เจอกันอีกครั้ง

1148 คำ
ฉันนั่งรอในห้องจนเวลาผ่านไปเกือบครึ่งชั่วโมง ฝ่ายบุคคล คนเดิมก็เดินเข้ามา แล้วเรียกฉัน "คุณมินลดา ตามผมมาเลยครับ" ฉันลุกขึ้นแล้วเดินตามเขาไปเงียบๆ ไม่นานก็มาหยุดยืนที่หน้าห้อง ห้องนึ่ง ที่มีเลขาสาวสวยนั่งอยู่หน้าห้องเธอยิ้มให้ฉัน ส่วนฉันก็ยิ้มตอบ ชายหนุ่มแผนกฝ่ายบุคคลเคาะประตู ก่อนที่จะเปิดเข้าไปส่วนฉันก็ก้มหน้า อยู่สักพัก "คุณขุนครับ คุณมินลดา มาแล้วครับ" เพียงเท่านั้น ฉันก็เงยหน้าขึ้น เป็นจังหวะเดียวกันที่เขาเองก็เงยหน้าขึ้นจากโต๊ะทำงาน "......" ????? คำถามมากมายพร้อมอาการ ช็อกสุดขีดที่คนตรงหน้าคือผู้ชายคนนั้น "มิน!!!" ประโยคแผ่วเบาที่มาจากปากเขา ฉันฟังไม่ผิด แต่ก็ต้องข่มอาการ ในเมื่อฉันเลือกที่จะทิ้งอดีต ดังนั้น คนที่ชื่อมินตรา ฉันไม่รู้จัก "สวัสดีค่ะ" ฉันข่มอาการนิ่งให้มากที่สุด แล้วยกมือไหว้คนตรงหน้าในฐานะเจ้าของบริษัท "มิน!!!"ประโยคเดิมที่ออกจากปากเขาซ้ำซาก แต่ฉันก็พยายามไม่ใส่ใจ "ดิฉัน มินลดาค่ะ ไม่ทราบว่าคุณขุน เคยเจอดิฉันด้วยหรือคะ" ฉันพยายามพูดให้ดูกลบเกลื่อนทำตัวให้นิ่ง ทำเป็นไม่รู้จักคนตรงหน้า นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน ไม่เจอกันเป็นชาติ แต่มาเจอเพราะเขาคือเจ้าของบริษัท "งั้นผมออกไปก่อนนะครับ" หัวหน้าฝ่ายบุคคลกล่าว แล้วก็เดินออกจากห้องทันที ยอมรับว่าตอนนี้หัวใจฉันเต้นแรงมาก มากถึงมากที่สุด "เชิญนั่งก่อนสิครับ" ฉันพยายมจะไม่สบตาเขา แล้วก้าวขามานั่งเก้าอี้ ต่อหน้าเจ้าของบริษัท สายตาคู่นั้นของเขา จ้องมองฉันราวกับว่า ฉันเป็นนักโทษ "สบายดีเหรอ ไม่เจอกันตั้งหลายปี" ประโยคคำถามที่แทบจุกอก แต่ก็จำใจต้องตอบ "ไม่ทราบว่าเราเคยเจอกันหรือคะ คุณขุนคงจะทักคนผิดไป บางทีหน้าตาคนเราอาจจะคล้ายกัน ถ้าถามว่า สบายดีไหม ดิฉันสบายดี แต่ถ้าถามว่าไม่เจอกันหลายปี อันนี้ คงไม่ใช่ เพราะดิฉันพึ่งเจอคุณขุนวันนี้ วันแรก" ฉันตอบเขาหน้าตาเฉย จนเขายกยิ้ม ฉันไม่รู้ว่าเขายิ้มทำไม แต่เหมือนวันนี้ เป็นวันวินาศของฉัน อีกทั้งเสียงแอะอะ โวยวายจากด้านนอกนั่น ไม่นานประตูห้องทำงานของเขาก็ถูกเปิด "ไอ้ขุน ได้ยินว่าหัวหน้าออกแบบมาใหม่ สวยใช่ได้นี่หว่า" ยังไม่ทันได้เข้ามาถึงห้องเสียงนั้นก็ลอยมา ฉันจำเสียงได้แม่น "นั่งอยู่นี่ไง" ฉันหลับตานิ่ง พลางเอามือมากุมประสานกัน แล้วบีบมันแรงๆ เพื่อผ่อนคลาย พึ่งจะได้งาน แต่ในหัวฉันคิดถึงเรื่องลาออกซะแล้ว ตึก ตึก! เสียงฝีเท้าเดินมาจากด้านหลัง ก่อนจะมาหยุดต่อหน้าของฉันแล้วก็ "น้องมินตรา!!" "เขา ชื่อ มินลดา ไม่ใช่มินตรา" เสียงค้านของเจ้าของบริษัท ไม่นานก็มีอีกหลายสายตามาจ้องที่หน้าฉัน พวกเขาอยู่กันครบแก๊ง ที่นี่ บริษัทนี้ แล้วฉันจะทำยังไงดี "สวัสดีค่ะ" ฉันยกมือไหว้ทุกคน รุ่นพี่ทั้งสามรวมทั้งตัวเขาจ้องฉันเป็นตาเดียว "นี่มันน้องมินตรา ชัดๆ เปลี่ยนชื่อใหม่หรือครับ" พี่แก๊ปถามฉัน ส่วนฉันก็ทำได้แค่นิ่งไว้ก่อน ตั้งสติ แล้วค่อยตอบ "ไม่ได้เปลี่ยนค่ะ ชื่อนี้มาตั้งแต่เกิด" "น้องมีแฝดหรือเปล่า" พี่ออกัสถาม "ไม่มีค่ะ" ฉันตอบแล้วก็นั่งนิ่ง แต่สายตาพวกพี่ๆ นั้นไม่ยอมละสายตาไปทางอื่นเลย เหมือนกับว่าจะจับผิดฉันอยู่ร่ำไป จนกระทั่งฉันต้องเป็นฝ่ายถามบ้าง "ไม่ทราบว่า วันนี้คุณขุนมีเรื่องอะไรจะชี้แนะดิฉันค่ะ เห็นนั่งมองหน้านานแล้วแต่ไม่ยอมบอกสักที" พอฉันถาม เขาก็ยกยิ้มที่มุมปากเล็กน้อย ก่อนจะพูดเรื่องงานกับฉัน "ก็ไม่มีอะไรมากหรอกครับ เพียงแต่อยากทำความรู้จักกันไว้ ส่วนงานเดี๋ยวพี่ เอ้ย ผมให้เลขาเอาไปให้" สายตาเจ้าเล่ห์นั้น ฉันจำมันได้ดี สายตาแบบนี้ที่มองฉัน ฉันเกลียดมันนัก "ถ้า ไม่มีอะไรแล้ว ดิฉันขอตัวกลับไปที่ห้องได้เลยไหม ส่วนงานก็ค่อยให้เลขาคุณเอาไปให้ ทีหลัง" เขาไม่ได้พูดเอาแต่จ้องมองหน้าฉัน แล้วทำสายตาแบบนั้นใส่ ฉันเลยลุกขึ้นพร้อมกับยิ้มให้แก๊งของเขาก่อนจะเดินออกมา ................................................................... ผมแน่ใจว่าผู้หญิงคนเมื่อกี้ คือมินตรา ร้อยเปอร์เซ็น ถึงแม้ว่าเธอจะปฏิเสธเสียงแข็งว่าไม่ใช่ก็ตามที ผมจำเธอได้แม่น ทำไมโลกมันกลมขนาดนี้ คนที่อยู่ในใจผมมาตลอดระยะเวลาห้าปี ไม่คิดเลยว่าผมจะได้เจอเธออีก "ไอ้ขุน มึงว่าน้องคนเมื่อกี้ ใช่น้องมิน เปล่าวะ" "โอ้ย ไอ้โง่ ถ้าไม่ใช่แล้วจะเป็นใคร เขาก็บอกอยู่ว่าเขาไม่มีแฝด อีกอย่างแค่ชื่อที่เปลี่ยนไป มันหลอกกันไม่ได้หรอก" เสียงไอ้แก๊ปและ แม็กส์ถกเถียงกัน ส่วนผมก็นั่งคิด ว่าเธอหายไปอยู่ไหนมา เธอไม่เปลี่ยนเลยแม้แต่นิด ยังน่ารักเหมือนเดิม "ไอ้ขุน แล้วแบบนี้มึงจะเอาไง เขาทำเป็นไม่รู้จักพวกเรานะเว้ย" "มันก็ต้องไม่รู้จักอยู่แล้ว เขาคงอยากลบอดีตทิ้งไป ไม่งั้นเขาจะเปลี่ยนชื่อทำไม ดีไม่ดี พรุ่งนี้อาจจะไม่มาทำงานก็ได้ ก็เจ้านายที่นี่เหี้ยซะขนาดนี้" อะแอ้ม ผมต้องรีบทักท้วงพวกมันที่กำลังจะเริ่มนินทาเจ้านาย "น้อยๆ หน่อยเถอะพวกมึงอ่ะ" "แล้วคุณ ขุนพล จะเอายังไงต่อละครับ" ออกัสหันมาถามผมหลังจากที่ถกเถียงกัน "กูปล่อยเขาไปครั้งนึงแล้ว ในเมื่อมีโอกาส กูไม่ยอมปล่อยเขาไปแน่" " ไอ้ขุน เรื่องมันนานมาแล้ว ไม่ใช่เขามีลูกมีผัว ไปแล้วหรอ" ไอ้สัสแก๊ปนี่ก็ชั่งหาเรื่องมาให้ผมคิด ถ้าเป็นแบบนั้นจริงๆ ผมควรทำยังไงดี "หรอ งั้นมึงไปสืบมา ถ้ามึงไม่ได้เรื่อง กูจะหักเงินเดือนมึง" ผมสั่งไอ้แก๊ปเปอร์ สั่งแล้วผมก็นั่งก้มหน้าทำงานตามเดิมส่วนพวกมันก็หันหน้ามองกัน พร้อมความงวง งง **อย่าลืมคอมเม้นมาเป็นกำลังใจนักเขียนบ้างนะคะ
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม