“พี่ม่อนวันนี้นัดพี่คินเข้าไปผับหน่อยสิ”
รามินเอ่ยบอกไดม่อนทันทีขณะที่กำลังพักระหว่างทำกิจกรรมรับน้อง
“มึงรู้ตัวคนที่ไปสร้างเรื่องป่วนผับเราแล้วหรอ”
ไดม่อนถามรามินด้วยความอยากรู้เพราะที่ผับของพวกเขาโดนคนใส่ร้ายสร้างเรื่องว่าหลอกเด็กมาบริการลูกค้าแต่พวกเขาก็แก้ปัญหากันได้ทันที เพียงแต่แค่อยากรู้ตัวคนทำก็แค่นั้น
“รู้แล้วครับ เอาไว้ไปคุยที่ผับเลยดีกว่าพี่”
ไดม่อนพยักหน้าเข้าใจแล้วหยิบโทรศัพท์โทรหาอคินทันที ไม่นานอคินก็รับสาย
(ว่าไง)
“มึงอยู่ไหน”
(อยู่มหาลัย กำลังจะไปสนามแข่ง มีอะไร)
“คืนนี้เข้าไปที่ผับด้วย รามินบอกว่ารู้ตัวคนทำแล้ว”
(อืม)
อคินกดวางสายไดม่อนทันทีเมื่อคุยกันเสร็จแล้ว ส่วนไดม่อนและรามินก็มาทำกิจกรรมรับน้องต่อจนเสร็จทั้งสองจึงตรงไปที่ผับทันทีโดยไม่เปลี่ยนเสื้อผ้าเพราะจะไปอาบน้ำแต่งตัวที่ผับตัวเองเลย เมื่อรามินและไดม่อนมาถึงผับก็แยกย้ายเข้าห้องทำงานของใครของมันที่มีห้องนอนในตัวจากนั้นก็มารวมตัวกันที่ห้องประจำของพวกเขา รามินและไดม่อนจึงดื่มเหล้ารออคินมาเพื่อจะคุยเรื่องงาน สักพักอคินก็มาถึงผับ
“รามินยังไม่มา?”
อคินเอ่ยถามไดม่อนสั้นๆ เมื่อไม่เห็นรามินอยู่ในห้อง
“คิดถึงผมหรอครับ มาถึงก็ถามหาเลย”
รามินพูดขึ้นพร้อมกับทำหน้ากวนๆ ใส่อคินขณะที่เดินออกมาจากห้องน้ำ
“หึ ไม่เห็นหน้านึกว่าโดนลากไปกระทืบแล้วซะอีก”
อคินพูดขึ้นพร้อมกับหัวเราะในลำคอ
“คนอย่างผมไม่ยอมให้ใครมากระทืบง่ายๆ หรอกครับ”
รามินตอบกลับอคินพร้อมกับนั่งลงที่ประจำของตัวเอง เขาไม่ได้พูดโม้โอ้อวดตัวเองเพราะรามินนั้นมีฝีมือในการต่อสู้เก่งไม่แพ้พี่ชายทั้งสองคน เพราะพวกเขาทั้งสามนั้นถูกแก๊งพ่อๆ ฝึกฝนมาอย่างหนักตั้งแต่เด็ก
“ที่สนามแข่งเป็นไงบ้าง”
ไดม่อนเปลี่ยนเรื่องเอ่ยถามอคินเพราะวันนี้เขาและรามินไม่ได้ไปดูงานที่สนามแข่งรถ
“เรียบร้อยดี วันนี้ลูกค้าแค่อยากมาลองสนามไม่ได้แข่งจริง เห็นว่ารู้ตัวคนที่สร้างเรื่องให้ผับเราเสียหายแล้วหรอรามิน”
อคินตอบกลับไดม่อนแล้วหันไปถามรามินทันที
“มาถึงปั๊บก็คุยแต่เรื่องงาน พวกพี่กะจะไม่พักสมองบ้างรึไงเนี่ย ทำหน้าขรึมจนตีนกาจะขึ้นแล้วนะครับ”
รามินพูดขึ้นกวนๆ จนอคินตั้งท่าจะยกเท้าถีบเขาแต่ก็โดนรามินจับขาไว้ก่อน
“หยอกครับหยอก แค่หยอกถึงขั้นจะถีบน้องเลยหรอ”
“คุยงานก่อนแล้วค่อยพักรามิน”
เมื่อได้ยินคำพูดของไดม่อนรามินก็ปรับเข้าสู่โหมดจริงจังทันที ถึงเขาจะเป็นคนขี้เล่นแต่พอเข้าโหมดทำงานรามินก็จริงจังไม่ต่างจากพี่ๆ ทั้งสองเหมือนกัน
“คนที่ปล่อยข่าวว่าผับเราหลอกเด็กมาบริการลูกค้าคือเสี่ยทิวาเจ้าของผับตรงข้ามกับเราครับ”
อคินและไดม่อนคิ้วขมวดขึ้นทันทีเมื่อได้ยินคำพูดของรามิน
“แน่ใจนะรามินว่าเป็นเสี่ยทิวาจริงๆ”
ไดม่อนเอ่ยถามรามินอีกครั้ง
“แน่ยิ่งกว่าแน่อีกครับ เพราะผมได้ไปคุยกับไอ้คนที่มันปล่อยข่าวเลย ผมแกล้งไปตีสนิทเลี้ยงเหล้ามันนิดๆ หน่อยๆ มันก็หลุดปากพูดออกมาเองว่าเสี่ยทิวาจ้างให้มันมาสร้างเรื่องให้ผับเราเสียชื่อเสียง ถ้าผับเราเสียชื่อเสียงลูกค้าก็คงจะหันไปเข้าร้านของพวกมัน เพราะตอนนี้ฐานลูกค้าเราก็ยังเยอะกว่าพวกมันตลอดอยู่แล้ว แม่ง ใช้วิธีโคตรสกปรก”
รามินพูดร่ายยาวให้พี่ๆ ฟังด้วยความโมโห เพราะพวกเขาทั้งสามไม่เคยไปก่อกวนหรือระรานใครก่อนเลยแม้แต่น้อย
“เอาไงไอ้คิน จะจัดการเลยมั้ย”
ไดม่อนเอ่ยถามความเห็นจากอคินเมื่อรามินพูดจบ
“ปล่อยไปก่อน รู้ตัวคนทำแล้วเราก็เพิ่มความเข้มงวดในผับให้มากขึ้น ถ้าเราไม่มีช่องโหว่ พวกมันก็ทำลายเราไม่ได้ แต่ถ้าพวกมันยังก่อกวนไม่เลิกค่อยจัดการขั้นเด็ดขาด”
“ผมเห็นด้วยกับพี่คิน เดี๋ยวผมจะเพิ่มคนดูแลผับเพิ่มอีก”
รามินพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงจริงจังไม่มีแววเล่นเหมือนตอนแรก
“อืม งั้นก็ตามนั้น หยุดคุยงานแล้วมาดื่มกัน”
เมื่อได้ยินคำพูดของไดม่อนทั้งสามก็ยกแก้วขึ้นมาดื่มพร้อมกับคุยเล่นไปเรื่อยเปื่อย นั่งดื่มสักพักรามินก็เดินลงมาข้างล่างเมื่อเขาสังเกตเห็นลูกค้าผู้หญิงที่เมาหนักเดินออกจากร้านแล้วมีผู้ชายสามคนเดินตามไป
“ปล่อยฉันนะ อย่ามายุ่งกับฉัน”
เค้กสาวสวยหุ่นนางแบบในชุดเดรสเกาะอกสีดำรีบสะบัดแขนออกทันทีเมื่อโดนชายแปลกหน้ามาจับแขนเธอไว้
“อย่าปฏิเสธพี่เลยน้อง ไปกับพี่เถอะรับรองน้องมีความสุขแน่ๆ”
“ฉันไม่ไป ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้”
เค้กพูดขึ้นพร้อมกับสะบัดแขนออกแต่เพราะเธอนั้นเมาหนักจึงทำให้สู้แรงของผู้ชายไม่ได้
“ผู้หญิงเค้าไม่ไปด้วย ก็อย่าบังคับสิครับ”
เค้กและผู้ชายสามคนนั้นต่างหันไปมองตามเสียงของรามินทันทีเมื่อได้ยินเสียงพูดของเขา
“ช่วยฉันด้วยค่ะ”
เค้กรีบขอความช่วยเหลือจากรามินทันทีถึงเธอจะเมาหนักแต่ก็พอมีสติอยู่
“มึงมาเสือกอะไรด้วย อยากโดนตีนรึไง”
ชายที่จับแขนเค้กไว้พูดขึ้นด้วยความโมโหแต่รามินกลับทำหน้านิ่งไม่เกรงกลัวเลยแม้แต่น้อย
“หึ อยากรู้เหมือนกันระหว่างตีนมึงกับตีนกูของใครมันจะหนักกว่ากัน”
พูดจบรามินก็พุ่งไปถีบผู้ชายคนที่จับแขนเค้กไว้จนล้มลงพื้นเมื่อเห็นเพื่อนโดนถีบผู้ชายอีกสองคนก็เข้ามารุมรามินทันทีจนเค้กได้แต่ยืนมองด้วยความเป็นห่วงเพราะกลัวรามินจะเจ็บตัวเพราะเธอแต่ก็คิดผิดเพราะรามินนั้นจัดการกระทืบทั้งสามคนจนสลบไปเรียบร้อย
“เป็นอะไรมากมั้ยครับ”
รามินเดินมาถามหญิงสาวทันทีในฐานะเจ้าของผับที่ต้องบริการลูกค้า
“ไม่เป็นไรค่ะ ขอบคุณนะคะ”
เค้กพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงยืดยาวด้วยความเมา
“คุณมาคนเดียวหรอครับ”
รามินเอ่ยถามขึ้นเพราะตอนอยู่ในร้านเห็นเธอนั่งดื่มอยู่คนเดียว
“ค่ะ ฉันมาคนเดียว แต่จะกลับแล้วขอตัวนะคะ”
“คุณขับรถไหวรึไง เมาขนาดนี้”
รามินคิ้วขมวดถามเค้กทันทีเพราะดูท่าเธอคงขับรถไม่ไหวแน่ ขนาดยืนยังแทบจะยืนทรงตัวไม่ได้
“ฉันไม่มีรถหรอกค่ะ แต่เรียกแกร๊บแล้ว นั่นไงมาแล้ว ขอตัวนะคะ”
พูดจบเค้กก็เดินโซซัดโซเซไปขึ้นรถแกร๊บทันที
“ขับรถตามไปดูเธอจนเธอลงรถเข้าที่พักอย่างปลอดภัยแล้วกลับมารายงานฉัน”
รามินพูดสั่งลูกน้องทันทีเมื่อเห็นเธอขึ้นรถไปแล้ว
“ครับคุณรามิน”
เมื่อได้รับคำสั่งลูกน้องของรามินก็ขับรถตามเค้กไปด้วยความงงๆ เพราะไม่เคยเห็นรามินใส่ใจลูกค้าคนไหนแบบนี้มาก่อน ทางด้านรามินเมื่อเดินเข้ามาในร้านก็หยุดชะงักเมื่อคิดอะไรได้
“แล้วกูจะให้ลูกน้องขับรถตามไปดูผู้หญิงคนนั้นทำไมวะไม่ได้รู้จักกันซักหน่อย”
รามินพูดพึมพำให้ตัวเองด้วยความไม่เข้าใจตัวเอง เมื่อเผลอทำสิ่งที่ตัวเองไม่เคยทำกับใครแบบนี้มาก่อน รามินบ่นพึมพำให้ตัวเองสักพักก็ขึ้นมาดื่มกับพี่ๆ ต่อ
“มึงไปไหนมารามิน”
ไดม่อนเอ่ยถามรามินด้วยความสงสัยเมื่อเห็นรามินหายไปนาน
“ไปช่วยลูกค้าผู้หญิงมาครับ เมื่อกี้มีไอ้พวกเชี่ยยสามคนกำลังจะฉวยโอกาสฉุดลูกค้าผู้หญิงที่เมาไปข่มขืน แม่ง ผมโคตรเกลียดไอ้พวกนิสัยรังแกผู้หญิงแบบนี้”
รามินพูดขึ้นด้วยความโมโหพร้อมกับยกแก้วเหล้ามากระดกดื่มจนหมดแก้ว
“จัดการพวกนั้นยัง”
อคินเอ่ยถามรามินสั้นๆ ถึงจะเป็นลูกค้าแต่ถ้ามาทำเลวในถิ่นของเขา อคินก็ไม่ปล่อยไว้เหมือนกัน
“ผมให้ลูกน้องลากไปกระทืบสั่งสอนแล้วติดแบล็คลิสไม่ให้มันเข้ามาในร้านเราอีกครับ”
รามินตอบกลับด้วยน้ำเสียงจริงจัง ถึงเขาจะไม่ได้มีนิสัยเย็นชาเหมือนกับอคินและไดม่อนแต่เรื่องจัดการคนเขาก็มีความเลือดเย็นไม่ต่างจากพี่ชายทั้งสองเลย
“อืม จัดการมันแล้วก็อย่าพลาดท่าให้มันมาเล่นงานคืน อย่าเผลอหลงตัวเองว่าสู้เก่งจนไม่ระวังตัว เข้าใจมั้ยรามิน”
ไดม่อนพูดเตือนน้องชายตัวเองด้วยความเป็นห่วง เพราะไม่รู้ว่าศัตรูจะมาเล่นงานพวกเขาเมื่อไหร่
“เข้าใจครับพี่ม่อน ไม่ต้องห่วงนะครับ ผมระวังตัวเองตลอดเวลาอยู่แล้ว”
ไดม่อนพยักหน้าเข้าใจทันทีเมื่อได้ยินคำพูดของรามิน ทั้งสามนั่งดื่มกันเรื่อยๆ จนชั่วโมงกว่าลูกน้องที่ขับรถตามเค้กไปตามคำสั่งของรามินก็เข้ามาหาเขาทันที
“ขออนุญาตครับ”
“มีอะไร”
อคินเอ่ยถามสั้นๆ เมื่อเห็นลูกน้องเดินเข้ามา
“ผมมารายงานให้คุณรามินทราบครับ ตอนนี้คุณผู้หญิงคนนั้นถึงที่พักอย่างปลอดภัยแล้วครับคุณรามิน”
อคินและไดม่อนหันไปมองรามินทันทีเมื่อได้ยินคำพูดของลูกน้อง ส่วนรามินก็เบิกตากว้างท่าทางลุกลี้ลุกลนเมื่อเห็นสายตาอย่างตั้งคำถามของพี่ๆ ทั้งสอง
“มารายงานให้ฉันฟังทำไม”
“เอ้า! ก็คุณรามินสั่งว่าถ้าคุณผู้หญิงถึงที่พักอย่างปลอดภัยให้มารายงานคุณรามินไงครับ”
ลูกน้องตอบรามินทันทีเมื่อเห็นรามินเริ่มทำหน้าไม่พอใจก็ก้มหน้าลง ได้แต่งงว่าตัวเองทำอะไรผิด
“ออกไปเถอะ”
ไดม่อนเอ่ยบอกลูกน้องเสียงเรียบ เมื่อได้ยินคำสั่งไดม่อนลูกน้องคนนั้นก็เดินออกจากห้องไปทันที
“ไง ไอ้ตัวแสบ ไปทำอีท่าไหนถึงได้ให้ลูกน้องขับรถตามผู้หญิงจนถึงที่พักแบบนี้”
ไดม่อนเอ่ยถามรามินพร้อมกับส่งสายตาเพื่อคาดคั้นเอาคำตอบเช่นเดียวกับอคินที่มองรามินอย่างตั้งคำถาม จนรามินทำตัวไม่ถูกรีบปฏิเสธไปทันที
“อะไร อย่ามาจับผิดผมนะ ผมแค่เห็นเธอเมาแล้วนั่งรถแกร๊บกลับคนเดียวเลยให้ลูกน้องตามไปดูกลัวว่าเธอจะเจอไอ้พวกขับรถโรคจิตแค่นั้นเอง ก็แค่ดูแลในฐานะลูกค้า”
รามินพูดร่ายยาวอย่างลุกลี้ลุกลนจนอคินและไดม่อนต่างก็กระตุกยิ้มขึ้นเมื่อเห็นท่าทางร้อนตัวของรามิน
“หึ ปกติมึงไม่เคยดูแลลูกค้าแบบนี้สักคน”
อคินกระตุกยิ้มแล้วพูดขึ้นจนรามินได้แต่เปลี่ยนเรื่องคุย
“พอๆ เลิกมาจับผิดผม ดื่มต่อๆ ครับคุณพี่”
ไดม่อนและอคินต่างยิ้มมุมปากเมื่อเห็นท่าทางลุกลี้ลุกลนของรามิน ส่วนรามินก็ได้แต่ยกแก้วเหล้าขึ้นมาดื่ม อย่าว่าแต่พี่ๆ สงสัยเลย ตัวเค้าเองก็ไม่เข้าใจตัวเองว่าทำไมถึงดูแลลูกค้าคนนี้เป็นพิเศษเหมือนกัน ทั้งสามคนนั่งดื่มด้วยกันจนดึกแต่ก็ไม่ได้รู้สึกเมาเลยแม้แต่น้อยเพราะสามหนุ่มต่างคอแข็งกันทั้งแก๊ง ดื่มเก่งไม่แพ้แก๊งพ่อของตัวเองเลยทีเดียว ด้วยความที่ดื่มหนักถึงจะไม่เมามากแต่สามหนุ่มก็ไม่ขับรถกลับคอนโดจึงเลือกที่จะนอนที่ผับแทน