง พึงใจต่อกัน ถึงอย่างไรนางก็จะต้องตกแต่งเป็นชายาให้กับเขาในสักวันอยู่แล้ว จะติดก็แต่เพียงเสด็จแม่ ที่มิยินยอม เพราะหาว่านางไร้ซึ่งหัวนอนปลายเท้า และอำนาจหนุนหลังในราชสำนัก ซึ่งสำหรับเขาแล้ว มันไม่มีความจำเป็นอันใด ที่จะต้องการอำนาจจากเหล่าขุนนางที่หาความจริงใจไม่ได้พวกนั้น เพราะถึงอย่างไรเขาก็เป็นพระโอรส ที่มีพระมารดาองค์เดียวกันกับฮ่องเต้องค์ปัจจุบัน และการขึ้นครองราชย์ของเสด็จพี่ ก็มีเขาเป็นผู้หนุนหลังอยู่แล้ว เช่นนี้เขาจะยังต้องการอำนาจที่ไร้แก่นสารนั้นไปเพื่อสิ่งใด
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม