เกมจับผิด

1193 คำ
หลังจากที่ทุกคนออกจากห้องผมไปแล้ว ผมก็เรียกฝ้ายมาพบ พร้อมของานชิ้นใหม่ ที่พวกเพื่อนผมรับมา จากการที่ไปคุยกับลูกค้านอกสถานที่ ผมไม่ได้ใช้ให้ฝ้ายเอางานไปให้เธออย่างปากบอก เพราะผมนี่แหละจะเอาไปให้เธอเอง ผมเอางานจากฝ้ายแล้วก็เดินออกจากห้อง ตรงไปที่ห้องทำงานของเธอ ที่ทางเราเตรียมไว้ให้ พอผมเดินมาแล้วก็เห็นเธอหยิบจับใบเอกสารที่วางไว้บนโต๊ะ ขึ้นมาดู "สงสัยอะไรหรือเปล่า" ผมมาถึงก็ถามขึ้น จนเธอต้องสะดุ้งเพราะความตกใจ "อ๋อ เปล่าค่ะ" "พอดี ผมเอางานมาให้คุณดู บรีฟที่ลูกค้าสั่งมา สินค้าเป็นขนม ดังนั้นบรรจุภัณฑ์น่าจะเป็นห่อ คุณลองดูสิว่าจะออกแบบมาแบบไหนถึงจะสวย" พูดแล้วผมก็ยื่นให้ให้เธอ แต่ก็ไม่ปล่อยเอกสารซะทีเดียว มินลดาดึงอยู่หลายครั้ง "ขอโทษนะคะ" พูดเพียงเท่านั้น เธอก็ดึงแผ่นเอกสารในมือผมแล้วก็กลับไปนั่งที่เดิม ผมเห็นเธอก้มมองเนื้องานอย่างพิจารณา ส่วนตัวผมก็มองเธออย่างพิจารณาเช่นกัน คำถามมากมายที่อยู่ในหัวตอนนี้ ที่ผมอยากจะถามเธอ ว่าเธอหายไปไหนมา เธอสบายดีหรือเปล่า แต่เธอเลือกที่จะจำผมไม่ได้ งั้นเราคงต้องเล่นเกมส์กันหน่อย ผมกระชับเท้าเดินตรงไปที่เก้าอี้ที่เธอนั่ง พร้อมกับเดินวนไปทางด้านหลังเธอ ก่อนจะเท้ามือคร่อมร่างเธอไว้ "ไม่เข้าใจตรงไหน" "หึ..ขอโทษนะคะ ช่วยขยับไปหน่อย ถ้าดิฉันไม่เข้าใจจะถามเอง" เธอเอียงหน้ามาพูดกับผมแค่เท่านั้น ก่อนจะขยับเก้าอี้หนี "เผอิญ ผมเป็นคนชอบช่วยเหลือ สมัยเรียนผมก็เคยไปช่วยรุ่นน้องทำโครงงาน ถ้าไม่เข้าใจตรงไหนก็ถามพี่ได้นะ!!" ผมพยายามจะเข้าเรื่องเดิมที่ผ่านมา ถึงมันจะเป็นแค่อดีต ผมเชื่อว่าเธอก็น่าจะจำได้ "เผอิญว่าตอนเรียน ดิฉันเรียนดี ได้เกียรตินิยมมา ก็เลยไม่จำเป็นต้องให้คนอื่นมาช่วย ขอโทษด้วยนะคะ ช่วยถอยออกไปหน่อย คนอื่นจะมองดิฉันไม่ดีได้" ผมถอยออกมายืนห่างจากเก้าอี้ไม่ถึงเก้าเดิน แล้วก็ยืนจ้องมองการกระทำของเธอ "คนเราแค่เปลี่ยนชื่อ ก็ใช่ว่าทุกอย่างจะเปลี่ยนตามหรอกนะ บางอย่างยิ่งหนีก็ยิ่งเจอ ถ้าเธอไม่ยอมรับว่าเธอคือ มินตรา พี่ก็ไม่ว่า" ผมพูดเพียงเท่านั้นก็โน้มตัวลงไปข้างๆ หูของเธอ คนที่ทำเป็นเฉยชา ทำเป็นไม่รู้จักผม แต่ทว่า "แต่ ทุกส่วนในร่างกายเธอพี่จำได้แม่น แค่เปลี่ยนชื่อแต่ทุกอย่างยังเหมือนเดิมเป็นใครก็จำได้" เธอหันมามองผมตาเขียว แต่ขอโทษผมรุกแล้ว ไม่ยอมปล่อยแน่ ในเมื่ออยากเล่นเกมส์จับผิดกับ ผม ผมก็พร้อมที่จะเล่นกับเธอ ผมจ้องตาสวยคู่นั้นก่อนจะยกยิ้มแล้วเดินออกจากห้อง ปล่อยให้เธอได้ทำงาน .................................................................... ไม่รู้ว่าเวรกรรมอะไรของฉันกันแน่ คนที่ฉันพยายามหนีมาตลอดชีวิต คนที่เคยทำฉันร้องไห้ฟูมฟายเสียใจจนใจเจ็บ ทำไมฉันต้องได้มาทำงานร่วมกับเขา ฉันอยากเดินออกจากที่ตรงนี้ใจแทบขาดแต่ติดตรงที่เงินเดือนที่พอช่วยจุนเจือให้ฉันได้เลี้ยงลูกได้ มันค้ำคออยู่ ฉันนั่งคิดจนไม่ได้ลงมือทำงาน เวลาก็เดินมาถึงครึ่งวันซะแล้ว "โทษนะ คุณลดา มีเพื่อนทานข้าวหรือยัง ไปทานด้วยกันไหม" มีพนักงานคนนึงเดินเข้ามาแล้วก็เรียกฉันพร้อมกับชวนฉันไปทานมื้อเที่ยง "ยังค่ะ" ฉันตอบเขาสั้นๆ ผู้หญิงคนนี้น่าจะอายุเยอะกว่าฉันนิดหน่อย พูดแล้วฉันก็ยิ้มไมตรีให้เธอ "งั้น ลดาขอไปด้วยนะคะ" "ได้เลยค่ะ" ฉันลุกออกจากที่ แล้วก็เดินตามผู้หญิงคนนั้นไป ในกลุ่มนี้มีเพื่อนพนักงาน สองสามคนที่มาด้วยกัน ระหว่างทางเดินมานั้น ก็ได้มีบทสนาอยู่บ้าง "คุณ ลดา ทำอะไรมาก่อนค่ะ" "อ๋อ ลดา ทำออกแบบกับบริษัทหนึ่งค่ะ พอดีเพื่อนบอกว่าที่นี่เขาจะเปิดรับหัวหน้าออกแบบก็เลยลองเสี่ยงดวงดู ไม่คิดว่าจะได้" "ได้ยินมาว่า คุณ ลดา มีผลงานดี ทางนั้นไม่เสียดายแย่หรือคะ" "ก็ เสียดายค่ะ แต่ ลดามีเหตุผล หัวหน้าจึงยอมเซ็นเอกสารให้ เอ่อ ยังไม่รู้ชื่อทุกคนเลย" ทุกคนหันมายิ้ม แล้วก็แนะนำตัวเอง "จินนี่ เบล ส่วนพี่แก่สุด แก้วจ๊ะ" ฉันยิ้มเมื่อทุกคนแนะนำตัวเอง พร้อมกับก้าวเท้าเดินไปข้างหน้าจวนจะพ้นบริษัท "แล้วเวลากินข้าว กินที่ไหนคะ" ฉันถามขึ้น "ข้างๆ มีร้านอาหารตามสั่งไม่ต้องไปไกล ส่วนมากเราก็จะทานที่นี่ แต่ด้านในก็มีนะโรงอาหารขนาดย่อมมีร้านเดียว แต่คนเยอะ พวกพี่ขี้เกียจรอ" พี่แก้วเป็นคนพูด ส่วนฉันก็หันไปมองหน้าคนพูดที่เดินถัดออกไป ไม่นานเราทั้งสี่ รวมทั้งฉันก็มาถึงร้าน ก่อนที่ฉันจะนั่งลงฉันก็เดินไป หยิบแก้วพร้อมตักน้ำแข็งมาเสิร์ฟ ส่วนน้ำเป็นน้ำขวดที่ทางร้านเขาว่างไว้ให้ พอฉันนั่งลง ทุกคนก็มองฉันเป็นตาเดียว "มีอะไรหรือคะ" "ปกติ คนที่มาเป็นหัวหน้า ต้องวางมาด ใช้ลูกน้องไม่ใช่หรอ" พี่แก้วพูดอีกครั้ง "ลดา ก็แค่คนธรรมดาไม่ได้วิเศษจากไหน เพียงแต่โชคดีได้งานเท่านั้น อีกอย่าง เรียก ลดา ว่า ลดาก็ได้ไม่ต้องมีคุณมานำหน้าหรอกค่ะ มันดูเยอะไป" ฉันบอกคนที่นั่งอยู่ร่วมโต๊ะ "โทษนะที่ต้องถาม คุณ เอ้ย ลดา อายุเท่าไหร่แล้ว" เบลเป็นคนถามฉัน "ปีนี่ยี่สิบห้าแล้วค่ะ" "เท่ากันเลย แต่ดูพวกเราสิทำงานที่นี่มา ตั้งนานยังไม่ได้เลื่อนตำแหน่ง" จินนี่พูดแล้วก็ ทำหน้าบึ้ง "ก็แกไม่มีผลงานนี่นา จะเอาอะไรมาเลื่อน" ทั้งจินนี่และเบลต่างพูดแย้งขึ้น จนฉันเองต้องพูดบ้าง "ที่จริง ลดา รับงานเสริมมาตั้งแต่สมัยเรียน พอจบออกมาก็เลยมีผลงานโชว์บริษัท พอเริ่มทำงานก็เหมือนว่าตัวเองได้ทำงานอยู่เรื่อยๆ เลยมีไอเดียใหม่ๆ ก็เลยทำให้ ลดา ถูกเลือก ให้มารับตำแหน่งนี้" "มิน่าละ ลดา เก่งจัง ทั้งขยัน ทั้งเก่ง หางานทำตั้งแต่เรียน นี่เอง" ใครจะไปรู้ว่าเบื้องหลังที่ฉันต้องขยันเพราะฉันเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวที่ ลูกชายของฉันเป็นลูกเจ้าของที่นี่ คิดมาแล้ว น้ำเน่าสิ้นดี
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม